bloggang.com mainmenu search
เกาะกูดเป็นเกาะที่ได้ชื่อว่ามีทะเลสีสวย น้ำทะเลใสและหาดทรายที่ขาวสะอาด ถือว่าเป็นเกาะสวรรค์อีกแห่งหนึ่งสำหรับคนรักทะเล ถึงแม้ว่าผมจะเคยเดินทางมาเกาะกูดหลายครั้งแต่ก็ยังติดใจในความสวยงามตามธรรมชาติของเกาะนี้อยู่เสมอ และทริปล่าสุดของผมไปยังเกาะแห่งนี้เป็นทริปพิเศษอีกทริปหนึ่งเพราะเป็นการเดินทางไปยังรีสอร์ทหรู ที่มี ชื่อว่า Soneva Kiri Koh Kood ซึ่งเป็น Top Brand ของรีสอร์ทในเครือ Six Senses และเพิ่งเปิดบริการมาได้ไม่นาน จุดเด่นที่สำคัญของรีสอร์ทคือความเป็นธรรมชาติที่สวยงามของทะเลเกาะกูด ห้องพักของที่นี่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ที่สมบูรณ์ ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดธรรมชาติแต่ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกๆอย่าง รวมถึงสระว่ายน้ำส่วนตัว

นอกจากนี้ที่รีสอร์ทยังมีห้องอาหารที่ชื่อว่า The Beach ซึ่งชายหาดบริเวณนี้เป็นหาดที่สวยมากที่สุดแห่งหนึ่งเนื่องจากมีหาดทรายที่ขาวสะอาด น้ำทะเลใส ในวันที่ฟ้าเปิด แดดดีๆ น้ำทะเลบริเวณนี้จะเป็นสีเทอควอยซ์ สวยงามมากครับ นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่นๆที่ทำให้รีสอร์ทแห่งนี้เป็นรีสอร์ทที่พิเศษอีกแห่งหนึ่งที่ผมเคยไปมา ส่วนจุดด้อยที่ผมได้สัมผัสคงเป็นที่หลังคาของอาคารหลายๆแห่งรวมถึงห้องพักบางแบบเป็นเหมือนเต้นท์ขนาดใหญ่ ซึ่งเวลาโดนความชื้นไประยะหนึ่ง จะดูไม่ค่อยสะอาดมากนัก ลองมาชมความประทับใจที่ผมมีต่อ Soneva Kiri Koh Kood ผ่านทางภาพถ่ายในมุมมองของผม

ผมขอวางแผงนิตยสาร online ชานไม้ชายเขา ฉบับที่ 89 ประจำเดือนสิงหาคม กับ โซนีวา คีรี เกาะกูด รีสอร์ทหรู บรรยากาศธรรมชาติ บนเกาะสวรรค์สุดชายแดนตะวันออกแห่งจังหวัดตราด



ผมเริ่มต้นด้วยภาพนี้ครับ การเดินทางมายัง Soneva Kiri สะดวกสามารถขึ้นเครื่องบินที่ สนามบินสุวรรณภูมิได้เลย เป็นเครื่อง Cessna Grand Caravan แบบ 8 ที่นั่ง และสามารถใช้บริการของ lounge การบินไทยในส่วน Garden zone


เป็นการนั่งเครื่องบินเล็กครั้งแรกของผม ตอนแรกก็หวั่นๆอยู่เหมือนกัน แต่พอได้นั่ง ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ได้ชมวิวเพลินๆ


พอถึงจุดนี้กัปตันอธิบายว่าเ รากำลังบินอยู่เหนือเกาะช้าง


เป็นครั้งแรกที่เห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ของทะเลตราดจากทางอากาศ วิวสวยมากๆ


อยู่บนเครื่องชมวิวเพลินๆ ประมาณชั่วโมงเดียวก็มาถึงเกาะกูด ทางรีสอร์ทมีสนามบินส่วนตัวที่เกาะใกล้ๆเกาะกูด ต้องนั่งเรือต่อมาอีกที ใช้เวลานั่งเรือแป๊บเดียวครับ ประมาณ 10 นาที


พอมาถึงท่าเรือ ก็จะเห็นวิวแบบนี้ ชอบเกาะกูดตรงที่ น้ำทะเลที่นี่ใสมากๆ


จากท่าเรือมองเข้าไปยังทางเข้ารีสอร์ท ช่วงที่อยู่บนเรือพนักงานจะแนะนำให้ถอดรองเท้าช่วงที่อยู่ที่รีสอร์ทตามแนวคิด No News No Shoes แต่ถ้าไม่สะดวกเดินเท้าเปล่าก็ไม่เป็นไรนะครับ


มองกลับไปยังท่าเรือ บรรยากาศดีมากๆ


จากทางเดินที่ท่าเรือจะเห็นส่วนของห้องพัก ห้องที่ติดชายหาดคือห้องที่ผมเข้าพักในครั้งนี้ครับ ตอนนั้นจำได้ว่าตื่นเต้นมากๆ


ท่าเรือแห่งนี้มีชื่อว่า Dragon Jetty มีส่วนของสะพานที่ออกแบบได้สวยแปลกตา พอเดินจากท่าเรือมาไม่ไกลก็จะเข้าสู่ส่วนของรีสอร์ท


ส่วนแรกที่เจอเป็นกลุ่มอาคารหลักของรีสอร์ท พนักงานจะเรียกว่า Main Facilities อาคารในส่วนนี้จะเป็นเหมือนเต็นท์ สวยและแปลกตาดี


บริเวณนี้จะมีอาคารรูปทรงนี้หลายอาคาร มีทั้งห้องสมุด gallery ห้องอาหาร ฯลฯ


ทางเดินเป็นไม้นำเข้าทั้งหมด ถ้าเดินเท้าเปล่าช่วงแดดร้อนๆ จะร้อนเท้าอยู่เหมือนกัน


ช่วงที่ผมไปเป็นหน้าฝนครับ แต่โชคดีมากที่เจอฟ้าใสๆบ้างเป็นบางช่วง


ส่วนนี้เป็นห้องอาหารและบาร์แห่งหนึ่งของรีสอร์ท


บริเวณนี้มีส่วนที่เป็นห้องช๊อกโกแลต ห้องไอศครีม ที่ทานได้ตลอด มีหอดูดาว ห้องอาหารเช้า


ก่อนจะพาเข้าห้อง ผมจะพาไปยังส่วนที่เป็น highlight อย่างหนึ่งของ Soneva Kiri ก่อนครับ ชายหาดที่ห้องอาหาร The Beach


จุดเด่นของที่นี่คือชายหาดที่ขาวและน้ำทะเลที่ใส สีเทอควอยซ์ สวยมากๆ


ตอนที่ไปอากาศร้อนมากๆ แต่พอเห็นวิวอย่างนี้ ลืมร้อนไปเลยครับ


เป็นสวรรค์ของคนรักทะเล


ที่นี่ยังมีเจ้าถิ่นที่แสนรู้และฉลาดมากๆ คอยหาปลาที่ริมหาด


ถ้าใครเล่นเรือใบเป็นก็สามารถมาแล่นเรือได้ครับ หรือให้พนักงานสอนให้ก็ได้


มีศาลาที่เป็นชิงช้าเล็กๆอยู่ริมหาด สามารถสั่งเครื่องดื่มมานั่งทานที่นี่


หรือจะพายเรือคายัก กลางทะเลสีสวยๆ ก็สามารถแจ้งพนักงานได้ครับ


กลับมาที่ศาลาเล็กๆชมวิวสวยๆกันอีกภาพ


บรรยากาศที่ห้องอาหาร The Beach ที่นี่บริการอาหารเที่ยงทุกวัน และบริการมื้อเย็นเป็นบางวัน


ทุกๆคนที่ได้มาเจอบรรยากาศอย่างนี้ล้วนมีความสุขไปกับความสวยงามของธรรมชาติ


เห็นน้ำทะเลใสๆสีสวยๆแล้วสบายตา เป็นบรรยากาศที่น่าพักผ่อน


ต่อไปผมจะพาไปชมส่วนของห้องพักที่ผมเข้าพักในครั้งนี้ เป็นห้องแบบ Beach Villa Suite หมายเลข 12


ห้องพักประเภทนี้อยู่หน้าหาดเลยครับเห็นวิวทะเล และอยู่ท่ามกลางต้นไม้


สระว่ายน้ำที่นี่ใหญ่มากๆ ว่ายน้ำออกกำลังกายได้เลย


ศาลาพักผ่อนในส่วนของห้องพัก บรรยากาศดี


สระว่ายน้ำของที่นี่จะใช้ระบบน้ำเกลือ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม น้ำใสมากๆ


ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องพัก อยู่ในสระแห่งนี้ ชอบมากๆ


และที่ขาดไม่ได้สำหรับรีสอร์ทในเครือ six senses คือเจ้าเม่นน้อยตัวนี้


สระว่ายน้ำส่วนตัวบรรยากาศดีๆกับวันฟ้าใส ช่วงไหนที่ฟ้าใสต้องรีบถ่ายภาพเลยครับ เพราะอากาศช่วงหน้าฝนเปลี่ยนได้เร็วมากๆ


ที่นอนเล่นริมสระ นอนสบายมากๆ ผมชอบมานอนเล่นฟังเพลงตรงนี้


จากห้องพักเดินลงมานิดเดียวก็จะเจอชายหาด หาดบริเวณนี้ไม่สวยเท่ากับหาดที่ The Beach แต่ก็มีน้ำใสๆ และเตียงนอนชายหาดส่วนตัว


ภาพห้องพักจากภายนอกในมุมกว้าง


ต่อไปผมจะพาไปชมภายในห้องพักบ้างครับ


ส่วนของห้องน้ำ ที่โปร่ง กว้างสบาย มีเตียงอยู่กลางห้อง


ภาพนี้ภายในห้องนอนที่เน้นการใช้ไม้และเฟอนิเจอร์ที่บุด้วยหนัง


มีมุมให้พักผ่อนนอนเล่นอยู่ข้างเตียง


ภายในส่วนห้องนอนเป็นส่วนเดียวที่เป็นห้องปรับอากาศ ตอนเข้าไปในห้องพัก ที่เตียงนอนจะไม่มีผ้านวมนะครับ แต่สามารถขอพนักงานได้


หีบหน้าห้องนอนเป็นส่วนของทีวีและเครื่องเล่น DVD นอกจากนี้ยังมี iPod Dock ให้ด้วย


บริวณห้องเก็บของติดกับห้องนอน


ข้อมูลที่จำเป็นต่างๆ รวมทั้งเมนูอาหาร และสปา


บรรยากาศในห้องน้ำอีกภาพ ในห้องน้ำมีทั้งฝักบัวฝนตกกลางแจ้ง ห้องอาบน้ำ และ อ่างแช่น้ำ


เอกลักษณ์ของรีสอร์ทในเครือ six senses ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้ขวดแก้วแทนขวดพลาสติก


โต๊ะทำงานที่อยู่หลังเตียงนอน


โต๊ะกระดานหมากรุกที่สามารถเล่นได้จริงและใช้ตกแต่ง


โต๊ะทานข้าวในส่วนของศาลาที่แยกจากห้องนอน ที่นี่จะมีเครื่องทำกาแฟให้ด้วยครับ


ตื่นเช้ามาผมก็ลงไปว่ายน้ำจากนั้นก็ บึ่งรถบั๊กกี้ตรงไปที่ The Beach เพื่อเก็บภาพบรรยากาศยามเช้า ห้องพักที่นี่จะมีรถบั๊กกี้ให้ทุกห้องครับ สะดวกมากๆ


ชอบชายหาดแห่งนี้มากครับ ทรายขาวและหาดสวย


จากนั้นก็ไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร The dining room บริเวณ main facilities


มีผลไม้ให้เลือกหลายชนิด ผลไม้ที่นี่เขาจะให้เราสั่งแล้วพนักงานจะปอกเปลือกมาเสริฟให้ครับ


อาหารเช้าของรีสอร์ทในเครือ six senses ก็ยังมีให้เลือกมากมายและคุณภาพดีมากเหมือนทุกๆแห่ง


มีทั้งส่วนที่เป็นบุฟเฟต์และที่สั่งเป็นจานจากเมนู


ซึ่งอาหารจากเมนูจะเปลี่ยนไปแต่ละวัน มีให้เลือกเยอะ และสั่งเท่าไหร่ก็ได้


ไปที่ไหนก็ต้องสั่ง สำหรับเมนูนี้ ชอบมากๆ


พออิ่มแล้วก็กลับมาพักผ่อนที่ห้องพัก แสงช่วงเช้ากำลังดีทำให้เห็นภาพสะท้อน


ศาลาพักผ่อนในห้องพักกับวันฟ้าใส ในบรรยากาศส่วนตัว


ห้องพักที่เน้นการใช้ไม้เพื่อให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ



ต่อไปผมจะพาไปชมห้องอาหารอีกแห่งหนึ่งครับชื่อว่า The View


ห้องอาหารนี้เป็น fine dining ของรีสอร์ท และบริการเฉพาะอาหารเย็น


น้ำทะเลบริเวณนี้สีสวยมากๆ


หน้าชัดหลังเบลออีกซักมุม ชอบที่นี่มากๆ


จากนั้นผมก็แวะมาที่นี่อีกครั้งช่วงอาหารเย็น เพื่อมารอพระอาทิตย์ตก


ช่วงพระอาทิตย์ตกที่นี่ โรแมนติกมากๆครับ


ใครที่จะมาทานอาหารที่นี่ผมแนะนำให้มาตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ตกนะครับ สั่งอาหารทานเล่น เครื่องดื่มเบาๆชมวิวสวยๆก่อนมื้อเย็น


ก่อนตะวันจะลับขอบฟ้าที่ห้องอาหาร The view


ถึงตะวันจะลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่ความสวยงามของบรรยากาศที่ห้องอาหารแห่งนี้ยังคงมีอยู่


ต่อไปมาดูช่วงแสงทไวไลต์บ้างครับที่ห้องอาหาร The view


บรรยากาศสงบกับสายลมเย็นๆ


ชมพระอาทิตย์ไปแล้วมาชมพระจันทร์บ้าง


บรรยากาศโรแมนติกที่โต๊ะอาหารริมทะเล


ผมเลยถือโอกาสมาทานอาหารที่นี่เลย อาหารที่นี่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพ เริ่มจากสลัดจากผักที่ปลูกขึ้นเอง


จากหลักของผมมื้อนั้นเป็นปลากระพง


ต่อไปผมจะพากลับไปที่ main facilities อีกครั้งครับ เห็นวิวห้องพักแบบ Beach villa suite ที่อยู่ริมหาดจากบริเวณ main facilities


ห้องอาหารและบาร์ของรีสอร์ท บริเวณนี้จะมีสระว่ายน้ำส่วนกลางด้วยครับ


ทางรีอร์ทจะมีรถบักกี้ให้กับแขกทุกห้อง สามารถขับไปยังจุดต่างๆในรีสอร์ท ถ้าใครไม่เคยขับรถบักกี้มาก่อนเหมือนผม รถนี้ขับง่ายครับ เรียนรู้แป๊บเดียวก็ขับได้ไม่ยาก หรือถ้าไม่อยากขับก็สามารถให้พนักงานมาขับให้ก็ได้


ที่รีสอร์ทยังมีหอดูดาว ตอนไปยังไม่ได้ลองครับ เพราะตอนกลางคืนฟ้าปิด ฝนตก ตลอด


ห้องพักแต่ละห้องจะมี Mr หรือ Ms Friday มาคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าต้องการสิ่งใดสามารถโทรได้ตลอด


กลับไปที่ชายหาดบริเวณ The Beach อีกครั้งครับ เป็นจุดที่ประทับใจมากๆ


เห็นทะเลสีสวยๆอย่างนี้แล้ว ทำให้รู้สึกว่าทะเลบ้านเราก็สวยไม่เป็นรองใครเหมือนกัน


เห็นภาพแล้วก็ยังอยากกลับไปอีก


เกาะที่เห็นกลางทะเลคือเกาะแรด


ป้ายอธิบายความหมายของธงแต่ละสี ว่าธงสีไหนถึงเล่นน้ำได้หรือไม่ควรเล่น (สีเขียวเล่นน้ำได้ ส่วนสีแดง ห้ามเล่นครับ)


ฟ้าใส หาดทรายขาว ทะเลสวย สมกับเป็นเกาะสวรรค์แห่งทะเลตะวันออก


ทริปนี้สนุกกับการถ่ายภาพจนลืมแดด กลับมาตัวดำปี๋เลยครับ


บรรยากาศที่ชายหาดบริเวณห้องอาหาร The Beach


ห้องอาหาร The beach จะบริการอาหารมื้อเที่ยง เป็นบุฟเฟต์ครับ มีอาหารให้เลือกพอสมควร แต่ก็ไม่มากนัก


ห้องอาหารที่นี่ทุกห้องเป็น open air หมดเลยครับ ถึงร้อนแต่ก็วิวดี


ชอบชิงช้าที่อยู่ริมหาดมากๆเพราะว่า ได้ชมวิวทะเลสวยๆ


ทะเลสวยๆ อีกภาพครับ


The Beach จะอยู่ไกลจากห้องพักครับ แต่ก็ขับบั๊กกี้มาไม่นาน ผ่านป่่า ต้นไม้น้อยใหญ่สองข้างทาง


ช่วงที่ผมไปมีแขกวัยรุ่นต่างชาติอยากเล่นฟุตบอล เลยชวนพนักงานไปเล่นที่ชายหาด


น่าจะเป็นการเล่นฟุตบอลที่มีฉากหลังสวยมากที่สุดครั้งหนึ่งเลยทีเดียว


ภาพนี้เป็นส่วนของห้องสมุดบริเวณ Main facilities


และที่ไม่ควรพลาดสำหรับเด็กๆ ในการเข้าไปเล่นหรือแม้แต่ผู้ใหญ่ในการเข้าไปชมคือส่วนของ The Den


The Den เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นที่ออกแบบได้ซับซ้อนและสวยงาม


ตอนที่ผมเข้าไปชมยังอยากกลับไปเป็นเด็กเลยครับ


ที่นี่จะมีพนักงานคอยดูแลเด็กๆอยู่ตลอดเวลา มีห้องกิจกรรมต่างๆให้เด็กได้เลือกทำ


ปิดท้ายภาพของ The Den ด้วยภาพนี้ครับ


บรรยากาศบริเวณห้องช็อกโกแลต ที่ main facilities ช่วงใกล้ค่ำ


ภาพนี้เป็นห้องอาหารและบาร์ของรีสอร์ท


วันที่อากาศดีๆจะมีการจุดเทียน บรรยากาศโรแมนติกมากๆ


ที่นั่งเล่นบริเวณห้องทานไอศครีมช่วงใกล้ค่ำ


อีกมุมหนึ่งของบาร์และห้องอาหาร


อาคารบริเวณ main facilities


ห้องอาหารบรรยากาศดีๆในรีสอร์ท


ต่อไปผมจะพาไปชมช่วงพระอาทิตย์ตกที่ The Beach


ที่นี่นอกจากช่วงกลางวันจะสวยและบรรยากาศดีแล้ว ช่วงพระอาทิตย์ตกยังโรแมนติกด้วยครับ


เนื่องจากที่ห้องอาหาร The Beach ไม่ได้บริการอาหารเย็น ช่วงเย็นๆที่นี่จึงเงียบสงบ


หรือจะมานอนเล่นชมพระอาทิตย์ตกบนเตียงชายหาด ด้วยความโรแมนติกและเงียบสงบจึงไม่เหมาะกับการมาคนเดียวนะครับ^^


บรรยากาศดีมากๆ


บริเวณ The Beach มีต้นมะพร้าวเยอะมากครับ เป็นธรรมชาติ


แสงสุดท้ายของวัน ก่อนที่จะต้องลา Soneva Kiri ในวันรุ่งขึ้น


พอถึงเวลาต้องกลับ ไม่อยากกลับเลยครับ อยากอยู่ต่ออีกซักสองสามวัน ภาพถ่ายจากบนเครื่องช่วงที่ผ่านหมู่เกาะทะเลตราด


เนื่องจากเครื่องบินเป็นเครื่องลำเล็กเลยบินไม่สูงมาก เห็นวิวข้างล่างชัด


เป็นการเดินทางไปกลับเกาะกูดที่สะดวกๆมาก


และก็ปิดท้ายด้วยภาพจากปก ทะเลสวย ทรายขาว น้ำใส บนเกาะสวรรค์สุดชายแดนทะเลตราด


การเดินทางมายังเกาะกูดในครั้งนี้เป็นการย้ำความจริงที่ว่า เมืองไทยของเรามีสถานที่และธรรมชาติสวยๆเยอะมากครับ อย่างทะเลเกาะกูด เป็นทะเลที่สวยมากที่สุดแห่งหนึ่งที่ผมเคยไปมา ทั้งน้ำทะเลใส หาดทรายขาว ตอนที่ผมเห็นทะเลสีเทอควอยซ์ที่นี่ครั้งแรกถึงกับตะลึง นอกจากนี้ในส่วนของรีสอร์ทยังสะดวกสบาย ซึ่งเริ่มตั้งแต่การเดินทางด้วยเครื่องบินเล็กจากสุวรรณภูมิ ส่วนห้องพักก็ได้รับการออกแบบอย่างดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัว ทีวี เครื่องเล่น DVD และ iPod dock ยังมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย ส่วนอาหารเช้ายังมีให้เลือกหลากหลาย คุณภาพดีตามแบบฉบับของ Six Senses

นอกจากนี้ในรีสอร์ทยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆเช่น Cinema Paradiso ซึ่งเป็นที่ดูหนังกลางแจ้ง dining Pod เป็นที่รับประทานอาหารส่วนตัวบนต้นไม้ หรือจะเป็น observatory หอดูดาว หรือจะล่องเรือยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกในบรรยากาศส่วนตัว ส่วนที่ผมประทับใจอีกอย่างคือที่นี่จะมีห้องช็อกโกแลตและห้องไอศครีม ซึ่งทานได้ฟรีตลอด ผมจะชอบสั่ง Sorbet มะนาว ใน Waffle cone เป็นพิเศษ ความเปรี้ยวของมะนาวตัดกับความหวานกำลังดีของ waffle cone อร่อยมากๆ ลองมาดูสรุปจุดเด่นจุดด้อยของที่นี่ในมุมมองของผม

จุดเด่น
-ทะเลบริเวณรีสอร์ทน้ำใสมากครับ และที่บริเวณ The Beach มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส เป็นธรรมชาติมากๆ
-มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายๆอย่างเช่น หอดูดาว ที่ฉายหนังกลางแจ้ง ห้องสมุด
- ห้องพักออกแบบได้ดี กว้างสบาย อยู่ท่ามกลางต้นไม้ มีสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกห้อง
- ในรีสอร์ทมีห้องช็อกโกแลตและห้องไอศครีม ซึ่งทานได้ฟรีตลอด
- ทางรีสอร์ทจะจัดรถบักกี้ให้กับทุกๆห้อง ทำให้การเดินทางไปยังส่วนต่างของรีสอร์ททำได้สะดวก
- อาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลาย และคุณภาพดีมากครับ มีทั้งส่วนที่เป็นบุฟเฟต์และสั่งจากเมนูซึ่งสั่งเท่าไหร่ก็ได้
- การเดินทางมายังรีสอร์ทสะดวกสบายด้วยเครื่องบินเล็กจากสนามบินสุวรรณภูมิ
- ที่นี่มีห้องอาหารหลายแห่ง และบรรยากาศดี
- พนักงานทุกๆคนมีใจบริการที่ดีมากๆ ช่วยเหลือทุกๆอย่างเป็นอย่างดี ยิ้มแย้มทักทายตลอด

จุดด้อย
-หลังคาของอาคารหลายๆแห่งรวมถึงห้องพักบางแบบเป็นเหมือนเต็นท์ เวลาโดนความชื้นเป็นเวลานานจะดูไม่สะอาดมากนัก
-เนื่องจากห้องพักอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและไม่มีการใช้สารเคมี อาจจะมีแมลงช่วงกลางคืน

จากการเดินทางไปยัง Soneva Kiri Koh Kood ในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ เบญจวรรณ และพนักงานของรีสอร์ททุกๆคนทั้งที่ห้องอาหาร บนเรือ the beach และในทุกๆส่วน ขอบคุณ คุณอุ๊ย Ms Friday ประจำวิลลาที่ผมพักที่ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกทุกๆอย่าง ขอบคุณคุณ oil พนักงานที่ห้องอาหาร the dining room ที่แวะมาทักทายและจำกันได้ ขอบคุณน้องแป๊ะที่ห้องอาหาร The Beach ขอบคุณคุณตั้ม คุณดาว คุณพัช แขกที่เข้าพักช่วงเวลาเดียวกันและมีโอกาสได้คุยทักทาย ประทับใจกับที่นี่มาก และหวังว่าคงมีโอกาสได้กลับไปอีก ขอบคุณทุกๆคอมเม้นที่แวะมาทักทายจ่ายค่านิตยสาร ไว้เจอกันใหม่ในนิตยสารฉบับหน้านะครับ



Create Date :01 สิงหาคม 2554 Last Update :1 สิงหาคม 2554 8:38:18 น. Counter : Pageviews. Comments :133