24-27/10/2004
เพื่อนสนิทมาฝึกอบรมที่ปารีสเมื่อ 4 ปีก่อน
(นานแล้วเหมือนกันนะเนี่ย นึกขึ้นได้
เพิ่งไปค้นรูปมาปัดฝุ่นลงบล็อค)
เสร็จงานเธอก็จับรถไฟมาหาดิฉันทางเหนือ
เที่ยวแถวนี้กะประเทศเพื่อนบ้านอยู่อาทิตย์นึง
แล้วก็พากันลงไปหาเพื่อนรุ่นน้องอีกคน
ที่อยู่ทางภาคตะวันออก เมืองแถวชายแดนติดสวิส
เที่ยวคราวนั้น คุณสามีไม่ได้ลางานไปด้วย
แต่สนับสนุนให้ดิฉันไปลัลล้ากะเพื่อนๆเต็มที่
ส่งท้ายชีวิตอิสระ เพราะตอนนั้นท้องได้เกือบ 5 เดือน
รู้ว่าหลังคลอดลูก คงไม่มีโอกาสเที่ยวมันส์ๆอย่างงี้อีก
ได้ไฟเขียวแล้ว จะเหลือเหรอ ดิฉันก็ไปโลดสิ
ลุยทั้งๆที่แบกแตงโมในท้องไปด้วย อิอิ
จริงๆคนอื่นไม่ค่อยเห็นพุงหรอกค่ะถ้าไม่สังเกตุดีๆ
เพราะว่าตอนนั้นมันหนาว ต้องใส่โค้ทตลอด
เป็นการอำพรางที่ดีไปในตัว
เช้าวันเดินทางต่างคนต่างไป ทางใครทางมัน ฮ่าๆ
ไปที่เดียวกันแต่พาหนะแตกต่าง
เพื่อนดิฉันเธอหรูค่ะนั่งเครื่องไป
(ไม่รู้ทราบกันหรือเปล่าว่าเวลาซื้อตั๋วแอร์ฟรานซ์
ไปกลับจากเมืองไทย เราจะได้สิทธิตั๋วฟรี
ในประเทศใบนึง แต่ต้องจ่ายค่าภาษีเอง)
ส่วนดิฉันคนเบี้ยน้อยนั่งรถไฟเตเจเว (TGV) ไปเองค่ะ
แต่ว่างานนี้คนบินไปกลับลำบากกว่าเดี๊ยน กั่กๆ
(ขอแซวหน่อยนะเพื่อน)
เพราะเธอต้องนั่งรถไฟจากเมืองเหนือไปสนามบิน
เพื่อขึ้นเครื่องไปลียง (Lyon) แล้วพอไปถึงที่หมาย
ก็ต้องต่อบัสไปสถานีรถไฟอีกต่างหาก
เสียตังค์หลายต่อ ไม่รู้คุ้มป่าวเนี่ย ฮ่าๆ
เหนื่อยเดินทางอีกต่างหาก
นัดเวลากันเรียบร้อย แล้วดิฉันก็นั่งรถไฟฉายเดี่ยว
ไปเจอหล่อนที่สถานีรถไฟเมืองลียง
เพื่อไปต่อรถไฟอีกขบวนนึงไปบ้านเพื่อน
รู้สึกค่อยยังชั่วหน่อย มีคนนั่งเม้าส์ไปด้วยกัน
ทริปนั้นเจ้าถิ่นพาไปแวะเมืองแรกชื่อ
"Divonne-les-Bains"
เป็นเมืองเล็กๆน่ารักๆ ที่ตั้งของกาสิโนใหญ่แห่งนึงแถวนั้น
ที่นี่มีทะเลสาบสวยด้วย
เสียดายที่แปะรูปให้ดูไม่ได้มาก
เพราะตัวประกอบรูปใหญ่เกินพิกัด
ย่อแล้วก็ยังหน้าบานเต็มรูป
แต่ผู้ชายที่ยืนหน้ากาสิโนในรูป
ใครก็ไม่รู้ค่ะ บังเอิญถ่ายมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เหมือนเก๊กให้ถ่ายเลยเนอะ
//fr.wikipedia.org/wiki/Divonne-les-Bains
//www.tourisme.fr/office-de-tourisme/divonne-les-bains.htm
จากนั้นวนขึ้นเขาไปอีกเมืองนึงที่ชื่อว่า "Gex"
เราไปกันช่วงฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้ข้างทางสีสวยมาก ๆ
//fr.wikipedia.org/wiki/Gex
เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้ไปแถวนั้น ก็เลยตื่นเต้นใหญ่
แต่ปรากฎว่าในปีถัดๆไป เวลาไปพักร้อนสกี
(ที่เคยเล่าไว้ในบล็อคนึง)
ก็คือยอดเขาใกล้ๆกันแถว
"Col de la Faucille" นั่นแล
รุ่งขึ้นอีกวันครอบครัวเจเจก็พาเราไปเที่ยว Annecy
ระหว่างทางยังใจดี จอดให้ไปแวะเดินเล่นที่
"Pont de la Caille" กันก่อน
//fr.wikipedia.org/wiki/Pont_de_la_Caille
Pont de la Caille เป็นสะพานแขวนที่เก่าแก่ที่สุด
(แต่ข้อมูลไม่ได้บอกว่าเก่าสุดของที่ไหน)
เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1839
นับเป็นสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์แห่งนึง
ไปถึง Annecy ซะที เมืองนี้น่ารักมาก
(รูปประกอบ 3 รูปแรกที่แปะข้างบนนะคะ)
ดูแผนที่จากในเวปนี้ค่ะ
ว่าเมืองนี้อยู่ส่วนไหนของฝรั่งเศส
//fr.wikipedia.org/wiki/Annecy
ที่ดิฉันประทับใจที่สุดก็คือทะเลสาบเมืองนี้
"Lac d'Annecy"
สวยมากถึงมากที่สุด
//www.123savoie.com/article-13-1-lac-d-annecy.html
//fr.wikipedia.org/wiki/Lac_d'Annecy
บล็อคนี้ขออนุญาตแทรกตัวประกอบเล็กน้อย
เพราะไม่มีทางเลือกค่ะ สมัยนั้นยังไม่ทำบล็อค
รูปที่ถ่ายส่วนใหญ่จะถ่ายเล่นกันเอง
ไม่ค่อยมีรูปวิวเฉยๆซักเท่าไหร่
วันนั้นเราไปกัน 5 คน ถ่ายรูปกันหนุกหนาน
สาวๆบ้ากล้องกันทั้งนั้น
กรุณาทนดูกันหน่อยนะคะ
อุตส่าห์เลือกแบบสวยระยะไกล
วันถัดไปเราก็นั่งรถเมล์ข้ามไปเที่ยวเจนีวา
เมืองที่บ้านเพื่อนดิฉันอยู่ใกล้ชายแดนมากๆ
มีรถเมล์ข้ามประเทศอ่ะคิดดู
ใกล้กว่าบ้านดิฉันข้ามไปเบลเยี่ยมอีก
รูปข้างล่างยังเป็นทะเลสาบที่ Annecy นะคะ
(มิใช่ lac Léman เด้อ)
ไม่รู้จะรวมตัวเที่ยวแบบสาวสาวสาวได้อีกเมื่อไหร่
(หลังจากดิฉันมีตัวแถมเพิ่มมาอีกหนึ่งหน่วย)
ยังไงก็ขอถือโอกาสขอบคุณครอบครัวเจเจตรงนี้อีกทีนะจ๊ะ
ที่กรุณาต้อนรับอย่างอบอุ่น
ชอบภูเขาใส่เสื้อ
หรือ ภาพใบไม้เปลี่ยนสี
โชดดีจังที่เก็บไว้ ....