บันทึกของตรีนุช
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
20 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
+ + + ฝรั่งเศส : ปราสาทเชอนงโซ่ (Chenonceau) + + +

ปราสาทเชอนงโซ่ ได้ชื่อว่าปราสาทแห่งสุภาพสตรี (คำนี้ดิฉันขออนุญาตยืมมาใช้จากคุณ libellule ห้องบีพีค่ะ เห็นว่าแปลได้น่ารักดี) (le Château des Dames) ก็เพราะเจ้าของปราสาทเป็นผู้หญิงทั้งหมดเลยค่ะ เริ่มต้นจากปี 1513 Katherine Briçonnet, Diane de Poitiers, Catherine de Médicis, Louise de Lorraine, Madame Dupin, Madame Pelouze, ...



ปราสาทนี้ช่วงแรกเป็นป้อมปราการตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ Cher (ซึ่งจะไปบรรจบกับแม่น้ำ Loire) ช่วงศตวรรษที่ 16 สร้างขึ้นแบบเรอเนสซองส์



ขอเล่าประวัติคร่าวๆของ Chenonceau ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 15 เลยนะคะ คือเจ้าของเดิม มีปัญหาด้านการเงิน เลยต้องขายให้กับ นายโตมา โบอิเย่ร์ (Thomas Bohier) ซึ่งเป็นแค่ชนชั้นกลางที่อาศัยอยู่ที่เมือง Tours ดังนั้นเจ้าของคนแรกก็คือภรรยาของนายคนนี้เค้าหล่ะค่ะ คือ นาง Katherine Briçonnet



นับว่านางเป็นผู้มีรสนิยมดีพอสมควร เพราะได้ตกแต่งดัดแปลงเพิ่มเติมจากป้อมธรรมดาๆ มาเป็นปราสาทอันสวยงาม
ส่วนหนึ่งมาจากสถาปนิกชื่อ Pierre Trinqueau ซึ่งเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบปราสาท Chambord ด้วยคนนึงค่ะ (เพราะงั้นไม่สวยไม่ได้แล้ว) (ใครยังไม่เห็น ย้อนกลับไปดูรูปปราสาทชองบอร์ได้ที่บล็อกก่อนหน้านี้แล้วกันนะคะ)

หลังจากสองสามีภรรยาคู่นี้เสียชีวิตเมื่อปี 1524 กับ 1526 กษัตริย์ผู้ครองราชย์องค์ต่อมาคือ Henri II จึงได้ยกให้นางดิอาน เดอ ปัวติเย่ร์ (Diane de Poitiers) นางสนมคนโปรด ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการขยายปราสาท สร้างสะพานคร่อมแม่น้ำ Cher



พอพระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 สวรรคตกระทันหันในปี 1559 พระนางแคทเธอรีน เดอ เมดิซี่ (Catherine de Médicis) มเหสีตัวจริงก็เลยมาขอใช้สิทธิของเธอค่ะ

ส่วนนาง Diane de Poitiers ก็ต้องยอมถอยทัพไปโดยปริยาย (ทำไงได้นิ) นางก็เลยไปอยู่ที่ปราสาทอีกที่นึงแทนชื่อว่าปราสาทโชมง (Chaumont-sur-Loire) นัยว่าแลกกันค่ะ



ป้อมหน้าปราสาท เรียกว่า The Marques Tower (la Tour des Marques)
ปัจจุบันข้างล่างเป็นร้านขายของที่ระลึกค่ะ



เจ้าของปราสาทท่านแรกคือครอบครัว Bohier ได้เก็บส่วนนี้ไว้ แล้วทำลายป้อมปราการส่วนอื่นไป

แต่ได้ดัดแปลงใหม่หมดทั้งประตูหน้าต่างและอื่นๆ (คาดว่าสมัยปี 1513) พร้อมทั้งแกะสลักอักษรย่อชื่อตัวเองและภรรยาว่า “TBK” (ย่อมาจาก Thomas Bohier และ Catherine)



La Chapelle

เดินเข้ามาภายในปราสาทถัดจากห้องของคนเฝ้า เราก็จะมาเจอห้องประกอบพิธีทางศาสนา

กระจกสีใหม่สร้างขึ้นเมื่อปี 1954 โดยนาย Max Ingrand (กระจกสีดั้งเดิมถูกระเบิดทำลายไปเมื่อปี 1944)



The Gallery (La Galerie)

ระเบียงที่ทอดยาวบนสายน้ำเป็นเสน่ห์อย่างนึงของปราสาทเชอนงโซ่

ปี 1547 Diane de Poitiers (จำได้ไหมคะที่ดิฉันเล่าว่าเป็นสนมคนโปรดของ Henri II) เห็นว่าปราสาทเล็กเกินไป ไม่หะ-รู-หะ-ราพอสำหรับนาง เลยอยากจะขยายให้ใหญ่ขึ้นเพื่อใช้พื้นที่เป็นห้องจัดเลี้ยง

นางก็เลยให้สร้างสะพานทอดยาวข้ามแม่น้ำ Cher ไปอีกฝั่งนึง โดยให้สถาปนิกฝีมือเอกของสมัยเรอเนสซองส์ คือนาย Philibert de l'Orme เป็นผู้ออกแบบ

แต่โครงการนี้เป็นอันต้องพับไป หลังจากการสวรรคตของพระเจ้า Henri II



ดังนั้น Catherine de Médici จึงขมายแนวคิดนี้ไป สร้างต่อเป็นแกเลอรี่สองชั้น
(สร้างบนสะพานของ Diane de Poitiers เลยค่ะ) ในปี 1576 หลังจากนั้นหนึ่งปีก็มีการบูรณะใหม่อีกครั้ง สำหรับฉลองงานของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 (Henri III) พระราชโอรส แต่สร้างเสร็จจริงๆประมาณปี 1581

The Gallery นี้มีความยาว 60 เมตร (เท่ากับความกว้างของแม่น้ำ Cher) กว้าง 6 เมตร ด้านข้างมีหน้าต่างทั้งหมด 18 บาน
ปลายทั้งสองด้านจะมีเตาผิงสวยๆสไตล์เรอเนสซองซ์ ซึ่งเค้าใช้จริงๆแค่อันเดียว อีกอันไว้ประดับเฉยๆ

สมัยพระนาง Catherine de Médici มีรูปปั้นหินอ่อนสวยๆเยอะ แต่ต่อมาพระเจ้า Louis XIV นำไปไว้ที่พระราชวังแวร์ซายย์ค่ะ

สมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เจ้าของปราสาทชื่อนายกาสตง เมอนิเย่ร์ (Gaston Menier) อุทิศให้ใช้เป็นโรงพยาบาล ตรงที่เห็นนี่ก็ดัดแปลงสภาพเป็นห้องพยาบาลจำเป็น มีเตียงคนไข้เต็มไปหมดค่ะ



Diane de Poitiers' bedroom (la Chambre de Diane de Poitiers)

ห้องของสนมคนโปรดของพระเจ้า Henri II เตียงที่มีเสาประกอบทั้งสี่ด้าน เป็นเตียงสมัยต้นศตวรรษที่ 17 (The four-poster bed หรือ le lit à baldaquin) ส่วนพรมประดับผนังผืนใหญ่ทั้งสองด้านเป็นสมัยศตวรรษที่ 16 ค่ะ



เตาผิงด้านข้างที่เห็นเป็นผลงานของ Jean Goujon นักแกะสลักของฝรั่งเศสจากสถาบัน Fontainebleau มีตัวอักษรย่อ “H กับ C” ซึ่งหมายถึงพระเจ้า Henri II กับพระราชินี Catherine de Médicis
แต่ถ้าเราดูดีๆ (ในรูปนี้อาจจะเห็นไม่ค่อยชัด)
ตัวซีช่างเค้าแกะสลักเป็นตัวอักษรสองตัวซ้อนกันคล้ายกับตัว D ซึ่งหมายถึง Diane de Poitiers ด้วยค่ะ (เข้าใจทำเนอะ)

ด้านบนเตาผิงมีรูปของพระนาง Catherine de Médicis ซะด้วย
(ตกลงห้องใครกันแน่เนี่ย)




Catherine de Médici's bedroom (la chambre de Catherine de Médicis)

มาถึงห้องบรรทมของพระนาง Catherine de Médicis แล้วค่ะ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือนต่างๆ แกะสลักลวดลายสมัยศตวรรษที่ 16 ทั้งสิ้นรวมถึงพรมประดับฝาผนังซึ่ง เป็นรูปสัตว์ต่างๆ แทนสัญญลักษณ์ที่แสดงในสุภาษิต คำพังเพย นิทานอีสป ส่วนเตาผิงเป็นสมัยเรอเนสซองส์ค่ะ

ด้านขวาจะมีรูปวาดบนแผ่นไม้ของ Le Corrège ชื่อ The teaching of love
หรือ L'éducation de l'amour ซึ่งรูปเดียวกันนี้แต่วาดบนผืนผ้าใบอยู่ใน
National Gallery ที่ลอนดอนค่ะ



Louise of Lorraine’s bedroom (la Chambre de Louise de Lorraine)

ห้องบรรทมของพระนางหลุยส์เดอลอแครน พระมเหสีของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 (Henri III) ภายหลังจากที่พระองค์ถูกประหารชีวิตโดยนักบวชที่ชื่อชาร์ค เครมองต์ (Jacques Clément) วันที่ 1 สิงหาคม 1589 พระนางก็สละทางโลก หันหน้าเข้าหาทางธรรม เลือกปฏิบัติ ทำสมาธิ สวดมนต์

พระนางมักจะสวมชุดสีขาวและแวดล้อมไปด้วยนางชี สภาพในปราสาทไม่ต่างจากสำนักแม่ชีเท่าใดนัก
จนพระนางได้รับสมญานามว่า
« La Reine Blanche หรือ The White Queen »

เครื่องเรือนต่างๆในห้องนี้ทำสมัยศตวรรษที่ 16 ค่ะ



César of Vendôme's bedroom (la chambre de Cesar de Vendôme)

ห้องนอนของ César de Vendôme โอรสที่ถูกต้องตามกฎหมายของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 (Henri IV) กับพระนางกาเบรียล เดสเทร่ (Gabrielle d'Estrée)
ซึ่งเป็นเจ้าของปราสาทเมื่อปี 1624

เตียงนอนและเฟอร์นิเจอร์ของห้องนี้สมัยศตวรรษที่ 16 ค่ะ ส่วนเตาผิงจะเป็นศิลปะแบบเรอเนสซองส์ แต่มาทาสีใหม่ศตวรรษที่ 19 นี้เองค่ะ

พรมประดับฝาผนังด้านหลังเป็น พรมของบรัสเซลล์ (เบลเยี่ยม)
ช่วงศตวรรษที่ 17



François I’s bedroom (la chambre de François Ier)

ปล่องไฟในห้องบรรทมของพระเจ้าฟรองซัวร์ที่หนึ่ง ถือว่าเป็นปล่องไฟสมัยเรอเนสซองส์ที่สวยที่สุด




ห้องประทับของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (le salon Louis XIV)

พระองค์ทรงเสด็จมาประทับที่ปราสาทแห่งนี้เมื่อวันที่ 14 กค. 1650 พระบรมฉายาลักษณ์ที่อยู่ด้านข้างปล่องไฟยังมีอยู่ถึงปัจจุบันนี้ค่ะ



Five Queens' Bedroom (la chambre des cinq Reines)

ห้องบรรทมของพระราชินีทั้งห้าซึ่งก็ คือพระราชธิดาทั้งสองพระองค์และพระสุณิสา (ลูกสะใภ้)
ทั้งสามของพระนาง Catherine de Médici

1.Queen Margot (พระมเหสีของพระเจ้าHenri IV)
2.Elisabeth of France (พระมเหสีของพระเจ้า Philip II แห่งสเปน)
3.Mary Stuart (พระมเหสีของพระเจ้า François II)
4.Elisabeth of Austria (พระมเหสีของพระเจ้า Charles IX)
5.Louise of Lorraine (พระมเหสีของพระเจ้า Henry III)



Library/ La Librairie

ห้องทรงงานของพระนาง Catherine de Médicis ตรงนี้เราสามารถเห็นวิวสวยๆของแม่น้ำแชร์ (Cher)
และสวนของพระนาง Diane de Poitiers



Catherine Briçonnet’s Hall/ Vestibule de Catherine Briçonnet

ส่วนนี้เป็นห้องโถงทางเดินหน้าห้องบรรทมหรือห้องประทับ พรมประดับฝาผนังสมัยศตวรรษที่ 17 แสดงเรื่องราวการล่าสัตว์



ภาพข้างล่างนี้สารภาพว่าไม่ทราบจริงๆว่าห้องไหน เพราะไม่ได้จดมาค่ะ
หาดูในข้อมูลต่างๆก็ไม่เห็นมีบอกไว้ ดูเล่นๆแล้วกันนะคะไม่มีคำบรรยาย




Kitchens/Les cuisines

ห้องครัวของที่นี่อยู่ด้านล่างส่วนที่เป็นเสาหลักในน้ำทั้งสองเสา
มีปล่องไฟสมัยศตวรรษที่ 16 ที่ใหญ่ที่สุดในปราสาทนี้ค่ะ



แบ่งเป็นห้องต่างๆประกอบด้วย

- The Dining room (la salle à manger)
ห้องทานอาหารของพนักงานข้าทาสบริวารทั้งหมดของปราสาท

- The Butchery (la boucherie)
ห้องนี้ตามผนังก็จะประดับด้วยมีดขนาดต่างๆ คือดูแล้วรู้เลยว่าเป็นห้องอะไร



- The Larder (le garde-manger)
ห้องเตรียมประกอบอาหาร เก็บอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ ของแห้งและอาหารอื่นๆ




นอกจากนี้ก็ยังมีเตาทำขนมปังและพื้นที่ใช้สอยย่อยๆอย่างอื่นด้วยค่ะ



สวนด้านหน้าปราสาทออกแบบไว้สวยมาก แบ่งเป็นสองด้าน
ในรูปนี้เป็นสวนของ Diane de Poitiers อยู่ทางทิศตะวันออกของปราสาท (ซึ่งจะใหญ่กว่าสวนอีกด้านนึงของพระนาง Catherine de Médicis)

มีขนาดใหญ่โตมาก ใช้เวลาตกแต่งทั้งหมดถึง 5 ปี ปลูกทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ตกแต่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตรอบน้ำพุ



สวนอีกด้านนึงของพระนาง Catherine de Médicis



***

แต่ช่วงที่ดิฉันไปเป็นปลายหน้าหนาว กำลังจะเปลี่ยนเป็นฤดูใบไม้ผลิ เพราะฉะนั้นดอกไม้ใบไม้ยังไม่ทันเบ่งบาน ในรูปเลยไม่สวยเท่าช่วงฤดูอื่น เห็นรูปในหนังสือ ในอินเตอร์เนตหรือตามโปสการ์ด เค้าถ่ายสวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ

พอมีดอกไม้มาประกอบก็ช่วยเพิ่มสีสันสร้างบรรยากาศดีๆ
ให้ปราสาทที่สวยอยู่แล้ว ให้สวยเข้าไปอีกค่ะ
(คือจริงๆฝีมือถ่ายก็ไม่ดีอยู่แล้ว ถือโอกาสหาว่าบรรยากาศ
ทำให้ไม่สวยเท่า หุหุ)



******

ข้อมูลทั้งหมดนำมาจาก

1. โบรชัวร์ที่ได้รับจากการเยี่ยมชมปราสาทแต่ละแห่ง

2. หนังสือ Le Figaro collection Les Châteaux de la Loire ฉบับที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ปี 2549 (ISBN: 2-907488-97-X) และ ฉบับที่ 5
เดือนเมษายน ปีเดียวกัน (ISBN: 2-907488-95-3)

3. อินเตอร์เนตทั้งที่ได้อ้างอิงชื่อเวปมาด้วย และจากเวปที่ไม่ได้กล่าวถึงบางส่วน

4.รายการทีวีชื่อ C'est pas sorcier ตอนประวัติ Château de la Loire เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 49



คำราชาศัพท์จากเวป //theyoung.net/language_thai/diction/diction_1.2.htm


Create Date : 20 ธันวาคม 2549
Last Update : 21 ธันวาคม 2549 1:42:36 น. 9 comments
Counter : 2997 Pageviews.

 
โย้โย่....หวัดดีค่ะ....ยุ่งๆเลยไม่ค่อยเข้ามา แต่เดี๋ยวเดือนหน้าว่างแล้วค่ะ

ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ไปเยี่ยมปราสาทลุ่มน้ำลัวร์บ้างนะ....
ซื้อของโนเอลเสร็จยังค่ะ สาวเอมชอบสปังโนเอลมั้ยค่ะ


โดย: YRFP IP: 212.198.181.66 วันที่: 21 ธันวาคม 2549 เวลา:4:35:35 น.  

 
เผื่อไว้ก่อนค่ะ...

จากใจค่ะ


โดย: YRFP วันที่: 21 ธันวาคม 2549 เวลา:4:47:30 น.  

 
น่าทึ่งประสาทถูกสร้างบนคูน้ำ สมัยก่อนเครื่องไม้เครื่องมือไม่ทันสมัยเหมือนปัจจุบันนี้ แต่เขาทำออกมาได้สวยงามมาก

แวะมาสุขสันต์วันคริสต์มาสและวันปีใหม่แต่เนิ่นๆเพราะจะไม่อยู่บ้านหลายวันเลยคะ ขอให้คุณตรีนุชและน้องเอมและทุกๆคนในครอบครัวมีความสุขมากๆนะคะ แล้วเจอกันใหม่ปีหน้าคะ





โดย: GingerFever วันที่: 21 ธันวาคม 2549 เวลา:5:48:23 น.  

 
ไปด้วยคะ เดินตามอย่างรวดเร็ว


โดย: ลิตเติ้ลเกิร์ล วันที่: 21 ธันวาคม 2549 เวลา:11:46:51 น.  

 
สวยมากค่ะ ยั่วกิเลสทำให้อยากไปเที่ยว
Merry Christmas + Happy New Year ค่ะ
มีความสุขกันทั้งครอบครัวนะคะ


โดย: เพลงเสือโคร่ง วันที่: 21 ธันวาคม 2549 เวลา:21:25:19 น.  

 





มาเยี่ยมค่ะ

หนาวแล้วรักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ

มีความสุขมาก ๆค่ะ

ถ้า



โดย: icebridy วันที่: 22 ธันวาคม 2549 เวลา:22:01:59 น.  

 
+++ ขอบคุณพี่วิ น้องอ้อ คุณกิ๋ว แล้วก็คุณ Icebridy ที่แวะมาอวยพรกันนะคะ
ขอให้คำอวยพรนั้นกลับคืนไปถึงทุกคนด้วยค่ะ

+++ คุณลิตเติ้ลเกิร์ลคะ ค่อยๆเดินตามดิฉันมาก็ได้ค่ะ
ทัวร์นี้ไปอย่างช้าๆ (ไปเที่ยวมาจะครบปีแล้ว ยังแปะไม่หมดเลย)


โดย: ตรีนุช3903 วันที่: 23 ธันวาคม 2549 เวลา:3:51:08 น.  

 
โห..เหมือนมีไกด์พาเที่ยวเลยค่ะ ดูรูปไปได้ความรู้ด้วย

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ด้วยค่ะ


โดย: LuckyMoby วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:21:44:11 น.  

 
ขอบคุณมากเลยค่ะที่มีให้ดูเพราะหนูต้องนำไปส่งMadame


โดย: นักเรียนที่เรียนวิชาฝรั่งเศส IP: 203.113.39.49 วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:18:20:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตรีนุช3903
Location :
อยู่ทางเหนือของ France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มีลูกสาวกะเค้าอยู่หนึ่งหน่วย
เปิดบล็อกไว้บันทึกเรื่องลูก
กะเรื่องเที่ยวแค่นั้นหล่ะก่ะ

ขอบคุณวิธีแต่งฉากหลังจากบล็อคของป้ามดค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ
บันทึกของตรีนุช
Friends' blogs
[Add ตรีนุช3903's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.