bloggang.com mainmenu search
หลังจากที่มดเริ่มเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกของตัวเองให้อ่านกันหลายครั้งแล้ว วันนี้มีข้อมูลเล็กน้อยมาแบ่งปันกันจ๊ะ

เป็นคำถามที่พบเจอกันบ่อยเลยทีเดียว

1.มะเร็งปากมดลูก เกิดจากเพศสัมพันธ์เหรอคะ หรือมีสาเหตุอื่นด้วย?

-“มะเร็งปากมดลูก” เกิดจากการติดเชื้อ “เอชพีวี” ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการมีเพศสัมพันธ์ (ถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันเจ้าเชื้อนี้ได้ 100%) และเค้าพบอีกว่าผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกได้เช่นกันค่ะ โดยอาจได้รับเชื้อเอชพีวีจากทางอื่น เช่น ห้องน้ำ หรือผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้ที่มีเชื้ออยู่ (แต่เค้าว่ามีโอกาสเกิดน้อยกว่ามาก ๆ ยังไงป้องกันไว้ก็ดีกว่าเนอะ)

2.ตรวจภายใน หรือ คัดกรอง (แป๊บเสมียร์) เจ็บมากไหม? อายคุณหมอจัง ? แล้วราคาเท่าไหร่คะ

-คุณหมอจะมีเครื่องมือที่มีขนาดเหมาะสมกับผู้หญิงแต่ละคน ถ้าไม่เคยตรวจมาก่อนก็บอกคุณหมอด้วยนะคะ คุณหมอจะได้ให้คำแนะนำเป็นพิเศษ ใช้เวลาในการตรวจแค่แป๊บเดียวก็เสร็จ แล้วก็ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเจ็บกันค่ะ
ถ้าอายหมอผู้ชายก็บอกที่โรงพยาบาลได้ค่ะว่าอยากตรวจกับคุณหมอผู้หญิง

ราคาก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาลค่ะ ถ้าของรัฐบาลก็ไม่เกิน 100 บาท เอกชนทั่วไปก็ไม่น่าเกิน 400-500 บาท

ตัวมดเองจะไปตรวจหลายรอบละแต่ยังไม่ได้ตรวจซักทีค่ะ ถ้าได้ตรวจจะมาแชร์ให้ทราบกันนะ ^^

3.วัคซีนแพงไหม ราคาเท่าไหร่ ฉีดแล้วคุ้มไหม ?

-เมื่อก่อนเป็นหมื่นเลยค่ะแต่ ปัจจุบันราคาวัคซีนถูกลงมามากแล้ว เห็นราคาที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่ ขายเป็นแพคเก็จ 3 เข็ม ประมาณ 6-7 พันบาทเอง ที่มดไปฉีด รพ.รามาธิบดี ก็รวม 3 เข็มประมาณ 6 พันกว่าบาท ก็คิดซะว่างดซื้อเครื่องสำอาง เก็บเงินมาฉีดวัคซีนก็โอเคนะ

4.ถ้าตรวจคัดกรองแล้วจำเป็นต้องฉีดวัคซีนด้วยหรือเปล่า หรือว่าทำอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ?

-การตรวจคัดกรอง เป็นการตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ที่ปากมดลูกหลังจากที่มีการติดเชื้อเอชพีวีมาแล้ว ซึ่งถ้าเจอว่าผิดปกติก็ต้องรีบรักษา ก่อนที่มันจะเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งร้ายค่ะ

การฉีดวัคซีน เป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อเอชพีวีสายพันธุ์หลักมาติด เป็นการป้องกันที่ต้นเหตุโดยตรง ถ้าไม่มีเชื้อมาติดก็จะไม่มีความผิดปกติของเซลล์

แต่ทั้ง 2 วิธีก็ไม่มีวิธีไหนป้องกันได้ 100% นะคะ คุณหมอเลยแนะนำเราว่า ต้องทำร่วมกันทั้ง 2 วิธีค่ะ

ซึ่งจริงๆ แล้วควรตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปีนะคะ ตัวมดเลือกฉีดวัคซีนป้องกันไปเลยเพราะอายหมอ ไม่กล้าตรวจคัดกรอง ซึ่งก็รู้ว่าไม่ถูกต้องนะ กะว่าคงต้องไปตรวจคัดกรองเร็วๆนี้แล้วหล่ะ

5.จริงหรือเปล่าคะว่าจะต้องฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมี sex แล้วถ้าคนที่เคยมี sex แล้ว จะฉีดได้มั้ย วัคซีนจะช่วยป้องกันได้หรือป่าวคะ ?

-คือคนที่ไม่เคยมี sex จะได้รับประโยชน์มากที่สุดอยู่แล้วค่ะเพราะไม่เคยติดเชื้อมาก่อนแน่นอน แต่คนที่มี sex แล้วเค้าบอกว่ามีน้อยกว่า 1% ซะอีกที่ติดเชื้อ HPV 16, 18 พร้อมกันที่ปากมดลูก (ถ้าติดก็มักติดเพียงแค่สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งเท่านั้นเองค่ะ) การฉีดวัคซีนก็เลยสามารถป้องกันสายพันธุ์อื่นที่ยังไม่เคยติดมาก่อนได้ด้วย

6.อยากฉีดวัคซีนป้องกัน “มะเร็งปากมดลูก” ค่ะ ขอทราบรายละเอียดหน่อย วัคซีนเอชพีวี… ฉีดกี่เข็ม และมีภูมิคุ้มกันนานแค่ไหน?

วัคซีนเอชพีวีใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณต้นแขน จะต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยเข็มที่ 2 และ 3 ห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ จากการศึกษาพบว่า การฉีดวัคซีนเอชพีวี สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้สูงมาก และมีประสิทธิภาพสูงมากถึง 100 % ในการป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุ 70% ของมะเร็งปากมดลูก

ตอนมดฉีดก็จะปวดหนึบๆ แล้วก็เหมือนมีไข้ต่ำๆในเข็มแรกค่ะ พอเข็มที่ 2 ปวดกว่าเดิมนิดหน่อยแต่ไม่มีไข้แล้ว เดือนนี้คงได้ไปฉีดเข็มที่ 3 แล้วค่ะ

ตอนนี้วัคซีนในโรงพยาบาลจะ มีอยู่ 2 ยี่ห้อ คือ

1. Cervarix แม้จะเรียกกันว่า วัคซีน 2 สายพันธุ์ แต่ในความเป็นจริง วัคซีนตัวนี้สามารถป้องกัน เชื้อ HPV ได้มากกว่า 2 สายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกอันดับที่ 1, 2, 3, 4 คือสายพันธุ์ ที่ 16 ,18 , 45 , 31 ซึ่งก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ถึง 80% และยังป้องกันมะเร็งปากมดลูกชนิดอะดิโนได้ดีอีกด้วย

ข้อมูลทางการแพทย์จนถึงปัจจุบันปี 2553 ของแบรนด์ Cervarix บอกไว้ว่า มีภูมิคุ้มกันในระดับสูงอย่างน้อย 8 ปี (และกำลังติดตามอยู่อย่างต่อเนื่องค่ะ) เชื่อว่า อาจอยู่ได้อย่างน้อย 20 ปี หรือ ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องฉีดกระตุ้นซ้ำ การฉีดของ Cervarix คือฉีดที่เดือน 0, 1, 6 และช่วงอายุที่สามารถรับวัคซีนชนิดนี้ได้คือ 10 – 55 ปี

2. Gardasil เรียกกันว่า วัคซีน 4 สายพันธุ์ คือสามารถป้องกันเชื้อ HPV 16, 18, 6 และ 11ได้ โดย สายพันธุ์ 16 และ 18 ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ส่วนสายพันธุ์ 6 และ 11 ก่อให้เกิดหูดค่ะ! (หูดไม่ทำให้เป็นมะเร็งนะคะ อย่าสับสน ถ้าเป็นหูดก็รักษาได้ค่ะ)

ข้อมูลทางการแพทย์จนถึงปัจจุบันปี 2553 ของแบรนด์ Gardasil บอกว่า ตัวนี้ไม่สามารถป้องกันสายพันธ์ 45 (สาเหตุอันดับ 3 ของมะเร็งได้) และสร้างภูมิได้จนถึง 5 ปี ในส่วนของการฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ คือฉีดที่เดือน 0, 2, 6 และช่วงอายุที่สามารถรับวัคซีนชนิดนี้ได้คือ 9 – 26 ปี วัคซีนตัวนี้มีข้อมูลการฉีดในผู้ชายค่ะ ดังนั้นคุณผู้ชายทั้งหลายถ้าอยากป้องกันเชื้อ HPV ก็เลือกฉีด Gardasil ได้นะคะ

ข้อมูลที่มดนำมาลงให้อ่านกันคงจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจว่าจะไปตรวจคัดกรองกันยังไง หรือเลือกฉีดวัคซีนแบบไหนกันดี ยังไงมดก็แนะนำให้ปรึกษาแพทย์อยู่ดีค่ะลองคุยกับแพทย์ดูว่าจะเลือกฉีดตัวไหน ป้องกันไว้ก็ดีกว่าเพราะ "มะเร็งปากมดลูก" เป็ยภัยเงียบที่อยู่ใกล้ตัวผู้หญิงมากๆเลย

มดสัญญาว่าจะบอกต่อ เพื่อให้เราๆ ผู้หญิงด้วยกันมี มดลูกที่แข็งแรง 5555 ดูมีพลังเนอะ

ข้อมูลทั้งหมดรวบรวมจากประสบการณ์ส่วนตัว และ

1.แผ่นพับ ความเชื่อและความจริงเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกและวัคซีนเอชพีวี โดย รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

2.รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล

3.สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย

4.โครงการผู้หญิงปกป้องผู้หญิงwomenprotectwoment
Create Date :12 ตุลาคม 2553 Last Update :12 ตุลาคม 2553 18:26:57 น. Counter : Pageviews. Comments :4