Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2564
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 ธันวาคม 2564
 
All Blogs
 
ถนนสายนี้มีตะพาบ 292 : ประทับใจ



การเลือกเดินทางในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดและการเฉลิมฉลองของชาวอินเดียทั้งประเทศ
อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ เราอาจพลาดเที่ยวรถประเภทดี ๆ ไปได้ หากไม่จองล่วงหน้า

หลังออกมาจากสนามบิน จนมาถึงท่ารถที่ต้องรีบแวะมาจับจองเที่ยวรถโดยสารไปยังเมือง
หนึ่งในรัฐหิมาจัลประเทศคือ 
Manali - ซึ่งถือเป็นครึ่งทางแรกก่อนที่เราจะนั่งรถไปยังเลห์ 

 

ช่วงบ่ายของวันนี้มีให้จองแค่รอบสุดท้ายรอบเดียวคือห้าโมงเย็น 
ส่วนประเภทของรถที่นั่งสบาย ๆ อย่าง Volvo ก็ออกรอบวิ่งไปนานแล้ว
และเย็นนี้ก็
มีเหลือเพียงแค่ Ordinary bus เท่านั้น

เราเหลือเวลาอยู่ราวสามสี่ชั่วโมงในท่ารถให้พอเอกเขนกพักเอาแรงได้บ้าง ทำให้
พอได้เห็นความเป็นไปของผู้คน 
กระแสการท่องเที่ยวของหนุ่มสาวชาวเมืองก็ดูไม่
ต่างไปจากบ้านเราเท่าไหร่  
พวกเขาพากันแบกเป้เดินทางไกล ไม่น้อยไปกว่าการ
เดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา
ของคนทั่วไป

พักหนึ่งเราก็ย้ายจากที่นั่งพักบริเวณชั้นสองลงมายังชั้นล่างเพื่อให้ใกล้กับจุดรอรถ
สาวน้อยอินเดียรายนึงที่นั่งอยู่ฟากตรงข้าม  กำลังดูกระวนกระวายกับการมองเวลา
และพูดโทรศัพท์ เธอตัดผมสั้น สวมแว่นสายตา สะพายเป้ พร้อมกระเป๋าใส่อูคูเลเล่
ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ แต่งตัวแบบวัยรุ่นทั่วไป  ดูทรงแล้วน่าจะ
มีแผนไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง

 

บ่ายสี่โมงนิด ๆ เราออกมายืนรอตรงท่ารถก่อนเวลา พื้นที่ด้านนอกอากาศร้อนมาก
แม้ช่วงนี้ตรงกับฤดูมรสุมก็จริง 
แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีวี่แววถึงลมฝนที่พัดมาให้รู้สึกเย็น
สบายบ้างเลย แต่ก็ช่างเถอะหากเราไปถึงลาดักเมื่อไหร่ ก็คงไม่ต้องบ่นเรื่องฟ้าฝน
อย่างคนในพื้นที่ด้านล่างกันแล้ว (เพราะไม่มี)

ระหว่างที่ยืนรอ ก็เห็นสาวน้อยรายนั้น
ออกมาเดินป้วนเปี้ยนยังจุดเดียวกันกับเรา
ในไม่ช้าไม่นาน เธอก็ตรงเข้ามาถามด้วยความสงสัยว่า
เราเป็นนักท่องเที่ยวหรือ
คนอินเดียกันเนี่ย ยิ่ง
พอรู้ว่าจะไปที่เดียวกันคือ Manali เธอก็ยิ่งสงสัยหนักกว่าเดิม
ที่ทำไมนักท่องเที่ยวอย่างเราถึงเลือกเดินทางด้วยรถโดยสารธรรมดา ๆ แบบนี้ล่ะ

แหม ๆๆ...เพิ่งลงจากเครื่องแล้วบึ่งหน้าตั้งมาถึงท่ารถตอนบ่าย
ได้ทันซื้อตั๋วเดินทางที่มันเหลือแค่รอบสุดท้ายก็ดีเท่าไหร่แล้วเธอ


 


อลิชา สาวอินเดียที่เดินทางมาคนเดียวจากรัฐมหาราษฏระ  บ่นให้ฟังว่า
ที่จริงแล้วเธอจองรถล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ในรอบบ่ายสี่โมง 
เป็นรถประเภท 
Deluxe แต่ว่ารถเที่ยวนั้นมันถูกยกเลิก ทำให้ต้องเปลี่ยนไปกับรอบถัดไป 
ซึ่งนั่นก็คือคันเดียวกับที่เราถือตั๋วอยู่นั่นเอง



เมื่อรถรอบห้าโมงมาเทียบจอดก่อนเวลา และไม่รู้ว่าอลิชาจะมีที่นั่งบนนั้นหรือไม่
เราก็ขอตัวขึ้นไปหาหมายเลขเบาะของเราเสียก่อน  มันเป็นริมหน้าต่างอย่างที่หวังไว้
แต่...เป็นฝั่งขวาที่มีสามที่นั่ง (สำหรับฝั่งซ้ายจะมีสองที่นั่ง) โดยระหว่างนั้นยังมีเวลา
อีกเหลือมากมาย
เพราะยังไม่ถึงกำหนดการขยับล้อ

อลิชาเดินฉิวขึ้นไปจองเบาะริมหน้าต่างฝั่งซ้ายที่ยังไม่มีใครนั่ง แต่อาจเป็นตำแหน่งเดียว
กับที่จองไว้อีกสำหรับเที่ยวรถที่ถูกยกเลิกไป 
เธอว่าต้องเจรจาเรื่องเคลมค่ารถหลังจากนี้อีก
สักพักใหญ่ผู้โดยสารรายอื่น ๆ ก็เริ่มทะยอยขนของ
ขนสัมภาระขึ้นมาวางตรงตำแหน่งของ
ตัวเองกัน   เรายังไม่รู้ว่าที่นั่งข้าง ๆ อีกสองคนจะเป็นใคร คง
ได้แต่ลุ้นถึงการเดินทางไกล
นาน 
16 ชั่วโมงหลังจากนี้ว่าจะต้องนั่งเบียดกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย



ไม่นานนัก ที่นั่งของอลิชาก็มีปัญหาเพราะจุดที่เธอไปจองมันมีเจ้าของตัวจริง
หลังเสียที่ไป เธอก็เดินไปคุยกับชายหนุ่มรายนึงที่น่าจะเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน
คงเพราะไม่ได้เป็นลุคของชายวัยกลางคนและไว้หนวดเคราแบบที่เห็นบ่อย ๆ
ก็เลยนึกไปเองว่าเป็นเพื่อนของอลิชาซะอีก... แต่ที่จริงแล้วเป็นกระเป๋ารถ


เขาจัดแจงที่นั่งใหม่ให้ตามคำร้องขอโดยอยู่ตรงตำแหน่งหน้าประตูทางขึ้นที่มีสองเบาะนั่ง
ส่วนที่นั่งเดี่ยวด้านหน้าสุดจะเป็นของกระเป๋ารถ เธอจึงย้ายไปอยู่ตรงนั้นและเหลืออีกเบาะที่
ยังว่าง….เราอยากย้ายไปนั่งด้วยแต่ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้มั้ย เพื่อนร่วมทางข้างเบาะอีกสองราย
ที่โผล่มาให้เห็นแล้วก็ดันเป็นผู้ชายสองคน แน่นอนว่าถ้าไม่ได้ย้ายที่นั่งเราคงต้องเบียดกันไป
จนถึงเช้าเลยนะ!  

 

เราตะโกนคุยข้ามเบาะกับอลิชา   ถ้าตรงนั้นมันว่าง
จะขอย้ายไปได้มั้ย...ช่วยเจรจากับกระเป๋ารถให้ทีเหอะ


หลังจากที่กระเป๋ารถหายตัวไปพักใหญ่ เขาก็กลับมาบนรถพร้อมเครื่องแบบสีกากี
อลิชา คุยถึงที่นั่ง
ที่ยังว่างข้างเธอ ว่าช่วยกันหมายเลขนี้หน่อยได้มั้ย พลางชี้มาที่เราที่
กำลังนั่งอย่างตัวลีบติดหน้าต่างอยู่กับชายสองราย  ไม่รู้ว่าใน
ตอนนั้นได้พยายามทำหน้า
ขอความเห็นใจด้วยมั้ย แต่กระเป๋ารถก็บอกว่าจะย้ายให้ก่อนรถออก  ซึ่ง
ก็เป็นไปตามนั้น
เราได้ย้ายไปนั่งข้าง ๆ อลิชา จนได้

 

หลังรถหยุดจอดช่วงดึกแถว Chandigarh เพื่อพักกินอาหาร และวิ่งต่อไปยาว ๆ
อีกหลายชั่วโมง   
ก็เริ่มง่วงนอนกันแล้ว อลิชา ดูจะหลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะบางทีก็คุย
โทรศัพท์ไม่ก็พิมพ์โต้ตอบข้อความ 
ส่วนเราก็พยายามพิงตัวแนบเบาะเพื่อพักสายตา


ดูเหมือนทุกอย่างจะราบรื่นนะ...แต่ไม่เลย

ปัญหาก็มีอยู่ว่าที่นั่งตำแหน่งนี้จะตรงกับล้อรถจะมีการยกระดับพื้นที่ใต้เบาะเอาไว้
 ทำให้
ไม่สามารถวางเท้าหรือเหยียดขาลงได้สะดวกแบบบริเวณอื่น  เมื่อรถเริ่มวิ่งเข้าสู่ไหล่เขา
พร้อมชะลอความเร็วรถเพื่อเข้าโค้งและหักเลี้ยวไปมาเป็นระยะ การเผลอสัปหงกหลับทำให้
เราต้องเสียการทรงตัวพลัดร่วงลงมาจากเบาะเพราะแรงเหวี่ยง เนื่องจากพื้นที่ยกทำให้ต้อง
วางเท้าสูงและเบาะนั่งนี้ไม่มีอะไรกั้นด้านข้าง  พอเป็นบ่อยครั้งขึ้นก็เริ่มได้ยินกระเป๋ารถคุย
กับคนขับถึงสาเหตุของเรื่องนี้ว่าทำไมถึงตกจากเบาะจนเกือบไปกองบนพื้นได้ง่ายจริง


เราสะดุ้งตื่นอีกครั้ง เพราะกระเป๋ารถเดินมาสะกิดไหล่และบอกให้ไปนั่งเบาะหน้าสุดแทน
ส่วนกระเป๋ารถก็สลับที่มานั่งเบาะของเราเป็นการชั่วคราว  อลิชาที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นสะลึม
สะลือลืมตาตื่นมาก็
แปลกใจถึงเรื่องที่เราย้ายที่ เธอถึงกับชะโงกหน้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น?


อลิชาผู้ได้นั่งพิงข้างหน้าต่างคงจะหลับลึกไปได้โดยไม่ทันรู้ว่า เราแทบตกจากที่นั่ง
เกือบทุกครั้งที่รถเข้าโค้ง 
 และถ้าหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ หัวเราคงต้องเผลอเซไป
ฟาดโดนราวที่กั้นตรงเครื่องยนต์สักหนแน่นอน

 




กลุ่มคนขับรถและกระเป๋ารถที่มารอรับช่วงต่อ บริเวณหน้าสถานที่ขนส่งเมือง Mandi จุดที่ต้องถ่ายโอนผู้โดยสารไปยังรถคันใหม่

 


ผ่านถึงช่วงหลังเที่ยงคืนก็ต้องตื่นขึ้นกะทันหันอีกครั้ง เมื่อมาถึงหน้าสถานีขนส่งเมือง Mandi
เพราะต้องมีการเปลี่ยนรถโดยสาร รวมทั้งคนขับและกระเป๋ารถหน้าใหม่ที่มาสลับหน้าที่รับช่วงต่อ  

พวกเราจึงต้องย้ายตัวและหอบข้าวของไปขึ้นรถคันใหม่โดยไว 

ท่ารถเมืองนี้จะมีผู้โดยสารหลายคนลงกันเยอะ แล้วก็มีรายใหม่
ที่มาขึ้นกลางทางอีกจำนวนหนึ่ง
จังหวะนี้แหละที่ค่อนข้างวุ่นวาย  เพราะไม่มี
หมายเลขที่นั่งกำหนดไว้ตายตัวเหมือนต้นทางแล้ว
คล้าย ๆ กับไปขึ้นรถเมล์ ที่ใครอยากนั่งตรงไหน
ก็เลือกนั่งได้เลย ตำแหน่งสองเบาะหน้าประตูก็
ดันมีคนเอาเป้ไปวางกันที่แล้วเรียบร้อย


ในใจตอนนั้นได้แต่คิด แล้วพวกเราจะต้องแยกย้ายไปหาที่นั่งตรงไหนละทีนี้?

ถึงนี่จะไม่ใช่รถคันเดิมจากที่นั่งมาตั้งแต่ Delhi แต่กระเป๋ารถคนเดิมก็ยังอุตส่าห์เดินย้อนมาหาพวกเรา
เพื่อช่วยจัดการที่นั่งให้ เขาบอกกับคนที่ไปจองเบาะตรงนั้นว่า มีผู้หญิง
เดินทางมาโดยลำพังสองราย 
ขอที่ตรงนี้ไว้สำหรับพวกเธอเถอะนะ  

ไม่รู้ว่าเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นแค่ไหน แต่ชายคนนั้นก็ยอมที่จะย้าย
ให้โดยดี
และนั่นก็เป็นตำแหน่งนั่งของพวกเราที่ได้ยึดยาวกันไปจนถึงปลายทางในรุ่งเช้าเลย




Create Date : 25 ธันวาคม 2564
Last Update : 25 ธันวาคม 2564 22:06:17 น. 0 comments
Counter : 872 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36, คุณmultiple, คุณสองแผ่นดิน, คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณnewyorknurse, คุณhaiku


กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.