Bloggang.com : : ประกอบ : ประสบการณ์ขับรถใน UK

ประสบการณ์ขับรถใน UK

อยากเล่าประสบการณ์ขับรถในประเทศอังกฤษหน่อย ว่าฝรั่งเค้ามีพฤติกรรมการขับรถต่างจากคนไทยอย่างไรบ้าง

ต้องบอกก่อนว่าตัวผมเอง มีกระสบการณ์ขับรถในเมืองไทยมากกว่า 15 ปี
เหนือใช้ออกตก ขับไปทั่วมาหมดแล้ว
ได้เห็นพฤติกรรมขับรถแบบต่างๆ ของบ้านเรา ซึมซับลักษณะนิสัยต่างๆ ไว้เยอะมาก
จนเมื่อได้มีโอกาสมาต่างประเทศ ได้ขับรถที่ประเทศอังกฤษ มีใบขับขี่ของที่นี่ด้วย ไม่ใช่ใบขับขี่สากล
มีโอกาสขับไปหลายๆ เมืองทั้งใน London ลงใต้ไปถึง Bath ขึ้นเหนือไปถึง Edinburgh เมืองใหญ่ๆ เช่น Liverpool Manchester ก็ขับผ่านมาแล้ว

ปีกว่าๆ มานี้ ขับรถไปสามสี่หมื่น กม ได้ สังเกตุเห็นลักษณะนิสัยหลายๆ อย่างที่แตกต่างจากบ้านเรา เลยอยากเล่าสู่กันฟัง

รถเฟียตพุงโตที่ใช้ครับ กินน้ำมัน 20 กม/ลิตร ประหยัดดีมาก ๆ

อย่างแรก เรื่องของใบขับขี่ก่อน การได้ใบขับขี่ที่อังกฤษนั้นยากกว่าในเมืองไทยมาก
ที่ไทยสมัยสอบ ผมสอบข้อเขียนสิบกว่าข้อ แล้วก็ไปสอบปฏิบัติ ถอยเข้าถอยออกพอเป็นพิธีก็ผ่านมาได้
แต่ที่นี่ ต้องสอบข้อสอบ 50 ข้อ
มีการสอบวัดความรวดเร็วในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ บนท้องถนน เช่นเมื่อเห็นป้ายจราจร เห็นคนเดินถนน ฯลฯ ด้วย
ต้องสอบข้อเขียนผ่าน จึงจะไปสอบปฏิบัติได้ ซึ่งต้องออกถนนจริง แล้วทำขั้นตอนต่างๆ ตามที่กรรมการสอบกำหนด
ซึ่งอัตราสอบผ่านปฏิบัติของที่อังกฤษ อยู่ที่ประมาณ 49%

คนส่วนใหญ่ที่สอบใบขับขี่ ก่อนสอบจะไปเรียนจาก รร สอนขับรถต่างๆ จนมั่นใจในระดับหนึ่ง จึงมาสอบ
อย่างตอนผมสอบ ผมพบว่าผมเป็นคนเดียวที่ขับรถไปสอบเอง คนอื่นๆ ที่สอบรอบเดียวกันอีกเกือบ 10 คน ไปกับครูสอนขับรถ ใช้รถของ รร สอนขับสอบกันทั้งนั้น ไม่ได้เรียนกันตามยถากรรมแบบบ้านเรา

ดังนั้น กฏเกณฑ์ มารยาทต่างๆ จึงได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เริ่มหัดขับ คนขับรถส่วนใหญ่ที่เจอตามท้องถนน จึงมีมารยาทดีกว่าในบ้านเรา เช่นเรื่องของการให้ทาง การให้สัญญาณ การขับเร็ว

สัญญาณสากลที่แตกต่างจากบ้านเราคือการกระพริบไฟสูง
ที่นี่ก็เหมือนที่อื่นทั่วโลก คือเป็นสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่าให้ทาง ให้เราไปได้
ซึ่งเมื่อมาขับใหม่ๆ ต้องปรับตัวพอสมควร เพราะไม่คุ้น
บ้านเราเป็นการบอกว่าอย่าออกมานะ ข้าไม่ให้ไป หรือหลบไปให้พ้นๆ ที่นี่แปลว่า เชิญไปก่อนได้

คนที่นี่ให้ทางกันง่ายมาก ถ้าคุณกำลังจะออกจากซอย
ขับรถมาจากทางโทจะเข้าทางเอก
จะเลี้ยวขวาเข้าซอยตัดหน้ารถทางตรง
ขอเปลี่ยนเลน
ผู้ร่วมทางอื่นๆ มักจะยินดีให้ทางเสมอ เวลาผมจะออกจากซอย ไม่เคยต้องรอนานครับ เพื่อนร่วมถนนเดี๋ยวก็กระพริบไฟสูงให้เราไปได้แล้ว

เรื่องของการลักไก่ ไม่ค่อยเจอ เช่นถนนที่บีบเลนจากสองเลนส์เหลือเลนเดียว คนที่นี่จะรู้จังหวะกันผลัดกันไปไม่มีกั๊ก

ที่น่าแปลกคือในเมืองผมมีถนนหลักเส้นนึง จากสองเลนมันจะไปบีบเป็นเลนเดียว คนท้องถิ่นก็จะรู้ว่าถนนเป็นแบบนี้
ถ้าเป็นบ้านเรา เราจะเลือกเลนที่แถวสั้นที่สุด แล้วไปรอชิงจังหวะเบียดเข้ากันข้างหน้า
แต่คนที่นี่ส่วนใหญ่ เลือกรอคิวอยู่เลนซ้าย ปล่อยให้เลนขวาว่างๆ ไว้ยังงั้น
จนมีพวกฉลาดแบบไทยๆ ซึ่งมีไม่เยอะ จะวิ่งขวายาวฉลุยไปรอปาดซ้ายเข้าข้างหน้า
ซึ่งถ้าเป็นบ้านเรา พวกที่รอคิวก็มักคิดว่า ตูรอตั้งนาน เอ็งมาเอาเปรียบเกินไปแล้ว ไม่ให้เข้า
แต่ที่นี่ คนที่ติดในคิวมาตั้งนาน ก็ยังให้ทางรถขวาที่ลักไก่มาอีกง่ายๆ ซะงั้น

แรก ๆ ผมเป็นพวกลักไก่ หลังๆ ละอาย ต้องยอมตามคิว พวกไม่ค่อยยอมให้ทาง(พวกใจเหมือนคนไทย) แม้จะมีแต่ก็มีไม่มาก เมื่อเทียบกับพวกใจกว้าง

อีกครั้งขับอยู่บนมอเตอร์เวย์ มีอุบัติเหตุข้างหน้า ตำรวจปิดเลนถนน จากสามเลนปิดเหลือเลนขวาสุดเลนเดียว
ตำรวจก็แสนดี เอาป้ายบอกว่าข้างหน้าทางปิดสองเลน มาตั้งไว้ตั้งแต่ 1 ไมล์( 1.6 กม ) ก่อนบริเวณที่ปิด

ทันทีที่เห็นป้ายบอก คนส่วนใหญ่ก็พร้อมใจกันเข้าเลนขวาสุดตั้งแต่แถวๆ ที่เห็นป้ายนั่นแหละ
แย่งกันเข้าแถวนั้น ปล่อยให้เลนซ้ายอีกสองเลยว่างไว้ยังงั้น
จนมีพวกลักไก่ที่มีจำนวนน้อย ซึ่งมักเป็นรถบัสกับรถบรรทุก ลักไก่วิ่งซ้ายยาวไปขอเข้าเอาข้างหน้า ซึ่งพวกข้างหน้าก็ให้เข้าอยู่ดีนั่นแหละ

ผมเองอยากลักไก่ใจจะขาด แต่เห็นชาวบ้านเค้าไม่ทำกัน เลยไม่กล้า ถ้าบ้านเราก็คงไปเบียดกันตรงที่เลนบีบ
ที่นี่ เบียดกันตั้งแต่ตรงที่ป้ายบอก แล้วก็ยอมต่อคิวกันไปเรื่อยๆ

ขับรถที่นี่มาปีกว่าๆ ในสถาณการณ์ปกติ ไม่เคยเห็นตำรวจจราจร ไม่เคยเจอด่านตรวจ
แต่มีกล้องตรวจจับต่างๆ มากมาย ถ้าทำผิดกฏจราจร เช่นคุยมือถือไปขับไป ขับเร็วเกินกำหนด ก็อาจจะได้รับใบสั่งทางไปรษณีย์ได้

เนื่องจากค่าปรับแพง ผมจึงระมัดระวัง ยังไม่เคยโดนใบสั่งครับ ตำรวจที่นี่รัฐเค้าให้เงินเดือนให้พออยู่พอกินครับ เลยไม่ต้องรีดไถจับปรับกินหัวคิวแบบบ้านเรา

ส่วนมอเตอร์ไซด์ เนื่องจากอากาศหนาว เราจะเจอมอเตอร์ไซด์เฉพาะในหน้าร้อน และที่นี่จะเป็นพวก bigbike เป็นส่วนใหญ่ ขับกันเร็วๆ น่ากลัวครับ หน้าหนาวนี่ไม่เคยเจอเลย เจอแต่จักรยาน

ถนนหนทางที่นี่ ขับยากกว่าบ้านเรา เพราะถนนส่วนใหญ่เป็นทางแคบๆ สองเลนสวนกัน แต่แคบกว่าบ้านเรา

ซอยหมู่บ้านผมที่ไทย กว้างเท่าถนนหลักของเมืองที่ผมอยู่ นอกจากนี้ที่เป็นเนินก็มาก แล้วยังมีวงเวียนเล็ก ๆ เยอะ
บางทีเจอวงเวียนซ้อนวงเวียน ขับแล้วงงมาก ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าบ้านเรา เคารพป้ายมากๆ

การจอดรถ ประเทศนี้ไม่เหมือนเมืองไทย ขนส่งมวลชนเค้าดีมาก รัฐไม่สนับสนุนให้คนขับรถ เลยไม่ค่อยมีที่จอดรถ
ที่จอดรถฟรีหายากมาก โดยเฉพาะในเมือง ตามข้างทางแม้จอดได้ ก็ต้องเสียเงิน
ก่อนจอดก็ต้องดูดีๆ ว่าคนทั่วไปจอดได้หรือเปล่า บางที่อนุญาตจอดแค่คนที่พำนักแถวนั้น หรือถ้าจอดก็จะจำกัดเวลา
ถ้าไปจอดมั่วซั่ว จะมีคนเดินตรวจ ค่าปรับแพงมากครับ
ค่าจอดที่นี่ อย่างถูก ๆ ก็ ชม ละ 1 ปอนด์ครับ ไปไหนทีค่าจอดรถวันนึงเป็นร้อยบาท

แต่ถ้าคนพิการ จะได้รับสิทธิจอดรถฟรีได้ เพราะเค้าถือว่าต้องเอื้อต่อคนพิการ
ทุกๆ ที่จะเตรียมที่จอดคนพิการไว้ ซึ่งจะต้องมีบัตรโชว์ไว้หน้ารถ ถ้าไม่พิการแต่ไปจอดมั่วแบบบ้านเรานี่ ถ้าไม่โดนล๊อคล้อ ใบสั่งจะตามส่งไปให้ที่บ้านเองครับ
ดังนั้นจะไม่เคยเห็นคนไม่พิการ จอดรถในช่องผู้พิการเลย

สรุป คนทั่วไปขับรถกันมีวินัยมากกว่าบ้านเรา แต่ไม่ต้องตกใจ พวกรถเมล์กับ taxi รวมถึงพวกวัยรุ่น ขับแย้คล้ายกับบ้านเราเลยครับ บีบแตรไล่ ไม่ให้ทาง ขับเร็ว คล้ายๆกันเปี๊ยบ

Create Date : 11 มกราคม 2554

Last Update : 11 มกราคม 2554 22:15:06 น.

13 comments

Counter : 6838 Pageviews.

มาตอบคำถาม: ที่ถามไว้ใน บล็อก นั่นไม่ใช่ตักคะ
มันคือท่อนซุงจิงๆ ด้วย เพิ่งซักเกตุเห็นเหมือนกัน กร๊ากกกกก

(ถ้าไม่ set ไว้ ให้เฉพาะสมาชิคเช็คได้ เราก็ไม่รู้สิ ว่าคัยแอบมากัดเราในบล็อค) ใช่มั้ยค่ะ คุณประกอบ ??? 555

โดย: ดาวเคราะห์ดวงที่ร้อย

วันที่: 11 มกราคม 2554 เวลา:23:34:55 น.

เจอแต่เวลาตามรถเมล์กลางลอนดอน
คนลงรถข้ามถนนไม่มองเลย

โดย: เฮ้อ IP: 203.185.68.102 วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:11:42:00 น.

เคยไปอยู่ในลอนดอนครั้งหนึ่ง
แค่หยุดยืนหันหน้าจะข้ามถนนตรงทางม้าลาย รถก็จอดแล้วกระพริบไฟให้แล้ว

เมืองไทยเมืองยิ้มเรา ยิ้มเหงือกแห้งไปเหอะ

โดย: Mr. SJ IP: 125.25.131.237 วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:12:54:06 น.

ผมเคยเช่ารถขับที่อังกฤษครับ

สมัยนั้นขับไปเที่ยว Holy Island
(ทางเหนือของ Newcastle)

เพื่อนคนจีน เคยโดนตำรวจจับ ข้อหาไม่มีใบขับขี่
โดนไป 500 ปอนด์ แถมยังต้องขึ้นศาลอีกนะครับ

กฎหมายจราจรที่อังกฤษ หนักกว่าบ้านเราเยอะครับ

โดย: Archarn Chan IP: 61.7.142.56 วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:16:11:14 น.