นเรศ นโรปกรณ์ เพียงหวังจะเฟื่องฟุ้ง ...
นเรศ นโรปกรณ์
คอลัมน์ ข่าวทะลุคน
"เพียงหวังจะเฟื่องฟุ้ง ฤๅจะมุ่งมาศึกษา เพียงเพื่อปริญญา เอาตัวรอดกระนั้นฤๅ แท้จริงเจ้าควรคิด จงตั้งจิตและยึดถือ รับใช้ชาติไทยคือ ปลายทางเราที่เล่าเรียน"
บทกลอนที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก หยิบยกมาเพิ่มน้ำหนักการแถลงข่าวชี้แจงถึงเนื้อหาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์
เพื่อย้ำว่าทหารมีเจตนารมณ์ยึดมั่นในอุดมการณ์รับใช้ประเทศชาติ
อ้างเป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6
แต่บทกวีดังกล่าวคุ้นเคยกันดีในหมู่นักกิจกรรมรุ่นก่อน 14 ตุลาการ 2516 ยาวนานมาถึงรุ่นเดือนพฤษภาคม 2535
นเรศ นโรปกรณ์ แต่งกลอนบทนี้ ตอนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของนักศึกษาในยุคนั้น
ความว่า "เพียงหวังจะเฟื่องฟุ้ง หรือจึงมุ่งมาศึกษา เพียงเพื่อปริญญา เอาตัวรอดเท่านั้นฤๅ แท้ควรสหายคิด และตั้งจิตร่วมยึดถือ รับใช้ประชาคือ ปลายทางเราที่เล่าเรียน"
สิงห์ชัย มังคนรา คือชื่อเดิม เกิด 1 ก.ค.2473 ล่วงลับในวัย 79 ปี ในเดือนมี.ค.2552
พื้นเพเป็นชาวสุรินทร์
2495 ถูกจับในคดีกบฏสันติภาพและถูกลบชื่อจากทะเบียนนักศึกษา
เปลี่ยนชื่อเป็น นเรศ นโรปกรณ์ เรียนต่อวิชาการหนังสือพิมพ์ธรรมศาสตร์ จนจบปริญญาตรี
เข้าทำงานสยามรัฐรายวัน เขียนบทความ กงล้อการเมือง และคอลัมน์สร้างชื่อ "สาวเอยจะบอกให้"
เป็นนักคิดนักเขียนและนักหนังสือพิมพ์อาวุโส
หัวเรือใหญ่แห่งสำนัก จักรวาลกวี ชุมนุมนักเขียนนักหนังสือพิมพ์
กวีเจ้าของวรรคทองกระตุกสำนึกปัญญาชน "เพียงหวังจะเฟื่องฟุ้ง..." ในนามปากกา มนูญ มโนรมย์
บทกวีที่ถูกแต่งเติมดัดแปลงนำมาพูดถึงอีกครา
โดยโฆษก ทบ.
หน้า 6
ขอขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์
วุธวารสวัสดิ์วัฒนาค่ะ
Create Date : 22 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 31 ตุลาคม 2555 17:02:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 4239 Pageviews. |
|
|