Group Blog
 
 
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
นิยายรัก ตอนที่ 5 ภาพ (ลักษณ์) ฉาว

COPY WRIGHT : สงวนลิขสิทธิ์ทั้ง ปกหนังสือ และ เนื้อหาค่ะ

บ่วงมะลิลา

ผู้เขียน:วรรณรวี

พิมพ์ครั้งแรก:พฤศจิกายน ๒๕๕๗

copy.jpg สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ ๒๕๓๗

ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดเพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเอกสารรูปเล่ม หรือเพื่อการใดๆเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น

ISBN : ๙๗๘ – ๖๑๖ – ๓๗๔ – ๐๗๑ – ๗

ราคา๒๓๐ บาท

***************************************************


ตัวอย่างค่ะ

ภาพ (ลักษณ์) ฉาว

“ฉันสั่งให้แกไปคอยดูแลลูกสาวฉันไม่ได้ให้แกไปก่อเรื่องเสียเองนะนายพีช ดีแค่ไหนที่เจ้าของผับสั่งปิดข่าวแล้วคู่กรณีไม่ตายคาหมัดหนักๆ ของนาย ไม่งั้นลูกสาวของฉันได้ชื่อเสียงป่นปี้กันหมดฉันไม่ชอบให้ลูกของฉันต้องขึ้นหน้าหนึ่ง นายเข้าใจใช่ไหมไม่เคยเห็นหรอกเหรอวะข่าวในอินเตอร์เน็ตน่ะ พวกนักเลงคีย์บอร์ดพวกปากกล้าขาสั่นมีเยอะแค่ไหนในประเทศนี้ พวกที่ชอบด่าชาวบ้านพล่อยๆเหมือนถ่มน้ำลายลงพื้นแล้วไม่ต้องจ่ายค่าปรับ ลูกสาวของฉันนามสกุลดังขนาดนี้จะผิดจะถูกก็โดนด่าก่อนใครอยู่ดี”

เจ้าสัวมหาศาลดุบอดี้การ์ดหนุ่มเลือดร้อนด้วยน้ำเสียงดังลั่นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเขาไม่ชอบใจมากถ้าหากลูกสาวของเขาจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง

“ผมขออภัยครับท่านต่อไปผมจะใจเย็นกว่านี้” พิชญะยืนก้มหน้ายอมรับความผิดเสียงอ่อย

“ไม่ใช่ความผิดของพี่พีชทั้งหมดนะคะป๋าผู้ชายคนนั้นเมามากจริงๆ แล้วเขาก็คงไม่ได้ตั้งใจจะทำรุ่มร่ามกับลูก แต่คงจะยืนไม่ไหวภาพก็เลยออกมาเป็นแบบนั้น” มะลิลาแก้ตัวแทนพิชญะเสียงอ่อยไม่แพ้กันรู้ดีว่าตัวต้นเหตุแท้จริงก็คือเธอ “ต่อไปนี้ลูกจะไม่นัดเพื่อนๆในสถานที่แบบนั้นอีกแล้วค่ะป๋า”

เจ้าสัวคนดังเงียบไปเมื่อได้ยินเสียงอ่อยของลูกสาวแล้วเขาก็ยกมือลูบศีรษะเล็กของเธอก่อนเอ่ยอย่างอ่อนโยน

“ต่อไปลูกสาวของป๋าจะต้องทำธุรกิจมีคนอีกมากมายที่ลูกจะต้องติดต่อมีคอนเนคชั่นด้วยไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ก็จำเป็นที่จะต้องมีภาพลักษณ์ของความน่าเชื่อถือยิ่งถ้าเราอายุยังน้อย เราต้องยิ่งพยายามมากกว่าคนอื่นอีกหลายเท่าตัวนะลูก เป็นข่าวทำนองนี้มันเสียหายที่ป๋าดุนายพีช น้องมะลิเข้าใจป๋าใช่ไหมลูกป๋าไม่อยากให้ใครมาชี้หน้าว่าลูกของป๋า”

เมื่อได้ยินดังนั้นคนเป็นลูกสาวก็ยิ้มหวานแล้วโผกอดบิดาด้วยท่าทางออดอ้อนดวงตาของเธอมองบอดี้การ์ดหนุ่มแล้วส่งสัญญาณให้เขารีบถอยออกไปเสียก่อนที่จะโดนดุไปมากกว่านี้โดยเขาก็พยักหน้ารับอย่างรู้กันเบาๆ ก่อนจะค่อยๆถอยหลังออกไปด้วยฝีเท้าเงียบกริบราวกับแมว

หลังจากนั้นมะลิลาก็เบี่ยงประเด็นโดยการชวนบิดาคุยถึงเรื่องงานที่ได้เตรียมพร้อมเอาไว้และเหลือเพียงรอให้นักธุรกิจหนุ่มฉ่ำรักกลับมาจากโตเกียวในสัปดาห์หน้าก็จะได้ลงมือเริ่มงานทันที

“พร้อมก็ดีแล้วลูกคืนนี้เล็กเขาจะกลับจากญี่ปุ่นคงไม่ต้องรอถึงสัปดาห์หน้า ลูกสาวของป๋าร้อนวิชานัดกันพรุ่งนี้เลยก็คงไม่มีปัญหาอะไร”

“ทำไมเขากลับเร็วจังล่ะคะลูกคิดว่านายนั่นคงจะติดใจโตเกียวจนไม่อยากกลับเมืองไทยแล้วเสียอีก”

มะลิลาเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชันเจ้าของชื่อโดยเธอไม่รู้ว่าน้ำเสียงเช่นนี้ไม่ยากเกินคาดเดาอารมณ์ของลูกสาวเจ้าสัวมหาศาลอมยิ้มน้อยๆเขารู้ดีว่าน้ำเสียงเหวี่ยงวีนไม่สบอารมณ์อย่างคุณหนูเอาแต่ใจของเธอคงเป็นผลมาจากรูปภาพเบลอๆ ภาพนั้นที่เขาเห็นในอีเมลเมื่อวันก่อน โดยคนในภาพเป็นคนส่งมาให้เขาด้วยตัวเอง

แน่นอนกับความจริงที่ว่าอเลสซานโดรจริงจังกับลูกสาวของเขามากถึงขั้นไม่ยอมให้ภาพความเข้าใจผิดในตัวเขาที่บางสื่อนำมาลงข่าวจนอาจจะส่งผลต่อความสั่นคลอนในตำแหน่งว่าที่ลูกเขยของเขาอย่างแน่นอน...

หากเมื่อมะลิลารู้จากปากของบิดาว่าที่ปรึกษาของเธอจะกลับมาแล้วเธอก็มีความรู้สึกหลายอย่าง หนึ่งคือไม่พอใจมากกับรูปภาพที่เห็นเพราะผู้ชายโลเลแบบนี้น่ะหรือที่บอกเธอว่าเขาเป็นคู่หมั้นแล้วยังมาเรียกร้องความรับผิดชอบจากเธอเสียอีก สองคือเธออาจจะหึง?แต่คงไม่ใช่หรอกมั้ง หากถึงอย่างไรเธอก็ไม่ปฏิเสธว่าอยากจะรู้เช่นกันว่าเขากลับมาแล้วจะแก้ตัวกับเธอว่าอย่างไร

แต่ก็นั่นแหละน่าทำไมเธอจะต้องไปอยากรู้ด้วยว่าเขาจะแก้ตัวว่าอย่างไรในเมื่อเวลานี้เธอกับเขามีสถานะเพียงแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น

เหตุผลต่างๆในห้วงความคิดของมะลิลาตีกันจนปั่นป่วนไปหมด แต่ที่เธอปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือเธอตื่นเต้นและรอเวลาที่จะได้พบกับเขาในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน

เป็นการเดินทางเยือนกรุงโตเกียวที่สั้นที่สุดเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจหลอกๆ ชายหนุ่มก็รีบเดินทางกลับเมืองไทยและเช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็จะมีอีกหนึ่งงานสำคัญที่สุดแสนจะรอคอยมาหลายวันรออยู่

อเลสซานโดรขับรถยนต์คันหรูที่เขาจอดทิ้งไว้ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วมุ่งหน้ากลับที่พักซึ่งเป็นเวลาเลยเที่ยงคืนมาหลายนาทีแล้ว

ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงรถยนต์คันหรูก็ขับขึ้นมาจอดบนชั้นสิบแปดของคอนโดฯหรู ‘แกรนด์วิววิลล่า’ เป็นคอนโดฯ ที่เขาซื้อเก็บไว้หลายปีและเพิ่งตัดสินใจมาพักที่นี่ได้เพียงไม่กี่วันก็จะอะไรเสียอีกในเมื่อเขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวกับว่าที่คู่หมั้นซึ่งเวลานี้ความสัมพันธ์ทางกายไปไกลเกินกว่าคำว่าคู่หมั้นเพียงชั่วข้ามคืนเพราะโชคชะตาและตัวเขาเองเป็นใจโดยหลังจากนี้เขาต้องพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะพิชิตใจเธอให้ได้ และถ้าเมื่อไรที่เธอยอมตกลงปลงใจกับเขาเขาก็ยินดีที่จะพาเธอไปพบกับครอบครัวของเขาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ย่านชานเมืองชายหนุ่มอมยิ้มพร้อมส่ายศีรษะน้อยๆเมื่อนึกย้อนไปถึงวันที่เขาบินด่วนกลับมาเมืองไทยเมื่อสัปดาห์ก่อนเขาพยายามหาเหตุผลสนับสนุนเพื่อจะได้ออกมาพักที่นี่โดยไม่ให้มารดาน้อยใจเพราะถึงเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในหลายประเทศด้วยเหตุผลเรื่องงานหากทุกครั้งที่อยู่ประเทศไทย ชายหนุ่มที่หล่อเหลาและทรงพลังในด้านต่างๆอย่างเขาก็คือหนุ่มน้อยคนหนึ่งของมารดาเท่านั้น และเหตุผลที่ว่า

“เล็กกำลังทำคะแนนกับสาวน้อยของคุณแม่อยู่ครับเอาไว้เมื่อเล็กจับน้องได้เมื่อไร เล็กจะพาน้องมากราบคุณแม่นะครับ”

แน่นอนเมื่อเหตุผลนี้ออกจากปากของเขามีหรือคนที่หมายปองและจับจองว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยตัวเองอย่าง มณฑาณีสาวงามแม้วัยจะเข้าใกล้หกสิบปีจะไม่ตกลงเธอยอมที่จะเจอหน้าลูกชายน้อยลงเพื่อเปิดโอกาสให้เขาได้จับลูกสะใภ้ที่เธอถูกใจและเอ็นดูมากแม้เพียงแรกพบเมื่อหลายปีก่อนจนเธอต้องออกปากกับบิดาของสาวน้อยเพื่อจับจองเอาไว้ให้กับลูกชายของตนและคนเป็นลูกชายก็เพิ่งจะมายอมรับและทำตามความต้องการของเธอโดยง่ายดายเมื่อครั้งที่เขากลับมาจากประเทศฝรั่งเศสเมื่อห้าปีก่อน

เนคไทสีน้ำเงินเข้มที่รูดออกหลวมๆก่อนหน้านี้ถูกพาดลงบนพนักโซฟามือแกร่งปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวด้วยท่าทางที่สุดแสนจะเป็นธรรมชาติช่วงขายาวและแข็งแกร่งเพิ่มเสน่ห์ให้เขาสูงสง่าและโดดเด่นขณะเดินตรงไปยังห้องนอนก่อนที่เขาจะถอดเสื้อเชิ้ตออกแล้วปล่อยลงบนพื้นพรมด้วยท่าทางไม่แยแส

ชายหนุ่มปลดกระดุมกางเกงสแล็คแล้วรูดซิปออกก่อนจะทิ้งร่างที่มีผิวสีแทนละเอียดงดงามด้วยมัดกล้ามลงบนเตียงนอนโดยบนร่างกายแกร่งของเขาเหลือเพียงกางเกงบ๊อกเซอร์คาลวิน ไคลน์สีดำติดกายเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น

การเดินทางไกลหลายชั่วโมงบวกกับที่เขายังไม่ได้นอนพักเพราะขัดใจญาติสาวผู้น้องไม่ได้เมื่อเธอเอ่ยปากชวนเขาออกท่องราตรีโดยยอมเป็นเจ้ามือเพื่อตั้งใจจะตอบแทนที่เขาเดินทางไกลไปช่วยเธอเล่นละครตบตาใครบางคนถึงโตเกียวนั่นเท่ากับว่าเขายังไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่มาสองสามคืนแล้ว

หากเมื่อชายหนุ่มทิ้งร่างลงบนเตียงนอนด้วยท่าทางผ่อนคลายดวงตาสีน้ำตาลอมฟ้าครามของเขาที่ค่อยๆ ปิดสนิทก็ปรากฏภาพในห้วงจินตนาการภาพหญิงสาวที่เขาจะได้พบเธอในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าภาพที่เธอกำลังบรรเลงเพลงรักเร่าร้อนหากไร้เดียงสาร่วมกับเขาภายในโรงแรมสุดหรูกลางเมืองฟลอเรนซ์ไปเมื่อเกือบสามสัปดาห์ก่อนและตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมาเขาก็ฝันเห็นภาพเร่าร้อนนี้ตลอดมาเรียกได้ว่าแทบจะทุกช่วงเวลาที่เขาว่างจากภารกิจเรื่องงานแม้กระทั่งในช่วงเวลาที่เขาอ่อนเพลียและเปลือกตาที่หนักอึ้งเช่นนี้เขาจินตนาการไปถึงขั้นว่าถ้าหากเขากลับมายังที่พัก ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสภาพอ่อนระโหยโรยแรงเพียงใดแต่ถ้าหากมีเธอรอคอยเขาอยู่ที่นี่ เขาก็จะ...เมคเลิฟและปรนเปรอเธอให้เหมือนหรือมากกว่าคืนนั้นในทุกๆ คืนที่เขาอยู่กับเธอ

“I miss youbaby”

อเลสซานโดรเอ่ยเบาๆพร้อมรอยยิ้มก่อนที่เสียงลมหายใจของเขาจะสม่ำเสมอไปจนกระทั่งเช้า...

สิ้นสุดการรอคอยเสียทีหากไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เร่งชั่วโมงนาทีให้ถึงเวลานัดเร็วๆเพราะหญิงสาวที่สวมชุดสวยด้วยชุดกระโปรงความยาวแค่เข่าสีครีมเผยเรียวขาเล็กและผิวขาวอมชมพู เธอสวมทับด้วยแจ็กเกตยีนยกปกขึ้นอีกชั้นเป็นการมิกซ์แอนด์แมทช์ในสไตล์สวยหวาน เรียบ เท่ ได้อย่างลงตัว

มะลิลาเรียกตัวบอดี้การ์ดหนุ่มเพื่อมาทำหน้าที่ขับรถให้เธอตั้งแต่เช้าโดยในกระเป๋าหนังสะพายสีน้ำตาลใบหรูที่มีขนาดใหญ่เพียงพอบรรจุซองเอกสารที่เตรียมไว้และมีโน้ตบุ๊กประจำตัวอยู่ในมือเพราะเธอไม่อนุญาตให้พิชญะยึดไปถือเอาไว้เสียเองเธอใช้เวลาเดินทางมาถึงสำนักงานของบิดาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

“พี่พีชอีกหนึ่งชั่วโมงคนที่มะลินัดไว้จะมาถึง ถ้าเขามาแล้วนำทางเขาไปที่ห้องประชุมเลยนะมะลิจะไปเตรียมตัวที่ห้องทำงานของป๋าก่อน” มะลิลาออกคำสั่งเพียงสั้นๆเมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มลงมาเปิดประตูรถยนต์ให้เธอ

“ครับคุณหนู”พิชญะก้มศีรษะเล็กน้อยรับคำสั่งถึงแม้คนเป็นเจ้านายจะให้ความสนิทสนมกับเขามากเพียงใดหากเขาเองรู้ตำแหน่งและหน้าที่ของตน

มะลิลามาถึงสถานที่นัดเพียงลำพังเพราะบิดาบอกเธอเพียงว่า ‘เช้านี้ป๋ามีนัดตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาล น้องมะลิไม่ต้องกังวลนะลูกป๋าแข็งแรงดี ถือโอกาสไปเยี่ยมคุณหมอเสียเลย’ เสียงนั้นทำให้คนเป็นลูกสาวคลายความกังวล…

สิบนาฬิกาตามเวลานัดภายในห้องประชุมโอ่โถงที่มีเก้าอี้ว่างสิบที่เพื่อรองรับการประชุมใหญ่หากเวลานี้ภายในห้องมีสมาชิกเพียงสี่คนเท่านั้นคนที่เป็นเจ้าของสถานที่นั่งในตำแหน่งประธานของที่ประชุมและชายหนุ่มคนที่เร่งวินาทีให้ถึงเวลานัดซึ่งเขาก็มาถึงหลังเธอเพียงห้านาทีเท่านั้นแต่แล้วเขาก็ถูกพิชญะเชิญให้มานั่งรอที่ห้องนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงโดยเขาไม่ปริปากบ่นหรือแสดงท่าทางไม่พอใจ เขารู้ดีว่าตัวเองมาก่อนเวลาหลายนาทีและตอนนี้ตำแหน่งที่นั่งของเขาก็คือฝั่งตรงข้ามกับเธอ

ถัดไปทางซ้ายมือของหญิงสาวคือมัณฑนากรหนุ่มที่เดินทางมาถึงก่อนเวลานัดเพียงห้านาทีแน่นอนชายหนุ่มอีกคนซึ่งไม่มีส่วนร่วมใดๆ กับการประชุมในครั้งนี้หากเขาก็นั่งอยู่บนโซฟาเล็กๆ มุมห้อง

ดวงตาเฉี่ยวของพิชญะจ้องเขม็งไปยังคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเจ้านายของเขาด้วยท่าทางไม่ชอบใจนักก็จะอะไรเสียอีกผู้ชายด้วยกันคงจะมองออกว่านี่คือการส่งสายตาโลมเลียคุณหนูของเขาอย่างเปิดเผยและเสียมารยาทอย่างที่สุดซึ่งเธอก็กำลังทำหน้าที่บรรยายสรุปงานให้กับมัณฑนากรหนุ่มฟังอย่างตั้งใจถึงแม้ในบางครั้งเธอจะสบตากับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วรีบหลบสายตาบ้างพลางหันไปคุยเรื่องงานต่อราวกับไม่สนใจแต่มันก็ไม่สามารถปกปิดผิวขาวที่กำลังซ่านสีชมพูบนแก้มนวลของหญิงสาวได้เลย

“เอาเป็นว่ารายละเอียดนอกเหนือจากที่เราคุยกันวันนี้มะลิจะส่งอีเมลสรุปตามไปให้คุณพฤกษ์ภายในวันสองวันนี้นะคะอยากให้ทุกอย่างออกมาเนี้ยบตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ให้มากที่สุดแล้วก็ต้องการใช้พื้นที่ทั้งชั้นให้คุ้มค่าที่สุดด้วยรายละเอียดเยอะมากคงไม่ทำให้คุณพฤกษ์รำคาญหรอกนะคะ”

หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานเมื่อเธอสิ้นสุดการบรรยายสรุปงานซึ่งใช้เวลาไปยาวนานพอสมควรถึงแม้เธอคิดว่าได้เตรียมข้อมูลมาพร้อมแล้ว ทว่าเมื่อได้พูดคุยกับมัณฑนากรหนุ่มที่มีชื่อสั้นๆ หากนามสกุลยาวว่า พฤกษ์ อัศวอาชาวินทร์ [1]แล้วเธอมองเห็นรายละเอียดบางอย่างที่ควรจะนำเสนอเพื่อเป็นข้อมูลดิบให้เขานำกลับไปตีโจทย์และมันจะต้องเป็นผลงานที่ถูกใจเธอมากอย่างแน่นอน

มะลิลาไม่ลังเลเลยที่จะร่วมงานกับชายหนุ่มผู้นี้และไม่ใช่ว่าเธอเชื่อการการันตีของคนที่ยังคงส่งสายตาหวานโลมเลียเธอตลอดเวลาเพียงเท่านั้นหากเป็นเพราะผลงานที่ผ่านมาซึ่งเขาบอกเธอผ่านพรีเซ็นเทชั่นสั้นๆมีทั้งโรงแรมหรูระดับหกดาวที่เชียงใหม่ที่ชื่อว่า ‘แกรนด์อาชาวินทร์รีสอร์ต’ หรือแม้กระทั่งพื้นที่ชั้นล่างที่ถูกแบ่งโซนเป็นร้านอาหารร้านขายสินค้าต่างๆ หลายๆ ร้านภายในตึกสูงของเธอแห่งนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานการออกแบบตกแต่งภายในของเขา และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือมีหลายๆโรงแรมหรูในหัวเมืองดังๆ ทั่วโลก เช่น มิลาน ลอนดอน ปารีส แม้กระทั่งปรากมัณฑนากรหนุ่มที่มีหน้าตาคมเข้มผู้นี้ก็เคยได้ฝากผลงานเอาไว้ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับมาทำงานที่เมืองไทยเป็นการถาวรเมื่อสามปีก่อน

“ได้เลยครับคุณมะลิลาไม่มีปัญหา ไม่รำคาญเลยครับ การที่ลูกค้ามีข้อมูลและรายละเอียดเยอะ ช่วยให้ผมทำงานได้ง่ายขึ้นต่างหากแล้วก็จะทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุดด้วยครับถ้าผมจะขออนุญาตลงไปดูพื้นที่ชั้นล่างเลยได้ไหมครับ”มัณฑนากรหนุ่มเอ่ยถามขณะที่เขารวบรวมเอกสารตรงหน้าใส่กระเป๋า

“ได้เลยค่ะเราไปกันตอนนี้ได้เลย อีกหนึ่งชั่วโมงก็จะเที่ยงแล้ว เอาเป็นว่าดูสถานที่เสร็จมะลิขอเลี้ยงมื้อเที่ยงคุณพฤกษ์ ไม่ทราบว่าคุณพฤกษ์มีนัดที่ไหนต่อหรือยังคะ”

มะลิลาเอ่ยชวนชายหนุ่มตรงหน้าด้วยรอยยิ้มสดใสแน่นอนเธอพึงพอใจมากที่ได้ร่วมงานกับเขาก็ส่วนหนึ่งแต่เธอก็ประทับใจอัธยาศัยของเขาด้วยเช่นกัน หรือจะเรียกว่าถูกชะตาก็คงไม่ผิดนักหากเธอไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มหวานๆที่เธอมอบให้มัณฑนากรหนุ่มด้วยความบริสุทธิ์ใจจะทำให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามหึงจัดเสียงทุ้มนุ่มของเขาก็เอ่ยพร้อมใบหน้านิ่งพลางกวาดตามองไปยังเพื่อนรักที่มาในคราบลูกจ้างของเขา

“เที่ยงนี้นายพฤกษ์ไม่ว่างแล้วค่ะก่อนมาเขาบอกกับพี่ว่านัดทานมื้อเที่ยงกับคู่หมั้นแล้วก็จะพาเธอไปลองชุดแต่งงานด้วยน้องจัสมินไปทานมื้อเที่ยงกับพี่สองคนก็แล้วกันนะคะ”

คนกันท่ารีบยกสถานะแฟนของเพื่อนรักให้เป็นคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกันทันทีเมื่อเขาเห็นว่าเพื่อนกำลังจะตอบตกลง

“ใช่ไหมวะพฤกษ์นายบอกฉันว่าน้องน้ำมนต์ของนายจะงอนมากถ้าหากนายเลทฉันเลยนัดให้เรามาคุยงานกันก่อนช่วงเช้า บ่ายนี้นายจะได้มีเวลาเอาใจคู่หมั้น”

แล้วคนที่รู้ตัวว่าโดนกันท่าก็เอ่ยยิ้มๆออกมาอย่างรู้ทัน “ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณมะลิลาบ่ายนี้ผมมีนัดกับแฟ...คู่หมั้นแล้วครับ บอกเธอว่าจะรับไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันความจริงเธอรอผมอยู่ที่ห้างใกล้ๆ นี่เอง แล้วเราก็จะไปลองชุดแต่งงานต่อ”ชายหนุ่มรับลูกต่อจากเพื่อนเขาไม่ปฏิเสธเพราะถึงอย่างไรเขาก็จะต้องแต่งงานกับแฟนสาวเร็วๆนี้อย่างแน่นอนถ้าเธอยอมตกลง

“น่าเสียดายจังค่ะแต่ไม่เป็นไรเอาไว้โอกาสหน้า ถ้างั้นเราลงไปดูชั้นล่างกันเลยดีไหมคะคุณพฤกษ์จะได้ไม่เสียเวลา”

“ดีครับ”

จากชั้นสูงสุดเพียงสิบนาทีทั้งสี่คนก็ลงลิฟต์มาดูสถานที่ที่ซึ่งกำลังจะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการค้าและเป็นที่ตั้งของบริษัทเอเจนซี่เล็กๆในอนาคตอันใกล้ พื้นที่โล่งทั้งชั้นถูกล้อมรอบด้วยกระจกที่สามารถมองเห็นบรรยากาศรอบด้านและถ้าเมื่อไรก็ตามที่มันเปิดบริการให้บุคคลภายนอกได้เข้าชมและขายผลงานได้พื้นที่โล่งๆ บนชั้นนี้ก็คงจะคึกคักและเต็มไปด้วยบุคคลที่มีรสนิยมต้องกันแน่นอนว่าผลงานที่หญิงสาวได้ติดต่อเจรจาขอซื้อเอาไว้จากเจ้าของผลงานก็จะถูกนำมาจัดวางแสดงเอาไว้ที่นี่ มีทั้งภาพจิตรกรรมด้วยเทคนิคต่างๆและประติมากรรมในรูปแบบหลากหลายจากศิลปินรุ่นใหม่มากฝีมือรวมทั้งภาพถ่ายของช่างภาพฝีมือดีแน่นอนจะขาดเสียไม่ได้เลยนั่นก็คือผลงานเครื่องประดับที่เหล่าบรรดานักออกแบบและช่างผู้มากฝีมือได้รังสรรค์ผลงานออกมาอย่างประณีตมีเอกลักษณ์ตามแนวทางของตัวเองเรียกได้ว่าเธอต้องการเนรมิตพื้นที่ว่างชั้นสิบบนตึกสูงแห่งนี้ให้เปรียบเสมือนกับพิพิธภัณฑ์ดังๆ ของเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก ‘The museumof bangkok’ของเธอจะต้องเป็นที่กล่าวถึงและรู้จักในวงกว้างภายในสิบปีนี้อย่างแน่นอน

เพียงครึ่งชั่วโมงในการสำรวจพื้นที่มัณฑนากรหนุ่มก็ขอตัวกลับพร้อมข้อมูลโดยเขานัดส่งแบบร่างให้เธอครั้งแรกในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า

“ขอบคุณมากนะคุณฉันถูกชะตากับคุณพฤกษ์มากๆ แล้วฉันก็เชื่อในฝีมือของเขา”มะลิลาหันไปขอบคุณชายหนุ่มที่เดินประกบเธอใกล้ชิดแทบตลอดเวลา

“ยินดีมากค่ะงานของน้องจัสมินเสร็จแล้ว เที่ยงพอดี เราไปทานข้าวกันเถอะค่ะชั้นล่างมีร้านอาหารดีๆ หลายร้าน หรือว่าน้องจัสมินมีร้านในดวงใจอยู่แล้วพี่ขับรถให้”คนที่เดินประกบหญิงสาวราวกับเขาไม่มั่นใจในคุณสมบัติโดดเด่นของตัวเองเอ่ยชวนอย่างโล่งใจที่เพื่อนสนิทของเขาเดินกลับออกไปพร้อมส่งสายตาอย่างคนรู้ทัน

“ไม่ต้องออกไปข้างนอกหรอกค่ะกินชั้นล่างในตึกเรานี่แหละ ฉันมีงานต้องทำต่อ แต่ต้องให้คนของฉันไปด้วยนะ” มะลิลาเงยหน้าบอกคนที่สูงกว่าเธอมากด้วยแววตามุ่งมั่นแน่นอนว่าเธอไม่ไว้ใจที่จะออกไปกับเขาตามลำพัง

“ไม่มีปัญหาค่ะ นายพิชญะไปกับเราด้วยก็ได้แต่เขาต้องแยกโต๊ะนั่ง พี่ไม่ชอบร่วมโต๊ะกับบอดี้การ์ด มันเสียการปกครอง” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยท่าทางจริงจังพลางหันไปมองหน้าบอดี้การ์ดหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้ๆแน่นอนเขาจงใจให้อีกฝ่ายได้ยินชัดๆ

“แต่ฉันไม่ถือค่ะ พี่พีชเป็นคนของฉัน”มะลิลาเอ่ยฉุนๆ เธอไม่ชอบที่เขาแบ่งชนชั้นกับบอดี้การ์ดหนุ่มซึ่งเปรียบเสมือนพี่ชายของเธอ

“พี่ไม่ได้แบ่งชนนั้นแต่พี่ไม่ชอบให้บุคคลที่สามได้ยินบทสนทนาระหว่างเราน้องจัสมินก็รู้ว่าระหว่างเรามันมีความลับพี่แค่ต้องการให้เป็นเรื่องระหว่างเราเท่านั้นนะคะ อย่าอารมณ์เสียไปเลยนะ” ร่างสูงใหญ่โน้มใบหน้าลงมากระซิบข้างหูของหญิงสาวแน่นอนว่าเขาไม่ต้องการให้ใครได้ยินสุดยอดความลับนี้ระหว่างเขากับเธอ

มะลิลาไม่ตอบและเธอก็ไม่สามารถบังคับสีเลือดฝาดที่ลามไปทั่วแก้มของเธอได้หากสติยังพอควบคุมให้เธอทำหน้านิ่งๆ ก่อนหันไปออกคำสั่งกับคนที่มองมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“พี่พีชไปทานมื้อเที่ยงกันค่ะ”

เมื่อได้รับคำชวนหรือจะเรียกว่าคำสั่งก็คงไม่ผิดนักพิชญะก็ก้มหน้ารับด้วยท่าทางนอบน้อมก่อนเดินตามหลังเจ้านายน้อยๆของเขากับชายหนุ่มคนที่ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะเข้ามาเป็นเจ้านายคนใหม่ของเขา คนที่ส่งสายตามาที่เขาเพื่อแสดงถึงอำนาจและความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในตัวของหญิงสาวที่เป็นอันดับหนึ่งในใจของเขามาตลอดหลายชั่วโมงแล้ว

‘กวนตีนชะมัด’

นั่นคือคำพูดที่ตะโกนก้องอยู่ในใจของพิชญะหากฝีเท้าของเขาที่เดินตามหลังทั้งคู่นั้นเบาและเงียบกริบราวกับฝีเท้าแมว...



[1] ติดตามชายหนุ่มนามพฤกษ์ อัศวอาชาวินทร์ ได้ในเรื่อง “ดวงใจมัท”


**************************************************************

หนังสือออกจากโรงพิมพ์สัปดาห์หน้าค่ะ สนใจสอบถามได้ที่ wikky7ster@gmail.com

หรือสอบถามที่หน้าแฟนเพจค่ะ




Create Date : 12 ธันวาคม 2557
Last Update : 12 ธันวาคม 2557 11:58:04 น. 0 comments
Counter : 434 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wikky_78
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add wikky_78's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.