มีนาคม 2553

 
1
2
4
5
7
8
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
24
25
26
27
28
29
31
 
 
ตอนที่ 2 เรื่องของขนมหวานและคนชอบขนมหวาน




วันนี้ในห้องเรียนมีอาจารย์จากฝรั่งเศษมาสอนทำขนมหวานสไตส์ฝรั่งเศษ

“วันนี้เมนูแรกนะคะ Montblanc มันท์บลานซ ค่ะ” อาจารย์แนะนำ

ส่วนประกอบได้แก่

1. ชิฟฟ่อน ทาด้วยน้ำเชื่อมบรั่นดี
2. มูสเกาลัค
3. เกาลัคครีม บีบรอบๆ
4. วิปครีม

“ทุกคนตั้งใจดูอาจารย์แมรี่สาธิตด้วยนะ แล้วก็อย่าลืมแลคเชอร์ด้วยค่ะ”

นักศึกษาทุกคนต่างก็ตั้งใจฟังการสาธิคและเริ่มลงมือทำตามที่อาจารย์แมรี่สอน
พิมานแอบดูเค้กที่ทำหน้าเอาจริงเอาจัง

“ยัยคนนี้มักเป็นแบบนี้ตลอดเลยนะเวลาอยู่ในห้องเรียน” เขาบ่นกับตัวเองเบาๆ

หลังจากที่ทุกคนรอผลการอบขมปังที่จะนำมาส่วนประกอบของ มันท์บลานซ อาจารย์แมรี่ก็ได้เล่าประสบการณ์การทำอาหารฝรั่งเศษให้ลูกศิษย์ และยังสอนทำเกาลัคครีมสูตรพิเศษเป็นของตัวเองด้วย

หลังจากที่ขนมของแต่ละคนถูกวางเรียงอยู่ที่หน้าชั้นของห้องเรียนเรียบร้อยแล้ว

“มาดูกันนะคะว่าใครฝีมือดีที่สุด” อาจารย์แมรี่เอ่ยก่อนจะค่อยๆตักขนมของลูกศิษย์ชิม

“มันท์บลานซ ที่อร่อยที่สุด รู้ไหมว่าหัวใจมันอยู่ที่ไหน?” อาจารย์สาวเอ่ยถาม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ต้องการคำตอบนัก

“อยู่ที่ เกาลัคครีม หากได้เนื้อครีมนุ่มและมีกลิ่นหอมหวานขอเกาลัคผสมอยู่ด้วยแล้วล่ะก็จะทำให้ มันท์บลานซ จะอร่อยเลิศรสทีเดียว”

อาจารย์แมรี่ตักชิมไปเรื่อยๆ

“ทุกคนทำได้ดีทีเดียวค่ะ แต่ต้องพยายามปรับปรุงกลิ่นของเกาลัคครีมให้นุ่มกว่านี้ เพราะส่วนมากแล้วจะค่อนข้างมีกลิ่นไหม้และฉุนของเกาลัคที่โดนขั้วจนไหม้เกินไปจนทำให้ มันท์บลานซ ดูแข็งไปด้วย”

อาจารย์มาหยุดอยู่ที่จานสุดท้ายของห้อง

“พวกเธอเคยถามตัวเองหรือเปล่าว่าทำไมชอบทำขนมหวาน?”
อาจารย์แมรี่เหลือบมองชื่อของเจ้าของจานใบสุดท้ายนั้น

“คณิศรา เธอพอจะบอกครูได้ไหมว่าทำไมเธอถึงชอบทำขนมหวาน?”
เค้กที่นั่งอย่างสงบอยู่แถวหลังสุดลุกขึ้นยืนอย่างงงๆ

“ว่าไงคะ” แมรี่ถามซ้ำ

รอยยิ้มหวานปรากฎเต็มดวงหน้าใสก่อนจะตอบอย่างชัดเจน

“ก็เพราะว่ามีคนชอบทานขนมหวานค่ะ” เธอตอบอย่างมั่นใจ
เพื่อนๆต่างพากันหัวเราะตลกกับคำตอบของเธอ

มีเพียงพิมานที่อมยิ้มชื่นชอบ

แมรี่เองก็ยิ้มรับคำตอบนั้น

“ใช่แล้วล่ะ หากไม่มีคนชอบทานขนมหวานแล้ว ก็คงไม่มีคนทำขนมหวานอย่างพวกเรา เธอเข้าใจความหมายของขนมหวานหรือเปล่า?”
เพื่อนๆ จึงหยุดหัวเราะ

“ขนมหวานก็คือ ความรักและความเอาใจใส่ที่เราจะใส่ลงไปขณะที่ทำค่ะ เพื่อสิ่งเหล่านั้นจะถูกถ่ายทอดถึงผู้ทานและเราก็หวังว่าพวกเขาจะชอบค่ะ”

แมรี่ถึงกับยิ้มกว้างเป็นคนที่คิดได้น่ารักเสียจริงนี่แหล่ะคือหัวใจของการทำขนม

“นี่เป็นจานของเธอใช่ไหม”

“ค่ะ”

“เธอใส่อะไรในนี้บ้างล่ะ”

“ส่วนผสมทุกอย่าง ความตั้งใจ และความคาดหวังว่าใครสักคนจะต้องละลายตามเนื้อครีมของเกาลัคค่ะ”

“ใครสักคน เธอหมายถึงครูหรือเปล่า?”

“เปล่าค่ะ หนูหมายถึงคนที่ชอบทานขนมหวานค่ะ” เธออมยิ้ม

แมรี่ยิ้มก่อนจะตักเกาลัคครีมขึ้นมาชิม ดวงตาสีฟ้าฉายแววตาเหนือความคาดหมาย เธอค่อยๆเกลี่ยครีมจนเต็มกระพุ้งแก้มแล้วให้มันค่อยๆละลายลงไปในลำคอ

“สงสัยครูคงจะละลายตามเนื้อเกาลัคจริงๆแหล่ะ คณิศรา เธอช่างมีพรสวรรค์ในการทำขนมเสียจริงนะ ขอชมจากใจจริง” ครูสาวก้มหัวให้อย่างให้เกียรติ เค้กโค้งรับอย่างยินดี

พอหมดคาบเรียนทุกคนต่างเตรียมตัวกลับบ้าน

“เชอะ...ยัยเค้กน่ะ ทำอะไรก็ขโมยซีนคนเก่งไปทุกงานเลยนะ” ฟ้าครามเมาส์กับเพื่อนๆ ทุกคนต่างหันมามองเค้กอย่างหมั่นไส้

“ใช่แล้ว หรือว่าแม่นันจะเป็นแม่มดจริงๆ อย่างที่เขาลือกันน่ะ ยังกะผู้วิเศษน่ะ ทำอะไรก็มีแต่คนติดใจไปเสียหมด”

พิมานอยู่ข้างๆถึงกับไม่พอใจที่คนอื่นพูดถึงเธอแบบนี้

“พวกเธอน่าจะเอาเวลาที่เมาส์คนอื่นแบบนี้ไม่ฝึกการทำขนมเสียดีกว่านะ เวลาจบไปเปิดร้านทำขนมจะได้ขายดี” พิมานพูดเหน็บ

สาวๆหันมามองเขาอย่างไม่พอใจแล้วต่างก็สลายตัวกันไป
พิมานจึงเดินเข้ามาหาเค้ก

“เค้ก...จะกลับเลยหรือเปล่า”

“จ๊ะ” เค้กหันมาตอบเพื่อน

พิมานเป็นเพื่อนคนเดียวที่กล้าเข้ามาพูดคุยกับเธอ ทั้งห้องมีทั้งหมด 20 คน แต่ก็เหมือนเธออยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครเลยสักคน แม้จะพยายามชวนเขาคุยด้วยก็แล้ว แต่ทุกคนต่างก็ถอยห่างออกไปทุกครั้งทำราวกับว่าเธอเป็นสิ่งน่ารังเกียจ

“เออ....ว่าแต่คนที่เธออยากทำขนมหวานให้เขาทานคือใครเหรอ” พิมานถามสิ่งที่เขาแอบสงสัยตอนที่ครูแม่รี่ถาม

“หือ....” เค้กเอียงคอถามอย่างสงสัย

พิมานหัวใจแทบหยุดเต้น



Create Date : 03 มีนาคม 2553
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2563 9:35:40 น.
Counter : 1962 Pageviews.

3 comments
  
“ยัยนี่น่ารักจริง” เขาคิดอยู่ในใจหัวใจเต้นแรง

“เธออยากจะทำขนมให้ใครทานหรอ?”

“ก้อ.....”

“นี่คณิศรา มาพบครูที่ห้องหน่อยสิ” อาจารย์ประจำชั้นมาตามเธอ

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ

“ฉันขอตัวก่อนนะ” เธอหันมากล่าวลาพิมาน

เค้กตามอาจารย์ไปที่ห้องพัก ครูแมรี่รออยู่ที่นั่น

“อาจารย์มีธุระอะไรกับหนูคะ”

“อาจารย์แมรี่ปรึกษากับครู พวกเราตกลงกันว่าจะส่งเธอไปประกวดการทำขนมฝรั่งเศษที่เขตกลางที่จะจัดในอาทิตย์หน้านี้จ๊ะ”

“คะ” เค้กแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

“ใช่....เธอจะเห้นด้วยหรือเปล่าจ๊ะ ครูชอบฝีมือของเธอมากเลยนะ เทียบกับเชฟมือดังๆได้เลย คิดถึงเนื้อครีมที่ค่อยๆละลายอยู่ในปากแล้วมันแทบทำให้ใจละลายเลยจ๊ะ ดังนั้นครูจึงอยากจะให้เธอลองเข้าประกวดการทำขนมหวานฝรั่งเศษในครั้งนี้ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตของเธอเองนะ”

“ใช่จะเค้ก ครูก็เล่าเรื่องของเธอให้อาจารย์แมรี่ฟัง ครูก็สนใจเธอเป็นอย่างมากเลยล่ะ เธอมีพรสวรรค์ด้านนี้ครูก็ต้องการให้เธอได้ก้าวไปข้างหน้า ไม่แน่นะเธออาจจะได้เป็นเชฟใหญ่ก็ได้”

“เป็นโอกาสที่ดีแล้วนะจ๊ะ การประกวดครั้งนี้มีโรงแรมดังๆ มาเป็นคณะกรรมการด้วยนะ เผลอๆ เธออาจจะโชคดีก็ได้”

ทั้งสองคนช่วยกันพูดกรอกหูของเธอแทบฟังไม่ทัน

“คือว่า.......” เค้กเองก็รู้สึกตกใจที่ได้ยินครูทั้งสองพูด
เรื่องที่ฉันชอบทำขนมหวานก็เพราะว่าเป็นสิ่งเดียวที่แม่ได้ถ่ายทอดให้ เวลาที่ฉันทำขนมเหมือนมีแม่อยู่ใกล้ๆ ความคิดถึงที่มีให้แม่มันได้ถ่ายทอดออกมาเป็นขนมทุกๆจาน แต่ว่าในตอนนี้ สิ่งที่ฉันอยากจะทำ ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเป็นผู้มีชื่อเสียงในการทำขนมถึงระดับโลก ขอแค่......มีใครคนนั้นนั่งทานขนมของฉันอย่างอร่อยก็พอแล้ว

“ว่าไงจ๊ะเค้ก” อาจารย์ถามย้ำ

“หนูไม่คิดว่าจะสามารถทำได้ขนาดนั้นหรอกค่ะ สิ่งที่หนูอยากจะทำในตอนนี้ก็คือ หนูอยากทำขนมหวานไว้รอใครสักคน คนที่ชอบทานขนมหวาน อยากเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของเขาเวลาทานขนมที่หนูทำ แค่นั้นเองค่ะ”

“เค้ก....เธอพูดเหมือนคนมีความรักเลยนะ” ครูอดแซวไม่ได้

“อ่ะ คะ....เปล่าสักหน่อย” เธอปฎิเสธหน้าแดง

“นั่นแหล่ะเป็นสิ่งที่คนทำขนมต้องคิดคำนึงถึง เธอช่างเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านนี้โดยแท้จริง” แมรี่เอ่ยอย่างชื่นชม

“ที่จริงนอกจากเธอแล้ว ครูก็ยังได้ส่ง ฟ้าครามไปทดสอบการทำอาหารฝรั่งเศษ แล้วยังมี แอริณห้องบีที่จะไปทดสอบการทำอาหารว่างด้วยนะ อย่างนี้เธอจะยอมแพ้สองคนนั่นหรือยังไงกัน”
อาจารย์พิมพกายังพยายามหว่านล้อมต่อ

“งั้นเหรอคะ”

“ครูหวังในตัวเธอมากเลยนะ แม่มดขนมหวานของครู” พิมพกายิ้มอย่างอ่อนโยน

เธอรู้จักลูกศิษย์คนนี้ดี เธอเป็นผู้โดดเดี่ยวที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งนี้ ไม่มีเพื่อนสักคนที่จะคอยพูดจาให้กำลังใจ แต่กระนั้นเธอก็เข้มแข็งมากสำหรับการอยู่ลำพังคนเดียวมาตลอด และเธอก็รู้ดีว่าลูกศิษย์คนนี้เก่งด้านการทำขนมหวานขนาดไหน ขนาดที่ว่าสะกดคนได้ทั้งเมืองมาแล้ว

ทั้งสองสบตากันนิ่งความเชื่อมั่นที่ถ่ายทอดจากสายตาอบอุ่นนั่นแสดงให้เห็นว่าเธอคาดหวังที่จะเห็นความสำเร็จของเค้กเพียงใด
แล้วอย่างนี้เค้กจะยังกล้าทำลายความหวังของเธออีกหรือ

“ค่ะ...ได้ค่ะ หนูจะทำสุดความสามารถเลยนะคะ” เค้กโค้งลงตรงหน้า

พิมพกายิ้มอย่างยินดีก่อนจะดึงคนร่างเล็กเข้าไปกอด

“ดีมากจ๊ะ ครูเชื่อว่าเธอทำได้นะจ๊ะเค้ก”

เค้กออกมาจากห้องพักครูก็ต้องตกใจที่พบพิมานยืนอย่ตรงนั้น เขารอเธอตั้งแต่ที่เธอเข้าไปแล้ว

“นายยังไม่กลับอีกเหรอ”

“ยัง...ผมรอเค้ก”

“รอฉัน?..” เธอถามอย่างสงสัย

“ก็แค่อยากจะกลับบ้านด้วย”

“บ้านเราไม่ได้อยู่ทางเดียวกันสักหน่อย” เธอถามซื่อๆ

“ก็เหอะ อยากจะกลับพร้อมกัน” ชายหนุ่มยังไม่ละ แม้จะดูเขินๆอยู่บ้างที่เธอตามเขาไม่ทัน

“ครูว่าไง”

“ครูจะให้เค้กไปทดสอบการทำขนมหวานฝรั่งเศษที่เขตกลางอาทิตย์หน้าน่ะ ยังมีฟ้าคราม กับแอริณห้องบีไปด้วยนะ” เธอบอก
“ดีจริง...อย่างนี้เค้กก็มีโอกาสได้โกอินเตอร์แล้วสิ”

“โกอินเตอร์อะไร ไม่ขนาดนั้นหรอก”

“แหม๋....ก็เค้กน่ะ ทำขนมได้อร่อยสุดๆเลยนิ แบบที่เรียกว่าสะกดคนได้ทั้งเมือง”

“นายก็พูดเกินไป” เธอเอ่ยเขินๆ

ผมเองก็อยากจะเก่งให้เท่าๆกับเค้ก

“แล้วนี่เค้กต้องเตรียมตัวอะไรบ้างล่ะ”

“คงต้องเปิดตำรา ต้องทำขนมฝรั่งเศษบ้างแล้วล่ะ อย่างน้อยคงถูกปากใครบางคน”

พิมานสงสัย ใครบางคนของเค้ก เธอพูดแบบนี้หลายรอบแล้ว
“ใครเหรอ”

“อ่ะ...โทษทีนะฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ” เค้กวิ่งลงจากตึกปล่อยให้พิมานที่ยืนค้างอยู่คนเดียว

“อะไรของเธอยัยคนนี้” เขามองตามก็ไม่เห็นเงาของเค้กแล้ว

“ไวยังกะจรวดแน่ะ”


โดย: unitan วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:19:54:29 น.
  

วันนี้ทาร์ตเบอรี่ ฉันจะทำทาร์ตเบอรี่เขาจะชอบไหมนะ

“วงเวทเอ๋ย จงเป็นประตูเปิดสู่นรก ขออันเชิญปีศาจทาสรับใช้จากนรก มาช่วยทำความปรารถนาข้าให้เป็นจริงด้วยเถิดดด....”

“เพี้ยงงงงงงงงงงงงงงง”

ร่างสูงใหญ่ปรากฎตรงหน้าของเธอพร้อมชุดคลุมสีดำอย่างน่ากลัวเหมือนเคย

“ฟาร์ย” เธอเอ่ยอย่างยินดีพร้อมรอยยิ้มหวานๆทำเอาปีศาจร้ายนิ่งงันอยู่สักครู่


“วันนี้เจ้ามีอะไร?”

“ทาร์ตเบอรี่...นายชอบไหม?”

“ชอบ...ชอบมาก” แทบจะไม่ต้องตัดสินใจในคำตอบ

ฟาร์ยนั่งเตรียมตัวที่โต๊ะเมื่อเค้กยกขนมหวานมาวางตรงหน้า

คุ๊กกี้.....กระต่ายน้อยรีบกระโดดมานั่งบนตักเธอ

ฟาร์ยทานอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนเคย

หลังจากเสร็จสิ้นขนมหวานที่เจ้าแห่งอสูรโปรดปรานเรียบร้อยเขาก็มิลืมที่จะ...

“คำขอของเจ้าในคืนนี้คืออะไร? ว่ามาสิ อยากให้ข้าทำอะไร อยากจะทำร้ายศัตรู หรือฆ่าให้ตาย หรือทำร้ายให้ง่อยเปลี้ยเสียขา”

“ไม่มี”

“หรืออยากจะได้แก้วแหวนเงินทอง เสื้อผ้าสวยๆ ของแพงๆ บ้าน รถ หรือว่า เกียรติยศ ชื่อเสียง”

“ไม่ ฉันไม่ต้องการหรอกของพวกนั้น ฉันมีหมดแล้ว” เธอตอบเสียงเรียบ

ทั้งสองยื่นหน้าแทบจะติดกัน

“แล้วเจ้าเรียกข้ามาเพื่อสิ่งใดกันล่ะเจ้ามนุษย์ผู้แสนโง่เขลาอ๋ย......เจ้าไม่มีบ้างเลยเลย รัก โลภ โกรธหลง ความอยาก ปรารถนาสิ่งเริงรมย์ทั้งหลายน่ะ ฟังดูแล้วมันช่างขัดอกขัดใจข้าผู้เป็นเจ้าแห่งความชั่วร้ายนัก”

น้ำเสียงของเขาเริ่มโมโห

“ช่วยซ่อมเตาอบให้หน่อยสิ ตัวนั้นน่ะมันเสีย ถ้ามีเตาอบแค่ 2 ตัว จะทำให้ฉันทำขนมอบได้ไม่ทัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ลูกค้าเขาต้องรอคอยทานขนมอร่อยๆ ฉันไม่อยากให้พวกเขาต้องผิดหวัง แม้กระทั่งนายด้วยนะ” เธอทำหน้าจริงจังพูดถึงเตาอบตัวที่ 3 ที่เพิ่งเสียไปเมื่อวานนี้

ฟาร์ยสบัดมือเบาๆ เตาอบที่ดูเหมือนจะเก่าก็กลับมาดูใหม่เอี่ยมเหมือนยังไม่เคยผ่านการใช้งามมาก่อน

“ฮ้า..มันจะใช้งานได้เหมือนเดิมใช่ไหม?” เธอร้องออกมาอย่างตื่นเต้นแล้วลองทดสอบเปิดดูก็เห็นว่ามันทำงานได้

“เยื่อมจังเลยฟาร์ย” เธอหันกลับมามองเจ้าแห่งความชั่วร้ายที่นั่งหน้านิ่งอยู่กับที่

“เรื่องเล็กน่า” เขาพูดแล้วสบัดมืออีกครั้ง เตาอบเก่าๆอีก 2 ตัวก็กลายเป็นของใหม่ไปด้วย

“นี่นาย ใจดีเหมือนกันนะ...” เจอคำชมแบบนี้เจ้าแห่งความชั่วร้ายถึงกับพูดอะไรไม่ออก

ฟาร์ยสบัดมืออีกครั้งเกิดลมหมุนอย่างรุนแรง

“ว๊ายยยย” เค้กร้องอย่างตกใจ
“นายย..จะทำอะไร หยุด น้า...” เธอร้องเสียหลงปิดหูปิดตาอย่างหวาดกลัว

“ขอนั่งดื่มชาหอมๆกับขนมอร่อยๆ ใต้แสงเทียน ชมพระจันทร์สวยๆ บนฟ้าที่พรายพร่างด้วยดวงดาว คำขอน่ารักแบบนี้เจ้าขอไม่เป็นมั่งหรือไง ยัยโง่” เสียงที่ดูอ่อนโยนลงของอีกฝ่ายปลอบประโลมหญิงสาวให้คลายความกลัว

เมื่อเสียงลมอื้ออึงเมื่อครู่จางไป เค้กลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่บนเก้าอี้บนโต๊ะมีจานทาร์ตหน้าเบอรี่ที่เธอเพิ่งทำให้ฟาร์ยทานเมื่อครู่ แก้วใส่ไวน์แดงใบสวย เชิงเทียนดวงใหญ่ตั้งเคียงข้างแจกันดอกกุหลาบสีแดงสด และบนท้องฟ้าที่แทบจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมทำเอาเค้กตะลึงกับพระจันทร์ดวงโต

“พระจันทร์ยังไม่เต็มดวงเลยนิ”

“อีก 7 ราตรี พระจันทร์ดวงนี้ก็จะเข้าใกล้โลกมาที่สุดในรอบ 150 ปี เราจะมีโอกาสดีๆแบบนี้ได้ก็ต้องรออีก 150 ปี ข้างหน้าเชียวล่ะ”

“ไว้วันนั้นนายพาฉันมาที่นี่อีกนะ” เค้กเอ่ยทั้งที่ดวงตายังไม่ละจากพระจันทร์เสี้ยวบนฟ้า

ฟาร์ยแอบมองเสี้ยวหน้านั้น

“ได้สิ แต่เจ้าต้องทำขนมให้กับข้าเป็นค่าตอบแทนนะ”

“ได้สิ...แต่ว่านะ ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องนายอยู่เรื่องหนึ่ง
อาทิตย์หน้านี้ช่วยไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม ฉันมีงานประกวดทำขนมฝรั่งเศษที่เขตกลางน่ะ ฉันอยากให้นายไปเป็นเพื่อน”

“เจ้านี่มันน่ารำคาญจริง”

“น่ารำคาญเหรอ...แต่ที่นั่นน่ะมีขนมอร่อยๆเยอะแยะเต็มไปหมดเลยนะ นายต้องชอบแน่ๆเชียวล่ะ”

ใบหน้าอมยิ้มอย่างอ่อนโยนทำเอาฟาร์ยแย้งไม่ได้

“ก็ได้ แต่เจ้าอย่าลืม เค้กช็อกโกแลคด้วยนะ”

“ได้สิ ฉันจะทำสุดฝีมือเพื่อนายเชียวล่ะ”

“ฮืม....”

ณ เมืองนรก

“ฝ่าบาทพะยะค่ะ หมู่นี้ชอบไปที่โลกมนุษย์บ่อยเกินไปแล้วนะขอรับ” เสียงจิงโจ้ทาสรับใช้คนสนิทเอ่ย

“เด็กสาวคนนั้นกำลังมอมเมาท่านด้วยขนมหวานนะขอรับ ท่านอย่าได้หลงมัวเมาไป กลับมาเป็นเจ้าแห่งความชั่วร้ายผู้สูงส่งเช่นเดิมเถอะขอรับ”

“เจ้านี่ช่างไม่มีความโลภกับเขามั่งเลยนะ” เสียงฟาร์ยบ่นอยู่หน้ากระจก

จิงโจ้ทำหน้าเหรอ

“ฝ่าบาทว่าหม่อมฉันเหรอพะยะค่ะ”

“เป็นผู้หญิงที่แสนจะธรรมดาเสียจริง แต่ขนมหวานของหล่อนอร่อยยิ่งกว่าใครในโลกนี้”

“โอ้ว....ฝ่าบาทพะยะค่ะ อย่าไปที่โลกมนุษย์อีกเลยนะพะยะค่ะ แล้วงานเลี้ยงปีใหม่ปีนี้.....” ฟาร์ยแขว้งไม้เท้าไปโดนหัวของจิงโจ้จนบวม

“งานเลี้ยงปีใหม่ที่ปราสาทของเจ้า ปีแอร์ ข้าจะหาตัวแทนไปเอง” เสียงประกาศิตของเจ้าแห่งความมืดเอ่ย

“ตอนนี้ข้ามีงานต้องไปทำ”

หลังจากฝ้าดูเค้กเตรียมตัวอยู่ตั้งนาน เขาเพียงรอเวลาที่เธอจะร่ายเวทเพื่อเรียกเขาเท่านั้นเอง

“ข้าเพิ่งจะถูกขอร้องอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง”

เค้กกับฟาร์ยมาถึงสถานที่จัดงานก่อนเวลาเพื่อเตรียมตัว

“ฟาร์ย....ฉันกลัวจังเลย” แม้คำพูดเหมือนจะอ่อนแอแต่น้ำเสียงที่พูดออกมาบอกว่าเธอตื่นเต้นอยู่

ฟาร์ยจับตัวเธอให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา

“เจ้าน่ะเป็นที่ 1 ของข้าอยู่แล้วนะ เค้ก”

เค้กฟังคำพูดของอีกฝ่ายแล้วหน้าแดงระรื่อ หมายความว่ายังไงนะที่ 1 ของข้าน่ะ ยิ่งทำให้เธอประหม่าเข้าไปอีก

“ว่าแต่นายทำไม...”

“เท่ห์ใช่ไหมล่ะ ที่จริงข้าน่ะป๊อปมากเลยนะ ใครๆก็ชื่นชมเสมอ” เขาทำท่าเท่ห์อวดเธอ

“นั่นเค้กนี่” เสียงของฟ้าครามเอ่ยซึ่งมาพร้อมกับแอริณห้องบี อาจารย์พิมพกา แม่รี่ และยังมีพิมานมาด้วยอีกคน เค้กไหว้ครูทั้งสอง

“เอ๊ะ....นั่นใครกันน่ะ” แอริณเอ่ยอย่างสนใจ

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อฟาร์ยเป็นเพื่อนของเค้กครับ” เขารีบแนะนำตัวอย่างดี

ทีอย่างนี้พูดดีกับทุกคนนัก ครั้งแรกที่เจอกันน่ะ จะเอาชีวิตของฉันไม่ใช่เหรอ

“ว่าไงจ๊ะเค้ก” อาจารย์หันไปถามลูกศิษย์

“ครูเชื่อว่าเธอต้องชนะเลิศแน่ๆ พยายามเข้านะ”

“ค่ะ”

ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปเข้าห้องการทดสอบของแต่ละคน ส่วนผู้ที่มาให้กำลังใจต่างก็ชวนกันเดินชิมอาหารในงานไปพลางๆ ดูเหมอืนจะถูกใจฟาร์ยเป็นอย่ามาก เพราะมีเค้กหลากชนิดให้เขาได้เลือกชิมอย่างอร่อย

ส่วนผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 ต่างก็ต้องอกตั้งใจทำการทดสอบของแต่ละคน

โจทย์ของแต่ละคนที่ได้คือนำวัตถุดิบที่ทางกองประกวดให้มาเพื่อทำอาหารตามที่กองประกวดหนดเอาไว้ ทุกคนต่างก็พยายามเต็มที่
เค้กมองดูช็อกโกแลคกับผลไม้หลายอย่างในถ้วย โจทย์ของเธอคือทาร์ตผลไม้รวม

“เค้กจ๊ะ...ขนมหวานน่ะเป็นสิ่งที่เหล่าปีศาจเพื่อนของเราชอบมากเลยนะ ลูกต้องทำขนมให้อร่อยเพื่อทำให้พวกเขาชอบและเป็นเพื่อนกับเรา และเมื่อนั้นเมื่อลูกต้องการสิ่งใดพวกเขาก็จะช่วยเหลือลูกทุกอย่าง”

“นี่คือตำราการทำขนมหวานที่แม่ขอมอบให้ลูกเอาไว้ ลูกต้องฝึกฝนเอาไว้ให้ดีนะจ๊ะ เหล่าปีศาจน่ะชอบขนมหวานที่สุดเลย สักวันหนึ่งลูกจะต้องเจอคนที่ดีแน่ๆ เหมือนแม่ไงจ๊ะ”

นั่นคือคำสั่งเสียของแม่เมื่อ 7 ปี ก่อน เธอเริ่มทำขนมหวานตั้งแต่อายุ 10 ขวบ และฝึกฝนการทำตำราขนมหวานจากแม่เมื่อตอนอายุ 13 ขวบและเป็นเจ้าของร้านขนมหวานเมื่อตอนอายุ 15 ขวบ สั่งเหล่านั้นเกิดจากการฟูมฟักของแม่ ผู้ซึ่งเป็นแม่มดขนมหวานมิใช่เหรอ แล้วเธอก็ยังเป็นแม่มดขนมหวานรุ่นต่อมา จะทำให้ชื่อเสียงของแม่ไม่สิ...ชื่อเสียงของเหล่าแม่มดขนมหวานที่มีมาหลายรุ่นต้องเสียไปคงมิได้ โดยเฉพาะสำหรับคนๆนั้นด้วยแล้ว ก็แค่อยากให้เขามีความสุขเวลาทานขนมหวานของเธอ....ใบหน้าของฟาร์ยเวลายิ้มอย่างยินดีผุดขึ้นมาในหัวของเธอ

“ฉันจะทำขนมหวานแม้แต่ปีศาจยังใจละลาย” นี่คือคำพูดของเธอที่บอกตัวเองเอาไว้เมื่อครั้งที่พบกับฟาร์ยครั้งแรก

ผ่านไปร่วมชั่วโมงเค้กออกมาจากห้องทดสอบเห็นเพื่อนๆออกมารอก่อนแล้วแต่ไม่มีเงาของฟาร์ยอยู่แถวนั้น

“เป็นยังไงบ้างจ๊ะ เค้ก” อาจารย์รีบเข้ามาถาม

“เธอออกมาช้ากว่าเพื่อเลยนะ”

“ทำขนมก็ต้องใช้เวลานิจ๊ะ การทำหน้าทาร์ตให้อร่อยแล้วล่ะก็มันมีเคล็ดลับจ๊ะ”

เธอหันซ้ายหันขวาเพื่อหาใครสักคน

“หาใครอยู่เหรอเค้ก” พิมานถามอย่างสงสัย

“ฟาร์ย เห็นเขาไหม?”

“ถ้าหมายถึงสุดหล่อคนนั้นล่ะก็ โน้น แอริณกำลังคะยั้นคะยอให้เขาช่วยชิมขนมปังกรอบหน้าหมูสเต้กที่เธอเพิ่งทำไปน่ะ” ฟ้าครามบอก

เค้กหันไปมองคนร่างสูงใหญ่ที่กำลังร่าเริงกับการทานขนมหวานที่เขาโปรดปรานข้างกายมีสาวสวยหน้าตาน่ารักคอยตักโน้นตักนี่ให้

“ลองชิมดูนะคะ คุณฟาร์ย นี่ฝีมือของฉันเอง” แอริณแทบจะป้อนเขา แต่ฟาร์ยกับดึงมือออก

“เอ่อ...ผมว่าผมทานเองดีกว่า”

ฟาร์ยทำหน้ากล้ำกลืน ถ้าเทียบกับขนมหวานแล้วล่ะก็มันคนละโลกกันเลยล่ะ

“อย่าทานนะ” เสียของเค้กดังอยู่ในใจเธอไม่อยากจะให้ฟาร์ยกินของที่คนอื่นทำ

ฟาร์ยหันไปมองเพราะเขาสามารถได้ยินเสียงนั้น

แม้จะไม่รู้สึกชอบกับพวกอาหารว่างแต่เห็นหน้าของเค้กแปลกๆแบบนี้เขาก็อยากจะยั้วะเล่น ฟาร์ยยัดขนมปังเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างอร่อย

“เป็นไงอร่อยไหมจะ” แอริณถาม

“ฮืม...” ฟาร์ยทำหน้าไม่ถูกแต่ก็ตอบไปเพราะมารยาท

“เอาอีกสิจ๊ะ” แอริณตักให้อีก

“บอกว่าอย่าทานไงล่ะ” เค้กปัดมือเขาออกจนทำให้ขนมปังร่วงลงกับพื้นทุกคนต่างก็ตกใจหันมามองเธอ

เค้กทำหน้าราวจะร้องไห้แล้วรีบวิ่งออกจากงานไป ฟาร์ยตามไปอีกคน

“เค้ก” พิมพการ้องเรียกลูกศิษย์

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ”

“ไม่รู้สิคะ ยัยคนนี้แปลกจริงๆ” แอริณตอบหัวเสีย

“นี่ยังไม่ประกาศผลเลยนะ ออกจากงานไปแบบนี้” แมรี่ชักเป็นห่วง

“ผมตามไปดีไหมครับ” พิมานเสนอ

“อย่าดีกว่านะ เธอก็เห็นนิว่าเพื่อนเขาก็อยู่ด้วย” ฟ้าครามทำหน้าขึงขังใส่ พิมานได้แต่มองตาม



โดย: unitan (unitan ) วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:20:02:00 น.
  


นี่ฉันทำอะไรลงไปน่ะ ทำเรื่องน่าอายแบบนี้ยังไงกันนะ เค้กนั่งเหม่อลอยอยู่บนรถเมล์เพียงลำพัง
เธอจึงไม่อาจจะรู้ได้ว่าผู้ที่ได้รับรางวัลการทำขนมหวานในวันนี้คือเธอเองหลังจากที่คณะกรรมการชิมต่างก็ได้ใจไปทุกคน พิมพกาเป็นผู้ขึ้นรับรางวัลแทนเธอ ส่วนฟ้าครามกับแอริณไม่ได้รางวัลอะไรเลย

ฟาร์ยยืนมองทาร์ตหน้าผลไม้รวมที่ตั้งโชว์อยู่ในงานประกวด

“ยัยนั่นจะโกรธเราหรือเปล่านะ เรากินเยอะไปจนเธออายหรือเปล่า”

ฟาร์ยยกทาร์ตจานนั้นขึ้นมา มีคนหันมามองเขา

“ผมขอชิมหน่อยนะครับ” เขาทำหน้าระรื่นกลบเกลื่อนก่อนจะใช้ช้อนตักขนมใส่ปาก

“ฮืม...อร่อยที่สุดเลย ขนมที่เธอทำมันอร่อยที่สุดในโลกเลยนะยัยโง่ แล้วอย่างนี้ฉันจะไปทานอย่างอื่นให้โง่ทำไมล่ะ”


ณ ปราสาทของจอมปีศาจฟาร์ย

“ฝ่าบาทพะยะค่ะ วันนี้ไม่ไปโลกมนุษย์หรือพะยะค่ะ” เสียงจิงโจ้คนสนิทเอ่ยถามนายเหนือหัวที่นอนเอกขเนกอยู่บนเตียง

“ฮือ....” ฟาร์ยหันมามองทำหน้าบอกบุญไม่รับ

“เกิดอะไรขึ้นฝ่าบาท”

“ไม่รู้สิ ต่อจากนี้ไปเราต้องอดอาหารเป็นเวลา 30 วัน”

“โอ้ว....ทำไมกันพะยะค่ะ”

“เพราะเราทำเรื่องขายหน้าน่ะสิ จนกว่ายัยนั่นจะยกโทษให้ ฉันจะไม่กินอะไรเลย”

“อย่าทำร้ายตัวเองอย่างนั้นเลยฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นห่วงนะ”
“พวกเจ้าต้องงดของหวานด้วยนะ”

“ห้า....มันเกี่ยวอะไรกับพวกหม่อมฉันด้วยละ” จิงโจ้ทำท่าตกใจ
“ลูกน้องทุกคนงดขนมหวาน 3 เวลา” เสียงของฟาร์ยประกาศกร้าว

วันต่อมาเค้กไปที่มหาลัยพิมพกาได้มอบรางวัลให้กับเธอ เค้กรับมันมาด้วยใบหน้าที่ไม่ยินดีนัก

ฟาร์ยหายไป....เขาหายไปจริงๆ

ผ่านไป 3 วันก็ยังไม่มีข่าวของเขาเลย

“เพริโต้....ขอบใจนะที่มาอยู่เป็นเพื่อน เอ้อนี่...........ขนมส่วนของเธอ” เค้กส่งถุงใส่ขนมหวานให้เพริโต้รับมาอย่างยินดีก่อนจะหายไปในวงแหวนเวท

เค้กหันไปหากระต่ายน้อยที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ห่างเธอนักเค้กก้มลงคุยกับเจ้าตัวน้อยเหมือนกับอยากจะคุยกับใครสักคน

“นี่ก็ 3 วันแล้วสินะ นายน่ะทำอะไรอยู่” เค้กทำหน้าเศร้า

“ฉันอยากให้นายบอกฉันว่า ยินดีด้วยนะ ขนมของเธอน่ะมันที่ 1 อยู่แล้ว....ทำไมถึงไม่มาพูดล่ะ” เค้กพูดกับกระต่ายทำท่าราวกับจะร้องไห้

“แต่ก็อย่างว่าเราไม่ได้ทำสัญญานิรันดร์ต่อกัน จะหวังให้นายมาอยู่กับฉันตลอดไปคงไม่ได้” เธอยังรำพึงต่อ

“ถ้าลูกเจอคนที่ดีด้วยแล้ว จงจับเขาเอาไว้ให้มั่นด้วยขนมที่อร่อยที่สุดที่เขาชอบ” เสียงของแม่ดังขึ้น

“ใช่สิ.....นายชอบขนมเค้กใช่ไหม ฟาร์ย...ฉันจะทำ จะทำขนมที่นายชอบที่สุด ฉันจะทำขนมแม้แต่นายยังต้องละลาย ฉันจะจับนายด้วยขนมเค้กที่ฉันทำ” เค้กตรงไปในห้องทำขนมแล้วลงมือเตรียมส่วนผสมของขนม

“นายไม่ชอบเกาลัคกับลูกเกดใช่ไหม? ฉันจะไม่ใส่มันให้เด็ดขาด”

เธอเปิดตำราขนมหวานของแม่มดออกมาเลือกขนมหวานที่ฟาร์ยบอกว่าชอบ

ณ เมืองนรก

“โอ้ววว....หิวววว....ไม่ไหวแล้วนะ...ข้าหิวววว” ฟาร์ยร้องโอดครวญอย่างน่าสงสาร

“อย่าอดเลยฝ่าบาทไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นหรอกพะยะค่ะ นี่เลยสเต็กเนื้ออย่างดี ฝ่าบาทเสวยเลยพะยะค่ะ” จิงโจ้ทาสรับใช้คนสนิทถือจานเข้าไปหา

“ม่ายยย ข้า ม่ายต้องการ” เขาร้องอย่างทรมานปัดจานสเต็กกระเด็นไป

จิงโจ้ตกใจใหญ่

“ข้าอยากกิน...อยากกิน...” เขาคลานไปที่กระจก เห็นเค้กที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำขนมอยู่คนเดียว

“ข้าอยากกินนนน.......” ฟาร์ยน้ำลายไหลจนทนไม่ได้

ฟาร์ยมาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะที่เต็มไปด้วยขนมเค้ก ส่วนคนทำนั่งหลับฟุบอยู่ที่โต๊ะเขาเดินเข้าไปหา

“เจ้าทำเกินไปแล้วนะเค้ก ข้าอดมาตั้ง 3 วันยังแทบขาดใจเลย”

“นี่มันอะไรตำราขนมแม่มด กระดาษนี่เขียนอะไรไว้น่ะ”
เขาหยิบกระดาษที่วางทับหนังสือเอาไว้ขึ้นมาดู

“ขนมที่ฟาร์ยชอบ ชอบที่สุด ชอบมาก ลูกเกดกับเกาลัคเกลียด ฉันไม่กินลูกเกดกับเกาลัค ฉันชอบชอคโกแลคที่สุด นี่เจ้าตั้งใจทำเพื่อข้าขนาดนี้เลยเหรอ เค้ก” ฟาร์ยทำกระดาษร่วงลงโดยไม่รู้ตัว

“ฉันจะกินมันให้เกลี้ยงเลยนะ ของที่เธอทำน่ะ ยัยโง่”
ฟาร์ยมองใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ยังหลับไหลอยู่บนโต๊ะด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน

เค้กงัวเงียตื่นเพราะได้ยินเสียงขลุกขลักดังอยู่ข้างหู

พอดวงตาโตเปิดกว้างแสงสีนวลที่เล็ดลอดม่านตาเธอทำเอาดวงตาโตตะลึงค้าง

“พระจันทร์ดวงโตจังเลย” เค้กพรึมพรำ หันไปมองคนข้างกายที่เธอนอนหลับพิงไหล่เขามาเนินนาน

“นาย....ฟาร์ย นายมาแล้วเหรอ” เธอถามอย่างดีใจ

“ฮืม....ก็วันนี้เราสัญญากันไว้นินา ถ้าไม่มาวันนี้ต้องรออีก 150 ปีข้างหน้าเชียวนะ” เขาตอบรับ

“ฉันนึกว่านายจะไม่มาอีกเสียแล้ว” เธอเอ่ยน้ำตาคลอ

ฟาร์ยแทบทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะร้องไห้

“นี่เจ้าจะร้องไห้ทำไม?”

“แค่คิดว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก ฉันก็เศร้าใจแล้ว”

“ฮึฮึ....ยัยโง่ ถ้าข้าไม่มาที่นี่ แล้วจะหาของอร่อยที่ไหนทานล่ะ”

เค้กสบตากับเจ้าแห่งปีศาจรอยยิ้มละไมฉายทั่วไปหน้าไม่ได้น่ากลัวอย่างวันแรกเลย

“ฉันจะทำขนมเค้กที่แม้แต่ปีศาจยังใจละลาย......” เสียงดังจากห้วงคำนึงของเธอ

จอมปีศาจได้แต่อมยิ้มอยู่อย่างนั้น

พ่อกับแม่คะหมูมีคนที่อยากจะแนะนำให้รู้จัก เพราะงั้นกลับบ้านเร็วๆนะคะ

“คุณคะฮันนี่ส่ง Mail มาหาด้วยค่ะ อยากให้เรากลับบ้านเร็วๆ ทำตัวเหมือนเด็กๆเชียว มีใครคนหนึ่งอยากแนะนำให้รู้จัก เอ๊ะ...สงสัยฮันนี่จะเจอคนดีๆแล้วมั้งคะ”
สาววัยกลางคนหน้าตาสะสวยหันไปพูดกับชายร่างใหญ่ที่นอนอยู่บนเตียง

“คงจะเหมือนฉันสินะคะ”
โดย: unitan วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:22:40:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]