|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
Head-On : หนังดีที่อยากให้คุณดู ในเทศกาลภาพยนตร์ยุโรปครับ
วันที่ 26 ที่จะถึงนี้ มีภาพยนตร์เข้าใหม่น่าดูหลายเรื่องครับ ทั้ง มหาลัย เหมืองแร่ , Mysterious Skin และที่สำคัญ คือ เทศกาลภาพยนตร์ยุโรป ที่ปีนี้จัดตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. 5 มิ.ย. ปีนี้มีหนังน่าสนใจให้เลือกดูหลายเรื่องด้วยกัน สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กระทู้นี้ครับ //www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=17630
อย่างไรก็ดี มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งซึ่งผมมีโอกาสได้ดูแล้ว (จากดีวีดี) และอยากแนะนำให้คุณๆ ไปดูกัน นั่นคือ ภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า Head-On
ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ - กำกับโดย : Fatih Akin ผกก. เยอรมันที่เกิดจากพ่อแม่ชาวตุรกี (เติร์ก) - นำแสดงโดย: Birol Unel (Cahit Tomruk), Sibel Kekilli (Sibel Guner) - ตัวหนังได้รับรางวัลหมีทองคำ จากเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน ปี 2004, ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์ขวัญใจมหาชนจาก European Film Awards - ชื่อภาษาเยอรมันของหนังเรื่องนี้คือ Gegen Di Wand หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Into the Wall - อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ //www.imdb.com/title/tt0347048
Head-On (Germany/Turkey: 2004) ; ไม่ SPOIL ทั้ง Part 1 & 2 ครับ
Part 1
....เหตุเกิดที่ประเทศเยอรมัน
ในคืนเศร้าๆ เหงาๆ คืนหนึ่ง ใครเลยจะคาดคิดว่าหนุ่มชาวเติร์กขี้เมาหยำเปอย่าง Cahit จะกล้าตัดสินใจลุกขึ้นมาปลิดชีพตัวเอง! เขาเร่งเครื่องสุดกำลัง ...เร่งความดังเพลงอย่างสุดแรงเกิด
I feel you, your sun it shines. I feel you within my mind. You take me there; you take me where the kingdom comes. You take me to and lead me through BABYLON!
โครม!!!
ฝันทุกอย่างพังทลาย สลาย หายไปกับพื้นดิน ความสุขประดามีทั้งหลายจบสิ้น ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว รถชน กำแพงทลาย ...หัวใจของชายคนหนึ่งสลาย ไม่เหลือชิ้นดี
แต่ทว่าโชคชะตา และฟ้าได้ลิขิตมาแล้ว Cahit ยังไม่ตาย
ณ ศูนย์ฟื้นฟูสภาพจิตใจ เขาได้พบเจอกับหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า Sibel เธอคือหญิงสาวชาวเติร์ก และเธอก็คือหญิงสาวที่อยากจะฆ่าตัวตาย สองอย่างนี้ ดูเหมือนจะเป็นจุดร่วมนำพาให้คนทั้งสอง จูน คลื่นเข้าหากัน ...จู่ๆ Sibel ก็เอ่ยปากขอ Cahit แต่งงาน เธอต้องการใช้เขาเพื่อเป็นเกราะยึดเหนี่ยว เพื่อจะได้ห่างจากอ้อมอกพ่อแม่ ...เพื่อจะได้ใช้ชีวิต แรด - ร่อน - ร่าน อย่างที่ใจต้องการ !??!
อย่างไรก็ดี ด้วยถ้อยคำที่ดูสับสัน ด้วยจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์แบบแปลกประหลาด จึงทำให้เมื่อ Cahit ตกลงแต่งงานกับ Sibel ปัญหา การปะทะกัน ในเรื่องต่างๆ จึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โครม!!!
วัยที่แตกต่าง อดีตอันชอกช้ำ ล้วนแล้วแต่เป็นกำแพงกางกั้น กีดขวางความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ...แม้จะชอบใน สิ่ง คล้ายๆ กัน (เซ็กซ์, ยาเสพติด) แต่ทว่าการสื่อสารระหว่างคนสองคนนั้น กลับเกิด การปะทะกัน อยู่ตลอดเวลา
เราจะเห็นว่า พวกเขาแต่งงานกัน แต่ไม่เคยนอนด้วยกัน เราจะเห็นว่า พวกเขาแต่งงานกัน แต่ไม่เคยเข้าใจกัน แต่เอาเถอะ เพราะเมื่อกาลเวลาผันผ่าน ความผูกพันก็ได้ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา , ภายใต้ การวิวาทะ ทางความคิด ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ช่วยหล่อหลอมให้พวกเขาและเธอเข้าใจซึ่งกันและกัน ...และ รัก กัน
แต่รักนั้นจะเป็นรักนิรันดร์หรือไม่ มันจะสายเกินไปไหม? โปรดติดตามตอนต่อไปได้ในภาพยนตร์เรื่อง Head-On วันที่ 5 มิถุนายน รอบ 14.00 น. หนังความยาวประมาณ 2 ชั่วโมงครับ :D
Part 2
จริงอยู่ ที่เรื่องราวการปะทะกันทางความคิด , เรื่องราวของคนต่างชาติในต่างถิ่นต่างแดน จะเป็นประเด็นที่ซ้ำซาก จริงอยู่ ที่การวางพล็อตให้พระเอก นางเอก ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ...และรักกัน จะเป็นพล็อตที่ โหล
แต่กระนั้น ด้วยกลวิธีการนำเสนอ, ด้วยความลึกของตัวละคร และด้วยเทคนิคที่หนังใช้ ก็เพียงพอแล้วครับ ที่จะทำให้ผมหลงรักหนังเรื่องนี้เต็มๆ
ผมชอบ Head-On ในแง่ 'การดีไซน์คาแรกเตอร์ของตัวละคร' ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลักอย่าง Sibel และ Cahit หรือ เหล่าบรรดาครอบครัวของ Sibel ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความซับซ้อน มีมิติในตัวทั้งสิ้น
เราจะเห็นว่าหนังวางตำแหน่ง (Position) ของ Sibel ให้อยู่ในฐานะของหญิงสาวผู้ต้องการหลีกหนีจากกรอบประเพณีที่ครอบครัวและสังคมเติร์กของเธอขีดเส้นเอาไว้ ซึ่งนัยหนึ่งอาจมองได้ว่า เธอก็ไม่ได้แตกต่างไปจากพวกฮิปปี้ในยุคบุปผาชนนัก - ในยุคซิกซ์ตี้ เหล่านกพิราบ ต่างโบยบินขับขานให้กับเสรีภาพอันมากเหลือ เช่นกัน ในยุคมิลเลนเนียม เด็ก แนว และ ไม่แนว ทั้งหลาย ต่างก็ใช้ชีวิตอย่างบ้าระห่ำ ภายใต้กรอบอันไม่มีขีดจำกัด
.Sibel แต่งงานด้วยเหตุผลบ้าๆ เพียงแค่ต้องการจะหลีกหนีจากพ่อ แม่ และยังไม่พอ พอเธอแต่งงานแล้ว เธอก็ยังคงใช้ชีวิตราวคนโสดทั่วไป (เพราะการแต่งงานเป็นเพียงแค่การจัดฉาก) มีเซ็กซ์กับผู้ชายมากหน้าอย่างเปิดเผย , ใช้สารเสพติดอย่างโจ่งแจ้ง
แต่กระนั้น ในอีกนัยหนึ่ง นี่กลับเป็นสิ่งที่ สะท้อน ให้เห็นถึงผลในด้านลบของ กรอบ ที่คนเราตั้งไว้ได้อย่างดีเยี่ยม พ่อ แม่ และพี่ของ Sibel คือ ชาวเติร์ก - มุสลิม ผู้เคร่งครัดในจารีต ประเพณี ...ลูกสาวของพวกเขาต้องมีสามีเป็นชาวเติร์ก ลูกสาวของพวกเขาต้องมีความประพฤติอันดีงาม ซึ่ง กรอบ ที่ตั้งไว้ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนแล้วแต่เกี่ยวกระหวัดทำให้ผู้ถูกกระทำอึดอัดจนทนไม่ไหว ต้องหนีหายกระเจิดกระเจิง ไร้หนทางเยียวยา
เหมือนดั่ง Sibel ที่ไร้ทางรักษา ...นอกจากจะรอคอย กาลเวลา เพื่อรักษาแผลใจ
ซึ่งหนังก็ฉลาดมาก ที่หยิบยกเอาคนอย่าง Cahit มารักษาแผลใจให้กับ Sibel - ...หนุ่มขี้เมา ทำงานไม่เป็นโล้เป็นพาย ไม่เอาไหน อยากฆ่าตัวตาย ใช้ยาเสพติด ดูเผินๆ พฤติกรรมเหล่านี้ช่างคล้ายกับ Sibel เสียเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม ในร่องรอยของความเหมือนนั้นกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อย่างที่บอก พฤติกรรมของ Sibel เกิดจากอาการเก็บกดจน ใจแตก แต่สำหรับ Cahit แล้ว ส่วนหนึ่งที่เขาเป็นอย่างนี้ ก็เพราะเขามีอดีตที่ชอกช้ำนั่นเอง
ความต่าง ใน ความเหมือน ความเหมือน ใน ความต่าง สิ่งทั้งปวงเหล่านี้ล้วนแล้วแต่โยงใยพวกเขา เข้าไว้ด้วยกัน
ประสานแผลใจระหว่างกัน
และที่สำคัญ คือ ช่วยยึดเหนี่ยวให้เราเชื่อมั่นใน เนื้อหา อันสุด Cliche ของหนังนั่นเอง ต้องยกนิ้วให้เลย :D
นอกจากนี้ ด้วยความต่างทางทัศนคติของผู้คนหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นระหว่าง คนสองคน (Sibel Cahit) หรือจะเป็นระหว่าง คนสองคนต่อผู้คนรอบข้าง (Sibel & Cahit ครอบครัวของ Sibel) ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างให้หนังมีโครงสร้างที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เอาง่ายๆ อย่างแรกก็คือ ช่วย เสริมสร้าง และ รองรับ ให้กับชื่อเรื่องของภาพยนตร์นั่นเอง - ทัศนคติที่แตกต่าง ย่อมก่อให้เกิด Head-On หรือการปะทะกันทางความคิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งผมค่อนข้างชอบในแง่มุมนี้เป็นพิเศษ ...หนังพยายามนำเสนอความเห็นสุดโต่งของคนสองฝ่ายโดยไม่ลดราวาศอก ทั้งระหว่าง - คนแก่หัวโบราณเคร่งครัดประเพณี VS วัยรุ่นที่ไม่สนใจในกรอบ ระเบียบกฎเกณฑ์ใดๆ - หนุ่มผู้ยึดมั่นถือมั่นกับอดีต VS หญิงสาวที่สนใจในเรื่องของปัจจุบัน (ขอแค่ให้ได้ เเรด ร่อน ร่านก็พอ) - หรือจะเป็นระหว่างเชื้อชาติเติร์ก VS เยอรมัน
ซึ่งที่ชอบเป็นพิเศษ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เนื่องมาจากผมเชื่อว่า ดุลยภาพทางความคิด ทั้งหลายแหล่นั้นจะมิอาจเกิดขึ้นได้เลย ถ้าหากคนเราขาดการแสดงความเห็นสุดโต่งทั้งหลายออกมา
จริงอยู่ ที่บ่อยครั้ง การแสดงความคิดความเห็น, การแสดงวาทกรรม (Discourse) นั้น มักนำมาซึ่ง การทะเลาะตบตี เมื่อไม่มีใครยอมใคร การวิวาทะทางความคิด จึงก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทระหว่างผู้คน... แต่กระนั้น ในทรรศนะของผม ลึกๆ แล้ว หากปล่อยให้เวลาผันผ่านไปสักพัก ใช้ความคิดไตร่ตรองสักหน่อย ดุลยภาพทางความคิด ก็จะเกิดขึ้นเองครับ
มันอาจจะเป็นความคิดที่แตกต่าง มันอาจจะเป็นความเห็นที่แปลกแยก แต่กระนั้น หากได้ใช้ความคิดหรือปัญญาไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว โดยส่วนตัว ผมเห็นว่า นั่นแหละคือ จุดกึ่งกลาง หรือ ดุลยภาพทางความคิดอย่างแท้จริง
อาจทำใจเชื่อในความคิดเห็นของผมยาก (เพราะมันไม่น่าใช่ดุลยภาพ แต่เป็นความเห็นปัจเจกมากกว่า) แต่ก็นั่นแหละครับ ถ้าหากเราลองมาถก มาแสดงวาทะกันดีๆ ....ไม่แน่ ดุลยภาพทางความคิด ของทุกฝ่าย อาจจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ก็เป็นได้ ใครจะรู้ :D
....พ้นจากนี้ Head-On ยังมีอีกหลายๆ ส่วนที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ดนตรีประกอบ' ก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยเร่งเร้าอารมณ์ของคนดูอย่างผมได้เป็นอย่างดี - หนังใช้เพลงประกอบหลากหลาย ทั้งศิลปินไทย (อ้าว ไม่มี) ศิลปินเทศ เพลงเก่า เพลงใหม่ เพลงพื้นเมือง เยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งในมุมหนึ่ง เพลงเหล่านี้ ก็คือส่วนที่ช่วยเน้นย้ำให้กับประเด็นหลักที่หนังต้องการสื่อสารนั่นเอง
Head-On --> จากการปะทะกันทางความคิดเห็น ครั้งนี้ มันกลับมาในรูปแบบของการเผชิญหน้ากันของดนตรีที่ไร้พรมแดน !??!
และยังไม่พอ หากมองในมุมกลับกัน การร้อยเรียงเพลงเหล่านี้ ยังเป็นอีกส่วนที่ช่วยขับเคลื่อนเนื้อหาของหนังให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสง่าผ่าเผยอีกด้วย มีฉากหนึ่งที่ผมชอบมาก นั่นคือ ในฉากเล่นม้าหมุน กับความรักอันหมุนติ้วของ Sibel จู่ๆ เสียงเพลง After Laughter (Comes Tears) ของ Wendy Rene ก็ลอยล่องมา มันช่างเข้ากันกับเนื้อหาของหนังตอนนั้นเสียเหลือเกิน
เพลงดิสโก้ ที่ขับขาน ทำให้หัวใจเบิกบานชั่วขณะ ....และจางหาย กลายเป็นน้ำตาที่หลั่งริน ช่างน่าเศร้าเหลือเกินครับ
แต่เอาเถอะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว หนังก็ยังคงเป็นหนัง เป็นเรื่องราวในจอ ไม่ใช่ชีวิตจริง - ไม่ว่าใครจะสูญเสียความรัก ไม่ว่าใครจะมีรัก ท้ายที่สุดแล้ว ดนตรีพื้นเมืองหกชิ้น ที่ถูกบรรเลงขับขานสลับฉาก* (Interlude) ณ ริมแม่น้ำกลางเมืองอิสตันบูล ก็ยังคงเป็นสิ่งคอยเตือนใจเราว่า นี่คือหนังนะ ไม่ใช่ชีวิตจริง
โครม!!!
ตื่นๆๆๆ ได้แล้วจ้า... อย่ามัวแต่อ่านหรือดูหนังเพลิน ออกไปมองโลกข้างนอกบ้าง แล้วก็อย่าลืมไปดูหนังเรื่องนี้กันนะครับ !???? (อ้าว งง)
หมายเหตุ * เพลงพื้นเมืองของตุรกี ที่ถูกขับขานโดยหกนักดนตรี หนึ่งนักร้องนั้น โดยส่วนตัวแล้วเป็นส่วนที่ผมชอบมากที่สุดในหนังครับ เพราะโดยปกติ ในความหมายทั่วๆ ไป สิ่งเหล่านี้มักใช้เพื่อ เบรก คั่นอารมณ์ของคนดู แต่ในกรณีนี้กลับแตกต่าง - มันกลายเป็นเพลง Interlude ที่ใช้เพื่อคั่นอารมณ์, เพื่อบอกเล่าเรื่องราว, เพื่อกล่าวถึงสิ่งที่เห็นและเป็นไป อีกทั้งยังใช้เพื่อบอกใบ้ถึง นัย บางอย่างที่หนังต้องการสื่ออีกด้วย (ว้าว!) (เห็นได้ชัด จากฉากจบ)
คำพูดที่ชอบ รักน่ะคือม้าหมุน ที่ยัดเงินใส่ลงไปแล้วมันก็จะหมุนติ้ว ...มันก็จะแค่หมุนเป็นวงกลม แล้วจบกัน
Create Date : 25 พฤษภาคม 2548 |
|
15 comments |
Last Update : 31 สิงหาคม 2548 9:04:46 น. |
Counter : 1489 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: grappino IP: 61.91.110.252 วันที่: 25 พฤษภาคม 2548 เวลา:13:42:17 น. |
|
โดย: it ซียู วันที่: 25 พฤษภาคม 2548 เวลา:13:52:27 น. |
|
โดย: grappa วันที่: 25 พฤษภาคม 2548 เวลา:13:56:48 น. |
|
โดย: it ซียู IP: 161.200.255.161 วันที่: 25 พฤษภาคม 2548 เวลา:18:30:01 น. |
|
โดย: rebel วันที่: 25 พฤษภาคม 2548 เวลา:19:30:57 น. |
|
โดย: underdog(พ่อน้องโจ) IP: 203.113.77.100 วันที่: 26 พฤษภาคม 2548 เวลา:1:26:24 น. |
|
โดย: it ซียู วันที่: 26 พฤษภาคม 2548 เวลา:8:16:55 น. |
|
โดย: underdog(พ่อน้องโจ) IP: 203.172.121.253 วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:23:43:09 น. |
|
โดย: merveillesxx IP: 210.246.165.231 วันที่: 28 พฤษภาคม 2548 เวลา:3:14:28 น. |
|
โดย: สุภาฯ IP: 202.57.157.61 วันที่: 28 พฤษภาคม 2548 เวลา:9:50:32 น. |
|
โดย: prae IP: 202.44.135.34 วันที่: 2 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:16:26 น. |
|
โดย: prae IP: 202.44.135.34 วันที่: 2 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:16:38 น. |
|
| |
|
it ซียู |
|
|
|
|
ว่าแต่ว่า นางเอกเรื่องนี้
หน้าตาเหมือนคนที่คุณรอ
มาตั้ง "แต่ปางก่อน" เลยนะ