HOUSE MUSIC / ดนตรีทำที่บ้าน ฟังที่คลับ
HOUSE MUSIC/ดนตรีทำที่บ้าน ฟังที่คลับ |
ถ้าจะเปรียบ Danc Music เป็นประเทศไทย ดนตรีในแบบ House ก็คือ สนามบินสุวรรณภูมิ นั่นเอง ขณะที่ Disco คงเปรียบได้กับดอนเมือง
House Music เป็นแนวดนตรีพื้นฐานกว้างๆ ครอบคลุมดนตรีอีกมากมายที่ได้พัฒนาออกไป ปลายยุค 70 เมื่อดิสโก้ นำมาทั้งวัฒนธรรม ดนตรี และ ดิสโก้เธค ได้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการเต้นรำของโลกไปอย่างมาก พอกระแสดิสโก้ซาลงไปในต้นยุค 80 แต่ดิสโก้เธคยังอยู่ เทคโนโลยีก็ก้าวหน้าขึ้น ดนตรีเต้นรำก็มีการพัฒนา แต่ไม่ใช่มาจากศิลปินหรือนักดนตรี ดนตรีเฮาส์ คือดนตรีที่ผลิตจากดีเจ และมีไว้สำหรับเปิดในเธคหรือคลับนั่นเอง
บรรดาดีเจต่างๆ ได้นำเพลงมาใส่จังหวะ ดนตรี และเอฟเฟคค์ ของพวกเครื่องเล่นดีเจ ต่างๆ จนมี sound เป็นของตัวเอง บางที่ก็แบบเอาเพลงคนอื่นมาทำ บางทีก็ทำเพลงเอง แต่ก็ไม่ได้เน้นการสแครชแผ่นเสียงอะไรมากมายเหมือนดีเจสาย ฮิบฮอป บีทหลักของกลองก็เหมือนกับดิสโก้ เป็นมาตรฐานสำหรับเพลงเต้นรำที่จะให้เพลงต่อกันได้ แต่ดนตรีมีความแตกต่างกัน เพื่อนต่างชาติบอกว่าคำว่า เฮาส์ มาจากช่วงเบรคของดนตรี (ไม่เห็นได้ใจความเลยว่ามันทำไมต้อง "บ้าน") เพลง House มักจะมีช่วงเบรค (เหลือแต่ดนตรีบางชิ้นหรือเสียงร้องแล้วเสียงกลองก็จะกลับมาอีก) เพลงก็จะมิกซ์ให้ยาวให้เต้นรำกันได้มันส์ในคลับ มากกว่าจะเน้นให้เปิดตามสถานีวิทยุ เขาจะเรียกเพลงเฮ้าส์ในยุคแรกแรกประมาณปี 1986-1989 ว่า Old Sckool House
เข้าสู่ยุค 90 เมื่อบรรดาดีเจทั้งหลายกลายเป็นที่รู้จักในฝีมือการยำเพลงหรือ Remix ทีนี้พอศิลปินดังๆ ไม่ว่าจะเป็น Madonna, Mariah Carey , Britney Spears, Spice Girls ,Paris Hilton, Michael Jackon หรือใครออกซิงเกิลใหม่ ก็จะเรียกให้บรรดาดีเจหรือ รีมิกซ์เซอร์พวกนี้ไปร่วมงานด้วยในซิงเกิลนั้น (คือให้เอาเพลงต้นฉบับไปรีมิกซ์นั่นเอง)
ทีนี้คงจะรู้แล้วว่า ถ้าเราจะติดตามเพลง Dance Music เราจะไม่ตามเพลง หรือศิลปิน นักร้อง เราจะตามที่ วงเล็บหลัง คือ ดีเจ รีมิกซ์เซอร์ ชื่อมิกซ์ นั่นเอง เช่น Say Something /Mariah Carey (David Morales Mix) คือถ้าเราชอบสไตล์แบบ โมราเลส เห็นชื่อเขาปั๊ป ก็รีบหามาฟังก่อนไม่ต้องสนใจศิลปินข้างหน้าเลย แต่บางศิลปินก็เป็นทั้งเจ้าของเพลงด้วยก็มี เดี๋ยวนี้มักจะใส่ชื่อ ดีเจ รีมิกซ์เซอร์ดังๆ เอาไว้ด้วยบางซิงเกิล ทำออกมาเป็น Maxi Single คือเพลงเดียว หลายๆ รีมิกซ์เลย พวกชื่อที่เขาใช้เป็นชื่อมิกซ์ นี่มักใช้ภาษาเขียนกวนๆ คล้ายภาษาเขียนเด็กแนวบ้านเราส่วนแบบที่เห็นบ่อย เช่น (Club Mix) มักจะเป็นมิกซ์ที่คล้ายเวอร์ชั่นเดิมของเพลงแต่เสริมบีทเต้นรำเข้าไป และรีมิกซ์ให้ยาวขึ้น (Dub Mix) ส่วนใหญ่จะเน้นดนตรี เสียงร้องน้อย แต่ไม่ใช่ Backing track (radio edit) ก็บอกอยู่แล้วว่าทำไว้ให้เปิดตามสถานีวิทยุ ส่วนใหญ่จะตัดสั้นเหลือแค่ 3 นาที แต่ถ้าเป็นดีเจ เพลงที่เราจะนำมาเปิดนั้นจะต้องมีความยาว6-7 นาที (ดูจากความยาวก็ได้)เพื่อที่จะได้มีส่วนหัวท้าย ที่จะต่อกับเพลงอื่น การที่เพลนึงมีหลายรีมิกซ์หรือหลายสไตล์เป็นการดีสำหรับเรา บางครั้งเปิดเพลงร้อง 4-5 เพลงแล้วก็ต้องเปิดเพลงที่มีแต่ดนตรีบ้าง แก้เลี่ยน
ขออภัยที่เพลงมันขาดๆ แหว่งๆ นะครับ เขาคงตัดมาจากรวมฮิตที่เค้ามิกซ์ต่อกัน (จะเอาของตัวเอง อัพโหลด คอมพ์เปิดไดรฟ ซีดีไม่ได้ครับ) อย่างเพลงที่สอง นี่ชื่อเพลง Missing ของวง Everything but the girls ในปี 1996 ซึ่งวงนี้ตั้งมาตั้งนานแล้ว ทำเพลงในสไตล์ ร้องเบาๆ หรือทางอังกฤษเรียก Neo Acousic ก็พอดังบ้าง แต่พอซิงเกิลนี้ ที่มี Todd Terry เจ้าพ่อดีเจคนนึงมาทำรีมิกซ์ให้ ปรากฎว่าดังมากเลย หลังชุดนี้ วงนี้ก็ต้องทำเพลงเต้นรำออกมาเยอะขึ้น จนบางคนคิดว่าเป็น วงดนตรีเต้นรำไปเลย
เพลงที่สาม น่าจะมาจากปี 1996 เหมือนกัน The Bomb (these sound fall into my mind) เพลงนี้ก็ฮิตมาก มีดีเจเอาไปรีมิกซ์เยอะทำออกมาหลายซิงเกิลมากเลย dj booboo ซื้อมาเป็น ซิงเกิล5 เลยครับ แต่แย่คือมีแต่มิกซ์สั้นจุดจู่ 3 นาทีทั้งนั้น จากได้แบบยาว ตอนนั้นเดินหาทั่วไม่มี สั่งซื้อจากอังกฤษก็ไม่มีอีก เพราะถ้าเป็นซิงเกิล เขาไม่ค่อยทำซ้ำแบบอัลบั้มเต็ม ส่วนเพลงสี่นี่ไม่ค่อยเฮาส์ แต่จะใหม่ล่าสุดเลยปีที่แล้วเองครับ
เอ๊ะเขียนไปเขียนมาทำไมยาวจัง เอาแค่นี้ก่อนดีกว่านะ เอารูป ไปเที่ยวพระนครคีรี หรือเขาวังมาฝากครับ
เขามีรถไฟฟ้าให้นั่งนะครับอีกด้านนึง ไม่กี่สิบบาทเอง แต่ถ้าขี้เหนียวอยากเดินขึ้นไปแบบนี้ ก็ขับรถวนมาทางด้านนี้
เดินเรื่อยๆ ซัก15-20 นาที ก็พอเหงื่อไหล แต่ถ้าสูงอายุหน่อยก็เล่นเอาหอบได้เหมือนกัน dj booboo ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเดินขึ้นลงก็แข้งขาสั่นไปหน่อยเหมือนกัน
พอขึ้นไปถึงด้านบนก็จะมองเห็นทิวทัศน์ของจังหวัดเพชรบุรี
เห็นพวกลิงตามทางขึ้น มีไม่ค่อยเยอะ สงสัยหลบร้อน แต่ทางด้านที่เป็นตึกแถวที่ขายขนมหม้อแกงเยอะๆ ตรงนั้น เห็นพวกจ๋อ ปีนกันวุ่นทั้ง สายไฟ ลูกกรง เหล็กดัด หน้าต่าง คิดว่าชาวบ้านแถวนั้นคงเดือดร้อนเหมือนกัน เคยได้ยินมาว่าพวกลิงเป็นสัตว์ฉลาด การที่เราชอบเอาของไปให้พวกมันกินในหลายๆ ที่ของเมืองไทย นั้น กลายเป็นการผิด วงจรธรรมชาติชีวิตของสัตว์ป่า เพราะมันจะไม่ไปหากินเอง จะมารอของที่คนให้ เมื่อมันไม่ไปหากินเอง ก็ทำให้ต้นไม้ เกสรดอกไม้ ไม่มีการผสมพันธ์ กระทบไปเป็นทอดๆ เหมือนเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว แล้วของที่เราเอาไปให้ลิงกิน อาจทำให้ลิงตายอีกพวก ถุงพลาสติกอะไรแบบนี้ พอลิงมาเยอะก็มาทำความเสียหายให้บ้านเรือนด้วย โดนรถชนโดนคนตีตายก็เยอะ
โธ่ ขากลับลงมา เพิ่งเห็น หลบร้อนกันอยู่นี่เอง ศาลานี่กลายเป็นที่พักของพวกจ๋อไปแล้ว
อันนี้เป็นโรงแรมที่พักที่หาดชะอำ ต้องบอกว่าช่วงนี้วันธรรมดานี่เงียบมากเลย โดยเฉพาะกลางคืน
dj booboo ต้องไปทำงานเลี้ยงปากท้องซัก5-6 วัน แล้วจะกลับมาเยี่ยมเพื่อนๆ นะครับ
Create Date : 14 สิงหาคม 2551 |
|
29 comments |
Last Update : 14 สิงหาคม 2551 19:38:46 น. |
Counter : 1223 Pageviews. |
|
|
|