21 พฤษภาคม 2554 : ทริปเที่ยวยุโรป [part 9] จาก Aschau สู่ Salzburg

blog ก่อนหน้านี้เป็นวันที่เดินทางจากเมืองมิวนิค มายังเมือง Aschau และมาพักค้างคืนที่ Burg Hotel ที่เป็นปราสาทเก่าแก่ แล้วมา remodel เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว



แล้วก็ได้มีการขึ้นกระเช้าไปบนยอดเขา Cheimgau


เช้าวันถัดมากรุ๊ปทัวร์ของเราก็จะเดินทางออกจากประเทศเยอรมันกันแล้ว โดยจะไปยังประเทศออสเตรีย เป็นประเทศต่อไป ตามมาชมกันครับ
ช่วงแรกๆ นี้ก็ยังเหมือนเดิมนะครับ การเดินทางใช้รถยนต์โค้ช คันเดิม แล้วก็จะได้ชมวิว 2 ข้างทางที่ถ่ายภาพจากบนรถให้ชมกันครับ



นั่งรถผ่านมาได้หน่อยเดียว ก็มาถึงอนุสาวรีย์สุสานของชาวเมือง Aschau ซึ่งไกด์คนขับรถของเรา เล่าให้ฟังกันว่า เมือง Aschau ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเมืองที่มีอะไรน่าสนใจ ไม่ได้เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศเยอรมัน แต่เป็นเมืองที่มีอะไรๆ เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 อยู่ แต่ก็เนื่องด้วยไม่ได้เป็นประเด็นอะไรมากนัก เลยอาจจะไม่มีการเขียนประวัติหรือเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นในเมืองนี้ ให้ติดตามทราบข้อมูลกัน แต่ชาวเมือง Aschau ก็ได้จัดทำสุสาน อนุสาวรีย์ของชาวเมือง Aschau ไว้กันที่ตรงจุดนี้

(สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เป็นสงครามความขัดแย้งบนฐานการล่าอาณานิคม ระหว่างมหาอำนาจยุโรปสองค่าย คือ ฝ่ายไตรพันธมิตร (Triple Alliance) ซึ่งประกอบไปด้วยเยอรมนี และอิตาลี กับฝ่าย (Triple Entente) ประกอบไปด้วยบริเตนใหญ่ ฝรั่งเศสและรัสเซีย เกิดขึ้นในช่วง ค.ศ. 1914 – 1918)








เยื้องๆ กับสุสานมีร้านขายของที่ระลึกร้านนี้
พอได้เห็นกันเป็นอะไรที่ดูจะเสียดายไปทั้ง 2 อย่าง เพราะเมื่อวันก่อนดูเหมือนว่าเดินมาเกือบถึงจุดนี้อยู่แล้ว และร้านนี้ดูว่าน่าจะขายของที่ระลึกที่เป็นน่าสนใจพอสมควรทีเดียว เอาเป็นว่าได้ชมกันบนรถแบบนี้ล่ะครับ

มาชมกับอาคารบ้านเรือนสวยๆ รูปทรงแปลกๆ และปราสาทรูปทรงเก่าๆ โบราณกันครับ








มาเห็นบ้านหลังนี้ไม่รู้ว่าเป็นโรงงานขายไม้หรือเปล่า แต่มาเห็นกันแบบนี้ ก็ไม่แปลกใจแล้ว ที่บ้านนี้เมืองนี้เค้ามีไม้ปลูกบ้านกันสวยๆ


โชว์รูมรถยนต์ อาจจะไม่ค่อยได้เห็นมาตลอดทาง พอมาเห็นกันกับฉากหลังที่เป็นทิวขาวสวยๆ แบบนี้ชวนให้อยากชมโขว์รูมรถยนต์กันด้วยครับ


มาชมวิวภูเขาสวยๆ สองข้างทางกันครับ






ลืมเล่าไปว่า จากเมืองที่เราออกมา เมือง Aschau ยังเป็นประเทศเยอรมันอยู่ และวันนี้ก็จะเดินทางไปเมือง Salzburg ประเทศออสเตรีย
แต่ระหว่างทางที่กำลังผ่านเทือกเขาสวยๆ สองข้างทางอยู่นี้เป็นชายแดนประเทศเยอรมัน ก่อนที่จะเข้าสู่ประเทศออสเตรีย
เราจะได้มาเที่ยวทะเลสาบอีกแห่งหนึ่ง ชื่อ Königssee ที่ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในฉากหนังเรื่องดัง The Sound of Music ด้วยครับ





มาชมวิวสองข้างทางกันต่อครับ














นั่งรถผ่านวิวสองข้างทางนี้แล้ว นึกอยากจะเปลี่ยนมานั่งรถแบบเปิดหลังคา see view
จะได้ถ่ายภาพกันได้ง่ายๆ ไม่มีเงาสะท้อนที่ต้องถ่ายภาพกระจกรถทั้ง 2 ข้างแบบนี้
เพราะวิวช่วงนี้ช่างสวยงามจริงๆ









ครั้งหน้าหากมีโอกาสได้มาถ่ายภาพแบบนี้ คงต้องหาซื้อฟิลเตอร์มาใส่ที่กล้อง เพราะอย่างน้อยน่าจะใช้ช่วยตัดแสงสะท้อนได้บ้าง และยังคงน่าจะปกป้องหน้าเลนส์ได้อยู่บ้าง
เพราะรถวิ่งๆ วนไปวนมาแบบนี้ ถ้าคนขับรถได้ยินเสียงขอบเลนส์กระแทกกับกระจกรถ โป๊กๆ ตลอดทาง สงสัยแอบมีเคือง
และเจอโค้งนี้เข้าไป ก็กลิ้งกันหลุนๆ อยู่บนรถเลย ดีว่ายังพอได้ภาพมาด้วย






ผ่านเข้ามาในตัวเมือง นึกว่าจะถึงที่จอดรถ เพื่อลงเที่ยวทะเลสาบกันแล้ว แต่ยังไม่ถึง
อาคารหลังนี้น่าจะเป็นศูนย์ไปรษณีย์ของชุมชนนี้



















เรามาลงรถที่ลานจอดรถบัส บริเวณนี้
จากนั้นก็เดินๆ มองๆ สองข้างทางร้านค้าไปกันตลอดทาง
ไกด์คนขับรถเดินนำหน้าไป แล้วก็บอกว่าอย่าเพิ่งซื้อของอะไร รีบไปลงเรือเที่ยวชมทะเลสาบ Königssee กันก่อน
จากนั้นขากลับค่อยมาเดินช้อปปิ้งกัน
รอบที่เดินผ่านก็เลยได้แต่เมียงมองกันไว้ก่อนว่าร้านไหนจะเป็นร้านค้าที่น่าสนใจกันบ้าง


















บริเวณนี้สุดทางเดินแล้วครับ ข้างหน้าจะเป็นทะเลสาบ Königssee

คนขับรถของเราไปซื้อตั๋วมาให้กับคณะของเรา





และเราจะขึ้นเรือลำนี้ ไปล่องทะเลสาบกันครับ










ล่องเรือไปเที่ยวด้วยกันครับ





ภาพที่ถ่ายจากเรือ มีทั้งถ่ายภาพผ่านกระจกเรือ และลอดช่องว่างกับหน้าต่างที่เปิดได้นิดหน่อยครับ
(ถ้าจะเป็นการถ่ายภาพที่ดี คงต้องนั่งชิดติดหน้าต่างครับ พอจะมีช่องให้เอากล้องออกหน้าต่างเรือไปถ่ายภาพด้านนอกได้ครับ)

และเมื่อมาได้ระยะทางไม่ไกลนัก น่าจะเป็นจุดกลางทะเลสาบ
ที่มีภูเขาล้อมโดยรอบ
กัปตันเรือคนขับได้ออกไปเป่าทรัมเป็ต ที่ริมบันไดเรือ
ช่วงนี้จะได้ฟังเสียงของทรัมเป็ตที่เป่าไป เสียงก็จะสะท้อนกลับไปกลับมาด้วยครับ

ลองชม ลองฟังจากวิดีโอชุดนี้ด้วยครับ เสียงสะท้อนอาจจะเบาไปหน่อยนะครับ









มาชมวิวสองฝั่งของทะเลสาบ Königssee กันต่อครับ
















เดี๋ยวเรือลำนี้จะมาจอดให้ขึ้นไปเดินเล่นกัน และชมโบสถ์ที่สวยงามที่อยู่ตรงหน้านี้ครับ












มาชมกันต่อ แล้วรีบกระโดดขึ้นท่าเทียบเรือกันเลยครับ






ขึ้นเรือก็ทีหลังคนอื่น จะรีบวิ่งตามไปกับกลุ่มข้างหน้าสักหน่อย
มาเจอเป็ดเล่นน้ำกันอยู่แถวท่าเทียบเรืออีก รีบถ่ายภาพมาให้ชมกันนิดหน่อย







ชอบเจ้าตัวเล็ก ตัวนี้ ที่ได้ตาสีเหลือง ดูชัดสว่างตาดีครับ














มาถ่ายภาพวิวมุมนี้ ก็ชวนให้นึกถึงโปสเตอร์ The Sound of Music ที่นำมาให้ชมกันด้านบน




เดินไปเที่ยวชมในโบสถ์ กันครับ

แต่แอบเห็นตัวอาคารด้านข้าง มีนาฬิกาแดด รูปทรงแปลกตาดีครับ
ใครมองออกกันบ้างครับ ว่าตอนที่มาถ่ายภาพนี้เป็นเวลากี่โมง























และมาชมวิวด้านหลังของโบสถ์หลังนี้ มองย้อนกลับไปทางที่ช่วงเดินทางมา




มีของที่ระลึกเป็นเสื้อผ้าของเจ้าหนู แอบเล็งๆ ไว้เหมือนกัน แต่ดูตัวใหญ่ไปหน่อย บวกกับราคามาถึง 10 euro


เสื้อของสาวน้อยก็มี


แอบเล็งๆ แล้วดูเหมือนจะมีแต่ตัวใหญ่ทั้งนั้นเลย

งานนี้ก็เลยอดซื้อมาฝากให้เจ้าหนูพี


ชมความสวยงามกันอย่างอิ่มตาอิ่มใจ ก็เตรียมตัวขึ้นเรือกลับล่ะครับ








เรากลับมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือกันแล้วครับ



แวะไปเจอะเจอก๊อกน้ำด้วยรูปทรงที่สวยงาม ถ่ายภาพมาให้ชมกันครับ



เดินมาอีกหน่อยเจอเจ้าตัวนี้ กำลังสดชื่นมาอย่างร่าเริง สนุกสนานเลย เพราะได้ไปลงเล่นน้ำที่ทะเลสาบมาด้วย มาไม่ทันตอนที่เค้าลงไปว่ายน้ำ แต่พอขึ้นมาได้แต่เดินหลบ เพราะเจ้านี่่เล่นสะบัดๆ ๆๆๆๆ กันน้ำกระจายเลย


เจ้าตัวนี้ก็ดูสุดแสนจะเชื่อง
วิ่งไปคาบไม้ได้มาจากเจ้าของที่โยนไป
แต่เจ้าตัวนี้จะเชื่องแบบหลอกล่อเจ้าของด้วยครับ วิ่งหลบไปหลบมาไม่ยอมคืนไม้ให้เจ้าของ
สงสัยมันจะรู้ว่า ขืนคืนให้เจ้าของ มีหวังได้วิ่งกลับไปคาบมาอีกแน่ๆ 555

ว่าแล้วมันก็จ้ำอ้าว เดินนำหน้าเจ้าของแบบไม่ยอมให้เจ้าของเดินไล่ทันเลย



ส่วนเจ้านี้เป็นของเล่นครับ
ยืนดูด้วยความสนใจ

และก็แอบคิดถึงเจ้าหนูพี ว่า จะซื้อไปให้เค้าเล่น เค้าจะเล่นไหมหนอ

แต่ดูแล้ว สงสัยว่ามันจะดูน่ากลัวมากไปหรือเปล่า
เห็นแล้วมีแววว่าจะไม่ได้เล่นแน่ๆ เพราะมันวิ่งเหมือนวิ่งไล่บอลไปมาอย่างรวดเร็วซะด้วย


มาชมของที่ระลึกประเภทเสื้อผ้ากันเล็กน้อยครับ
ถึงแม้เมืองนี้จะไกลจาก Munchen แต่ก็ยังมีเสื้อของทีมนักฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิค มาขาย
แต่ set นี้จะเป็นเสื้อทีมชาติของเยอรมัน แบบที่ใครแอบชื่นชอบทีมฟุตบอลนี้เป็นพิเศษ ก็มาหาซื้อกันได้เฉพาะดาราขวัญใจกันได้เลยครับ ในคณะของเราก็แอบมาซื้อกันที่นี่เหมือนกันครับ



อันนี้ก็กิ๊บเก๋ น่ารักดีครับ
หลายๆ คนแอบเล็งๆ จ้องๆ กันไว้อยู่หลายคู่เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าใครจะซื้อติดมือกลับมาบ้าง


มัวแต่เดินล้าหลังกลุ่มเพื่อนๆ รีบวิ่งตามมาขึ้นรถ
แต่ก็ยังมาแอบช้าอีกอึดใจ เพราะเห็นมอเตอร์ไซค์คันนี้ดูเท่ๆ ดี

มาปิดท้ายและอำลา ลาก่อน Königssee
จะมีโอกาสได้กลับมาอีกครั้งหรือเปล่าหนอ


จบ part ที่ 9 ไว้เพียงเท่านี้ครับ ว่าจะลุยต่อไปจนถึง Austria ซะหน่อย หมดแรงกันซะก่อน
เดี๋ยวทำภาพเสร็จที่พร้อม up blog เสร็จหมดแล้วจะมาให้ชมกันต่อกับ part 10 ครับ

ขอบคุณกันล่วงหน้าสำหรับทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่าย set นี้ด้วยกันครับ