|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
วิธีโปรโมทตัวเอง เป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ
ถ้าคุณอยากมีชื่อเสียง อยากมีคนนับหน้าถือตามาก ๆ ในเมืองไทย (แค่เมืองไทยนะครับ) อยากเป็น idol ทางวิทยาศาสตร์ให้กับหลายๆ คน
เรามีคำแนะนำสำหรับคุณดังนี้ครับ
1 ต้องจบ ดร จากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ จะเป็นมหาวิทยาลัยระดับไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นใน อเมริกา หรือ อังกฤษ ยุโรปหรือออสเตรเลียก็ใช้ได้
แต่ถ้าคุณจบจากอินเดีย ฟิลิปปินส์ หรือไทย อาจจะลำบากมากหน่อย ต้องใช้วิธี ไม่ต้องบอกว่าจบที่ไหน เน้นแต่คำว่า ดร พอ
2 ต้องบอกเล่าความสำเร็จที่เคยมีมา โดยขยายภาพให้มันยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเน้นที่ภาพความสำเร็จ ไม่ใช่ข้อเท็จจริง
และความสำเร็จนั้น ต้องเชื่อมโยงกับองค์กรระดับโลกที่เป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วไปด้วย เช่น NASA แม้จะเป็นการเชื่อมโยงที่เล็กน้อยที่สุดก็ตาม
เช่นมีบทความที่เคยตีพิมพ์ แล้วมีคนเอาไปอ้างอิงต่อไปอีกสองสามทอดหรือสิบทอดก็ได้ จนถึงบทความอะไรก็ได้ที่คนของ NASA ซักคน อ้างอิงต่อถูกตีพิมพ์มา
แค่นี้สำหรับสังคมไทย(บางส่วน) คุณก็สามารถกล่าวอ้างได้แล้วว่างานวิจัยของคุณ ทาง NASA เอาไปใช้ต่อ
เวลาโม้ให้สื่อไทยฟัง คุณอาจจะบอกว่า งานวิจัยของคุณ แม้จะเป็นเรื่องทางชีววิทยา แต่ตอนนี้เป็นต้นแบบให้ทาง NASA ใช้ในการศึกษาการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกอยู่
หรืองานวิจัยของคุณ ตอนนี้เป็นต้นแบบของหุ่นยนต์ชีวภาพ ที่ทาง NASA กำลังวิจัย เพื่อนำไปใช้สำรวจหาอ๊อกซิเจนบนดาวอังคาร
หรือบอกว่างานวิจัยของคุณ เป็นงานวิจัยหนึ่งเดียว จากหลายหมื่นบทความตีพิพม์ บอกแค่นี้แล้วให้คนฟังไปตีความต่อเอาเอง
จงจำไว้ว่า อย่าลงรายละเอียดใด ๆ มากไป เน้นที่ภาพความสำเร็จเท่านั้น
3 เวลาออกสื่อ หรือพูดตามงานสัมมนาต่างๆ ให้เน้นศัพท์ทางเทคนิคบ่อย ๆ แต่พยายามหาคำที่คนทั่วไปอาจจะได้ยินบ่อยๆ หน่อย เช่น อ๊อกซิเจน เครื่องจักรชีวภาพ โลกร้อน นิวเคลียร์ ดาวเรียงตัว พลาสม่า อะไรก็ได้ ที่ดูเป็นคำทางวิทยาศาสตร์ ๆ หน่อย แต่คุ้นหูคนทั่วไปดี ประเภทมุมอะซิมุท แบบนี้ไม่ผ่าน
4 ควรพูดเรื่องหายนะ หรืออะไรที่สามารถขับเน้นความกลัวของผู้คน ไม่ใช่เรื่องที่คนฟังแล้วสบายใจ เพราะคนจะสนใจฟังเรื่องร้ายๆ มากกว่าเรื่องดีๆ
โดยเฉพาะเน้นหายนะ ภัยจากธรรมชาติที่จะเกี่ยวพันถึงเมืองไทยให้มาก
ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนมาค้าน เพราะในสังคมไทย คำว่า คนพูดเป็น ดร แถมถ้ามีผลงานเกี่ยวพันกับ NASA สามารถใช้สยบเหตุผลอื่น ๆ ได้หมด
5 หาเรื่องลี้ลับ พลังเหนือธรรมชาติต่างๆ มาเล่าหรือพูดคุยด้วย เพราะคนทั่วไปชอบฟังเรื่องเหล่านี้
เน้นคำว่าวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้กับเรื่องเหล่านี้ให้มาก หรือถึงพิสูจน์ได้แล้วก็อย่าไปยอมรับ เรื่องพวกนี้คนยังสนใจอยู่มาก สามารถดึงดูดสื่อมวลชน ทำให้ได้รับเชิญไปงานสัมมนาต่างๆ ง่าย ๆ เป็นโอกาสที่จะได้โปรโมทตัวเอง
6 เวลาเล่าเรื่องความสำเร็จของตัวเอง ควรเชื่อมโยงความสำเร็จนั้นกับอะไรที่เป็นปรัชญา เป็นวิถีพุทธด้วย เช่นการนั่งสมาธิ การเพ่งกษิณ วิถีธรรมชาติ เช่น คิดงานออกเพราะไปนั่งมองทุ่งหญ้า หรือนั่งสมาธิ
เพราะมันจะขับภาพนักวิทยาศาสตร์แต่ยังใกล้ชิดและไม่ปฎิเสธความเชื่อของผู้คนทั่วไป ทำให้เกิดภาพลักษณ์นักวิทยาศาสตร์ที่คนทั่วไปสัมผัสได้
7 ถ้ามีคนค้าน ให้เน้นว่า คุณแค่นำเสนอข้อมูล ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เป็นเรื่องที่คนฟังต้องไปคิดต่อเอง แล้ววนกลับไปที่ความสำเร็จของตัวในอดีตอีก
และอย่าลดตัวลงไปถกเถียงกับคนที่ไม่เชื่อเองเด็ดขาด ให้ปล่อยเงียบไว้ เดินสายบรรยายโปรโมทตัวเองต่อไป ถ้าการตลาดของคุณได้ผล ถ้าใครค้าน เดี๋ยวจะมีสาวกมาเถียงแทนให้เอง
8 ขอให้ตระหนักไว้ ความสำเร็จเดียวของคนไทย ถ้ามันฟังดูแล้วมันยิ่งใหญ่ สามารถนำไปใช้หากินต่อได้ตลอดชีวิต
คุณจะสามารถพูดได้หมดทุกเรื่อง ที่สามารถโยงเข้าเรื่องวิทยาศาสตร์ได้ เช่นโลกร้อน นิวเคลียร์ แผ่นดินไหว อวกาศ ไฟฟ้า พลังงาน จิตวิทยา นิติวิทยาศาสตร์ ฯลฯ แม้ว่าคุณจะจบ ป เอกมา โดยทำวิจัยเรื่องวัฒนธรรมการมีหลายภรรยา ของชนเผ่าบนเกาะนิวกินีก็ตาม
และสุดท้าย คุณจะได้เป็นพรีเซนเตอร์ซุปไก่แน่นอน
Create Date : 28 เมษายน 2554 |
Last Update : 28 เมษายน 2554 19:53:09 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1568 Pageviews. |
|
|
|
โดย: พี่หมูน้อย วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:13:36:31 น. |
|
|
|
|
|
|
|