"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
20 กันยายน 2556
 
All Blogs
 

เมื่อ “คนขายนม” อยากช่วย “ลดโลกร้อน”

 

นมติดฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์

 

       ในระดับผู้บริโภคเมืองไทยอาจยังไม่มีกระแสห่วงใยนักว่า สินค้าที่เลือกอุปโภคบริโภคอยู่ทุกวันนี้ ทำลายสิ่งแวดล้อมไปมากแค่ไหน เพราะแค่ควบคุมค่าใช้จ่ายให้เพียงพอต่อค่าครองชีพที่ถีบตัวเกินค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ก็เป็นเรื่องหนักหนาแล้ว แต่สำหรับเขาเจ้าธุรกิจนมวัวได้ตระหนักแล้วว่า สิ่งแวดล้อมได้ส่งสัญญาณเตือนถึงความผิดพลาดที่เราได้ทำ
       
       หลายคนอาจไม่ทราบว่าการทำอุตสาหกรรมนมวัวนั้นปล่อยก๊าซเรือนกระจกมหาศาล โดย ดร.รัตนาวรรณ มั่งคั่ง จากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกลยุทธิ์ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า ก๊าซเรือนกระจกจากฟาร์มวัวนั้นเกิดจากการย่อยอาหารของวัว ที่มีการหมักจนเกิดก๊าซมีเทน และวัวก็เรอหรือระบายออกทางช่วงล่างของร่างกาย
       
       “ผลกระทบของก๊าซมีเทนต่อการเกิดภาวะโลกร้อนนั้นรุนแรงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 25 เท่า” ดร.รัตนาวรรณให้ข้อมูล
       
       ทางด้าน พฤติ เกิดชูชื่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดรี่โฮม จำกัด เผยว่าเขาผลิตนมวัวขายมาตั้งแต่ปี 2542 โดยเริ่มต้นจากการผลิตนมเพื่อจำหน่ายในร้านอาหารของตัวเอง กระทั่งได้ยินถึงการพาดพิงว่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับฟาร์มวัวนั้นทำให้เกิด “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” (C-footprint) ในปริมาณมหาศาล แต่อยากทราบชัดๆ ว่ามีการปลดปล่อยไปเท่าไหร่ และจะได้หาวิธีลดการปลดปล่อย
       
       ทางบริษัทแดรี่โฮมจึงได้ขอการสนับสนุนจากโครงการ iTAP ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อดำเนินโครงการ “พิชิตฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์นมสดพาสเจอไรส์และโยเกิร์ตแดรี่โฮม” เพื่อประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการผลิตของฟาร์มโคนมและกระบวนการผลิตในโรงงาน

ตลอดจนขั้นตอนการบรรจุและขนส่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อขอรับรองผลวิเคราะห์ค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และขึ้นทะเบียนติดฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์
       
       “นมตามมาตรฐานยุโรปมีการปล่อยคาร์บอนที่ประมาณ 2 กิโลกรัมกว่าๆ ต่อนม 1 ลิตร ส่วนของไทยอยู่ที่ 2.3-2.7 กิโลกรัมต่อลิตร แต่ของแดรี่โฮมเราปล่อยอยู่ที่ 2 กิโลกรัมพอดี ซึ่งเป็นสิ่งที่เราภูมิใจ แต่อนาคตจะทำให้ปล่อยได้น้อยลงอีก จนกว่าจะลดไม่ได้แล้ว” พฤติให้ข้อมูลระหว่างทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ และสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงงานผลิตนมและโยเกิร์ตของแดรี่โฮม
       
       ปัจจัยที่ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนในกระจกอุตสาหกรรมนมของแดรี่โฮมน้อยกว่าอุตสาหกรรมนมที่อื่นๆ นั้น พฤติชี้ว่าเป็นเพราะรูปแบบการเลี้ยงของฟาร์มวัวที่ทางบริษัทรับซื้อน้ำนม ซึ่งต้องเลี้ยงวัวทุกตัวแบบอินทรีย์ คือ ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงวัว และเลี้ยงด้วยหญ้าสด หากวัวป่วยต้องใช้สมุนไพรในการรักษาเท่านั้น ยกเว้นกรณีที่วัวป่วยเกิดเยียวยา อนุญาตให้ใช้ได้ แต่ต้องงดรีดน้ำนมนานกว่าปกติ 2 เท่า
       
       “วัวกินหญ้าอย่างเดียวก็เหลือเฝือแล้ว” พฤติกล่าว พร้อมทั้งบอกด้วยว่าการเลี้ยงวัวแบบอินทรีย์หรือออร์แกนิกส์ (Organics) นั้นจะทำให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้ เพราะเกษตรกรสามารถปลูกหญ้าสดได้ตลอดทั้งปี ขณะฟาร์มนมสมัยใหม่มีต้นทุนการเลี้ยงวัวถึง 80% และต้องพึ่งพิงวัตถุดิบจากภายนอกถึง 90% แต่ฟาร์มแบบอินทรีย์มีฐานวัตถุดิบที่ผลิตได้ในฟาร์ม และมีต้นทุนการเลี้ยงเพียง 20%
       
       “เราไม่ใช้ระบบ 'เกษตรพันธะสัญญา' เกษตรกรที่รับคำแนะนำในการเลี้ยงวัวแบบอินทรีย์จากเรา สามารถส่งนมให้แก่คนอื่นได้ หากเห็นว่าได้ผลประโยชน์มากกว่า แต่เรารับซื้อนมวัวในราคาที่สูงกว่าการซื้อขายทั่วไป 30%” กรรมการผู้จัดการ แดรี่โฮม กล่าว
       
       เมื่อต้นทุนถูกกว่าและจำหน่ายได้ในราคาที่สูงกว่า แต่เหตุใดจึงมีเกษตรกรเปลี่ยนมาเลี้ยงวัวแบบอินทรีย์ในอัตราที่ต่ำมาก โดยนับแต่ทำธุรกิจนมออร์แกนิกส์มา 10 ปี มีเกษตรกรที่เขาร่วมกับแดรี่โฮมเพียง 13 ราย แม้จะเพิ่มขึ้นมากจากปีแรกที่มีเกษตรกรเพียงรายเดียว ซึ่งในความเห็นของพฤติเขาระบุว่า การเปลี่ยนความเคยชินของคนเป็นเรื่องยากที่สุด ซึ่งพบได้ในการทำเกษตรทุกอย่าง
       
       “แค่ห้ามใช้ปุ๋ยเคมีก็จะขาดใจแล้ว” พฤติกล่าวถึงความเคยชินของเกษตรกรทั่วไป โดยเกษตรกรที่จะส่งนมให้บริษัทของเขาได้นั้น ต้องผ่านการคัดเลือกและเข้ารับการอบรม ซึ่งหากเคยทำฟาร์มวัวสมัยใหม่มาก่อนจะต้องงดการใช้สารเคมีทุกชนิดเป็นเวลา 6 เดือน จากนั้นอีก 6 เดือนแดรี่โฮมจะเข้าไปตรวจการปนเปื้อนของสารเคมีจากย่าฆ่าแมลง และยาปฏิชีวนะในน้ำนม หากไม่พบการปนเปื้อนเลยจึงจะรับซื้อน้ำนม
       
       นอกจากกระบวนการบรรจุและขนส่งก็เป็นอีกขั้นตอนที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกมหาศาล เพราะต้องใช้ห้องเย็นในการขนส่งนมและผลิตภัณฑ์นม โดยพฤติระบุว่าทางบริษัทรับซื้อนมจากฟาร์มในรัศมีไม่เกิน 30 กิโลเมตร เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนจากระบบขนส่ง พร้อมให้ความเห็นว่า นมผลิตขึ้นในท้องถิ่นไหนก็ควรจำหน่ายในท้องถิ่นนั้น

และในอนาคตทางโรงงานจะใช้ความร้อนจากโรงงานหมุนเวียนไปพลาสเจอไรส์นม โดยจะนำไปผลิตน้ำร้อน แล้วหมุนเวียนขึ้นไปรับความร้อนจากแผงทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ แล้วนำกลับมาใช้ในการพลาสเจอไรส์นม
       
       ด้าน ดร.รัตนาวรรณในฐานะนักวิชาการที่ปรึกษาด้านการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในโครงการ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่มีผู้ประกอบการรายเล็กติดต่อขอประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพราะที่ผ่านมามีเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ  ติดต่อเข้ามา เนื่องจากเกรงจะกระทบการส่งออก เหตุจากหลายประเทศในยุโรปเริ่มมีมาตรการบังคับ

อย่างเช่นฝรั่งเศสที่มีกฎว่าผู้บริโภคมีสิทธิรู้ว่าสินค้านั้นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร โดยต้องติดฉลากระบุใน 3 เรื่อง คือ ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ฉลากแสดงผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และฉลากแสดงผลกระทบต่อการใช้น้ำ
       
       “ในการพิจารณาคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต้องดูตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ วัตถุดิบ การบรรจุ หีบห่อ การผลิต การมช้พลังงาน การกระจายสินค้า หากต้องแช่เย็นก็ต้องนับพลังงานที่ใช้ แล้วคำนวณออกมาเป็น 'คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า' ซึ่งการจะแสดงฉลากได้ ต้องมีบุคคลที่ 3 ที่เป็นกลางและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาตรวจสอบ ในที่นี้เราเชิญอาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาเป็นผู้ตรวจสอบ และได้รับการรับรองจากองค์การก๊าซเรือนกระจก” ดร.รัตนาวรรณกล่าว
       
       พร้อมกันนี้ทีมข่าววิทยาศาสตร์ฯ ยังได้ไปเยี่ยมชมฟาร์มวัวนมแบบอินทรีย์ ซึ่งส่งน้ำนมดิบให้แก่แดรี่โฮม โดย ศราวุธ ว่องไพกุล ผู้จัดการฝ่ายไร่ผึ้งฝน กล่าวว่าเข้าร่วมกับแดรี่โฮมตั้งแต่ปี 2550 โดยได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ว่าเป้นฟาร์มอินทรีย์ 100% โดยไม่ใช้ฮอร์โมน ไม่กักขังวัว ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ พร้อมอธิบายว่าโดยปกติวัวนมจะเป็นโรคเต้านมอักเสบเพราะถูกเร่งการให้นมมากเกินไป แต่วัวในระบบอินทรีย์จะเป็นเต้านมอักเสบน้อย
       
       “วัวติดเชื้อจากภายนอกและเข้าไปอักเสบภายใน ลักษณะจะมีเต้าบวม นมเสีย นมบูด วัวจะมีไข้ ปวดและไม่กินอาหาร วิธีการรักษาแบบอินทรีย์คือ ใช้ครีมนวดไล้น้ำนมออก แต่ถ้ารุนแรงจนมีน้ำนมใส ไม่มียาสมุนไพรใดรักษาได้ ก็จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ แล้วต้องหยุดรีดนมไป 2 อาทิตย์ และธรรมชาติของวัวพันธุ์นี้เขาจะผลิตน้ำนมตลอดเวลา

ซึ่งวัวตัวหนึ่งจะผลิตน้ำนมได้มากกว่าที่ลูกวัวจะกินหมด ถ้าไม่รีดออกจะเจ็บ นมคัด หลักการรีดน้ำวัว คือ รีดให้เร็ว รีดให้สะอาด และรีดให้หมดเต้า ไม่เน้นผลผลิตมาก เพราะหากให้วัวกินมาก ให้น้ำนมมาก วัวจะเครียด และเกิดเต้านมอักเสบง่าย ดังนั้น วัวที่เลี้ยงแบบอินทรีย์จึงให้นมได้ไม่มาก ตัวหนึ่งให้นมได้ 20 กิโลกรัมต่อวัน” ศราวุธให้ข้อมูล 
       
       ทางด้าน พฤติยังฝากบอกอีกว่า ผู้บริโภคมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ เพราะหากเราเป็นผู้บริโภคที่ใส่ใจ เลือกกิน เลือกซื้อของที่ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อย ก็จะกลายเป็นสิ่งที่กำหนดแนวทางของตลาด พร้อมทั้งให้เห็นผลในการเลือกทำธุรกิจนมวัวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมว่า เขาเริ่มเห็นสัญญาณเตือนหลายๆ อย่างจากธรรมชาติที่บอกว่ามนุษย์โลกได้ทำบางอย่างผิดพลาด

ดังนั้น เราจึงต้องหาทางแก้ไข เพราะที่สุดโลกคงจะอยู่ต่อไปได้ แต่มนุษย์อาจไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่เราทำให้เปลี่ยนแปลงไป
       
       “ผมรู้เรื่องอื่นน้อย แต่รู้เรื่องโคนมมากที่สุด” คือเหตุผลที่พฤติบอกว่าเลือกดำเนินธุรกิจนมโดยเดินตามแนวทาง “ผลิตของเสียต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด”     

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์ศุกรวารค่ะ




 

Create Date : 20 กันยายน 2556
0 comments
Last Update : 20 กันยายน 2556 10:28:53 น.
Counter : 1586 Pageviews.


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.