bloggang.com mainmenu search






เจ้าของบ้านมีเรื่องราวอยากจะมาโอ้อวดชาวบล๊อกและเพื่อนรักที่แอบอยู่ทั่วสารทิสในทุกมุมโลก เรื่องราวความเป็นมาของน้ำซอสเย็นตาโฟสูตรเด็ด[เคล็ดไม่ลับ] เป็นสูตรของบ่งบ๊งเองเจ้าคะ


คือก่อนหน้านี้ คุณกัซซี่ [Guzzie] กูรูที่โดดเด่นในเรื่องราวของอาหาร ซึ่งบ่งบ๊งติดตามผลงานของเธอตั้งแต่ถาม-ตอบเรื่องราวของอาหารในเวบไซด์ //www.maama.com อีกทั้งห้องอาหารการกินใน pantip.com ปัจจุบันคือห้องก้นครัวที่บ่งบ๊งเข้า ๆ ออก ๆ ในทุกวันนี้นั่นเอง

คุณกัซซี่เธอเป็นเจ้าของกิจการร้านอาหาร Guzzie Kitchen หรือครัวกัซซี่เมืองเชียงใหม่ เธอได้หลังไมค์มาถามบ่งบ๊งว่า "จะขอนำสูตรน้ำซอสเย็นตาโฟของคุณบี๊ไปเผยแพร่ในหนังสือ "Compass Magazine" ซึ่งตีพิมพ์ในเชียงใหม่ ไม่ทราบว่าคุณบี๊จะอนุญาตให้นำเรื่องราวของสูตรน้ำซอสเย็นตาโฟสูตรนี้ไปลงในหนังสือได้หรือไม่??

เมื่อบ่งบ๊งได้รับเกียรติส่งเทียบเชิญ มีหรือจะปฏิเสธ บ่งบ๊งรีบส่งสารตอบกลับแบบยิงคำถามให้คุณกั๊ดในทันที "คุณกั๊ดมั่นใจหรือว่าสูตรน้ำซอสเย็นตาโฟสูตรนี้ของบี๊มันโอเคแล้ว?"

ได้รับคำตอบจากคุณกั๊ดทันที ว่า [ฮ่าๆๆ ก็เพราะหลายคนได้ลองแล้วเขาว่าอร่อยไงคะคุณบี๊ กัสซี่เลยเอาไปลองมั่ง ทำเสร็จให้คนในกองฯ ชิมกัน ฟาดกันจนเกลี้ยงหม้อเกลี้ยงไห เลยคิดว่าน่าจะเอาสูตรมาเผยแพร่ต่อ ถึงได้มาขออนุญาตเจ้าของสูตรจะได้ไม่ตกใจว่าอ้าว ๆๆ สูตรไปโผล่ในหนังสือได้อย่างไร ... บทความจะอยู่ในหนังสือเข็มทิศฉบับเดือนกันยายน หากตีพิมพ์แล้วกั๊ดจะจัดส่งให้คุณบี๊ด้วย" และนี่คือข้อความที่บ่งบ๊งได้รับจากคุณกั๊ดตอบกลับมา

แหม๋ม ได้รับเกียรติขนาดนั้นใครเล่าจะกล้าปฏิเสธท่านกูรู คำตอบของบ่งบ๊งที่ตอบกลับไป [ในใจ] คือส่งใจไปก่อน "รีบ ๆ จัดไปคะคุณกั๊ด อย่าได้รีรอ รอช้า บี๊จะเฝ้ารอชมผลงานด้วยอาการใจระทึก ใจมันเต้นตั๊กตึ๊ก"

จากนั้นไม่นานบ่งบ๊งก็ได้รับนิตยสารที่คุณกัซซี่เธอจัดส่งมาให้ Compass Magazine หรือนิตยสารเข็มทิศฉบับเดือนกันยายน .. ซึ่งบ่งบ๊งต้องขอขอบพระคุณคุณกัซซี่มา ณ ที่นี้


เพื่อนรักไฮโซของบ่งบ๊ง Chumsri Arnold มาดามกุ้ง ชุมศรี อาร์โนลด์ ถ้าใครที่เคยชมรายการสุริวิภา
คงรับทราบเรื่องราวชีวิตสุดแสนซินเดอเลลล่าของนาง พอเธอทราบเรื่องราวเกี่ยวกับก้นครัวของบ่งบ๊ง
เมนูต่าง ๆ ที่ลงในพันทิพ เพื่อนหลายคนบอกว่าได้เห็นเรื่องราวของบ่งบ๊งและสูตรน้ำซอสเย็นตาโฟนี้
เมื่อมาดามกุ้งเธอทราบว่าบ่งบ๊งมีบล๊อกเป็นของตัวเอง เธอได้เข้ามาเยี่ยมชมบล๊อกด้วยความสนใจ
เธอเปรยว่าจะคัดเลือกเมนูอาหาร/ขนม จิปาถะของเพื่อนบี๊ไปตีพิมพ์ในนิตยสารภาคภาษาไทย
ฉบับรายเดือนของเมืองผู้ดีอังกฤษ ... ขอบคุณเพื่อนมากมาย จัดไปเพื่อน อย่าได้รีรอ!! หุหุ ...








มาลองทำน้ำซอสเย็นตาโฟรับประทานกันเองดีไม๊คะ ทำกินเองแล้วรู้สึกสบายใจแบบไร้กังวล
หากจะซื้อเค้าหวั่นใจเรื่องสี สีแดงแจ๋นแบบนั้นรู้สึกกลัว ๆ บางยี่ห้อสีแดงติดมือแบบล้างไม่ออก
ให้ติดสงสัยอีกว่านี่มันสีผสมอาหารหรือสีย้อมผ้ากันแน่ มันถึงได้ติดไม้ติดมือทนนานขนาดนั้น

ด้วยความสะดวกสบายแบบไม่ต้องทำเอง ผู้คนส่วนใหญ่จึงนิยมซื้อน้ำซอสเย็นตาโฟ/น้ำจิ้มสุกี้
แบบสำเร็จรูปที่วางขายเกลื่อนตลาดมาใส่ในก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟและสุกี้ในแบบต่าง ๆ ที่ทำเอง
แต่สำหรับบ่งบ๊งคนแพ้ผงชูรสรู้สึกไม่ปลื้มซอสพวกนั้นเพราะใส่ผงชูรสในปริมาณที่เยอะเกิน
ทานแล้วคอแห้งผากต้องดื่มน้ำตามกันเป็นลิตร แบบนั้นมันน่ากลัวมากสำหรับคนเป็นภูมิแพ้

บ่งบ๊งได้ทดลองทำแบบลองผิดลองถูกมาหลากหลายสูตร ปรับโน่นแต่งนี่เพิ่มนั่นกันไปเรื่อย
ที่สุดมาลงตัวที่สูตรนี้ ไม่ทราบจะถูกใจคนปลื้มเย็นตาโฟหรือไม่ แต่สำหรับหลายคนมันใช่เลย
จะอย่างไรก็ตามถือเป็นอีกทางเลือกหากท่านไม่ปลื้มน้ำซอสสูตรสำเร็จบรรจุขวดที่วางขายกัน






ก๊วยเตี๋ยวเป็นของกินที่ขายได้กำไรมาก ชามหนึ่งเชื่อว่ากำไรมากกว่าครึ่ง แต่เขาก็ขายกันแพงจัง
โดยเฉพาะเจ้าดังหลายเจ้า ช่างแรกที่ทำขายรสชาดก็อร่อยดีนะ แต่พอนานไปไม่รักษาคุณภาพแล้ว










เครื่องทรงที่ใส่ในเย็นตาโฟ ปัจจุบันผลิตออกมาหลากหลาย ส่วนใหญ่ทำจากเนื้อปลา
เอาไปใส่ในสุกียากี้ (ชาบู) ในแบบญี่ปุ่นแบบไทยก็ได้ ใส่ในเย็นตาโฟก็ทำให้หลากหลาย






ส่วนผสมน้ำซอสเย็นตาโฟ
[สูตรเด็ดเคล็ดไม่ลับของบ่งบ๊งเองคะพี่น้อง]


ซอสเย็นตาโฟ (สูตรดั้งเดิม)

200 กรัม ซอสมะเขือเทศ [Ketchup]
100 กรัม ซอสพริก [พริกเหลือง]
100 กรัม ซอสพริก [พริกแดง]

หมายเหตุ - ซอสพริกเหลือง/แดงของศรีราชา
สำหรับซอสพริกเหลืองที่หายาก หากไม่มีก็ไม่ต้องใส่

6 ก้อน เต้าหู้ยี๊ก้อนบรรจุขวด [มากน้อยตามชอบ]
100 กรัม น้ำมันหอย
50 กรัม น้ำตาลทราย [หากชอบหวานใส่เพิ่มได้]
2-3 ชต. ซีอิ๊วขาว หรือเกลือป่นประมาณ 1 ชช.
20 เมล็ด พริกขี้หนูแดงบดหยาบ [ไม่ชอบเผ็ดไม่ต้องใส่]






ซอสเย็นตาโฟ (สูตร 2) โดย บี๊(บ่งบ๊ง)

ส่วนประกอบ
200 กรัม ซอสมะเขือเทศ
100 กรัม ซอสพริกศรีราชา (พริกแดง)
100 กรัม ซอสพริกศรีราชา (พริกเหลือง)
หมายเหตุ - ซอสพริกเหลืองหาไม่ได้ก็ไม่ต้องใส่
6 ก้อน - เต้าหู้ยี่ก้อน (ในเมืองไทยแนะนำตราโทรศัพท์ 2-3 ก้อน)
100 กรัม – น้ำมันหอย
50 กรัม – น้ำกระเทียมดอง
100 กรัม - เนื้อกระเทียมดองสับละเอียด
50 กรัม – น้ำเปล่า
40 กรัม – น้ำส้มสายชู
50 กรัม – น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลปีบ (ชอบหวานเพิ่มน้ำตาลได้)
3 ช้อนโต๊ะ – ซีอิ้วขาว หรือเกลือสมุทร 1 ช้อนชา
1 หัว – กระเทียมจีนกลีบใหญ่ สับละเอียด
10 เม็ด - พริกขี้หนูแดงบดหยาบ (ไม่ชอบเผ็ดตัดออก)











วิธีทำ

ก่อนอื่นเตรียมภาชนะสำหรับใส่น้ำซอสกันก่อน ...
นำขวดแก้วไปลวกน้ำร้อนหรือนึ่ง อย่าลืมลวกฝาด้วย
การนึ่ง หรือลวกน้ำร้อนทำให้เก็บน้ำซอสไว้ได้นาน ๆ

นำส่วนผสมทั้งหมดใส่รวมกันในหม้อ แล้วนำไปตั้งไฟเคี่ยวให้เดือด
เมื่อซอสเดือดแล้วปรุงรสและชิมให้ได้สามรส เปรี้ยว หวาน เค็มนิด ๆ
ซอสสูตรของบ่งบ๊งต้องการความเข้มข้นจึงใส่พริกไปด้วยให้มีรสเผ็ด
มะเขือเทศให้ความเปรี้ยว ถ้าชอบเปรี้ยวกว่านี้ให้เติมน้ำส้มสายชูลงไป
ดับไฟ ทิ้งน้ำซอสให้เย็นตัวแล้วบรรจุขวดแก้ว เก็บใส่ตู้เย็นไว้ได้นาน





น้ำซอสสูตรนี้บ่งบ๊งตั้งใจมอบให้ทุกท่านที่อยู่ไกลบ้านได้มีน้ำซอสเย็นตาโฟไว้รับประทาน
ญาติพี่น้องของบ่งบ๊งเองที่อยู่ในหลาย ๆ ประเทศเคยมาเปรย ๆ ว่าอยากกินเย็นตาโฟมาก
แต่หาซื้อน้ำซอสอร่อย ๆ ยากมาก น้ำซอสสีแดงสำเร็จรูปแบบที่วางขายก็ไม่กล้าซื้อมาทาน
ใส่ผงชูรสเยอะ และด้วยตัวเองไม่ปลื้มซอสสำเร็จรูปที่วางขาย ทำจากแป้งใส่สีแดงแจ๊ด
ฉะนั้นจำต้องคิดค้นหาสูตรน้ำซอสขึ้นมาแบบลองผิดลองถูกกันมาเรื่อย 555 แบบมั่วได้เรื่อง
ที่สุดก็ได้มาซึ่งน้ำซอสสูตรที่ตัวเองปลื้ม เย้ๆๆๆๆ ผู้คนรอบตัวก็พลอยปลื้มไปซอสตัวนี้ไปด้วย



ปรุงน้ำซอสเสร็จแล้วก็ต้องทดสอบน้ำซอสสูตรของตัวเองกันสักหน่อย
จัดฉากด้วยเย็นตาโฟชามใหญ่ แล้วตักน้ำซอสสูตรนี้ใส่ลงไป ... จัดไป






ส่วนใหญ่สมาชิกที่บ้านจะปลื้มเย็นตาโฟในรูปแบบของหม้อไฟ
เมนูกระทะร้อน-หม้อร้อนทรงเครื่องแบบกินล้อมวง ถูกใจทั่วหน้า










น้ำซอสเย็นตาโฟ นอกจากทำเย็นตาโฟแบบน้ำ แบบแห้ง หรือใส่ถั่วคั่วบดเป็นต้มยำรสจัดแล้ว
ยังนำน้ำซอสมาทำราดหน้าเย็นตาโฟแบบนี้ เพียงแต่น้ำซุปจะข้นเล็กน้อย รสชาดอร่อยทีเดียว






ทั้งหมดคือเรื่องราวที่เกี่ยวพันธ์กับน้ำซอสเย็นตาโฟสูตรของบ่งบ๊งเอง
บ่งบ๊งจะเดินหน้าตามล่าหาสูตรเด็ด[เคล็ดไม่ลับ] ต่อไปมานำเสนอนะคะ
มีหลายท่านที่อยู่แดนไกลและใกล้ได้ลองทำแล้วแจ้งมาทางหลังไมค์
ขอบคุณที่ลองทำแล้วมาบอกเล่าให้ทราบ ดีใจที่น้ำซอสสูตรนี้โดนใจท่าน

ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยือน ส่งเสียงทักทาย แอบปลื้มจังคะ








Create Date :25 กันยายน 2553 Last Update :10 กุมภาพันธ์ 2559 19:03:59 น. Counter : Pageviews. Comments :65