Confession of Pain เรื่องมันเศร้า
ระวังนะ เดี๋ยวจะว่าไม่เตือนว่าฉปอยจ้า
จากประสบการณ์ ถ้าดูหนังจบเกิน 3 วัน แล้วไม่อัพบล็อก รับรองว่าเน่าคาใจตลอดไป วันอาทิตย์ นั่งเอาตูดแช่น้ำอยู่บ้าน ดูหนังไปหลายเรื่องนะจะว่าไป เพราะสั่งของได้มาวันศุกร์รวดเดียวเกือบ 20 แผ่น 555
เนื่องจากเยอะจัด ก็เอามาเรียงๆกัน ผู้โชคดีได้แก่ เฮียเหลียง กะท่านทาเคชิ เราหยิบ Confession of Pain ใส่ถาด แล้วกดปุ่ม Play ไม่รั้งรอ อ่ะ นี่มันภาคต่อ สองคมสองคม ป่ะเนี่ย เปล่าๆ ไม่เหมือนกันหรอก แต่เป็นเรื่องแวดวงคนสีกากีเหมือนกัน (เอ ที่ฮ่องกงมิเห็นคุณตำรวจใส่เครื่องแบบซักเท่าไหร่)
เฮียเหลียงหล่อเนียนมาเชียว คุณภรรยาก็สวย งานการกำลังรุ่ง ชอบแว่นตา พีเหลียงดูเท่ได้ใจและสูงวัยไปในตัว ผิดกับอาป็อง (ทาเคชิ อิอิ ชื่อน่ารัก) ตำรวจหนุ่มรุ่นน้อง ที่็เป็นขี้เมาหยำเปที่หล่อที่สุดในโลก
เข้าเรื่อง อาป็องเนี่ย อยู่ในช่วงที่เศร้าใจแต่ไม่ถึงกับหดหู่่ เพราะเมียฆ่าตัวตาย เหตุการณ์ผ่านมา 3 ปีแล้ว ก็ยังทำใจไม่ได้ อาป็องออกจากงานตำรวจมาเป็นสายสืบ ไปไหนก็มีภาพเหตุการณ์วันที่เมียเสียชีวิตติดตา เฮียแกก็กินเหล้าแก้กลุ้มใจ จนวันหนึ่งมีสาวสวย (ซูฉี ทำไมต้องเป็นเธอเนี่ย!!) ีคิดมาเปลี่ยนให้ดื่มเบียร์แทน เชียร์ไปเชียร์มา เฮียแกก็ชนเบียร์ได้ในที่สุด
ระหว่างนั้นก็มีการฆาตกรรมพ่อตาของเฮียเหลียง ซูซาน เมียของเฮียก็รู้สึกว่าเป็นคดีที่แปลก คนฆ่าน่าจะเป็นคนที่รู้จักกัน และเธอรู้สึกว่าถูกติดตามปองร้าย แต่พอบอกเฮียก็โดนเอายากล่อมประสาทให้กินซะี่นี่่ ดังนั้นก็ไปวานให้อาป็องสืบให้ จากการสืบทำให้ทราบเหตุจูงใจว่า เฮียเหลียงอาจจะเป็นคนร้ายได้ อาป็องก็ลุ้นให้ไม่เป็นจริง พยายามหาคนร้าย ช่วงนี้ก็ชิงไหวชิงพริบกัน ระหว่างพระเอกสองคน ให้ลุ้นว่าใครเป็นใคร แต่ไม่ถึงกับเลือดเดือดเชือนคม เหมือนชื่อภาษาไทยหรอกนะ
จริงๆแล้วหนังเฉลยให้ตั้งแต่แรกว่าใครเป็นคนทำ แล้วก็ดำเนินเรื่องไปข้างหน้า แสดงให้เห็นความคืบหน้าการสืบคดีของอาป็อง จนมาทวิสท์ช่วงสุดท้าย ด้วยเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับซูซานนั่นเอง ช่วงนี้เป็นจุดที่ทำให้เฮีย ต้องมา สารภาพความแค้นที่แสนเศร้ากับ อาป็อง
บอกตรงๆช่วงแรกดูแบบเบลอๆ คิดว่า ทาเคชิ จะเป็นฝ่ายที่สารภาพนะ เนื่องจากเฮียเหลียงแกเล่นนิ่งมาก เหมือนไม่กดดัน หนังหลอกได้ดี ในขณะที่อาป็องทุรนทุรายแทบทุกฉาก ถึงเฮียแกทำงานวางแผน ใจเย็นของแกไปเรื่อยๆ โดยที่เราจะยังไม่ทราบเหตุผลทั้งหมด ส่วนบทของซูซานเป็นอีกคนที่แสดงให้เรารู้สึกอึดอัด ในบ้านที่ดูดีพร้อมของคนรักกันสองคน แต่ก็รู้สึกว่าถึงความเย็นเยือกแฝงอยู่ บรรยากาศที่แตกต่าง เห็นได้เวลาที่ซูซานคุยกับอาป็องจะมีความผ่อนคลาย และฉากที่มีอาป็องอยู่ไม่ว่าจะที่บาร์หรือที่บ้านสาวเชียร์เบียร์ จะมีโทนสีอบอุ่น แม้บางทีจะดูร้อน แต่ก็มีชีวิตชีวากว่า
ฉากไคลแม็กซ์ บนดาดฟ้า (?? ไม่แน่ใจ ดาดฟ้าอีกแล้วเหรอ) โรงพยาบาล มันนิ่งมากจนหวั่นไหว (แฮ่ม!) ที่เขาเรียกว่าเล่นน้อย แต่ได้มาก นั่นแหละพี่เหลียงเลย อืมม แกเล่นเก่งจริงๆนะ ที่ฮ่องกง น่าจะมีการให้ตำแหน่งท่านเซอร์กะเฮียเขาเหอะนะ แบบเซอร์แอนโธนี ฮอบส์กินไง แล้วก็อดไม่ได้จะเปรียบเทียบฉากจบกับ IA ทำไม ผกก คนนี้ช่างใจร้ายกับเฮียที่จุดเดิมเลย โถ น่าสงสาร
ถ้าชอบ สองดารานำ โดยเฉพาะ เหลียงเฉาเหว่ยก็ดูกันเถอะนะ ไม่ผิดหวัง แต่ถ้าชอบแนวเดียวกับ I/A หนังเจ้าพ่อ คงต้องเตรียมใจไว้นิดนึง เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรเดือดเลย แค่อุ่นๆปุดๆ สำหรับเราชอบแสงสี เมื่อบวกกับความเท่แบบเหงาๆ ของเฮีย และ ทาเคชิแบบเซอร์ๆ (หรือจะว่าขี้เมาก็ได้) จริงๆแล้ว ดูขัดๆอยู่เหมือนกัน ทาเคชิ เล่นต็มที่ และก็ทำได้ดีที่สุดแล้ว แต่น่าเสียดายที่หน้าตาดีเกินไปก็ทำให้อะไรๆดูไม่เป็นอย่างที่ใจคิดได้เหมือนกัน ผิดมากหรือที่เกิดมาหล่อเข็ดแบบนี้ สุดท้ายคือ ดนตรีประกอบ ยังสุดยอดเหมือนเดิม กล่อมเรื่องนี้ให้เหงาหงอย เดียวดายได้ไม่ขาดตกบกพร่อง โอ้หนอ ความแค้นที่แสนเศร้า หากไม่รู้จักปล่อยวางและดำเนินชีวิตต่อไป เราคงไม่อาจก้าวพ้นวังวนของความเศร้าไปได้
Create Date : 22 พฤษภาคม 2550 |
|
10 comments |
Last Update : 22 พฤษภาคม 2550 22:47:11 น. |
Counter : 909 Pageviews. |
|
|
|
55555
ไม่กล้าอ่านละเอียด
กลัวว่าเดี๋ยวไปดูเองจะไม่สนุก
เลยอ่านผ่าน ๆ ค่ะ
ชอบทาเคชิ มาก ๆ เดี๋ยวจะหามาดูค่ะ
ขอบคุณนะคะ