บอกต่อมะเร็งปากมดลูก (แบบจัดหนักจากประสบการณ์จริง) ทำไมต้อง Pap smear ทำไมต้อง วัคซีน
หลังจาก บล็อกที่แล้ว
โชคดีจังมี โครงการผู้หญิงปกป้องผู้หญิงจากมะเร็งปากมดลูก ให้เราได้แชร์ข้อมูลกันด้วยหล่ะ มดเล่าถึงการเข้าไปเล่นในเวบ
womenprotectwomen ที่เป็นเหมือนสื่อกลางในการบอกต่อและชวนลูกผู้หญิงอย่างเรามาร่วมสัญญากัน มดก็เข้าไปเขียนคำสัญญาไว้มากมาย เข้าบ่อยก็เลยได้ขอมูลเกี่ยวกับ สาเหตุจริงๆของมะเร็งปากมดลูก พร้อมทั้งการป้องกัน จาก
สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย/ เลยขออนุญาติ นำมาแปะไว้ในบล็อกมด จะได้เป็นการบอกต่อสาวๆที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกจริงๆ คือการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพพิโลมา ซึ่งเรียกย่อๆว่าเชื้อ HPV เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก เชื้อ HPV นี้มีมากกว่า 100 ชนิดหรือสายพันธุ์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ
กลุ่มที่ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น สายพันธุ์ 6 และ11 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหูดหงอนไก่
กลุ่มที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น สายพันธุ์ 16, 18, 31,33 และ 45 ซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกจนอาจกลายเป็นมะเร็งได้ -โดยทั่วไปแล้วเชื้อ
HPV มักติดต่อได้ จากการมีเพศสัมพันธ์ หรือการสัมผัสโดยตรงทางผิวหนัง
-การใช้ถุงยางอนามัย ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
-การติดเชื้อเอชพีวีนี้พบได้บ่อยมาก แม้ว่าจะมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวก็ตาม
-การติดเชื้อ HPV นี้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบชั่วคราว คือเชื้อจะอยู่ในเซลล์ปากมดลูก ช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วหายไปได้เอง และอาจจะติดเชื้อซ้ำใหม่ได้อีกในภายหลัง จากสถิติพบว่า
50-80 % ของผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วจะติดเชื้อ HPV ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต
50% ของผู้หญิงที่มีคู่นอนคนเดียวจะติดเชื้อ HPV ภายใน 2-3 ปีแรกที่เริ่มมีเพศสัมพันธ์
นอกจากนี้แล้วเชื้อ HPV เป็นเชื้อที่มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ ทำให้เชื้อไม่ถูกทำลาย และการที่เชื้อชอบอยู่ เฉพาะบริเวณเยื่อบุผิวปากมดลูก ทำให้ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีการสร้างภูมิคุ้มกัน หรือถ้ามีก็มักอยู่ในระดับที่ต่ำ จนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ในภายหลัง ดังนั้น ผู้หญิงจึงยังมีความเสี่ยง ในการติดเชื้อไวรัสนี้ได้อยู่ตลอด.. ตราบใดที่ยังมีเพศสัมพันธ์ ##เน้นๆ กันเลยทีเดียว ว่าตราบใดที่ยังมีเพศสัมพันธ์ ก็มีโอกาสติดเชื้อ HPV##ฉะนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดของสาวๆ ก็คือ ลด ละ เลิก การมีเพศสัมพันธ์ 555 จะเป็นไปได้รือ งั้นเรามาดูการป้องกันดีกว่า
การป้องกัน เพื่อให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูก 1. การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การมีคู่นอนหลายคน และการสูบบุหรี่
ข้อนี้ มดน่าจะรอด เพราะมีคู่นอนคนเดียว ตอนอายุมากแล้วและไม่สูบบุหรี่2. การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่เรียกว่า
"แพปสเมียร์ " (Pap smear) เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ทราบว่า เซลล์ บริเวณปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติหรือไม่ เพราะการรักษาในระยะก่อนเป็นมะเร็งจะทำให้มีโอกาสหายขาดได้ค่อนข้างสูง ในขณะที่การรักษาในระยะลุกลามนั้น จะรักษายากและมีโอกาสเสียชีวิตมากขึ้นตามระยะของมะเร็ง
ข้อนี้ บอกตามตรงยังไม่เคยตรวจเลยอ่ะ แต่นี่ตั้งใจว่าจะไปตรวจพร้อมน้องสาวปลายเดือนนี้แหล่ะ3. การฉีดวัคซีนเอชพีวี เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีชนิดก่อมะเร็งซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก
ข้อนี้ มดรอด รึเปล่า เพราะมดฉีดก่อนแต่งงาน จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ฉีดไปแล้ว 2 เข็ม เหลืออีก 1 เข็ม แต่ฉีดตอนอายุ 30 ปีมดได้โบรชัวร์มาจากโรงพยาบาล
เรื่อง ความเชื่อ และ ความจริง เกี่ยวกับ มะเร็งปากมดลูกและวัคซีน HPV มาดูกันดีกว่าว่ามีกี่ชนิดและมดฉีดตัวไหนไปแล้ว
วัคซีน HPV ที่ใช้ในปัจจุบันมี 2 ชนิด ทั้งสองชนิดมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ HPV ชนิด 16 และ 18 และ การเกิดความผิดปกติของเซลล์ บริเวณเยื่อบุปากมดลูกที่เกิดจากเชื้อดังกล่าว
วัคซีนชนิดที่หนึ่ง Gardasil วัคซีน 4 สายพันธุ์ สามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV ชนิด 6 และ 11 ด้วย ซึ่งเชื้อทั้งสองชนิดเป็นเชื้อ HPV ชนิดไม่ก่อมะเร็ง แต่ทำให้เกิดหูดบริเวณอวัยะเพศ
ส่วนวัคซีนอีกชนิดหนึ่ง Cervarix วัคซีน 2 สายพันธุ์ ใช้นวัตกรรมของสารเสริมการกระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิดใหม่ ซึ่งสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้สูง และคงระดับสูงอยู่ได้นาน
สรุปได้ว่า ถ้าอยากได้ป้องกันมะเร็งปากมดลูกและหูดด้วยก็เลือกฉีด Gardasil แต่ถ้าจะเน้นป้องกันมะเร็งปากมดลูก ก็เลือก Cervarix เพราะทำให้เรามีภูมิคุ้มกันสูงกว่าและอยู่ได้นานกว่า
ตัวมดเอง ฉีดที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ตอนนั้นยังไม่มีความรู้ เลยไม่ได้เลือกเอง เค้าจัดให้ เป็นตัว Gardasil เพื่อนๆบอกว่าอิชั้นคงปลอดหูดไปตลอดชีวิต 555 แต่ปกติก็ไม่เคยเป็นหูดเลยนะ
แต่ถ้าให้เลือกก็อาจจะเลือก Cervarix เพราะอยากป้องกันมะเร็งมากกว่าป้องกันหูด เพราะถ้าเป็นหูดขึ้นมาจริงๆ ก็รักษาได้
ขอเล่าต่ออีกหน่อย เผื่อใครสนใจจะไปฉีด
-วัคซีน HPV ใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณต้นแขน
จะต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยเข็มที่ 2 และ 3 ห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ อย่าฉีดก่อนถึงกำหนด แต่ฉีดเลยไปซัก 1-2 เดือน อันนั้นอนุโลมได้-อาการข้างเคียง ตอนฉีดเข็มแรก ปวดมาก เป็นไข้ไป 2 วัน แต่ไม่มีอาการอย่างอื่น พอเข็มที่ 2 แม่เจ้า ปวดกว่าเดิม คุณหมอบอกว่าร่างกายมีภูมิจากเข็ม 1 เลยปวดกว่า ฉะนั้นให้เตรียมใจเข็มสุดท้าย ปวดที่สุด-ห้ามตั้งครรห์ระหว่างฉีดเด็ดขาด ควรรอให้ฉีดครบ 3 เข็มไปแล้วอย่างน้อย 1 เดือน แต่มดได้ถามคุณหมอว่าถ้าฉีดไป 2 แล้วตั้งครรภ์ขึ้นมาก็ไม่เป็นไรให้หยุดเข็มที่ 3 รอจนคลอดและเลิกให้นมบุตรถึงไปฉีดต่อได้ เพราะเข็มสุดท้ายเป็นการกระตุ้นเท่านั้น-อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีน HPV ครบ 3 เข็มแล้วสตรียังต้องมารับการตรวจแพป สเมียร์อย่างสม่ำเสมอเพราะการป้องกันจากวัคซีน HPV สามารถครอบคลุม เฉพาะเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ18 ซึ่งเป็นสาเหตุประมาณ 70% ของมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น ยังมีโอกาสติดเชื้อ HPV สายพันธุ์อื่น ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกได้เช่นกัน วันนี้ยาวเลย บอกแล้วว่าจัดหนัก คืออยากบอกต่อข้อมูลและอยากแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวให้รู้กันไปทีเดียวเลย
แถมอีกนิด จากในเวบ
womenprotectwomen ถ้าใครได้ไปลงทะเบียนและให้คำสัญญาว่าจะปกป้องตัวเองและคนรอบข้างจากมะเร็งปากมดลูก ก็สามารถลุ้นรับรางวัล บัตรคอนเสริต Get Divas สองที่นั่ง ที่ M Theater จัดแสดงวันที่ 9 กรกฎาคม
ตอนลงทะเบียน อย่าลืมกรอกด้วยนะว่ารับรู้ข่าวสาร กิจกรรม นี้จากไหน ต้องกรอกว่า Blogger . .(ใส่ชื่อBloggerลงไปจ้า) . . . ภายในคอนเสิร์ตพบกับศิลปินมากมายเช่น หนุ่ย นันทกานต์, แพรว คณิตกุล, พัดชา, เต้นและพลอยจากไมค์ไอดอล, โรส สิรินทิพย์, พะแพง AF, DJ จาก Get Divas และศิลปินอื่นๆอีกมากมาย
ใครว่างวันนั้นก็ลองร่วมสนุกกันนะ เผื่อมดเล่นแล้วได้บัตรจะได้ไปด้วยกันเนอะ ประกาศผลวันที่ 7 กค. นี้
หรือผู้ที่สนใจอยากร่วมทำบุญร่วมกัน เห็นว่ารายได้จะนำไปช่วยเหลือผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูกอ่ะค่ะ
สามารถซื้อบัตรได้ที่
ร้านน้องท่าพระจันทร์ (สาขาท่าพระจันทร์)
คลิกเรดิโอ อาร์ซีเอ บล็อค ซี
หรือ จองบัตรล่วงหน้าได้ที่ 0-2641-5392
ราคา 500 บาท จำนวนจำกัด !!! ค่ะ
ปล.มดไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการขายบัตรนะคะ อันนี้เอามาบอกต่อเผื่อใคร อยากร่วมทำบุญและอยากไปฟังเพลงชิลๆกัน
ได้รับสาระดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัวของสาว ๆ
อย่าลืมไปตรวจกันนะคะ ผญ ควรดูแลตัวเองเน้อวววว......
โดย: princess of rock 18 มิถุนายน 2553 2:43:01 น.
โดย: urngiiz 18 มิถุนายน 2553 8:03:12 น.
โดย: นัท IP: 180.214.192.131 18 มิถุนายน 2553 8:45:26 น.
โดย: จำชื่อไม่ได้ 18 มิถุนายน 2553 10:47:26 น.
โดย: CinnamonGal 18 มิถุนายน 2553 14:50:05 น.
โดย: That's m3 18 มิถุนายน 2553 16:17:57 น.
โดย: CinnamonGal 20 มิถุนายน 2553 1:32:04 น.
ตั้งใจเลือก gardasil ให้นะ เพราะจริงๆภูมิขึ้นไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ แต่คลุมได้มากกว่า เนื่องจากทั้ง 2 โรคติดได้ทางเพศสัมพันธ์เหมือนกันจ๊ะ
และสุดท้ายแล้วถึงมีภูมิ ก็ควรต้องตรวจ pap smear ทุกปีนะจ๊ะ
ตัวเองก็ฉีด gardasil เหมือนกัน
โดย: Tanya IP: 98.228.202.224 12 กรกฎาคม 2553 9:37:26 น.
เป็นมะเร็งที่เกิดในคอมดลูกค่ะ บางทีอยู่ลึกจนตรวจไม่พบ
ตอนนี้รู้สึกว่าของ Cervarix เท่านั้นค่ะที่ป้องกันได้
เราก็เลยคิดจะฉีดของ Cervarix
แต่ก็ต้องตรวจแพปสเมียร์ควบคู่ไปด้วยค่ะ
โดย: Wakana IP: 117.47.153.122 5 สิงหาคม 2553 4:37:45 น.
เพราะเราว่าภูมิคุ้มกันของ Cervarix ต้องดีกว่าสิคะ เพราะอยู่ได้นานถึง 7 ปี
Cervarix ป้องกันสายพันธุ์ 16 18 45 31 ถือว่าป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ครอบคลุมกว่านะคะ
เพราะ gardasil ป้องกัน HPV ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้เพียงสายพันธุ์ 16 และ 18 ค่ะ (สายพันธุ์ 6 และ 11 ทำให้เกิดหูด)
ถ้าต้องการป้องกันมะเร็งปากมดลูก Cervarix โอเคกว่าค่ะ
โดย: ฐิติกานต์ IP: 112.143.4.82 13 สิงหาคม 2553 0:09:51 น.
//mchnetwork.thaihealthykids.com/site_data/thaihealthykids_mchnetwork/1/schedual_53/pdf/10_6VittayaT.pdf
จากบทความเห็นเลยว่า Cervarix ประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งดีมากค่ะ
โดย: Pamper IP: 180.183.6.119 20 กันยายน 2553 7:33:00 น.
โดย: avat IP: 183.89.53.221 18 เมษายน 2554 20:24:44 น.