Group Blog
 
 
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
นิยายรัก ตอนที่ 4 เปิดศึก

COPY WRIGHT : สงวนลิขสิทธิ์ทั้ง ปกหนังสือ และ เนื้อหาค่ะ

บ่วงมะลิลา

ผู้เขียน:วรรณรวี

พิมพ์ครั้งแรก:พฤศจิกายน ๒๕๕๗

copy.jpg สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ ๒๕๓๗

ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดเพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเอกสารรูปเล่ม หรือเพื่อการใดๆเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น

ISBN : ๙๗๘ – ๖๑๖ – ๓๗๔ – ๐๗๑ – ๗

ราคา๒๓๐ บาท

***************************************************

ตัวอย่างค่ะ

เปิดศึก...

ระหว่างรอที่ปรึกษากลับมาจากญี่ปุ่นและรอวันที่จะได้พบกับมัณฑนากรเพื่อเนรมิตชั้นสิบภายในตึกสูงของบิดาให้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นที่ซึ่งจะรองรับการแสดงผลงานของศิลปินที่น่าสนใจและผ่านการคัดสรรรวมถึงเปิดเป็นบริษัทเอเจนซี่เล็กๆ เพื่อติดต่อซื้อขายผลงานโดยเฉพาะไปพร้อมๆ กัน

มะลิลาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะสามารถสร้างธุรกิจจากความชื่นชอบในงานศิลปะของเธอได้แน่นอนเธอจะต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้บิดาที่มอบโอกาสนี้ให้เธอต้องสูญเสียเงินทุนจำนวนมหาศาลกับธุรกิจที่มีความเสี่ยงว่าจะเจ๊งได้ทุกเมื่อเธอตั้งใจจะทำงานให้หนักและจะพยายามมองข้ามอุปสรรคตรงหน้าโดยจะลืมว่าที่ปรึกษาหรือพี่เลี้ยงให้เธอในงานนี้คือใครพับเรื่องส่วนตัวเอาไว้ก่อน

หญิงสาวกลับมาค้นหาชื่อพี่เลี้ยงของเธอทันทีเมื่อกลับมาถึงบ้านในเช้าของวันที่ได้พบกับเขาและสิ่งที่ปรากฏบนหน้าเว็บไซต์ที่ได้ชื่อว่าหยั่งรู้ทุกเรื่องบนโลกใบนี้ก็แสดงโปรไฟล์ ผลงาน และรูปภาพของ อเลสซานโดร ก้องไกรภพ เดอ เมดิซิส หลายๆเว็บไซต์ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยสำหรับคนที่ร่ำเรียนมาทางด้านศิลปะจะพอรู้ว่าต้นตระกูล ‘เดอ เมดิซิส’ นั้นเป็นนามสกุลเก่าแก่ที่โด่งดังและมีคุโณปการต่อวงการศิลปะในเมืองฟลอเรนซ์ของประเทศอิตาลีอย่างไรและไม่น่าแปลกใจเลยที่บิดาของเธอสนับสนุนและผลักดันให้เขายื่นมือเข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้เธอในงานนี้ถึงเขาจะบอกว่าเป็นคู่หมั้นของเธอหากตราบใดที่เธอยังไม่ได้ยินเรื่องนี้จากปากของบิดา เขาก็จะยังคงเป็นแค่เพียงที่ปรึกษาเรื่องงานของเธอเท่านั้น

แต่แล้วข้อมูลที่ได้เตรียมไว้สำหรับบรรยายสรุปงานที่จะส่งต่อไปยังมัณฑนากรก็ต้องสะดุดลงอย่างฉับพลันและความชื่นชมในผลงานของที่ปรึกษาก็ต้องคะแนนติดลบไปหลายเท่าตัวเมื่อเช้าวันนี้มีรูปถ่ายที่สุดแสนจะนัวเนียของเขากับหญิงสาวคนหนึ่งพร้อมคำบรรยายสั้นๆบนหน้าเว็บไซต์ข่าวของ Theinside news ว่า ‘นักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมฉ่ำรักที่โตเกียว’

ถึงแม้ว่าจะไม่มีการลงชื่ออย่างชัดเจนหากภาพหราของเขาที่กำลังกอดกับหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยเก๋คนหนึ่งกลางฟลอร์เต้นรำและอีกหลายๆ ภาพบนโต๊ะอาหาร แม้ภาพถ่ายจะมัวและเบลอไปบ้างแต่ก็ใช่ว่าจะดูไม่ออกว่านักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมคนนั้นคือคนที่กล้าบอกว่าเขาคือคู่หมั้นของเธอ

“เจ้าชู้นักนะ! บินไปประเทศไหนคงจะไปเสนอตัวให้เขารับผิดชอบตัวเองไปทั่วเลยสิท่าอย่าหวังว่าต่อไปจะทำรุ่มร่ามกับฉันได้อีก บ้าชิบ!”มะลิลาบ่นเบาๆ ด้วยใบหน้าที่แสดงออกชัดเจนถึงความไม่พอใจทั้งตัวเองและรูปภาพเธอไม่พอใจตัวเองก็เพราะไม่รู้ว่าที่กำลังโกรธจัดอยู่นี่คือเธอหึงหรือเป็นเพราะอะไรกันแน่!

หากเรื่องรำคาญใจใดเลยจะเท่ากับความตื่นเต้นที่คืนนี้เธอมีจะนัดกับเพื่อนสนิทสมัยเรียนมัธยมเพียงไม่กี่คนที่เมืองไทยทำให้คนที่ขุ่นเคืองใจกับข่าวและภาพของคนที่กำลังฉ่ำรักอยู่ที่โตเกียวรีบปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กตรงหน้าแล้วลุกขึ้นแต่งกายงดงามก่อนเดินลงมายังชั้นล่างของคฤหาสน์สุดหรู

“ป๋าคะคืนนี้ลูกมีนัดกับเพื่อนๆ กลับดึกหน่อยได้ไหม ไม่ได้เจอเพื่อนๆที่โรงเรียนเก่านานแล้ว”

เสียงหวานของมะลิลาออดอ้อนขออนุญาตบิดาหลังจากเธอเดินลงมาในห้องรับแขกพร้อมชุดสวยนั่นก็คือเดรสสีดำแสนสั้นแบบเรียบๆหากดูหรูหราด้วยคัตติ้งสุดเนี้ยบซึ่งเป็นของแบรนด์ดังที่เธอชอบเป็นการส่วนตัว

“ลูกสาวป๋าแต่งตัวสวยน่ารักขนาดนี้ต้องมั่นใจอยู่แล้วว่าป๋าจะต้องอนุญาตใช่ไหมลูก” บิดาเย้าลูกสาวเพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องอนุญาต หากยังไม่ลืมเอ่ยถาม “เพื่อนๆรู้ข่าวแล้วหรือลูกว่าน้องมะลิของป๋ากลับมาแล้ว”

“รู้แล้วค่ะป๋าลูกติดต่ออัพเดตข่าวกับเพื่อนๆ ตลอด แล้วนี่พี่พาย”หญิงสาวเอ่ยชื่อเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งที่เธอสนิทมาก “ป๋าจำพี่พายได้ไหมคะที่เคยมาติววาดรูปให้ลูกที่บ้านเราบ่อยๆ ตอนโน้น ตอนนี้พี่พายดังมากๆแล้วก็มีคอนเนคชั่นเยอะแยะเลยในเมืองไทยไม่แน่ว่าบางทีลูกอาจจะขอความช่วยเหลือจากพี่พายให้ช่วยโปรโมทพิพิธภัณฑ์ของลูกก็ไม่เลวนะคะป๋าถ้าพี่พายยอมตกลง รับรองว่าพิพิธภัณฑ์ใหม่ของลูกต้องไปได้สวยแน่ๆ”

หญิงสาวบอกบิดาด้วยน้ำเสียงและท่าทางตื่นเต้นดวงตาของเธอเปล่งประกายแน่นอนเพื่อนรุ่นพี่คนเก่งที่เคยเป็นติวเตอร์เทคนิคการวาดรูปให้เธอเวลานี้โด่งดังและเป็นนักจัดงานมือทองที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่ง

“ลูกสาวของป๋าก็เก่งในการหาลู่ทางธุรกิจเหมือนกันนะน้องมะลิไปสนุกกับเพื่อนๆ เถอะ ป๋าอนุญาตแต่ต้องให้พีชไปด้วยที่เที่ยวกลางคืนสมัยนี้ไว้ใจใครไม่ได้ ถึงจะเป็นผับหรูๆ ก็เถอะข่าวทะเลาะวิวาทมีให้เห็นบนหน้าหนึ่งบ่อยๆ” บิดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ค่ะป๋าพี่พีชต้องไปด้วยอยู่แล้ว เพราะพี่พีชต้องขับรถให้ลูก”

คนเป็นลูกสาวตอบเสียงหวานก่อนโถมร่างเล็กเข้าไปกอดแล้วหอมแก้มบิดาข้างละฟอดหนักๆแทนคำขอบคุณ

เวลาสองทุ่มหน้าผับหรูตามเวลานัดเมื่อพิชญะจอดรถยนต์คันหรูแล้วเดินลงมาเปิดประตูรถยนต์ให้คุณหนูน้อยๆ ของเขาก่อนเดินตามหลังเธอเข้าไปในผับ หากหญิงสาวหันมากำชับเขาเสียงหวานก่อนจะเดินเข้าไป

“พี่พีชต้องยิ้มบ้างรู้ไหมเดี๋ยวเพื่อนๆ ของมะลิเห็นพี่พีชหน้าบึ้งตึงจะเกร็งกันไปหมดแล้วพี่พีชก็อย่าทะเลาะกับพี่พายเหมือนตอนเด็กๆ รู้ไหม เกิดพี่พายงอนขึ้นมางานที่มะลิวางแผนเอาไว้ให้พี่พายช่วยเหลือพังหมด”

ใบหน้าที่สุดแสนน่ารักหากดูจริงจังของมะลิลาไม่เคยสักครั้งที่พิชญะจะขัดใจ ถึงแม้เขาจะดูเงียบขรึมและจริงจังในหน้าที่แต่เขาก็ตามใจคุณหนูน้อยๆ ของเขาเธอเปรียบเสมือนดวงดาวและเปรียบเสมือนน้องสาวของเขา และถ้าหากในอดีต พิมพ์พัชร ไม่เป็นต้นเหตุให้คุณหนูของเขาต้องได้รับบาดเจ็บ แม้เพียงแค่มีดบาดนิ้วมือน้อยๆของเธอคงจะไม่ทำให้เขาโกรธจัดและโวยวายจนถึงขั้นทำให้ออร์กาไนเซอร์สาวในวันนี้น้ำตาตกมาแล้ว

“ครับผมจะยิ้มให้เพื่อนๆ ของคุณหนูทุกคน แล้วผมก็จะไม่ทำหน้าบึ้งตึงด้วยครับ”บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำสั่งเสียงเรียบ

ได้ยินดังนั้นหญิงสาวก็ยิ้มให้เขาก่อนเดินเข้าไปควงแขนเขาเดินเข้าผับไปพร้อมกันเป็นท่าทางที่สุดแสนจะสนิทสนิมเกินกว่าจะเป็นแค่เพียงเจ้านายและบอดี้การ์ด

ร่างสูงใหญ่กับร่างเล็กเดินเข้ามาในผับหรูบนชั้นสองที่แบ่งโซนและตกแต่งได้แตกต่างจากชั้นล่างที่ทั้งคู่เดินผ่านมาโดยสิ้นเชิงบนชั้นนี้กั้นกระจกเก็บเสียงจึงไม่ได้ยินเสียงเพลงอึกทึกจากชั้นล่างหากก็มีเพลงแจ๊สเบาๆ ขับกล่อม กับบรรยากาศการตกแต่งร้านแลดูคล้ายกับห้องนั่งเล่นซึ่งต้องชื่นชมเจ้าของร้านนี้ที่สามารถจับกลุ่มลูกค้าที่นิยมการเต้นรำเพื่อความบันเทิงหรือแม้กระทั่งกลุ่มที่ต้องการจะมาพักผ่อนเพียงเพื่อได้นั่งดื่ม ฟังเพลงและได้นั่งคุยกับเพื่อนฝูงเท่านั้นเขาสามารถทำให้ลูกค้าสองกลุ่มนี้มาอยู่ร่วมกันในสถานที่เดียวกันได้อย่างไม่ขัดเขิน

“ทางนี้น้องมะลิ”

หญิงสาวพี่ใหญ่สุดของกลุ่มยกมือขึ้นเรียกรุ่นน้องแล้วก็หุบรอยยิ้มบนใบหน้าทันทีเมื่อเธอเห็นชายหนุ่มที่เธอไม่เคยลืมแม้จะไม่ได้เจอหน้าเขามาหลายปี

“มาด้วยหรือคะคุณพีช”

คำทักทายสั้นๆของพิมพ์พัชรทำให้มะลิลาซึ่งเคยเป็นตัวต้นเหตุของความบาดหมางระหว่างเพื่อนรุ่นพี่กับบอดี้การ์ดหนุ่มของเธอเสียงหวานจึงต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์หญิงสาวเอ่ยอย่างร่าเริงเพื่อทำลายบรรยากาศตึงเครียดตั้งแต่วินาทีแรก

“พี่พีชมาเป็นเพื่อนมะลิค่ะพี่พายป๋าไม่ยอมให้มะลิมาคนเดียว”

“สวัสดีครับคุณพายไม่เจอกันหลายปี”

บอดี้การ์ดหนุ่มทักทายเพียงสั้นๆหากรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าของเขาทำให้พิมพ์พัชรแปลกใจเพราะเธอยังคงจำภาพชายหนุ่มที่มีใบหน้านิ่งๆ ซึ่งไม่สามารถตีความอารมณ์ของเขาเป็นอื่นไปได้นอกจากโกรธแค้นคนทั้งโลกตลอดเวลาหากเธอก็ไม่เคยลืมว่าถึงแม้ว่าเขาจะมีท่าทางเงียบขรึมมากเช่นไรเธอก็ไม่ปฏิเสธว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง แต่นั่นก็คืออดีตเพราะในเวลานี้เธอได้แต่งงานมีสามีที่เธอรักและเทิดทูนเขามากกว่าใคร ‘ถ้าเจ็ดปีก่อนคุณยิ้มน้อยๆ แบบนี้ แล้วก็ไม่ดุเหมือนบางแก้วล่ะก็ฉันอาจจะยังไม่แต่งงานก็เป็นได้’ หญิงสาวแอบขำกับความคิดของตัวเองเบาๆ

“เชิญนั่งกันก่อนเถอะจ้ะอีกไม่นาน น้องไหม น้องเพลง แล้วก็น้องเบียร์ คงจะมาถึงแล้วสามคนนั้นนัดเจอกันก่อน เห็นว่าแฟนของน้องเพลงจะขับรถมาส่งให้แล้วคงรอรับกลับหวงน่าดู เมื่อสักครู่โทร. มาบอกว่าใกล้จะถึงแล้วล่ะจ้ะ” พิมพ์พัชรเอ่ยเสียงหวานดวงตาของเธอมองมะลิลาและบอดี้การ์ดหนุ่มแวบหนึ่ง

“พี่พีชมานั่งนี่ค่ะ”

มะลิลาหันไปบอกบอดี้การ์ดหนุ่มก่อนเดินไปนั่งลงบนโซฟาแล้วเขาก็เดินตามเธอมานั่งลงที่โซฟาเล็กๆ ใกล้ๆ กันโดยที่พิมพ์พัชรก็นั่งลงในตำแหน่งที่ว่างของเธอเช่นกัน

เพียงไม่นานหญิงสาวสามคนที่มาถึงพร้อมกันก็กรี๊ดกร๊าดเสียงดังลั่นร้านด้วยความดีใจแล้วผลัดกันวิ่งเข้าไปสวมกอดเพื่อนสนิทที่บินไปเรียนไกลถึงต่างแดนมาหลายปี แต่ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยทำให้โลกที่สุดแสนจะกว้างใหญ่เล็กลงทั้งห้าสาวจึงยังคงติดต่อกันอย่างใกล้ชิดเสมอมา

เมื่อเป็นนัดสังสรรค์ของสาวๆที่ล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวของตัวเองและต้องการแชร์ให้กับเพื่อนๆได้รับรู้เรื่องราวของตนในช่วงเวลาที่ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเองทำให้บรรยากาศบนชั้นสองของผับหรูกลายเป็นรังนกกระจอกเล็กๆที่กำลังจะแตกเพราะถึงแม้สาวๆในที่นี้จะมีแค่พิมพ์พัชรคนเดียวเท่านั้นที่แต่งงานมีครอบครัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเธอก็มีประสบการณ์เรื่องงานที่โดดเด่นและเรื่องครอบครัวมาเล่าสู่กันฟังอย่างน่าสนใจโดยอีกสามสาวที่มีบุคลิกโดดเด่นในแบบฉบับของตัวเองก็ล้วนมีชายหนุ่มจับจองหัวใจแล้วทั้งสิ้นแม้กระทั่งหญิงสาวคนล่าสุดที่มีชื่อเล่นน่ารักๆ ว่า เพลง หรือ พิณพลอยแม้โดยปกติเธอจะมีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่โลดโผนแต่แล้วเมื่อมีชายหนุ่มคนหนึ่งมาขายขนมจีบด้วยสไตล์ในแบบเฉพาะตัวของเขาเพียงไม่นานสารถีหนุ่มที่มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า กฤช[1]ที่จอดรถยนต์รอรับเธอกลับไปส่งที่บ้านพร้อมกับเพื่อนๆของเธอที่หน้าผับก็เข้ามาจับจองพื้นที่ในหัวใจของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากเรื่องราวส่วนตัวแล้วเรื่องงานของแต่ละคนหรือแม้กระทั่งเรื่องสนุกๆ ที่เคยทำร่วมกันในสมัยเด็กๆก็ถูกยกกลับขึ้นมาเล่าใหม่ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของสาวๆ ได้เป็นระยะๆหากมีชายหนุ่มเพียงคนเดียวที่นั่งฟังเงียบๆพร้อมกับแก้วหนึ่งใบที่ภายในมีน้ำแข็งและโซดาเท่านั้น

“มะลิจะลงไปเต้นรำกับเพื่อนๆพี่พีชนั่งรอที่นี่นะ” มะลิลาหันไปบอกบอดี้การ์ดหนุ่มหากเมื่อเห็นสายตาที่ไม่ยอมรับคำสั่งของเขา เธอก็เอ่ย“หรือถ้าพี่พีชเบื่อจะลงไปแดนซ์ด้วยก็ได้ มะลิอนุญาต”

คนที่มีศักดิ์เป็นเจ้านายเอ่ยพร้อมรอยยิ้มรู้ดีว่าเขาคงไม่ยอมปล่อยให้เธอลงไปเต้นรำกับเพื่อนๆ ที่ชั้นล่างเพียงลำพังเพราะนอกจากจำนวนแขกที่ทยอยกันเข้ามาในผับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆกลางฟลอร์เต้นรำก็เต็มไปด้วยหนุ่มสาวที่กำลังสนุกสนานกับเสียงเพลงเร้าใจ

“ผมจะลงไปด้วยครับคุณหนู”

และนั่นคือเสียงทุ้มห้าวประโยคแรกที่ลอดผ่านริมฝีปากของบอดี้การ์ดหนุ่มก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเดินตามหลังทั้งห้าสาวที่กำลังเดินลงไปด้านล่างเพื่อวาดลวดลายกลางฟลอร์เต้นรำเป็นเหตุการณ์คล้ายๆ กับที่เขาเคยตามไปดูแลเมื่อครั้งที่คุณหนูน้อยๆของเขาอายุครบเกณฑ์ที่สามารถเข้าสถานบันเทิงได้ครั้งแรก

เพียงไม่นานทั้งห้าสาวก็แหวกฝูงชนเข้าไปยึดพื้นที่กลางฟลอร์เต้นรำได้สำเร็จแล้ววาดลวดลายกันอย่างสุดเหวี่ยงแม้กระทั่งหญิงสาวที่ดูภายนอกเรียบร้อยน่ารักอย่างพิณพลอยก็ออกลีลาเต้นรำได้เก่งไม่แพ้ใครโดยทั้งห้าสาวก็มีท่าเต้นประจำกลุ่มของพวกเธอนั่นก็คือเป็นท่าทางที่ดัดแปลงมาจากท่าของเชียร์ลีดเดอร์ในงานฟุตบอลประเพณีเสียงหัวเราะ รอยยิ้มความสนุกสนานบันเทิงใจราวกับทั้งหมดได้กลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้งแน่นอนว่าคนที่ไม่ได้เจอเพื่อนๆ มานานหลายปีแล้วเพราะต้องบินไปศึกษาต่อไกลถึงต่างแดนก็ออกลวดลายได้ไม่แพ้ใครเช่นกัน

เมื่อเสียงเพลงค่อยๆกระหึ่มดัง หลั่งสารเอ็นโดรฟีนส์[2]ในร่างกายของคนที่กำลังเต้นรำอยู่กลางฟลอร์ ขณะนั้นเองมีชายหนุ่มคนหนึ่งเขามีท่าทางมึนเมาเดินตรงเข้ามาสวมกอดมะลิลาเอาไว้แน่นอาการที่เป็นผลมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในเลือดหรืออย่างไรก็อาจไม่ทราบได้หากนั่นก็เป็นกิริยาที่เกินกว่าจะให้อภัยได้สำหรับคนที่กล้าดีทำรุ่มร่ามกับคุณหนูของเขา

เพียงชั่วพริบตาเดียวบอดี้การ์ดหนุ่มที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆรีบฝ่าวงล้อมเหล่านักเต้นเท้าไฟเข้ามากระชากแขนคนขี้เมาออกจากร่างบอบางของเจ้านายแล้วคนเลือดร้อนก็ระดมหมัดหนักหน่วงหลายๆ หมัด ราวกับต้องการให้คนกล้าดีสร่างเมาเสียเดี๋ยวนี้แต่แล้วความชุลมุนชุลเกก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อพิชญะรู้สึกได้ถึงเสื้อเชิ้ตของเขาถูกกระชากจากด้านหลังคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากกลุ่มเพื่อนๆของคนที่เขากำลังประเคนหมัดลงบนใบหน้าเพื่อตอบแทนกับการกระทำของเขา

หลังจากนั้นฟลอร์ที่เคยมีนักเต้นเท้าไฟก็ถูกยึดพื้นที่ด้วยมวยคู่เอก จะเรียกว่ามวยคู่เอกก็คงจะไม่ถูกต้องนักเพราะสามรุมหนึ่งแลดูคล้ายกับการตะลุมบอนกันเสียมากกว่าโดยคนที่เริ่มต้นศึกฟาดปากก็มีทักษะในการต่อสู้ที่เก่งกาจเหมาะสมยิ่งนักกับตำแหน่งบอดี้การ์ดหนุ่มของลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัวคนดัง

“พี่กฤชเข้าไปแยกพี่พีชที”

เสียงหวานของพิณพลอยเอ่ยกับแฟนหนุ่มไม่แปลกใจที่เขากึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรนเพราะเขาคงเห็นบรรดานักเที่ยวที่กลัวลูกหลงวิ่งกรูกันออกไปหน้าร้าน

ชายหนุ่มหยุดมองภาพการตะลุมบอนตรงหน้าเพียงครู่แล้วคนเลือดร้อนอีกคนอย่างเขามีหรือที่จะไม่เข้าไปร่วมวงด้วยในเมื่อมองเห็นว่าชายหนุ่มที่รู้จากปากของแฟนสาวว่าชื่อพี่พีชกำลังจะซวยเพราะด้านหลังของเขามีชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังวิ่งเข้ามาพร้อมขวดเครื่องดื่มในมือและกำลังจะยกแขนขึ้นกลางอากาศ หากก่อนจะฟาดขวดแรงๆ ลงบนศีรษะของอีกฝ่ายกฤชก็ถลาเข้าไปร่วมวงในศึกตะลุมบอนทันที

แน่นอนว่าภาพความชุลมุนที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งหากครั้งนี้แม้จะไม่มีใครเสียชีวิตเพราะปราศจากอาวุธร้ายแรงแต่สภาพความเสียหายที่เกิดจากการกระแทก กระจกหลายบานแตกละเอียด รวมทั้งโต๊ะเก้าอี้ที่ถูกใช้เป็นอาวุธ พังและล้มระเนระนาดก็คงจะทำให้เจ้าของผับหรูแห่งนี้กุมขมับได้พอสมควรแล้วนี่ก็ยังไม่รวมการที่เจ้าของผับจะต้องใช้เงินปิดข่าวการทะเลาะวิวาทซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ผับหรูแห่งนี้ได้มากพอสมควร...



[1] กฤช คือบอดี้การ์ดของพญาอินทรีหนุ่ม อินทรี พินิจพงษ์ เจ้าของอาณาจักรเครื่องดื่มยิ่งใหญ่“Hot Eagle” ติดตามวีรกรรมของเขาได้ในเรื่อง“ดวงใจเจ้าเวหา”

[2] เอ็นโดฟีนส์ ( Endorphine ) เป็นฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขึ้นเมื่อเราเกิดความสุขใจตื่นเต้น


**************************************************************

หนังสือออกจากโรงพิมพ์สัปดาห์หน้าค่ะ สนใจสอบถามได้ที่ wikky7ster@gmail.com

หรือสอบถามที่หน้าแฟนเพจค่ะ





Create Date : 11 ธันวาคม 2557
Last Update : 12 ธันวาคม 2557 11:58:57 น. 0 comments
Counter : 561 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wikky_78
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add wikky_78's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.