พฤษภาคม 2566

 
1
2
3
4
5
6
7
9
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
28
30
31
 
 
All Blog
Oh!! my sassy boss : ตอนที่ 3 หน้า 1
กฤษ “พี่ทำงานมานานหรือยังครับ?”

เมฆ “ถ้าที่นี่ก็ 5 ปี ไม่ช้าไม่นานเท่าไหร่ เผลอแป๊ปเดียวก็ 5 ปีแล้ว ที่เก่าและที่เก่า ก็ทำที่ละ 5 ปี และ 5 ปี เหมือนจะครบรอบ 5 ปีแล้วต้องหางานใหม่แล้วไหม?”

เอ๊ะ เขาถามเราเหรอ.....กฤษจะตอบเขาดีไหม...แต่ก็เอาเถอะแค่นี้ก็พอจะคำนวนอายุของพี่ชายคนนี้ได้ ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี ถ้านับรวมอายุแล้ว ก็น่าจะราวๆ 38 แก่กว่าเขา 1 รอบ


กฤษ “พี่มีประสบการณ์เยอะขนาดนี้ไม่อยากเปิดคลินิกเหรอครับ”


 ถ้าหมอที่มีอายุการทำงานและประสบการณ์ที่ยาวนานบวกกับฝีมือการรักษาที่ดีผลตอบรับจากคนไข้เป็นที่นิยมในเฉพาะทางเฉพาะโรคแล้วล่ะก็

เขาก็ย่อมอยากจะมีกิจการด้านสุขภาพเป็นของตัวเอง คนไข้จะช่วยเป็นผู้บอกต่อให้ แต่กระนั้นนอกจากเก่งแล้ว หมอคนนั้นก็ต้องรวยพอ


เมฆ “ถ้าเปิดคลินิกเป็นของตัวเอง ก็ดีนะ คนไข้คงเยอะน่าดู”


แต่การทำธุระกิจส่วนตัว มันก็ตามมาด้วยปัญหาหลายประการพร้อมด้วยทุนทรัพย์การลงทุน ย่อมมีความเสี่ยง การที่เขาจะพอใจแค่ตรงนี้ก็คงเป็นสิทธิของเขาเอง


กฤษ “ที่โรงพยาบาลรายได้ดีไหมครับ?”


เมฆ “ก็ใช้ได้นะ”


ก็แน่นอนล่ะ โรงพยาบาลเอกชนที่มาตรฐานระดับแถวต้นๆ ของประเทศ ย่อมมีมาตรฐานการบริการที่ดี ทั้งต่อผู้มารับบริการ และพนักงานทุกต่ำแหน่ง การที่พนักงานให้การยอมรับและรักในองค์กร คือที่สุดของการบริหารงาน


กฤษ “พี่คงชอบอาชีพนี้สินะครับ”


เมฆ “ชอบสิ การได้รักษาผู้ป่วยให้พ้นทุกข์ คือชะตากรรม”


กฤษอ่านข้อความแล้วนิ่ง ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก เขาเผลอคิดไปว่าเมฆจะดูไร้สาระเสียอีกกับคำพูดกวนๆ แม้ไม่เคยรู้จักหรือเจอหน้ากันมาก่อน แต่เวลาที่เขาพูดจาเป็นเรื่องเป็นราวกับดูซีเรียสกว่าเขาเสียอีก


กฤษ “พี่น่าจะเรียนแพทย์แผนปัจจุบันเพิ่มนะครับ เหมาะกับเจตนารมณ์ของพี่”


เมฆ “ไม่เอาหรอก ฉันกลัวเลือด”


จากที่คิดว่าน่าจะดี คะแนนก็กลับร่วงลงมาอีกแล้ว


กฤษ “ แล้วคิดว่าจะอยู่ที่นี่ไปนานกว่า 5 ปีไหมครับ”


เมฆ “น้องฝึกงานแล้ว จะทำงานต่อที่นี่ก็ได้นะ มาแทนพี่ก็ได้”


กฤษ “ผมไม่ไปแย่งงานพี่หรอกครับ”


เมฆ “ฉันก็กลัวว่า ถ้าอยู่เกิน 5 ปีแล้วจะลาออกไม่ได้”


กฤษ “ทำไมล่ะครับ”


เมฆ “ปกติเป้าหมายแค่ 5 ปี ถ้าเกินเป้าไป ก็ต้องเริ่มนับปีใหม่จริงไหม?”


จะว่าไปมันจะมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ คนอยากทำงานก็ต้องทำด้วยความรัก คนอยากจะลาออกก็เพราะได้ที่ใหม่ที่ดีกว่า


กฤษ “แล้วพี่ไม่สนุกกับงานที่นั้นเหรอครับ”


เมฆ “ก็สนุกนะ ลุงๆ ป้าๆ ที่นี่เขาก็มาประจำเลยนะ หายแล้วก็ยังมา ปัญหาสุขภาพเยอะ เอาของกินมาฝาก วันๆ ไม่ค่อยจะเหงา”


กฤษ “แบบนี้จะลาออกทำไม”


เมฆ “เผื่อย้ายบ้าน”


ยิ่งคุยไปก็เหมือนไม่จบ กฤษกลับมีเรื่องอยากจะถามต่อไปเรื่อยๆ ทั้งที่เขาเองไม่ได้มีนิสัยถามเรื่องสวนตัวของใคร


กฤษ “พี่ไม่ได้เป็นคนอยุธยาเหรอครับ”


เมฆ “ไม่ แค่มาทำงาน”


กฤษ “แล้วบ้านอยู่ที่ไหนล่ะครับ”


เมฆ “บ้านอยู่อุทัย”


กฤษนิ่งคิด พื้นที่ที่เธออยู่ คือ อำเภออุทัยของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือเธอจะหมายถึงจังหวัดอุทัยธานี
พูดอย่างกะว่า มันอยู่ห่างกันมาก คุยกับเมฆ

เหมือนคุยกับคนหลายคน ดูไม่ซีเรียส เรื่องมาก เข้ากับคนง่าย บางทีเหมือนพูดวกไปวนมากวนอารมณ์คู่สนทนา จากการที่เขาตอบมาว่า ไม่ค่อยเหงา คนไข้แวะเวียนมาหาตลอด

แต่บางครั้งคำตอบก็ย้อนแย้งอย่างเช่นเหมือนไม่ค่อยอยากสอนงานเขา แต่ก็ไม่ให้คนอื่นสอนให้ จนเขาเองเกิดความสับสน หรือเมฆเองที่สับสนตัวเอง


กฤษ “บ้านไม่ไกลแบบนี้ก็กลับได้สินะครับ”


เมฆ “ไม่ค่อยกลับหรอก ไม่มีใครอยู่บ้านแล้ว”


กฤษ “ทำไมล่ะครับ”


เมฆ “ไปอยู่กับพระอินทร์ราชาหมดแล้ว”


พระอินทร์ราชา......คืออะไร? ความหมายคำพูดแบบนี้....หรือหมายถึง พ่อ แม่ พี่น้อง เสียชีวิตหมดแล้วอย่างนั้นหรือ?


กฤษ นิ่งเงียบไปครู่ เขาควรจะเอ่ยอะไรต่อจากนี้ดี เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนจิตใจของคู่สนทนา


กฤษ “แล้วเพื่อนๆ ที่ทำงานดีไหมครับ”


เมฆ “เขาก็ดีกันหมดนะ มีเต่คนพิการ เดี๋ยวก็มาขอนวดฟรี หลังๆ เลยต้องเก็บเงิน เวลาเราขอให้นวดคืน ไม่เห็นมีใครทำให้”


อ้อ...เป็นความน้อยเนื้อต่ำใจที่อยากจะสื่อออกมาเป็นแน่

เพื่อนๆ กลายเป็นคนพิการไปหมดแล้ว


เมฆ “ผอ ก็ร้าย มาจับผิดทุกวัน มาวันละโรค หมอปัจจุบันก็มี ดันมาบอกว่ากลัวเข็ม”


กฤษถึงกับหลุดขำ


เมฆ “กลัวเข็มแล้วไปเรียนหมอทำไม จริงไหม? คนสมัยนี้ ชอบมาสร้างความลำบากให้คนอื่น”


กฤษ “เขาเป็นอะไรล่ะครับ”


เมฆ “จะเป็นอะไร ก็มากินชาฟรี กินขนมฟรี ประคบฟรี อบตัวฟรี”


กฤษ “ดูพี่ใจดีจังครับ”


เมฆ “ฉันไม่ได้ใจดีนะ ฉันเก็บตังค์”


กฤษ “มีที่พักให้ผมไหมครับ ผมไม่นอนวัดนะครับ”


เขารีบหาเรื่องต่อ การนอนวัดที่เขาบอกคราวที่แล้วกลัวเป็นเรื่องจริง


เมฆ “เดี๋ยวดูก่อน หอน่าจะเยอะ ก็มาหาหอพักก่อนก็ได้นะ”


กฤษ “แต่ผมไม่เคยไปที่นั่นเลยนะครับ”


ปกติเขาไม่เคยแสดงความอ่อนแอหรือร้องขอความเห็นใจจากใครไปก่อน


เมฆ “ช่วงที่หาหอไม่ได้ก็พักบ้านพี่ไปก่อนล่ะกัน มีว่าง 2 ห้อง”


การที่บ้านเขาว่างตั้ง 2 ห้อง แสดงว่า บ้านน่าจะหลังใหญ่ไม่ใช่น้อย แล้วทำไมถึงเหลือตั้ง 2 ห้อง คนในวัยนี้ สมควรที่จะมีลูกมีเมียไปแล้วไม่ใช่เหรอ ตัวเขาเองก็ยังตั้งเป้าว่า อายุ 30 ก็ควรรีบหาผู้หญิงแต่งงาน เพราะถ้าหาไม่ได้ มันจะลำบากแม่วรรณคดีที่ราวีเขาเรื่องคู่ครองไม่จบสื้น

 



Create Date : 08 พฤษภาคม 2566
Last Update : 8 พฤษภาคม 2566 15:52:06 น.
Counter : 522 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร

  
ฮั่นแน่มีแวว เริ่มชวนมาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว

โดย: หอมกร วันที่: 8 พฤษภาคม 2566 เวลา:10:07:25 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]