นักวิทย์รัสเซียพบ "ชิ้นส่วนอุกกาบาต" รอบทะเลสาบในเขตอูราล
นักวิทยาศาสตร์รัสเซียเปิดเผยว่า พบชิ้นส่วนอุกกาบาตในเขตอูราล ซึ่งตกเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 1,200 คน
ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งถูกพบโดยรอบพื้นที่ทะเลสาบ ที่กลายเป็นน้ำแข็งใกล้เมืองเชาบาร์คูล ในเขตเชลยาบินสก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เชื่อว่าอุกาบาตตก
ขณะที่ทางการรัสเซียเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 1 พันล้านรูเบิล โดยในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังร่วมปฏิบัติการกู้ภัยและเก็บกวาดซากความเสียหายนั้น นักวิทยาศาสตร์ยังคงเดินหน้าค้นหาชิ้นส่วนอุกกาบาตโดยรอบทะเลสาบเชบาร์คูล ซึ่งพบโพรงน้ำแข็งขนาดกว้างราว 6 เมตร
นายวิคเตอร์ โกรฮอฟสกี จากมหาวิทยาลัยอูราล กล่าวต่อสื่อรัสเซียว่า ผลการศึกษายืนยันได้ว่า วัตถุดังกล่าวที่พบในระหว่างการสำรวจบริเวณทะเลสาบเชบาร์คูลเป็นอุกกาบาต อุกกาบาตดังกล่าวเป็นอุกกาบาตหินเนื้อเม็ดปกติ ที่ประกอบด้วยแร่โลหะราว 10% คาดว่ามันจะถูกตั้งชื่อว่าอุกกาบาตเชบาร์คูล
ทางการรัสเซียได้ยุติการค้นหาชิ้นส่วนของอุกกาบาตที่คาดว่าจะตกในทะเลสาบหลังไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยนายวยาเชสลาฟ ลาดอนกิ้น โฆษกกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซียแถลงว่า
ทีมประดาน้ำได้ใช้เวลาตลอดทั้งวันเสาร์ค้นหาชิ้นส่วนอุกกาบาตที่เชื่อว่า ตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็ง ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นจัด อุณหภูมิลบ 17 องศาเซลเซียส แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
ทำให้กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินตัดสินใจยุติภารกิจ แล้วหันไปดำเนินการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากอุกกาบาต กว่า 2,962 แห่ง นายลาดอนกิ้นกล่าวต่อไปว่า กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินมองว่า หลุมกลมขนาด 8 เมตรในทะเลสาบเชบาร์กุล ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเชลยาบินสก์ราว 60 กิโลเมตร ไม่ได้เกิดจากอุกกาบาตนอกโลก
แต่เชื่อว่า หลุมดังกล่าวเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น ทำให้ตัดสินใจยุติการค้นหาเศษอุกกาบาต ส่วนผู้บาดเจ็บ 40 คนยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีการเปิดศูนย์พิเศษเชิญจิตแพทย์มาคอยบรรเทาอาการตื่นตระหนกของประชาชนจากเหตุอุกกาบาตตกด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการได้เร่งซ่อมแซม บานกระจกหน้าต่างที่แตกจากแรงสั่นสะเทือนของอุกกาบาต ที่สร้างความเสียหายอเย่างรุนแรง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บอกว่า มีน้ำหนัก 10 ตัน นับเป็นเหตุการณ์ระทึกขวัญมากที่สุด ตั้งแต่เคยเกิดอุกกาบาตตกที่ทุ่งหญ้าทังกัสก้า ในเขตไซบีเรีย เมื่อปี 1908 ที่กินพื้นที่กว้างกว่า 2,000 ตร.กม.
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ประเมินว่า อุกกาบาตลูกนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 17 เมตร หนักราว 10,000 ตันก่อนที่จะพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก การระเบิดของมันปลดปล่อยพลังงานเกือบ 500 กิโลตัน หรือประมาณ 30 เท่าของระเบิดนิวเคลียร์ที่ถล่มเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่น เมื่อปี 1945
ขอบคุณ มติชนออนไลน์
สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2556 15:35:12 น. |
Counter : 1604 Pageviews. |
|
|
|