เยือนงานแต่งแบบล้านนาแต๊ๆ ที่ ม่อนฝ้าย เชียงใหม่ เจ้า...

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพิ่งไปร่วมงานแต่งเพื่อนรักของแมวน้ำ เลยอยากขออัพบล็อกเกี่ยวกับงานแต่งเป็นควันหลงซักเล็กน้อย เพราะเมื่อปลายปีที่แล้วแมวน้ำและครอบครัวได้ไปร่วมงานแต่งงานของญาติสนิท ที่แม้จะไม่ญาติทางสายโลหิต แต่ก็นับถือกันมายาวนานประหนึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน ด้วยความที่ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นคนเชียวใหม่ทั้งคู่ เลยขอจัดงานที่เชียงใหม่บ้านเกิดซะเลย งานแต่งเริ่มจากงานหมั้นตอนเช้า เลี้ยงพระที่บ้านเจ้าสาว แล้วตอนเย็นจะมีการจัดงานแบบล้านนาไทย ที่ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องกันเหมือนกับชาวเหนือแท้ๆเลย

แมวน้ำผู้ไม่เคยได้ไปเยือนงานที่มีความเป็นพิธีรีตอง และมีความสวยงามทางวัฒนธรรมไทยสไตล์ล้านนา ก็ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษประหนึ่งแต่งเองเลยว่างั้น ดังนั้นก่อนที่จะถึงเวลาเราเลยต้องไป fitting ลองชุดก่อนตอนบ่ายเพื่อที่ตอนเย็นมาจะได้ใส่ได้เลยไม่ฉุกละหุก

ดังนั้น ก็นั่งรถสองแถว เอ่อ มาเครื่องบินอย่างหรู แต่พอมาถึงก็ต้องใช้บริการเหมาสองแถวเอาง๊าบ เอาล่ะ สองแถวพามาจอดหน้าร้านม่อนฝ้าย สถานที่จัดงานในวันนี้

ม่อนฝ้าย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีแสดงเครื่องแต่งกายล้านนา แล้วยังใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งอีกด้วย ภายในเป็นเรือนไม้แบบล้านนาไทย ร่มรื่น ดูมีเสน่ห์บ้านชาวเหนือจริง

แต่เอ๊ะ นี่เรามาซีอานรึ แอบมีทหารจิ๋นซีอยู่ด้วย

เดี๋ยวขึ้นไปบนเรือนเพื่อที่จะไปลองชุดกัน

ที่นี่เปิดรับเป็นสถานที่ที่จัดงานแต่งงานแบบล้านนาซึ่งมีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ และสาวไทยและสามีต่างชาติมาใช้เป็นสถานที่แต่งงาน หรือถ่ายชุดพรีเวดดิ้งก็ได้

น้องหมาใครอ่ะน่ารักจัง

ที่นี่ยังเป็นที่ที่ละครหรือภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับล้านนาหลายเรื่อง อย่างเช่น รอยไหม ศิลามณี ชั่วฟ้าดินสลาย ก็ใช้บริการคอสตูมจากที่นี่เช่นกัน เลอเลิศมั้ยละเธอ

ในห้องนี้แหล่ะง๊าบที่มีผ้าซิ่นผ้าแถบแบบล้านนาซึ่งมีทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว และก็ชุดเจ้าภาพให้ลองเลือกใส่กัน เลือกสีและแบบตามหุ่นตามใจชอบเลยง๊าบ

ส่วนชุดนี้ออกแนวลำลองแบบชาวบ้านทั่วไป เก๋ทีเดียวนึกถึงเรื่องรอยไหมที่แอฟ ทักษอรใส่ตอนหนีออกมาเดินเล่นในกาด เสื้อสั้นสายเดี่ยวนี่แอบทันสมัยนะเนี่ย นี่หล่ะน๊าที่เค้าว่าแฟชั่นมันเวียนกลับมาฮิตเสมอๆ

ส่วนแมวน้ำเลือกแล้วเอาโทนสีที่ชอบ นั่นก็คือสีออกสีทองตัดกับสีฟ้า turquoise ชอบมากๆๆๆเกิดมาไม่เคยใส่ชุดอะไรแบบนี้มาก่อน อีเม้ยผีคู่ใจถึงกับเอ่ยปากชมว่า “เจ้าแมวน้ำน่อยของเม้ยงามแต๊ๆ งามกว่าปู้ใด๋ในเจียงใหม่ เจียงฮาย ลำปู๊น ลำปาง แปร่ น่าน ยันอู๊ดตะระดิดเลยกะเจ้า”  นั่นไงเจอผีหลอก “หลอกว่าสวย” ก็งานนี้แหล่ะ ฮิ้วๆๆๆ

หลักจากฟิตติ้งชุดเรียบร้อยก็บอกชื่อแซ่เอาไว้เวลามาใส่จริงตอนเย็นจะได้หยิบถูก พอลองเสร็จก็ออกไปพักผ่อนเดินเล่นตามอัธยาศัยแล้ววนกลับมาเตรียมตัวใหม่ตอนสี่ห้าโมงเย็น คราวนี้ล่ะเราจะได้ใส่จริงทั้งชุดทั้งเครื่องประดับ สำหรับการแต่งตัวที่จะมีพนักงานประจำช่วยแต่งให้ รวมทั้งช่วยเกล้าผมปักปิ่นให้พองามแต่ถ้าแต่งหน้า จะแต่งให้เฉพาะเจ้าบ่าวเจ้าสาวกับพ่อแม่เท่านั้นนะง๊าบ

ตื่นเต้นได้ใส่เต็มยศเลยเว้ยเฮ้ย

เกล้าผม เพื่อปักปิ่นทอง

เสร็จและขอชักภาพกับครอบครัวหน่อย หน้าตาออกแนวไทยใหญ่ สิบสองปันนามากกว่ามั่งง๊าบ

ชุดไทยนี่มันมีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ มีความเป็นชาติพันธุ์อย่างหาที่สุดมิได้จริงๆ ปลาบปลื้ม

ในขณะที่แต่งองค์ครบแล้วก็เดินไปด้านในลานที่จะเป็นสถานที่จัดงาน ถ้าเปรียบกับโรงแรมก็คือห้องแกรนด์บอลรูมนั่นแหล่ะง๊าบ

สวยงามมากกกกก...ด้วยบรรยากาศ ด้วย mood&tone และ themeล้านนา เคล้าคลอด้วยเสียงสะล้อ ซอ ซึง ทำให้เราเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึงเลยจริงๆ

 มัน Cool มันเจ๋ง มัน ประทับใจมากจริงๆ

 เสียดายหมีขาวไม่มาด้วย ไม่งั้นจะได้ภาพสวยจากกล้องโปรกว่านี้ บล็อกนี้แมวน้ำเลยมี 2 สปีชี่ย์ในร่างเดียว คือนางแบบและตากล้องในคนเดียวกัน

บุพการีของแมวน้ำและพ่อแม่ของเจ้าบ่าวชักภาพร่วมกัน ดูหม่อมแม่ของแมวน้ำ นางเหมือนคุณเมนี่หลุดมาจากกระจกทวิภพที่ตอนก่อนเข้ามาในกระจกดันหยิบไอโฟนและกระเป๋ากุชชี่ และนาฬิกาโรเล็กซ์มาด้วย นางแรงมากนะจุดนี้ ดูเป็นการmerge กันของcostumeล้านนาและ accessories จากชาติตะวันตก  แหะๆๆ แม่ก๊าบล้อเล่งนะ จุ๊บๆ

นอกจากบรรยากาศล้านนาสถานที่จัดงานแล้ว ที่นี่ยังมีกาดมั่ว กาดมั่วคืออะไร ไม่ต้องสงสัยไปค้นอากู๋ (เกิ้ล)มาให้แล้ว "กาดมั่ว" เป็นภาษาพื้นบ้านของทางล้านนา หมายถึง ตลาดที่คนนิยมไปจับจ่ายซื้อของทั้งของกินของใช้ ของกินพื้นบ้านทางภาคเหนือ และของใช้ที่ชาวบ้านประดิษฐ์ใช้กันเองนั่นแหล่ะง๊าบ

อย่างเช่นร้านนี้ก็ขายของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มต่างๆ

ส่วนอีกด้านนึงก็จะเป็นพวกของกินพื้นเมือง อาทิข้าวซอย น้ำเงี้ยว หมาก อ้อย ขนมอะไรไม่รู้ไม่รู้จักเยอะแยะมากมาย

นี่ก็เป็นมะกอก ของดองต่างๆ รสชาติกินยากมาก สงสัยเอาไว้แกล้มกับเหล้า ยาดองอะไรเทือกนั้นไป

หรือจะอ้อยเย็นๆกับขนมพื้นเมือง

 ลองน้ำเงี้ยวซักชามกินเล่นๆรองท้อง

หรือจะลองข้าวซอยซักหน่อย หน้าตาดูดี

นั่นไงหม่อมแม่ของแมวน้ำมาลองข้าวซอยด้วยอีกคน

ส่วนด้านนี้ก็เป็นโซนเครื่องดื่ม จะมีน้ำเปล่า มีแอลกอฮอล์บ้าง และมีน้ำสมุนไพรเช่นมะตูม ลำไย ใส่ในภาชนะกระบอกไม้ไผ่สุดคลาสสิค เรียกง่ายๆตรงนี้ก็บคือบาร์เครื่องดื่มแหล่ะง๊าบ

ได้ของมาทานแล้วก็เอามานั่งพับเพียบ ขัดสมาธิที่ดต๊ะแบบล้านนาหรือขันโตกนั่นเอง

รองท้องไปบ้าง ก็เลยเดินดูนู่นดูนี่ไปรอบๆ

ดูสิห้องน้ำยังเป็นคำเมืองเลย ป้อจายก็คือห้องน้ำผู้ชาย แม่ญิงก็คือห้องน้ำผู้หญิง

ตกแต่งริมทางเดินด้วยรูปพรีเวดดิ้ง

สถานที่เตรียมพร้อมแล้ว ทีนี้ก็รอแขกเหรื่อมางานกัน พิธีก็จะเริ่มได้

ฝั่งเจ้าบ่าวเตรียมของสินสอดทองหมั้น และเดี๋ยวจะเตรียมตั้งขบวนแห่เข้างานกัน พอดีแมวน้ำอยู่ในขบวนถือพานด้วย เลยไม่มีรูปตอนแห่นะง๊าบ

พอแห่เข้าไปในงานด้านหน้าเวที เจ้าบ่าวและเจ้าสาวพร้อมผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยู่กันพร้อมหน้า

เจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้ากราบผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และแลกแหวนกัน

 ต่อจากนั้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ขึ้นไปบนเวทีเพื่อให้ทำพิธีบายศรี ซึ่งจะมีครู แมวน้ำก็ไม่แน่ใจเค้าเรียกว่าอะไร เป็นคนสวดทำพิธีเพื่อเป็นสิริมงคลแด่เจ้าบ่าวเจ้าสาว

หลังจากนั้นก็จะให้ญาติผู้ใหญ่ทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือให้บ่าวสาว

ส่วนแมวน้ำแอบมานั่งอยู่ด้านหลังคอยหยิบของชำร่วยที่เป็นขันโตกน้อยที่ทางม่อนฝ้ายจัดเตรียมไว้ให้กับแขกเหรื่อ

ในระหว่างที่มีพิธีกันนั้น อาหารพื้นเมืองก็เสิร์ฟในขันโตก อาหารจะประกอบไปด้วย แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ข้าวเหนียว หมูทอด แกงขนุน แกงฮังเล ไส้อั่ว ถ้าไม่ใช่คนเหนือก็จะกินอาหารประเภทนี้ได้ยากนิดนึง  ส่วนแมวน้ำกินได้ทุกอย่าง ไม่มีเกี่ยงอยู่แล้ว

หลังจากมัดข้อมือ เจ้าบ่าวเจ้าสาวและพ่อแม่ของทั้งคู่และครูบายศรีก็ทำพิธีส่งตัวเข้าเรือนหอ ซึ่งอยู่ด้านหลังเวที เป็นบันไดขึ้นไปจะเป็นห้องหอ แต่คนอื่นๆไม่สามารถเห็นได้ง๊าบ ในนั้นก็จะมีเตียง แล้วเค้าจะให้พ่อแม่ขึ้นไปนอนพอเป็นพิธีก่อน อะไรประมาณนั้นม้างง๊าบ  

พอเสร็จสิ้นพิธีแต่งงาน ทางม่อนฝ้ายก็มีการแสดงล้านนาประมาณ 3-4 ชุดให้รับชมกันเพลินๆ

ฟ้อนเทียน ง๊าม งาม เจ้า

 กลองสะบัดชัย

ฟ้อนนกยูง

 ก่อนจบพิธี ขอเชิญญาติที่เคารพขึ้นกล่าวคำอวยพรแกบ่าวสาว ปะป๊าของแมวน้ำได้รับเกียรติเป็นฝ่ายเจ้าบ่าวให้ขึ้นกล่าวยินดีและอวยพรบ่าวสาวในวันนี้

เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี โดยสมบูรณ์ ก่อนกลับขอชักภาพร่วมเจ้าบ่าวเจ้าสาวซักภาพนึงนะง๊าบ

ก่อนกลับอย่าลืมเอาชุดไปคืนเค้าล่ะ หงืดๆๆๆ

สำหรับงานแต่งครั้งนี้นับว่าเป็นงานแต่งที่มีสีสัน มีเสน่ห์ของความงดงามทางวัฒนธรรมล้านนา และประเพณีไทยๆที่น่าชื่นชม ทำให้นึกได้ว่าการแต่งงานนี่มันสะท้อนถึงวัฒนธรรมประเพณของชาติพันธุ์ได้อีกอย่างนึง ซึ่งไม่ว่าจะประเพณีไทยภาคไหน หรือประเพณีแบบต่างชาติ ทั้งตะวันออก ตะวันตก ล้วนแล้วแต่มีเสนห์และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสวยงาม อบอวลไปด้วยความรักและความชื่นมื่นยินดีด้วยกันทั้งนั้น

จริงๆแล้วที่เชียงใหม่มีอีกหลายเจ้าที่รับจัดงานแต่งงานประเภทนี้ ถ้าใครอยากลองแต่งงานแบบมีดีไซน์หลุดออกจากกรอบห้องบอลรูมในโรงแรมก็มาลองมาสอบถามการแต่งงานแบบล้านนาที่เชียงใหม่ได้นะง๊าบ หงืดๆๆ

Create Date : 26 กันยายน 2555		6 comments
Last Update : 26 กันยายน 2555 21:59:51 น.
Counter : 47627 Pageviews.
Share Tweet