ปักกิ่งประณามเทศกาลดนตรีเมืองผู้ดีช่วย ทะไล ลามะ ขับเคลื่อนการแบ่งแยกดินแดน
| ทะไลลามะมีพระดำรัสในงานฉลองพระชันษา 78 ปี ที่วัดทิเบตในเมืองไบลักกุบบ์ (Bylakuppe ) ทางภาคใต้ของอินเดียเมื่อพ.ศ. 2556 (แฟ้มภาพ เอพี) | | | เอเจนซี - ทางการจีนแสดงความไม่พอใจกรณีผู้จัดงานเทศกาลดนตรีแดนผู้ดีเชิญองค์ทะไล ลามะ เข้าร่วมงาน โดยชี้ว่ากำลังส่งเสริม การแบ่งแยกดินแดน ของผู้นำทางจิตวิญญาณชาวทิเบตนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน (26 มิ.ย.) ว่า องค์ทะไล ลามะ จะกล่าวคำปราศรัยแสดง ความเห็นอกเห็นใจ ความสุขสันติ และความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติ ต่อผู้ร่วมงานเทศกาลดนตรีแกลสตันบูรี (Glastonbury) ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศอังกฤษ วันที่ 27-30 มิ.ย. 2558 นางเอมิลี เอวิส ผู้ประสานงานฯ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า กลุ่มผู้จัดงานรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับองค์ทะไล ลามะ เข้าร่วมเทศกาลแกลสตันบูรี ประจำปี 2558 ซึ่งรวบรวมดนตรีและศิลปะการแสดงร่วมสมัยประเภทต่างๆ มาไว้ในงานเดียวกัน ผู้ถือบัตรราว 135,000 คน ได้ตบเท้ารวมตัวบนลานหญ้าขนาดมหึมา สนุกสนานกับกิจกรรมนานาประเภท ตั้งแต่วันที่ 24-28 มิ.ย. รวมระยะเวลา 5 วัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก และมีความเก่าแก่หลายทศวรรษนับตั้งแต่การจัดงานครั้งแรกในปี 2513 อย่างไรก็ดีแดนมังกรกลับไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก โดยประณามการเชิญผู้นำทางจิตใจของชาวทิเบต ซึ่งจีนอ้างว่าก่อพฤติกรรม ก่อการร้ายทางจิตวิญญาณ เพื่อแสวงหาหนทางแบ่งแยกดินแดนออกไปเป็นอิสระ เราคัดค้านการจัดงานที่มีแนวทางสู่การนำเสนอพื้นที่ให้องค์ทะไล ลามะ ดำเนินกิจกรรมแบ่งแยกดินแดนและต่อต้านการปกครองของจีน นายลู่ คัง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าว รายงานข่าวเสริมว่าทะไล ลามะ จะยังกล่าวปราศรัยต่อกลุ่มผู้สนับสนุนในฐานทัพสหราชอาณาจักร หมู่บ้านอัลเดอร์ชอท เมืองแฮมป์เชียร์ทางภาคใต้ของเกาะอังกฤษ ตามคำเชิญของศูนย์ชุมนุมพุทธศาสนิกชนแห่งสหราชอาณาจักร (BCCUK) ในสัปดาห์หน้าอีกด้วย แม้ทะไล ลามะองค์ปัจจุบันเคยตรัสว่าสนับสนุนให้ทิเบตมี การปกครองตนเองอย่างมีความหมาย มากกว่าการเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ แต่ปักกิ่งก็ยังคงตามติดทุกย่างก้าว แถมเล่นงานเจ้าหน้าที่หรือผู้นำต่างชาติที่พบปะกับทะไล อาทิ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งหารือกับทะไลในปี 2555 ก็ถูกปักกิ่งลงโทษด้วยการลดทอนความสัมพันธ์ทางการทูตลง อนึ่งทะไล ลามะองค์ที่ 14 ซึ่งมีพระนามว่า เทนซิน เกียตโซ ต้องหลบหนีออกจากเขตปกครองตนเองทิเบตของจีนในปี 2502 ภายหลังความล้มเหลวจะต่อต้านการปกครองจากรัฐบาลจีน โดยพลัดถิ่นไปอาศัยอยู่ที่ประเทศอินเดียแทน ด้านชาวทิเบตจำนวนมากก็กล่าวหาว่าทางการจีนกดขี่ข่มเหงพวกเขา ทั้งเรื่องวัฒนธรรมการดำรงชีวิตและการนับถือศาสนา นำไปสู่เหตุการณ์จุดไฟเผาตัวเองเพื่อแสดงการประท้วงของชาวทิเบตมากกว่า 140 คน ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ สิริสวัสดิ์โสรวารค่ะ
Create Date : 27 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 27 มิถุนายน 2558 11:12:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 903 Pageviews. |
|
|