มีนาคม 2553

 
1
2
4
5
7
8
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
24
25
26
27
28
29
31
 
 
10 มีนาคม 2553
ตอนที่ 5 ความลับ



โก้ สงสัยมาตลอดว่าทำไมเค้กจึงสามารถทำขนมที่แสนอร่อยนี้เพียงคนเดียวได้ แล้วยังผู้ชายที่ท่าทางน่ากลัวนั้นด้วยล่ะ เขาเป็นใครกันดูสนิทสนมกับพี่สาวอย่างมาก แต่โก้ก็ไม่กล้าถามอยู่ดี

ความตั้งใจของเขาคือ จะต้องช่วยงานให้เต็มความสามารถเพื่อตอบแทบพระคุณของเค้กที่ช่วยเหลือเขา

ทุกวันเขาจะต้องเปิดร้านตอน 9 โมงหลังจากที่เค้กจัดร้านเสร็จแล้ว และขายของอยู่ที่ร้านคนเดียว บางวันผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่ท่าทางน่ากลัวก็มาช่วยเขาขาย ดูท่าทางเขาน่ากลัวเอามากๆ โก้ไม่ค่อยถูกชะตากับเขานัก แต่เขาก็ดูเอาใจใส่กับเค้กและอ่อนโยนกับเธออย่างไม่น่าเชื่อ ที่สำคัญดูเขาจะชอบกินขนมหวานเป็นพิเศษ

โก้ยังไม่ได้เข้าโรงเรียนเขาต้องรอเทอมหน้าจะมาถึงซึ่งเป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ของปีนี้ เหลือเวลาอีกตั้ง 4 เดือน

วันนี้ก็เช่นกัน ห้องนอนของโก้อยู่หลังร้าน แม้มันจะดูไม่กว้างขวางเท่าไหร่แต่ก็ใหญ่กว่าบ้านเขาอีก เป็นที่ที่พี่มะลิเองก็เคยค้างที่นี่ วันนี้เขาตื่นแต่เช้า เขาอยากจะช่วยเค้กทำขนมแต่ก็ไม่สามารถเปิดประตูเข้าไปในห้องเก็บขนมได้เนื่องจากมันถูกล็อคจากอีกด้านหนึ่ง หากเค้กไม่เปิดตอนเ 9 โมง เขาก็ไม่สามารถเข้าไปได้

โก้เดินออกจากร้านเพื่อเก็บกวาดใบไม้รอบบ้านห้องทำขนมที่เขาไม่เคยเข้าไปม่านเปิดเอาไว้ โก้จึงตัดสินใจปีนขอบหน้าต่างเพื่อขึ้นไปดู

เขาเห็นเค้กง่วนกับการจัดเตรียมขนมใส่กล่องโดยมีผู้ช่วย...รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาน่ากลัวมีเขางอกหน้ากลัว ใส่ชุดคลุมสีดำ เขาไม่ได้ทำอะไรมาก เพียงสบัดมือครั้งเดียวขนมที่อยู่ในถาดก็ลอยไปลงกล่องอย่างเรียบร้อย

“อ้า......อ้ายยยย...” โก้ตกใจมากเขาตกจากขอบหน้าต่าง เค้กหันมามองตามเสียง

“โก้.....” เค้กร้องเสียงหลง

โก้รู้สึกตัวตื่นก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหน้าเค้กอยู่ตรงหน้า หันไปมองข้างเตียงชายร่างสูงหน้าตาดุก็ยังอยู่ยืนอยู่ข้างๆ

“โก้....เป็นไงบ้าง”

“ผี.....ผี” โก้ชี้หน้าฟาร์ยทำท่าทางกลัวสุดๆ

“นี่เจ้า....บังอาจเปรียบเทียบข้ากับเดียรฉานงั้นหรือ?” เสียงทุ้มน่ากลัวเอ่ยถาม โก้ตัวสั่นอย่างหวาดกลัว

เค้กจึงกอดโก้เอาไว้

“ไม่ใช่หรอกจ๊ะ โก้...เขาไม่ใช่ผีหรอก ถ้าเป็นผีเราจะมองเห็นได้ยังไงล่ะ” เค้กปลอบเขา

“แต่ว่า.....ทำไมเขาถึงมีเขา แล้วยังหน้าตาน่ากลัวด้วยล่ะ....”

“ข้าไม่ใช่ผีหรอกนะเจ้าเด็กน้อย เราก็เคยเจอกันแล้ว จำไม่ได้เหรอ”

โก้นึกทบทวนความทรงจำ วันที่เขาขโมยขนมที่ร้านของเค้ก เขาจำได้ว่าชายร่างสูงใหญ่ที่จับตัวเขาในวันนั้นแล้วยังพามาหาเค้กที่นี่

และชายร่างสูงใหญ่ที่สบัดมือทีเดียวก็ส่งร่างพ่อปลิวละล่องไปตกเสียไกล ท่าทางหน้าตาก้ไม่ได้ต่างจากคนที่อยู่ตรงหน้าเขาเลย

“จ้ากกกก...ผีแน่ๆเลย” โก้กระโดดขึ้นจากเตียง

“โก้....ใจเย็นๆจ๊ะ....นี่เขาไม่ได้เป็นผีนะ...แต่เป็น....ปีศาจ” เค้กเอ่ย

แต่ก็ยิ่งทำเด็กน้อยตาเหลือกลาน

“ปีศาจจจจจ” โก้เป็นลมไปอีกครั้งเมื่อมองหน้าอันน่ากลัวของจอมปีศาจ
หลังจากที่สลบไปร่วมครึ่งชั่วโมง โก้ตื่นขึ้นมาเห็นหน้าของเค้กยังอยู่ตรงหน้า

“พี่เค้ก......” เขามองไปรอบห้องไม่มีเงาดำๆ อยู่ที่นั่นแล้ว

“ขอโทษนะที่ทำให้โก้ตกใจ กลัวหรือเปล่า”

“เอ่อ......ผม.....”

“ก็คงกลัวสินะ ใครเห็นแบบนี้ แต่ที่จริงเขาไม่น่ากลัวหรอก เขาน่ะเป็นคนช่วยพวกเราจำไม่ได้เหรอ” เค้กเอ่ย

โก้นึกถึงคราวที่เขาปรากฎตัวออกมาช่วยตอนที่เค้กจะโดนพ่อตี

“แต่เขาเป็นปีศาจนะ ปีศาจมีอยู่จริงด้วยเหรอครับ” โก้ถามอย่างตื่นๆ
“เขาเป็นเพื่อนพี่จ๊ะ”

“เพื่อน...พี่เค้ก” โก้ทวนคำช้าๆ ด้วยความงุนงง

“โก้กลัวพี่ไหมล่ะ?”

โก้ทำหน้าทบทวน หน้าตาสดใสที่อยู่ตรงหน้า รอยยิ้มอันอ่อนโยน ความใจดีของเค้กที่มีให้เขา เธอคอยดูแลเอาใจใส่เขาตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เขารู้สึกอบอุ่น เค้กเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก แม้เธอจะเป็นคนพูดน้อย ไม่มีเพื่อน แต่ก็เป็นคนที่โก้ชื่นชม เธอทำให้เขารู้สึกดีมากความใจดีและอบอุ่นทำให้เขาวางใจว่าอนาคตของเขาเองต้องดีกว่าเดิมสิ่งเหล่านั้นที่เธฮหยิบยื่นให้อย่างไม่หวังผลตอบแทนมากไปกว่าให้โก้เป็นคนดีราวกับว่าเธอเป็นพี่สาวเขาจริงๆ

“ไม่ครับ” เขาตอบเบาๆ

“ก็นั่นสิ เขาก็เหมือนพี่นะ เขาไม่น่ากลัวหรอกจ๊ะ” เธอบอกโก้

โก้เงยหน้ามองใบหน้ายิ้มสดใส หัวใจเต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“แต่เขา......”

“เขาจะเป็นอะไรไม่สำคัญหรอกจ๊ะ เพราะเขาเป็นเพื่อนเรา”

“เพื่อน...”

“ใช่จ๊ะ คนเป็นเพื่อนมันไม่ได้สำคัญแค่ว่าเขาจะมีรูปร่างน่าตาเป็นยังไง? เกิดที่ไหน? เป็นอะไร? แต่มันอยู่ที่ว่าเขามีความจริงใจให้กับเรามากแค่ไหร? เขาเป็นเพื่อนพี่ เป็นคนที่พี่ไว้ใจ เหมือนอย่างที่พี่ไว้ใจโก้ไงล่ะ เราจึงได้มาอยู่ด้วยกัน”

“ฮ้า.....งั้นเหรอครับ” โก้เริ่มเข้าใจ

เค้กลูบหัวเด็กชายวัย 13 ขวบอย่างเอ็นดูพลอยปัดเป่าความหวาดกลัวนั้นหายไป

“เมื่อเราพบเจอคนที่เขาจริงใจกับเราแล้ว ก็ต้องตอบแทนเข้าด้วยความจริงใจเช่นกันนะจ๊ะ นี่แหล่ะคือมิตรภาพของความเป็นเพื่อน”

รอยยิ้มอบอุ่นที่ระบายทั่วใบหน้าใส พลอยทำให้โก้เองอบอุ่นใจไปด้วย

เพราะเขาเป็นเพื่อนพี่เค้ก เป็นคนที่พี่เค้กไว้ใจ งั้นผมก็ต้องไว้ใจเขาด้วยสินะ
“งั้นผมก็ต้องไม่กลัวเขาสินะครับ”

“จ๊ะ..ที่นี้ก็หายกลัวแล้วใช่ไหม?”

“ครับ”

“โก้จะพักอีกหน่อยก็ได้นะจ๊ะ เพราะพี่จะไปเรียนแล้ว”

“ไม่ล่ะครับ ผมต้องไปขายขนม ผมต้องทำตัวเป็นประโยชน์ให้มากที่สุด ให้สมกับที่พี่เค้กไว้ใจ” เด็กชายตอบ

“ฮืม....ขอบใจจ๊ะ” เค้กลุกขึ้นจะออกจากห้องไปเธอหันกลับมาหาเด็กชาย

“อ้อ....เรื่องของพวกเราเป็นความลับนะจ๊ะ”

ความลับ...แม้เด็กชายจะไม่ค่อยเข้าใจนัก ความสงสัยที่ว่าแม้เค้กจะเป็นเพื่อนปีศาจได้ยังไงนั้นมันก็หายไปจากหัวแล้วการช่วยปิดบังเรื่องแค่นี้ให้คนที่ไว้ใจเขาทำไมจะทำไม่ได้

“ครับ” เด็กชายรับปาก

“เจ้าน่ะใจดีเสมอเลยนะ” ฟาร์ยในชุดพนักงานร้านขนมยืนกอดอกอยู่หน้าห้องของโก้เมื่อเค้กเปิดประตูออกมาก็เจอเขา

“ไม่ดีนะมาแอบฟังคนอื่นคุยกันแบบนี้”

“ฮืม.....แล้วไอ้ที่บอกว่าเป็นเพื่อนกันน่ะมันหมายความว่ายังไง?” เขาแยกเขี้ยวใส่
เค้กเอียงคอมองหน้า

“เอ๋.....ถ้าไม่ใช่เพื่อนแล้วนาย....จะอยู่ในฐานะอะไรได้นะ....ทาสรับใช้งั้นเหรอ” เธอทำหน้าใสซื่อถามออกไป

“ทาสรับใช้งั้นเหรอ!!....นี่เจ้าบังอาจมากเกินไปแล้วนะ เจ้าเด็กน้อย คิดว่าข้าเป็นใครกัน ฮ้า.....ยัยโง่” ฟาร์ยพูดเสียงดังก่อนจะเข้าล็อคคอเล็กๆของอีกฝ่ายเอาไว้

“อ้า.....ช่วยด้วย” เค้กร้องเสียงหลง

ป๊าบบบบ

เสียงถาดกระแทกเข้าที่หัวของฟาร์ยอย่างแรง เขาหันไปมองผู้บังอาจทำร้ายเขา
“ทำอะไรน่ะเจ้าเด็กน้อย”

“ปล่อยพี่เค้กเดี๋ยวนี้นะ” โก้มองเขาอย่างเสือร้าย

“ฮึฮึ.....ตัวแค่นี้คิดจะทำอะไรข้าได้งั้นเหรอ”

“ได้ก็แล้วกันน่า.....อย่าทำร้ายพี่เค้กของผมนะเฟ้ย.........” โก้พูดอีกครั้งพร้อมกับฟาดถาดใส่หน้าของฟาร์ยอย่างแรง

เค้กร้องเสียงหลง ฟาร์ยกุมจมูกเอาไว้อย่างเจ็บปวด
เค้กต้องเข้าขวางไว้

“โก้จ๊ะ...ฟาร์ยเขาแค่แกล้งพี่เท่านั้นเองจ๊ะ” พอหันมามองหน้าจอมปีศาจที่กำลังโกรธจัด

“ฟาร์ย....” เธอตกใจกับรังสีอำมหิต

“เจ้าเด็กน้อยบังอาจจจจจจจจ….ทำกับข้าได้…….” ฟาร์ยร้องเสียงดังใส่หน้าทั้งคู่จนหัวหดไปตามกัน

“ฟาร์ย....โก้ไม่ได้ตั้งใจนะ อย่าทำอะไรน้องฉันเลย” เค้กเข้าไปกอดโก้เอาไว้น้ำตาคลอ ฟาร์ยมองอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะลุกขึ้นแล้วถอยหายไปในเงามืด

โก้หันมามองหน้าเค้กชักไม่ค่อยแน่ใจว่าฟาร์ยจะเป็นคนดีจริงหรือเปล่า ท่าทางเขาดูโหดร้ายมากกว่า

“พี่เค้ก....ผม....”

“ไม่เป็นไรหรอก....เดี๋ยวเขาก็หายโกรธเองแหล่ะ “ เธอปลอบเด็กน้อย
แต่หน้าเธอไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย




Create Date : 10 มีนาคม 2553
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2563 9:37:04 น.
Counter : 1132 Pageviews.

2 comments
  


ณ เมืองนรก
ฟาร์ยนั่งลูบจมูกที่เพิ่งโดนถาดฟาดมาอย่างโมโห
“ท่านฟาร์ย วันนี้...กลับมาเร็วจังนะขอรับ” เมลล์เล่ย์เอ่ยทักอย่างแปลกใจ

แต่พอเห็นหน้าของเจ้าเหนือหัวก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่

“พรุ่งนี้....เจ้าไปที่นั่นแทนข้าด้วยแล้วกัน”

“มีอะไรเกิดขึ้นหรือขอรับ.....มีปัญหากับท่านเค้กหรือขอรับ”

“ข้าไม่อยากจะเจอหน้ายัยนั่น”
“เจ้าเด็กคนนั้นบังอาจทำร้ายข้า” เขาทุบโต๊ะเสียงดังอย่างโมโห
มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ

“แล้วเค้กยังเข้าข้างเจ้านั่นอีก เห็นคนอื่นดีกว่าข้า....” เสียงเศร้าสร้อยในทีหลังทำเอาคนฟังต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้
เรื่องเจ็บตัวไม่สำคัญสินะ เห็นท่าทางที่เอาตัวปกป้องเด็กคนนั้นแล้วทำเอาจอมปีศาจถึงกับน้อยอกน้อยใจ
เฮ้อ......ท่านฟาร์ย เปลี่ยนไปมากจริงๆ

วันรุ่งขึ้นเค้กแปลกใจที่พบชายหน้าตาแปลกไปจากเดิม
“คุณเป็นใครกันคะ?” เธอเอ่ยถาม

ใบหน้าที่ดูจะอ่อนโยนและใจดีไม่เหมือนกับปีศาจของเขาดูไม่น่ากลัวนัก

“กระผมชื่อเมลล์เล่ย์เป็นทหารคนสนิทของท่านฟาร์ยขอรับ” เขาโค้งคำนับเธอ

“อ้อ......เห็นเขาพูดถึงคุณบ่อยๆ แต่แปลจังทำไมคุณด๊ใจดีกว่าเขามาก” เธอเอ่ย เมลล์เล่ย์ถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้

“แล้วทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะคะ”

“ท่านฟาร์ย...เอ่อ.....ท่านฟาร์ยไม่สบายขอรับ” เขาแก้ตัวให้เจ้านาย

“ปีศาจไม่สบายได้ด้วยเหรอ?”

“ขอรับ”

“ฮืม...ฉันควรทำขนมเยื่อมไข้เขาด้วยสินะ”

เมื่อเมลล์เล่ย์กลับนรกเขานำขนมที่เค้กฝากมาให้แก่ฟาร์ย ในที่แรกเขาทำทีไม่สนใจ แต่พอคนอื่นๆไปแล้วก็กินอย่างอร่อย เมลล์เล่ย์ได้แต่แอบขำกับจิงโจ้

“ท่านฟาร์ย....สงสัยจะไม่สบายจริงๆนะขอรับ คุณเลล์เล่ย์” จิงโจ้เอ่ย
“แต่ข้าก็เพิ่งจะเคยเห็นท่านฟาร์ยงอนก็คราวนี้แหล่ะ” เมลล์เล่ย์ปรารภ

“แปลกจังเลยนะ...ปกติท่านน่ะเป็นคนเอาแต่ใจ และก็ไม่เคยสนใจใยดีใครด้วย แต่ว่าแม่หญิงท่านนั้นทำให้ท่านเปลี่ยนไป ท่านดูอ่อนโยนและพูดจากดีกับข้าตั้งหลายครั้ง” จิงโจ้ทำหน้าดีใจ

“นี่แหล่ะน้า...เขาเรียกว่าความรักเปลี่ยนได้ทุกอย่าง”
“ความรักงั้นเหรอครับ” จิงโจ้ทำหน้าแตกตื่น

หลายวันผ่านไปฟาร์ยก็ยังไม่ยอมไปเมืองมนุษย์แต่เค้กก็ยังส่งขนมฝากเมลล์เล่ย์มาให้ทุกวัน แม้เมลล์เล่ย์จะพยายามแก้ต่างว่าฟาร์ยติดงานที่เมืองนรก แม้จะเห็นเค้กยิ้มตอบว่าไม่เป็นไรนะ แต่สิ่งที่เมลล์เล่ย์เห็นความผิดปกติของทั้งคู่ คือความเศร้าที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นมาในใจของทั้งสอง

“หมู่นี้ดูพี่เค้กหน้าตาไม่สู้ดีเลยนะครับ” โก้เอ่ยถามขณะช่วยกันเก็บร้าน

“มีเรื่องอะไรหรือปล่าครับ ผมพอจะช่วยได้ไหม?” โก้พยายามชวนคุย

“ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ โก้รีบนอนเถอะนะ พี่ก็จะไปนอนแล้วเหมือนกัน” เธอบอกเพียงเท่านั้น

แต่โก้ก็รู้ว่าเป็นเพราะไม่มีฟาร์ยมาปรากฎตัวให้เห็น เค้กถึงได้เศร้าขนาดนี้

เค้กเข้าไปในบ้านแม้จะเคยมีเงาของฟาร์ยเคยป้วนเปื้อนอยู่ที่นี่วันนี้มันว่างเปล่าและเงาจับใจ

“ฟาร์ย.....นายทำอะไรอยู่นะ ทำไมถึงไม่ยอมมาพบหน้าฉันบ้างเลย นายเกลียดฉันแล้วเหรอ ไม่อยากมาพบกัน คุยกันเหมือนเคยหรือไงกัน ทั้งๆที่ฉันอุตส่าห์ทำขนมที่ใส่ทั้งความรักความห่วงใยไปให้ มันไม่ถึงนายเลยหรือไงนะ” เค้กเอ่ยเศร้า ล้มลงนอนบนโซฟา

ณ เมืองนรก
ฟาร์ยกำลังกินขนมหน้าเศร้าที่เห็นเค้กเป็นแบบนั้น

“นี่เจ้า.....ใส่ความรักความห่วงใยลงไปในนี้งั้นเหรอ? มิน่าล่ะมันถึงได้อร่อย ทุกอย่างที่เจ้าทำ....” เขาเอ่ยมองดูจานขนมอยู่ในมือยิ้มจางๆปรากฎที่มุมปาก

“ข้าถึงกินมันทุกวันนี่ไงล่ะ ข้ากินมันหมดทุกวันเลยนะ และข้าก็เข้าใจแล้ว ความลับของขนมคือสิ่งนี้เองใช่ไหม? งั้นพรุ่งนี้ข้าจะไปหาเจ้าแต่เช้าเลยนะ”
เมลล์เล่ย์ได้แต่อมยิ้มอย่างยินดี

แต่แล้ว.....

“ท่านฟาร์ย....ท่านย่าเรียกพบพะยะค่ะ” จิงโจ้วิ่งตื่นเข้าห้องมา
“ฮืม.....มีเรื่องอะไรกัน ท่านย่ากลับมาจากไปทัวร์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

“มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วพะยะค่ะ ท่านเรียกหาท่าน ต้องการพบด่วนเลยพะยะค่ะ”

ฟาร์ยทำหน้างุนงง...ปกติ ท่านย่าผู้เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่ยังเล็ก แม้จะรักใคร่เอ็นดูมากขนาดไหน ตั้งแต่เขาโตเป็นหนุ่มท่านก็มิได้สนใจใยดีเขานัก แล้วหันไปเอาใจใส่กับเหลนตัวเล็กๆแทนตั้งนานแล้ว หรือว่ามีเรื่องสำคัญอะไร

“ท่านย่า....เสด็จกลับตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ” ฟาร์ยโค้งอย่างสง่า พลางผายมือเพื่อรับเอานิ้วเรียวขึ้นมาจุมพิษ

“ย่ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ...แม๋..เจ้าน่ะตั้งแต่โตมาเนี่ยดูห่างเหินจากย่าเชียวนะ” หญิงสูงวัยแต่หาแก่ไม่จีบปากจีบคอกัดเขา

“หามิได้หรอกครับท่านย่า เพียงแต่ท่านมีเหลนตัวเล็กๆ คอยออดอ้อนอยู่แล้วผมเองก็โตแล้ว มิอยากจะแย่งตำแหน่งคนโปรดของทานย่า ให้เด็กๆพวกนั้นสำคัญจะดีกว่า” เขาออกตัว

“จริงรึ......หรือว่าเจ้าน่ะมัวแต่ไปเที่ยวเล่นเมืองมนุษย์จนเพลิน” เสียงแหลมเล็กเอ่ย

“มิตอบรึ...แสดงว่าจริงสินะ อิอิอิ” เสียงหัวเราะที่เหมือนคมมีดกรีดหัวใจของผู้สูงวัยทำเอาฟาร์ยนิ่งงันไป

“เจ้าน่ะเป็นถึงจอมปีศาจ เกิดในตระกูลราชา เป็นความหวังของเหล่าปีศาจทั้งหลาย เจ้าคงไม่คิดทำเรื่องอะไรที่ดูไร้สาระหรอกนะ” เสียงเข้มๆของอีกฝ่าย

“และอีกอย่างเจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าย่านะมองอลิสเอาไว้แล้ว วัยอย่างเจ้าน่าจะมีคนคอยปรึกษาที่ดี อย่างน้อยก็จะทำให้เจ้าไม่หลงผิดได้”

“กับอลิสเราเป็นเพียงเพื่อนกัน และหลานไม่คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิดนะครับ” เขาเอ่ยแย้งหลังจากฟังอีกฝ่ายพูดมานาน
“นี่เจ้าคิดจะแข็งข้อกับย่างั้นหรือ”

“เปล่า....เพียงแต่ว่าหลานรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่” เขาตอบ

“นี่เจ้า....กล้าขัดคำสั่งย่างั้นเหรอ” คำพูดที่ฟังดูเหมือนโกรธของอีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำให้ฟาร์ยวิตก

“ท่านย่าครับ...เรื่องนี้ขอให้หลานได้ตัดสินใจเอง แล้วจะพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ”

“ฮืม.....เจ้าคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใคร......ย่าไม่ปล่อยเรื่องนี้ง่ายๆหรอกนะ”

ฟาร์ยลุกขึ้นยืนเขาโค้งเพื่อลาผู้อาวุโส

“หลานเองได้ตัดสินใจแล้ว ต้องอภัยด้วยที่มันอาจจะทำให้ท่านย่าไม่พอใจ”

ฟาร์ยเดินออกไปจากห้องแม้สีหน้าจะดูวิตกอยู่ไม่น้อย
“แล้วเจ้าจะได้เห็นถึงความน่ากลัวของเรา….เจ้าหลานชายตัวน้อย”

ท่านย่าแมรี่เรียกทหารรับใช้คนสนิทเข้ามาหาพร้อมกับสั่งให้คอยติดตามดูหญิงสาวชาวมนุษย์ที่ฟาร์ยให้ความสนใจเป็นพิเศษคนนั้น

ฟาร์ยกับมาที่ปราศาจเขาจับจิงโจ้ปาใส่ผนังห้องอย่างแรงด้วยความโกรธ
ปลั๊กกก........

“ท่านฟาร์ยเกิดอะไรขึ้นขอรับ” เมลล์เล่ย์วิ่งเข้ามาหาจิงโจ้ที่นอนร้องครวญคราง

“ข้าไม่ยอมให้ท่านย่าทำอะไรตามใจหรอกนะ” เขาพูดออกมาสายตามุ่งมั่น
โดย: unitan วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:10:53:37 น.
  

รุ่งเช้าเค้กไปเรียนตามปกติพอเดินออกมาถึงถนนเท่านั้นเองก็ต้องตกใจที่ผู้คนวิ่งวุ่นวายกันใหญ่ และสุดถนนสายเล็กๆที่ผ่านหน้าบ้านเธอนั้นมีควันดำมหึมาพวยพุ่งขึ้นสู่ฟ้า

“ไฟไหม้.....ไฟไหม้.....” เสียงผู้คนตะโกนโหวกเหวก

“ไฟไหม้งั้นเหรอ..!!!” เค้กทำหน้าตื่น
โก้เองก็วิ่งออกมาจากร้านอย่างตกใจ

“โก๋...อยู่เฝ้าร้านนะเดี๋ยวพี่จะไปช่วยพวกเขาเอง” เธอร้องบอกเด็กชายแล้ววิ่งไปทางต้นเพลิง โก้ได้แต่ยืนละล้าละลังอยู่ข้างหลัง

เค้กวิ่งมาถึงจุดที่เกิดเหตุสุดถนนสายเล็กๆเป็นแมนชั่นเก่าๆสูงประมาณ 3 ชั้น เพลิงเกิดที่ชั้น 3 เปลวเพลิงแดงฉานอาบทั่วตึกและควันดำที่เกิดขึ้นพวยพุ่งขึ้นฟ้า เสียงผู้คนร้องเอะโวยวาย โกลาหนกันใหญ่ เค้กมองดูคนที่หนีออกมาแล้วบางคนอยู่ในสภาพเพิ่งตื่นนอนบางคนบาดเจ็บช่วยกันปฐมพยาบาล บางคนอุ้มลูกอุ้มหลานวิ่งออกมา บางคนขนของพะรุงพะรังออกมากองสุมกันด้านหน้า เด็กเล็กร้องไห้กันระงม รถดับเพลิงยังไม่มาถึงผู้คนจึงช่วยกันเอาถังน้ำใส่น้ำจากก๊อกสาดใส่ไฟกันก่อน

“ช่วยด้วยๆๆ หลานฉันยังอยู่ข้างใน” ป้าคนหนึ่งร้องไห้ตะโกนโหวกเหวกของความช่วยเหลือ

“หลานของป้าอยู่ที่ไหนคะ” เค้กวิ่งเข้าไปถาม

“อยู่ที่ชั้น 3 จ๊ะ ห้องอยู่มุมซ้ายสุด ช่วยด้วยนะ ช่วยหลานป้าด้วย เขายังเล็กอยู่เลย ฮือๆๆๆ”

“ป้าทำใจดีๆไว้นะคะ หนูจะไปช่วยเองค่ะ” เค้กมองหาผ้าคลุม เห็นผ้าหุ่มผื่นหนึ่งอยู่ใกล้ เธอจึงขอยืมวิ่งเอาไปชุบน้ในถังแล้วคลุมตัววิ่งเข้าไปในตึก

ผู้คนต่างก็วิ่งกันกวักไกว่ไม่มีใครสนใจใคร เค้กวิ่งมุ่งหน้าขึ้นชั้น 3 แม้ควันจะเยอะจนแทบสำลักเธอก็ไม่สนใจวิ่งหลบเปลวเพลิงที่พังลงมา

เมลล์เล่ย์ที่กำลังดูกระจกเงาอยู่ที่ปราสาทถึงกับอุทานออกมาอย่างตกใจ
“ท่านฟาร์ยขอรับ....ท่านเค้กแย่แล้ว” เขาร้องบอกฟาร์ย
“มีอะไรงั้นรึ”

“ท่านเค้กวิ่งเข้าไปในกองไฟขอรับ ท่าทางที่นั่นจะเกิดเพลิงไหม้ ท่านเค้กจะไปช่วยเด็กคนหนึ่งที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ในกองเพลิง” เมลล์เล่ย์รีบรายงาน

ฟาร์ยรีบมาดูที่กระจก เห็นเค้กที่กำลังอุ้มเด็กอายุ 3 ขวบเอาไว้แล้วพยายามจะฝ่าดงเปลวเพลิงออกมา

“ยัยบ้า...ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้น ไม่รู้หรือไงว่ามันอันตราย”

“ข้าจะไปโลกมนุษย์นะ หากใครมาหาข้าก็บอกว่าไม่อยู่” เขาบอกเหล่าทหารคนสนิท

“ฟาร์ยๆๆๆ.....” เสียงแหลมเล็กของใครบางคนร้องเรียกเขา พร้อมกับร่างบอบบางปรากฎกายต่อหน้าเขา

“ใครปล่อยให้ยัยนี่เข้ามาในปราสาทข้ากัน” ฟาร์ยพูดเอย่างโกรธเกรียว

จิงโจ้กระดิกหางอยู่ข้างหลังร่างน้อยนั้นถึงกับสะดุ้ง

“หม่อมฉันห้ามเธอแล้วพะยะค่ะ” เขารายงาน
อลิสหันไปทำตาขวางใส่

“จีกกี้ เจ้าอยากตายหรือไง!!!” ฟาร์ยร้องเสียงดัง

“ทำไมล่ะ ฉันอยากจะมา ใครก็ห้ามไม่ได้หรอกนะ” อลิสทำสุ้มเสียงไม่พอใจ

“ก็ฉันน่ะมีเรื่องจะคุยกับท่าน”

“ข้าไม่มีเรื่องจะคุยกับเจ้า กรุณาออกไป แล้วอย่ามาที่นี่อีก”
“ต๊าย........ทำไมพูดแบบนี้กับข้าล่ะ ข้าน่ะเป็นว่าที่คู่หมั่นของท่านนะ” อลิสเรื่มทำเสียงแปร๋น

“อย่าให้ข้าต้องเสียเวลากับเข้านะ ข้ามีเรื่องต้องไปทำ”
ไม้เท้าปลายแหลมมาจ๋อที่หัวของอลิสอย่างไม่ทันรู้ตัว

“เอ่อ...แอ้.....ทำไมกันล่ะ ท่านจะไปไหนกัน” สีหน้าของปีศาจสาวเปลี่ยนไป

“เจ้ากลับไปซะ...และอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก” เสียงอันดุและเย็นเยือก

ทำเอาอลิสขนลุกไปทั้งตัวด้วยความกลัวเกรง
ฟาร์ยเตรียมจะเดินข้ามประตูมิติ

“ท่านจะไปอีกแล้วเหรอ.....ที่นั่นน่ะมีอะไรดีกัน ... มีแต่คนโง่เท่านั้นแหล่ะที่ทำแบบนั้น ข้าต่างหากล่ะที่เป็นของท่าน ทำไมท่านถึงจะทิ้งข้าไปกัน ท่านฟาร์ย” อลิสตั้งคำถาม
ฟาร์ยไม่ได้หันกลับมามองข้างหลัง

“ที่นั่นน่ะมีคนสำคัญของข้าอยู่” เสียงทุ้มๆเอ่ยก่อนจะก้าวข้ามประตูไป

อลิสตัวสั่นเทาอย่างโกรธแค้นหันมามองร่างสูงโปร่งที่หายไปแล้ว
“ยัยมนุษย์ธรรมดา ที่แสนโง่ งี่เง่านั่นเหรอ ข้าไม่ยอมรับหรอก.....ข้าไม่ยอมรับเป็นคู่แข่งให้เสียศักดิ์ศรีหรอกนะ .......ท่านฟาร์ยยยยย” อลิสตะโกนตามหลังสุดเสียงแม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะได้ยินหรือไม่

“ท่านโง่....บ้าไปแล้วนะ ที่ทิ้งคนอย่างข้าไป.....” เสียงอันสั่นเทาเอ่ยพร้อมหยาดน้ำตา

นั่นสินะข้าคงโง่ ไปแล้วที่ต้องมาหัวหมุนกับมนุษย์ธรรมดาเยี่ยงเจ้า ข้าคงบ้าไปแล้วที่ปล่อยให้คนโง่อย่างเจ้ามาทำให้ชีวิตของข้าต้องวุ่นวายเสมอ ทำไมนะทำไม.......อะไรที่ทำให้ข้าต้องวุ่นวายใจขนาดนี้

ร่างสูงใหญ่ยื่นท่ามกลางเปลวเพลิงอยู่ตรงหน้าเค้กที่กำลังหาทางหนีออกจากกองไฟที่ลุกโชติช่วง เธอได้แต่เบิกตาค้างอึ้งไม่คาดคิดว่าจะเจอเขาอยู่ที่ตรงนี้ วงแขนใหญ่ดึงร่างบางที่อุมเด็กน้อยเอาไว้เข้าไปกอดก่อนจะพากระโดดลงมาจากดึกชั้น 3 อย่างปลอดภัย รถดับเพลิงมาถึงแล้วช่วยกันระดมฉีดน้ำ เค้กส่งเด็กน้อยถึงมือป้าอย่างปลอดภัย ป้าเอ่ยขอบคุณเธอทั้งน้ำตาด้วยความดีใจที่หลานปลอดภัย
ผู้คนยังชุลมุนกับการดับเพลิงภายไปครู่ใหญ่ก็สามารถระงับเปลวเพลิงเอาไว้ได้ แต่ตัวดึกก็เสียหายไปเยอะไม่น้อย ผู้คนพูดคุยกันถึงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากห้องด้านขวาสุดที่ลืมปิดแก๊ช นายอำเภอเข้ามาดูสถานะการณ์แจ้งทุกคนให้ย้ายไปอยู่บ้านพักชั่วคราวหลังอำเภอก่อน เจ้าของตึกนั่งตาลอยอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องจริง หลังจากที่ทุกคนทะยอยย้ายของกันฟาร์ยหันมามองเค้กที่ยังยืนดูเหตุการณ์หน้าเศร้าเขาเดินเข้ามาหาดึงผ้าคลุมออกจากตัวเธอ

“จบแล้วสินะ.......เจ้าน่ะมอมแมมมากเชียวล่ะ” เขาเอ่ยแต่พอมองดวงหน้าตรงหน้าดวงตาที่สั่นเทามีหยาดน้ำมาคลอเอ่อ

“นาย....มาช่วยฉันเหรอ.....” เสียงเหมือนจะสั่นเทาแต่ก็ยินดีอยู่ในที
“ฮืม.......เจ้ากลัวหรือเปล่า”

“ก็.....” อุ้มมือใหญ่ประคองดวงหน้าเอาไว้

“ก็ข้าสัญญาไว้แล้วไง ว่าข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไร เพราะงั้นอย่าร้องไห้เลยนะ”

“ฉันคิดว่านายจะไม่มาที่นี่อีกแล้วซะอีก นายเกลียดฉันแล้วหรือไง ถึงไม่ยอมมาหาฉันเลย” เธอเอ่ยน้ำตานองหน้า ฟาร์ยเช็ดหยาดน้ำตาเบาๆ

“ถ้าเกลียดเจ้าแล้วจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันล่ะ ถ้าเกลียดเจ้าแล้วจะกินขนมของเจ้าได้ไงล่ะ?”

“นี่นายมาที่นี่เพื่อกินขนมงั้นเหรอ?” หน้าตูมขึ้นมาทันที
“เอ่อ....” ฟาร์ยทำหน้าเหลอ

“สุดท้ายแล้ว นายก็เป็นแค่คนตะกละเท่านั้นแหล่ะ ถ้าไม่ช่วยฉันก็จะไม่มีคนทำขนมให้กินใช่ไหมล่ะ?”

เค้กมองเขาอย่างเสียใจก่อนจะเดินหนีไป
“เอ๋....เดี๋ยวก่อนสิ” ฟาร์ยร้องตาม

“ข้าไม่ได้มาเพื่อกินขนมหรอกนะ...ข้าไม่รู้ทำไมถึงต้องมารู้เพียงแค่ว่าอยากเห็นหน้าของเจ้า เห็นรอยยิ้มของเจ้า ข้าคิดถึงมัน” เสียงทุ้มๆเอ่ย

เค้กหยุดเดินหันมามองจอมปีศาจที่เดินตามมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“คิดถึง.....” เค้กไม่อยากจะเชื่อที่จะได้ยินคำพูดแปลกๆจากปากของฟาร์ย

“ใช่....ข้าคิดถึง” เขาก้มหน้าอายๆ เค้กหันหน้าหนีเพื่อกลั้นหัวเราะ

“ข้าต้องอดทนอย่างกระวนกระวายใจแค่ไหน ตลอดเวลาที่ไม่มาที่นี่ ในที่สุดข้าก็รู้ว่า ข้าไม่อาจจะทนได้ ข้าจึงต้องมาไงล่ะ”
“แล้วทำไมนายไม่อยากจะมาล่ะ”

“มันเป็นความลับ”

“ความลับ” เค้กมองหน้าคม ความลับของเขาคืออะไรกันนะ
ฟาร์ยยื่นมือมาตรงหน้า
“เอ๋....”

“ส่งมือเจ้ามาสิ” เขาบอก

เค้กหน้าแดงเมื่อวางนิ้วเรียวลงบนอุ้มมืออุ่น

“ทีนี้....เจ้าก็อยู่ในอุ้มมือของข้าแล้วล่ะ” เขาพูดอย่างผู้ชนะ
“พูดอะไรของนาย”

“เรากลับกันเถอะ ข้าคิดถึงขนมของเจ้าเหมือนกันนะ”

“เฮอะ.....สุดท้ายนายก็ต้องพูดแบบนี้” เค้กอดต่อว่าไม่ได้ขณะเดินตามเขา

“ก็แน่ล่ะ......เพระมันใส่ทั้งความรัก ความคิดถึงของเจ้าลงไป ข้ารับรู้ถึงมันได้อย่างดีมันเลยทำให้ข้าต้องมาปรากฎที่นี่ไงล่ะ….มันเป็นความลับของเจ้าสินะ....” เขาเอ่ยเบาๆ

เค้กเงยหน้ามามองใบหน้าที่ยิ้มอย่างมีความสุขของอีกฝ่าย ทำเอาหัวใจเธอเต้นแรง

“ตาบ้า....อย่าพูดเอาแต่ได้คนเดียวแบบนี้สิ” เธอทุบแขนเขาเบาๆพลางสบับมือให้หลุดแต่ก็ไม่เป็นผล

“ฮึๆๆๆๆ” เขาหัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว
เค้กก็อดยิ้มอย่างเป็นสุขไม่ได้

ฉันจะทำขนมที่ทำให้นายสำลักไปเลย

ได้เลยยัยโง่.....เจ้าจะใส่อะไรลงไปข้าก็สามารถกินได้ทุกอย่างที่เจ้าทำอยู่แล้วล่ะ

มันคงเป็นเหตุผลที่ข้าเองก็ไม่มีวันเข้าใจสินะ ความรู้สึกที่.....มนุษย์ธรรมดาอย่างเจ้าที่ทั้งโง่ งี่เง่า แต่ก็ทำให้จอมปีศาจอย่างข้า ใจละลาย
โดย: unitan วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:10:55:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]