ใช้หนี้(รัก)งวดที่ 2 (2/2)


“คุณต้นกล้า” แพรวรุ้งเรียกชื่อชายร่างสูงที่เดินตรงมาที่เธอท่ามกลางสายฝนปรอยๆ ด้วยความแปลกใจ

“นี่รถคุณแพรวรุ้งมีปัญหาเหรอครับ” ต้นกล้าถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วตั้งแต่เห็นหญิงสาวจอดและลงมาเปิดกระโปรงรถ

“ใช่ค่ะ คือรถของฉันเป็นอะไรไม่รู้ อยู่ๆ มันก็ดับขึ้นมาเฉยๆ พอจะโทรเรียกช่างให้มาดูโทรศัพท์มือถือก็ดันแบตหมดซะอีก”

ต้นกล้าเหลือบมองเข้าไปที่ฝากระโปรงรถที่ยกเปิดอ้าอยู่เล็กน้อย

“ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ถ้าไงเดี๋ยวผมไปส่งคุณแพรวรุ้งให้ก่อนละกัน ส่วนรถของคุณแพรวรุ้ง ผมจะให้จักรกฤษเอาไปจัดการให้”

ได้ยินแบบนั้นก็ทำให้หญิงสาวลังเลขึ้นมาทันที สมองอันฉับไวรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติได้

“นี่คุณมาทำอะไรแถวนี้คะ”

“ผมผ่านมาทำธุระน่ะครับ”

และแม้ต้นกล้าจะบอกด้วยน้ำเสียงปกติ แต่แพรวรุ้งที่สามารถจับอาการชะงักเล็กน้อยก่อนตอบของเขาได้ จึงมั่นใจว่าการที่เจอกับชายหนุ่มตอนนี้มันไม่ใช่เหตุบังเอิญแน่ๆ

“คุณตามฉันมาใช่ไหม”

ต้นกล้านิ่งอึ้งเล็กน้อยที่ถูกจับได้ ก่อนเห็นว่าเปล่าประโยชน์ที่จะโกหกอีก เขาจึงยอมรับออกไป “ใช่ ผมตามคุณมา”

“นี่คุณ! คุณตามฉันมาทำไม” แพรวรุ้งร้องถามด้วยความโมโห ก่อนบอกอย่างรู้ทัน “อ๋อ คุณคิดว่าฉันจะรู้ที่อยู่ฟ้าฉายอย่างงั้นสิ”

“ก็คงอย่างงั้น”

“คุณเสียเวลาเปล่าแล้วล่ะ เพราะฉันไม่รู้ว่าน้องชายของฉันอยู่ที่ไหน และถึงฉันรู้ฉันก็ไม่มีวันบอกคุณเด็ดขาด ทีนี้คุณจะไปไหนก็ไปได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจมาจับคุณข้อหาคุกคาม”

“คุณแน่ใจเหรอว่าอยากจะให้ผมไปจากตรงนี้” ต้นกล้ากล่าวพร้อมหันไปมองรอบๆ กายเพื่อสื่อความหมาย ซึ่งทำให้หญิงสาวต้องมองตาม ก่อนเริ่มรู้สถานะตัวเองตอนนี้

“เออ...คือว่า”

“ถ้างั้นผมไปก่อนล่ะนะ แถวนี้มันอันตราย วันก่อนเห็นมีข่าวลงว่ามีการฆ่าปล้นชิงทรัพย์แถมข่มขืนเหยื่อด้วย” ชายหนุ่มแกล้งพูดขึ้นมาลอยๆ ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินกลับไปยังรถที่จอดไว้ แต่ก้าวไปได้แค่ก้าวเดียวเขาก็ต้องหยุดเดิน แล้วยิ้มที่มุมปาก

“เดี๋ยวค่ะ ฉันขอติดรถไปด้วยได้ไหม” แพรวรุ้งบอกเสียงอ่อน

“ได้สิครับ” ชายหนุ่มพยายามกลั้นยิ้มก่อนหันไปสั่งลูกน้องที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ไม่ห่างนัก “เดี๋ยวฉันจะขับรถไปเอง ส่วนนายก็เอารถของคุณแพรวรุ้งไปจัดการให้เรียบร้อยด้วย”

“ครับ คุณต้นกล้า” จักรกฤษก้มโค้งรับคำสั่งอย่างว่าง่าย

“เชิญครับ คุณแพรวรุ้ง” ต้นกล้าผายมือไปทางรถของตัวเองที่จอดอยู่

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

แพรวรุ้งเดินไปยังรถยุโรปราคาแพงที่จอดรออยู่ด้วยความจำใจ ก็ถ้ามีทางเลือกอื่น เธอก็คงจะเลือกไปแล้ว เพราะเธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคนที่กล่าวหาน้องชายของเธอ รวมถึงคอยเฝ้าตามจับผิดเธอเท่าไหร่นักหรอก

“ถ้าไงคุณช่วยไปส่งฉันตรงสถานีรถไฟฟ้าหรือป้ายรถเมล์ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันหาทางกลับบ้านต่อเอง” แพรวรุ้งหันไปเอ่ยกับชายหนุ่มหลังจากขึ้นมานั่งบนรถแล้ว

“ไม่ครับ ก่อนหน้านี้ผมจำได้ว่าผมบอกว่าจะไปส่งคุณ มันก็หมายความว่าผมต้องการไปส่งคุณถึงบ้าน” ต้นกล้าบอกเสียงเรียบ

“แต่บ้านฉันอยู่ไกล” แพรวรุ้งบอกอย่างเกรงใจ แต่ชายหนุ่มกลับตีความไปว่าเธอกำลังพยายามบ่ายเบี่ยงไม่อยากให้เขาไปที่บ้าน เพราะกำลังปกปิดอะไรบางอย่าง ซึ่งเขาคิดว่าเป็นเรื่องของฟ้าฉาย

“ถึงไกลแค่ไหน ผมก็มีปัญญาไปส่งคุณละกัน”

“งั้นก็ตามใจ แล้วอย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ บ้านฉันอยู่...” ว่าแล้วหญิงสาวก็บอกที่ตั้งบ้านของเธอซึ่งตั้งอยู่เขตปริมณฑลให้ชายหนุ่มรับรู้

“ก็ไม่เห็นไกลเท่าไหร่นี่”

ต้นกล้าขับรถไปสักพักก็สังเกตเห็นหญิงสาวที่นั่งเบาะข้างๆ กำลังกอดอกหนาวสั่น เขาจึงเอื้อมมือไปหรี่แอร์ ก่อนพยายามไม่หันไปทางเธอ ก็เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เธอสวมอยู่นั้นมันเปียกน้ำจนแนบเนื้อและบางจนเห็นชุดชั้นในสีขาวที่เธอสวมใส่ เลยยิ่งทำให้เนินอกใต้ผ้าลูกไม้สีขาวนั้นปรากฏขึ้นมาอย่างเด่นชัด ซึ่งมันมีผลกระทบกับอวัยวะบางส่วนของร่างกายของเขาให้มันตอบสนองขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้

“ด้านหลังผมมีเสื้อสูทสำรองแขวนอยู่ ถ้าคุณไม่รังเกียจก็เอามาใส่ได้นะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

และคำปฏิเสธของแพรวรุ้ง ก็ทำต้นกล้ารู้สึกขัดใจที่เธอปฏิเสธความปรารถนาดีของเขา เขาจึงหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปข้างทางแล้วเหยียบเบรกอย่างแรงจนทำให้หญิงสาวคว้าหาที่ยึดไม่ทัน แต่โชคดีที่เธอคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ไม่งั้นหัวเธอคงกระแทกกับคอนโชลหน้ารถไปแล้ว

“ว้าย!” แพรวรุ้งร้องออกมาอย่างตกใจ ก่อนรีบจับแว่นสายตาที่ร่วงหล่นมาอยู่ตรงปลายจมูกให้กลับไปที่เดิม แล้วหันขวับไปต่อว่าคนขับ “นี่คุณ! ขับรถประสาอะไรเนี่ย”

ต้นกล้าไม่ตอบ แต่เอื้อมมือไปกดปุ่มสัญญาณจอดรถฉุกเฉิน และเอี้ยวตัวไปหยิบเสื้อสูทที่แขวนอยู่เบาะหลัง แต่เนื่องจากเสื้อสูทมันแขวนอยู่ทางด้านของแพรวรุ้ง เขาจึงต้องเอี้ยวตัวไปทางนั้นมากหน่อย เลยทำให้ชายหนุ่มได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธออย่างชัดเจน อีกทั้งต้นแขนของเขาก็ยังสัมผัสกับต้นแขนของเธออีกด้วย และผลของมันก็ทำให้ทั้งคู่ต้องต่างพากันชะงักนิดนึงเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสนั้น

และเมื่อต้นกล้าตั้งสติได้ เขาก็รีบคว้าเสื้อสูทที่แขวนอยู่ส่งให้หญิงสาวทันที

“ใส่ซะ”

“ก็ฉันบอกแล้วว่าไม่เป็นไร”

“ผมบอกให้ใส่ ก็ใส่สิ คุณไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้เสื้อคุณมันบางจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” ชายหนุ่มตัดสินใจบอกความจริงกับเธอ

แพรวรุ้งก้มลงมองร่างกายตัวเองก็เห็นว่าจริงดังที่เขาว่า ใบหน้าที่ประดับด้วยแว่นสายตาแดงระเรื่อ มือบางรีบคว้าสูทจากมือเขามาสวมทันที

“แล้วก็ไม่ยอมตั้งแต่แรก” หญิงสาวบ่นงึมงำในลำคอ

ต้นกล้าแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงบ่นนั้น จนเห็นคนที่นั่งอยู่ข้างๆ สวมใส่เสื้อสูทเรียบร้อยแล้ว เขาถึงเคลื่อนรถต่อไป และหลังจากนั้นภายในรถก็ตกอยู่ในความเงียบ ซึ่งทำให้แพรวรุ้งที่ยังรู้สึกอับอายเรื่องเมื่อครู่รู้สึกอึดอัดและเก้อเขินอย่างบอกไม่ถูก

“คุณรู้ไหมคะว่าฝนตกเกิดจากอะไร” อยู่ๆ เธอก็โพล่งถามออกมาทำลายความเงียบ

“เกิดจากน้ำระเหยกลายเป็นไอน้ำ รวมตัวกันเป็นเมฆฝน...แล้วฟ้าแลบล่ะครับเกิดจากอะไร” ต้นกล้าตอบคำถามของหญิงสาวแล้วถามกลับทันที

“ฟ้าแลบเกิดจากการถ่ายเทประจุไฟฟ้าระหว่างก้อนเมฆ ขณะที่ประจุไฟฟ้าจำนวนมากวิ่งผ่านอากาศ จากก้อนเมฆหนึ่งไปสู่อีกก้อนเมฆหนึ่ง ก็จะทำให้เกิดประกายไฟ เรียกว่า ฟ้าแลบค่ะ...แล้วฟ้าผ่าละคะ ฟ้าผ่าเกิดจากอะไร” แพรวรุ้งถามกลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน

“ฟ้าผ่าเกิดจากการที่ก้อนเมฆลอยตัวไปแล้วเสียดสีกับบรรยากาศหรือเสียดสีระว่างก้อนเมฆด้วยกันทำให้เกิดการสะสมไฟฟ้าสถิตในตัวก้อนเมฆ” พูดจบเขาก็หันไปยักคิ้วให้หญิงสาวหนึ่งที ก่อนถามกลับ “แล้วฟ้าร้องล่ะ เกิดจากอะไร”

“ฟ้าร้อง ก็เกิดจากลำอากาศรอบๆ สายฟ้า ถูกอัดด้วยแรงกดดันมหาศาลจนฉีกตัวออกกลายเป็นพลาสม่า การขยายตัวอย่างฉับพลันของพลาสม่า ทำให้เกิดช้อคเวฟ ที่เมื่อเดินทางไประยะหนึ่ง จะลดกำลังลงกลายเป็นคลื่นเสียงค่ะ แล้วคุณรู้ไหมว่า...”

จากนั้นสองหนุ่มสาวเล่นถามปัญหากันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร ซึ่งมันก็ช่วยฆ่าเวลารถติดได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งรถเบนซ์อีคลาสสีบรอนส์คันหรูของต้นกล้าเคลื่อนมาถึงบ้านของแพรวรุ้งซึ่งเป็นบ้านเดียวตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในปริมณฑล

“ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาส่งฉันถึงบ้าน” หญิงสาวยิ้มบอกจากใจ ก่อนส่งเสื้อสูทที่เธอใช้สวมสวมใส่ตอนอยู่ในรถคืนให้ชายหนุ่ม

“ไม่เป็นไรครับ” ต้นกล้ารับเสื้อสูทมาถือไว้ “ถ้าไงผมของเบอร์โทรศัพท์มือถือของคุณเอาไว้หน่อยละกัน ผมจะได้ติดต่อคุณเรื่องรถได้”

“081...” และแพรวรุ้งก็บอกเบอร์โทรศัพท์มือถือของเธอให้กับชายหนุ่มที่หยิบโทรศัพท์มือถือมาบันทึกเอาไว้

“และถ้ารถคุณได้เรื่องยังไงผมจะให้คนโทรมาบอกนะครับ”

“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”

ต้นกล้าขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แพรวรุ้งเป็นผู้หญิงที่ฉลาดรู้ทันเขาและการที่ได้พูดคุยและเล่นถามตอบกับเธอเป็นอะไรที่สนุกไม่น่าเบื่อเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขามักพบเจอ  





Create Date : 09 ตุลาคม 2555
Last Update : 9 ตุลาคม 2555 15:26:23 น.
Counter : 1133 Pageviews.

1 comments
  
สนุกค่ะอ่านแล้วหัวใจชุ่มชื่น ขอบคุณค่ะ
โดย: โอวหมวย IP: 125.26.238.252 วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:7:33:00 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

TonChor
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี

ผู้ใดพบเห็นการลงผลงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดแจ้งเจ้าของบล็อกทันที


New Comments
ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31