ต่อจากความเดิมที่แล้วที่แมวน้ำได้พูดถึงความเป็นมาของเบิกบานบุรีและได้ทำกิจกรรมปั้นดินและซนเล่นไปทั่วนั้น มาต่อกิจกรรมที่ดูจะมีสาระบ้างดีกว่า สถานที่หลักที่เราจะทำกิจกรรมก็คือที่เรือนมะเดื่อแห่งนี้ ดูเผินๆก็ดคล้ายศาลาการเปรียญตามวัดนั่นแหล่ะง๊าบ ด้านหลังติดลำธาร ลมโกรกทั้งวันเย็นสบาย ตอนกลางคืนสามารถเอาเต็นท์มากางนอนได้ มีห้องน้ำให้พร้อม ส่วนด้านล่างใต้ถุนก็สามารถทำกิจกรรมได้ด้วยเช่นกัน

กิจกรรมช่วงเช้าหลังจากกายบริหารที่ให้ทุกคนออกมาทำง่ายๆให้เพื่อนๆทำตามแล้ววนไปรอบวงจนครบ สนุกสนานเฮฮาดี ต่อมาเริ่มเข้าสู่โหมดวิชาการ พี่จาพูดถึงการทำงานของสมองว่า เราควรจะใช้สมองทั้งสองซีกซ้ายขวา ทั้งอารมณ์และเหตุผลอย่างสมดุล เพื่อให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข รวมถึงให้มีการจับกลุ่มกันเพื่อระบายความในใจหรือพูดในสิ่งที่เพื่อนไม่เคยรู้มาก่อน

กิจกรรมตลอดทั้งช่วงเช้าเป็นกิจกรรมที่ทำให้เราเข้าใจชีวิต เข้าใจตัวเองและเข้าใจคนอื่นมากขึ้น การทำงานร่วมกันกับคนหมู่มาก หากเราเข้าใจกันและกันมากขึ้น ก็จะทำให้ลดปัญหาความขัดแย้งและร่วมกันทำงานงานด้วยกันได้ดี เยี่ยมจริงๆง๊าบ

ช่วงเช้าเน้นกิจกรรมที่ต้องการสมาธินิดนึงเลยไม่ค่อยมีรูปเท่าไหร่นะง๊าบ

เอาล่ะได้เวลาอาหารกลางวันอีกแล้ว เหมือนเดิมง๊าบ จับกลุ่มแก๊งเดิมหยิบปิ่นโตไปแย่ง เอ๊ย แบ่งกันกินง๊าบ

มื้อเที่ยงนี้มีผัดไทย แล้วก็มีกับข้าวทานเล่น เป็นยำผักหวานและทอดมันกุ้ง น้ำดื่มหยิบเอาเองตามสะดวกเช่นเดิม 

หลังจากอิ่มท้องแล้วก็มาต่อกิจกรรมภาคบ่ายวันนี้กิจกรรมแน่นเลย สงสัยจะอดเลยน้ำแบบเมื่อวานแน่เลย แต่อากาศมันก็หนาวมากลงน้ำไม่ไหวเหมือนกัน

เอาล่ะช่วงบ่ายเราจะได้ลงไม้ลงมือทำอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับวัตถุดิบที่เราได้จากธรรมชาติแล้ว เดี๋ยวเราจะแบ่งกลุ่มเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มนึงจะไปทำน้ำยาล้างจานชีวภาพ ส่วนอีกกลุ่มจะไปทำสปาเท้าจากสมุนไพรกัน เอาล่ะ แมวน้ำได้ไปทำน้ำยาล้างจานก่อน

ซึ่งน้ำยาล้างจานสูตรนี้เวิร์คมากขอบอก อยากให้คนที่เข้ามาอ่านลองเอาไปใช้ดู พี่จาบอกว่าน้ำยาล้างจานจากสารเคมีที่เราๆใช้กันได้ชื่อว่าสารเคมีมันย่อมเป็นสิ่งแปลกปลอมพอเราเททิ้งสู่ธรรมชาติความเป็นสารเคมีย่อมไม่สามารถผสมเข้ากันธรรมชาติได้ แต่น้ำยาล้างจานนี้ทำจากผลไม้รสเปรี้ยวที่มีฤทธิ์เป็นกรด จะไปทำปฏิกิริยากับน้ำตาล ทำให้กำจัดแบคทีเรียได้ มีห้างดังนำสูตรนี้ไปใช้กำจัดกลิ่นในท่อน้ำทิ้ง สมมติว่าเวลาเราไปจอดรถชั้นใต้ดินแล้วมีกลิ่นเหม็นนั่นแหล่ะ เค้าเอาไปใส่สามารถทำให้กลิ่นนั้นหายได้ เก๋สุดเริ่ดสุดอ่ะ

มาดูส่วนผสมกันตามรูปเลยง๊าบ ปกติเราจะเคยชินกับการใช้น้ำยาล้างจานที่เป็นฟอง โดยคิดว่ายิ่งฟองมากยิ่งสะอาด บางคนเอาไปใช้แล้วไม่ถนัดรู้สึกว่าไม่สะอาด ดังนั้นให้เพิ่ม N70 สารที่ทำให้เกิดฟองเข้าไปจะทำให้รู้สึกดีขึ้น

แมวน้ำเป็นคนนึงที่แพ้น้ำยาล้างจานเพราะชอบทำกับข้าว เลี่ยงไม่ได้จะต้องล้างจาน แล้วก็ไม่ได้กระแดะ ผิวบอบบางหรอก แต่ด้วยฤทธิ์น้ำยาล้างจานสีเหลืองชื่อดังทำให้มือแมวน้ำลอกเหมือนแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก เป็นอย่างมีมานานกว่า 3 ปีแล้วยังไม่หาย แต่พอมาลองใช้น้ำยานี้ถึงแม้อาการมือลอกจะไม่ได้หาย แต่มือไม่แห้งกระด้างเลย จริงๆ คอนเฟิร์ม

พอพี่จาให้ลองทำตามสูตรแล้วก็พักไว้ แล้วมีถังที่หมักและทำไว้เสร็จแล้วก็ให้แต่คนช่วยกันใส่ขวด แปะฉลาก เพื่อที่จะได้เอาไปใช้ที่บ้านกัน

ส่วนแมวน้ำขอทำหน้าที่กรอกลงขวดแล้วกัน ดูคล้ายๆชาชักปักษ์ใต้

 เห็นร้านชาชักเค้าทำน่าสนุก อยากทำมานานและ

เสร็จสรรพเรียบร้อยก็ใส่ถุงกระดาษเอากลับไปใช้กันเลย พี่จามีแถมอีกแกลลอนใหญ่ให้ไปใช้ที่ออฟฟิศด้วย

จริงๆแล้วยังสามารถเอาไปใช้ซักเสื้อผ้าก็ได้ เช็ดกระจกก็ได้ แต่ถ้าเอาไปล้างรถต้องไม่ใส่เกลือนะง๊าบ เพราะเกลือจะกัดสีรถง๊าบ

ได้เวลาเปลี่ยนฐานแล้ว คราวนี้เรามูฟไปด้านหลังห้องพักอยู่ริมน้ำด้านหลัง

 ฐานนี้เราจะมีทำสปาเท้าจากสมุนไพร สูตรตามนี้เลยจ้า เพื่อนๆพี่จามาช่วยกันเป็นวิทยากรรับเชิญ ในฐานนี้

ก่อนที่รอน้ำเดือดแล้วเอาน้ำมาใส่ในอ่างแช่เท้า พี่เค้าก็แจกน้ำใบเตยอัญชัญมาให้เล่นมายากลเปลี่ยนสี  

แช่น้ำร้อนๆที่ประกอบไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด รู้สึกผ่อนคลายดีจังเลยง๊าบ

เอาล่ะเสร็จสรรพทั้งสองฐาน เราก็ขึ้นไปเรือนมะเดื่อต่อ เพราะยังมีกิจกรรมให้ทำเพิ่มในเรื่องของการตีความเรื่องของความสุข

และเราอยากให้ออฟฟิศที่เราอยู่ร่วมกันมีความสุขยังไงให้ช่วยกันวาดรูปออกมา เอาละเลงกันใหญ่เลย ทั้งโบนัส ทั้ง Outing

เนี่ยแหล่ะความสุขของชาวออฟฟิศ อิอิ ^^

เอาล่ะ กิจกรรมของเรายังไม่จบ วันนี้อัดแน่นจริงๆ แต่ที่เหลือก็เป็นกิจกรรมชิลๆแล้ว นั่นคือการนวดหน้าเคล็ดลับหน้าใสจากธรรมชาติ และ สบู่สครับธรรมชาติ

ส่วนผสมของสครับก็มีข้าวโอ๊ต โยเกิร์ตรสธรรมชาติ กล้วยหอม น้ำผึ้ง ถ้าจำไม่ผิดนะง๊าบ แล้วก็เอามะเฟืองฝานไปแช่เย็นเพื่อเอามาถูกับหน้าเพื่อขัดลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปซะ หน้าจะได้ใสกิ๊ง อ่อนกว่าวัย

แต่ยังไงต้องอาศัยเพื่อนมาช่วยผลัดกันทำหน่อยนะง๊าบ ตอนเอามะเฟืองถูนะแสบเล็กๆนิดนึงง๊าบ 

ส่วนอีกมุมนึงพี่เค้าให้เราลองทำสครับธรรมชาติ ซึ่งง่ายมากนั่นคือ เอาถั่วเขียวมาปั่น ให้เกือบละเอียด แล้วเอาไปใช้แทนสบู่ได้เลย ช่วยขัดขี้ไคลได้เป็นอย่างดี แมวน้ำก็ใช้ง๊าบ แต่ถ้าฝืดไปก็ผสมสบู่เหลวนิดนึงตอนอาบน้ำ

เอาล่ะเป็นอันว่าจบกิจกรรมในเย็นย่ำวันนี้ อากาศตอนกลางคืนที่นี่ช่วงธันวานี้มันหนาวเย็นได้ใจจริง ต้องรีบอาบน้ำก่อนดีกว่า แล้วเดี๋ยวมาให้อาหารเย็นกัน

อาหารเย็นวันนี้เป็นมื้อที่แมวน้ำฟินมากกกก..... ใครจะรู้ว่าของโปรดอีกอย่างหนึ่งในชีวิตคือปลาดุกย่าง แล้ววันนี้ก็มีปลาดุกตัวเท่าลำแขนเกย์ในฟิตเนส มานอนปิ้งตากน้ำค้างรอการกินของแมวน้ำอยู่ เห็นแล้วน้ำลาย เอ้ย น้ำตาจะไหล

 แล้วก็บาบีคิวไม้ยักษ์

แถมด้วยน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดและข้าวเหนียวห่อใบตอง กลั้วคอด้วยแกงเลียงผักรวม

 น้ำมะพร้าวน้ำหอมด้วย

ยิ่งล้อมวงกันกินนี่ยิ่งได้อารมณ์ภัตตาคารบ้านทุ่งจริงๆ อร่อยอ่ะ

 ชอบชีวิตบ้านนอกอ่ะ พารากอนไม่มีขาย

หลังจากซัดปลาดุกไปสองตัวอิ่มมากกกกกกกกกกกกกกกก......ก็ไปนั่งรวมตัวกันสันทนาการกันต่อ พี่เค้าต่อลำโพงเอากีตาร์มาเล่นร้องรำทำเพลงกันสนุกสนาน จนชาวบ้านอีกฟากมาตะโกนด่า อิอิ ก็ที่นี่กลางคืนมันเงียบมาก พอมีเสียงไมโครโฟนดัง ชาวบ้านฝั่งตรงข้ามก็เลยนอนไม่ได้เป็นธรรมดา แต่ตอนนี้ง่วงมาก ขอไปนอนก่อนนะง๊าบ

………………………………………………………………………………………….

เช้าแล้วจ้า อากาศเย็นเหมือนเดิม จะอาบน้ำได้มั้ยเนี่ย แต่ยังไงขอไปเดินวนดูนู่นนี่ก่อนดีกว่า วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ขอเก็บภาพบรรยากาศรอบๆอีกหน่อย

รอยยิ้มที่เบิกบานรับเช้าวันใหม่

ศิลปะแบบ Homemade 

ตู้โชว์นอกบ้าน

ตื่นเร็วหิวเร็วอีกแล้ว เช้านี้มีอะไรกินน๊า เดินมาเปิดประเดิมคนแรกทุกเช้าเลย เจ้าแมวน้ำจอมตะกละ

ว้าวๆๆ เช้านี้มีโจ๊กด้วย  ดีใจ ชอบๆๆ กินคนแรกเครื่องเต็มเลย

ชามนี้ไงน่ากินป่าว ใส่ไข่ด้วยน๊า

 ที่นี่มีโปสการ์ดรูปภาพจากทุทต่างๆของเบิกบานยุรีไว้ให้เราเขียนส่งหาเพื่อน หรือส่งหาตัวเองด้วยง๊าบ

แมวน้ำไม่รู้จะส่งหาใคร ขอเลือกเอาเก็บไว้เป็นที่ระลึกล่ะกัน

กินเสร็จนั่งเม้ามอยสักครู่ก็ไปอาบน้ำเก็บเสื้อผ้า เตรียมตัวกลับแล้วล่ะ

ก่อนกลับต้องไปเช็คสภาพกุหลาบดินเผาสักหน่อยดีกว่า เผาเสร็จแล้ว จะออกมาหน้าตายังไงนะเนี่ยแอบลุ้น

โหของคนอื่นออกมาดูดีนะเนี่ยมีทั้งแก้วทั้งจาน แหมฝีมือไม่ใช่เล่นๆ

แล้วของแมวน้ำล่ะ นี่ไง กุหลาบเวียงพิงค์ออกมาหน้าตาดีเหมือนกันนะเนี่ย แต่ขอบบางไปแอบแตกนิดนึง

เนื่องจากผลงานเข้าตาตั้งแต่ตอนปั้น MDที่เคารพ เลยให้ปั้นดอกกุหลาบดอกใหญ่ให้เป็นที่ทับกระดาษให้หน่อย

ผลงานที่ได้ออกมาเลิศหรูอย่างที่เห็น

แถมให้อีกอัน สวยงาม ภูมิใจ

หลังจากนั้นก็เรียกรวมตัวที่โถงกลางเพื่อที่จะสรุปว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมด 2 วันกว่าๆเนี่ย เป็นยังไงรู้สึกยังไง ทุกคนก็เผยความในใจกันสนุกเศร้าซึ้งกันไป แต่สิ่งที่ได้กลับไปจากเบิกบานบุรี คือ รอบยิ้ม ความสุข ความทรงจำ

แมวน้ำแอบมีให้สัมภาษณ์ไว้ด้วยในกลุ่มของคนออฟฟิศที่ได้มาทำกิจกรรมที่เบิกบานบุรี ซึ่งอยู่ในเวบเบิกบานบุรี

สำหรับใครที่สนใจอยากมาเยี่ยมชมหรือสอบถามเกี่ยวกับเบิกบานบุรี รบกวนติดต่อไปที่พี่จาตามลิ้งเว็บของเบิกบานบุรีนะง๊าบ

เพราะที่นี่ไม่ใช่รีสอร์ท ไม่ใช่บ้านพักตากอากาศหรือโฮมสเตย์ จึงไม่ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวเหมือนทั่วไป ถ้าสนใจอยากมาเป็นหมู่คณะและมีจุดประสงค์ของการมาที่ชัดเจน พี่จาก็จะพิจารณาและรับคณะให้มาเวิร์คชอพกัน จริงๆแล้วที่นี่ยินดีต้อนรับทุกคนที่สนใจ แต่เนื่องจากว่าที่เบิกบานบุรีนี้อยากให้คนที่มาแล้วได้อะไรกลับไปจริงๆ และที่สำคัญบุคลากรที่มีไม่เพียงพอที่จะอำนวยความสะดวกมากนัก เลยจำเป็นต้องพิจารณาก่อนนะง๊าบ ^^

ได้เวลาออกเดินทางกลับแล้ว แต่แมวน้ำยังไม่กลับกทม.แต่จะไปต่อที่ไหนเดี๋ยวตามต่อไปดูในทริปหน้านะง๊าบ

ส่วนทริปนี้นับว่าเป็นทริปที่ไปกลับมีเดียคอมที่ประทับใจที่สุด เพราะเป็นทริปที่ได้ไปในที่ๆถูกจริต เรียบง่าย ธรรมชาติ แมวน้ำจำได้แม่นว่าในวงสนทนาก่อนกลับ แมวน้ำบอกกับทุกคนว่า แมวน้ำเป็นเด็กกทม.โดยกำเนิดที่มีความเป็นเด็กบ้านนอกในตัวสูง  ถ้าในบั้นปลาย (ดูแก่เชียว) อยากขออยู่กับธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้า แทนการนั่งในรถติด 3 ชม.ทุกวันในกทม. จะดีมาก อยากเป็นอย่างนั้นจริงๆ Oh! My ideal life…

สุดท้าย...ขอขอบคุณบริษัทดีๆ มีเดียคอม ที่ได้มีกิจกรรมดีๆให้พนักงาน ถ้าไม่ได้มากับมีเดียคอมแมวน้ำไม่มีทางรู้จักหรอกที่นี่ ถึงแม้ตอนนี้แมวน้ำจะลาออกมาแล้ว  แต่ก็ยังมีความรู้สึกดีๆกับบริษัทนี้ กับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนเสมอง๊าบ ยังไงต้องขอขอบคุณอีกครั้งมา ณ โอกาสนี้อีกครั้งง๊าบ รักทุกคนง๊าบ หงืดๆๆๆ.....

ป.ล.ขอขอบคุณรูปบางส่วนประมาณ 10% ของรูปทั้งหมด จากพี่ๆและน้องๆเพื่อให้การเขียนบล็อกครั้งนี้ได้ภาพรวมที่ครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้นง๊าบ^^

Create Date : 17 กันยายน 2555
Last Update : 17 กันยายน 2555 22:20:21 น.		3 comments
Counter : 6433 Pageviews.
Share Tweet