Child Grooming
เราย้ายมาเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งหลังจบม.ต้น ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัด และไม่ได้อยู่ในตัวเมือง ตัวเลือกของสถานศึกษาระดับม.ปลาย ก็มีแค่สองแห่ง- ในเวลานั้น เพื่อนร่วมชั้นจากโรงเรียนเดิมที่เลือกเรียน ต่อในสายสามัญต่างก็อพยพตาม ๆ กันมายังที่เดียวกัน แบบอัตโนมัติ บ้างก็ยังอยู่ในห้องเดียวกันบ้างก็อยู่ห้องอื่น เรารู้จักกับ เอ มาตั้งแต่ม.ต้น แต่ไม่ถึงกับสนิทกันเท่าไหร่ เอย้ายโรงเรียนมาจากจังหวัดอื่น มาเข้าเรียนที่เดียวกับ เราช่วงม.2 และได้มาอยู่ห้องเดียวกันอีกในช่วง ม.ปลาย ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของสถานศึกษาใหม่ พวกที่มา จากโรงเรียนเดียวกันยังคงเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น บ้านของเออยู่ไกลจากที่นี่ไกล 10 กม.อาศัยอยู่กับญาติ ภาพลักษณ์โดยรวมก็ดูปกติเหมือนเด็กวัยนี้ทั่ว ๆ ไป ถึงจะไม่รู้จักครอบครัวของเอดีนัก แต่อาปอนด์คือคนที่เอ พูดถึงบ่อย ๆ จนดูเหมือนว่าจะสนิทกัน--อาปอนด์ มีศักดิ์ เป็นอา แต่พวกเขาก็ไม่ได้แก่กว่ากันมากมายนัก จนวันหนึ่งช่วงบ่ายแก่ของวันอาทิตย์ มีเสียงโทรศัพท์บ้าน ดังขึ้น ปลายสายเป็นเพื่อนที่เคยรู้จักคุ้นเคยกันมานานละ พ่อมันเป็นตำรวจและมีบ้านอยู่แถว ๆ โรงพัก ส่วนบ้านของ เราอยู่ไม่ไกลจากที่นั่น "แกรีบมาโรงพักหน่อยดิ่ เอมันอยู่ที่นี่" ไอ้ตา โทรมาอำอะไรป่ะเนี่ย? เพื่อนคนนี้มันเป็นคนตลกได้ทุกเรื่อง บ้านเอมันอยู่ห่างไปตั้งสิบกิโลฯ เชียวนะ "เรื่องจริงเว้ย รีบ ๆ มาเหอะ เผื่อช่วยไรได้" ประมาณสิบนาที เราปั่นจักรยานมาถึงหน้าโรงพัก เจอกับไอ้ตา เพื่อนที่โทรบอกข่าวและตำรวจที่อยู่เวร วันนี้และไม่เจอกับเอแล้ว พวกเราสวนทางกันเพียงไม่ กี่นาที ทางตำรวจได้พาไปส่งที่บ้านเรียบร้อย ตำรวจที่สอบปากคำ บอกถึงอาการของเอให้ฟัง ว่าดูแปลก ๆ มีคนไปเจอว่าเดินเหม่อลอยไม่มีสติอยู่ คนเดียวจนเกือบโดนรถชน พอถามว่าจะไปไหนก็ดัน ตอบว่ากินข้าวแล้ว เห็นท่าไม่ดีก็เลยพามาส่งโรงพัก... "เพื่อนเราเคยเล่นยามั้ย?" คุณตำรวจถาม ถึงบางทีเอจะเหมือนคนแปลก ๆ บ้าง แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะไปทางนั้นอยู่แล้ว เดี๋ยวรอพรุ่งนี้ ไปโรงเรียนคงได้เจอได้ถาม แต่วันนั้นเอขาดเรียน แน่นอนว่า ในกลุ่มเพื่อนไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย นอกจากเราและไอ้ตา ... ช่วงพักกลางวันเลยคุยกัน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน กับข้อสงสัยแรกที่ว่า เอออกจากบ้านมาไกลขนาดนี้ทำไม....จะว่ามาเที่ยว ก็ไม่น่าใช่ ระหว่างที่คุยกัน เพื่อนเก่าจากโรงเรียนเดิมแต่อยู่คนละห้อง เดินตรงเข้ามาทักถึงเรื่องเอ เพราะได้เห็นข่าวจากสื่อท้องถิ่น ที่นำเสนอผ่านช่องเคเบิ้ลทีวี ... ซึ่งเมื่อคืนนี้เราไม่ได้ดู "แก...ทำไมอาการมันดูแปลก ๆ จังวะ ภาพที่เห็นในข่าว" จากเรื่องที่คิดไว้ว่า มันหนีออกจากบ้านมาเที่ยวไกล น่าจะไม่ใช่ละ เพื่อนต่างห้องที่คาบข่าวมาบอกดูมีสีหน้า ไม่ดีเท่าไหร่ ทุกคนต่างกังวลว่าเกิดอะไรขึ้น "เอบอกกับตำรวจว่าถูกอาลวนลาม" เพื่อนที่สนิทกับเอรายนึงถึงกับร้องไห้ทันที เรากับไอ้ตา ที่บังเอิญได้อยู่ในเหตุการณ์ช่วงท้ายได้แต่ช็อก แล้วเรื่อง ก็พุ่งเป้าไปยังผู้ต้องสงสัยอย่างอาปอนด์ วันถัดมา เอกลับมาเรียนตามปกติด้วยท่าทางปกติ แต่แอบมีเกรี้ยวกราดกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็น'เรื่องไม่จริง!' และจะให้ทางบ้านเอาเรื่องกับสื่อท้องถิ่นรวมถึงโรงพักที่ ปล่อยให้แพร่ข่าวออกไปให้ถึงที่สุด ไม่มีการเฉลยหรือคลายปมหรอกนะ เหตุการณ์นั้นยังคงคลุมเครือไม่หาย ถ้าไอ้ตาไม่โทรเรียกให้ไปที่โรงพัก เราก็คงไม่ต้องมารู้สึกเกี่ยวพันใด ๆ ทั้งสิ้น เอย้ายไปเรียนที่ใหม่หลังจากนั้นแค่ไม่กี่วัน ลาออกไปอย่างกะทันหัน พวกเราไม่เคยได้ ติดต่อกันอีกเลยจนถึงปัจจุบัน
Create Date : 07 กันยายน 2566 |
Last Update : 8 กันยายน 2566 22:49:57 น. |
|
4 comments
|
Counter : 500 Pageviews. |
|
|
บุคคลทั้งหมดในเรื่องนี้ใช้นามสมมุตินะคะ