|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รุ้งในเงาตะวัน ตอนจบ (ในแสงตะวันมีสายรุ้ง)
รุ่งกาลมาถึงไร่แสงตะวันตั้งแต่เช้าตรู่ หญิงสาวยกมือไหว้คุณรวีที่ออกมารอใส่บาตรหน้าประตูรั้วก่อนจะเดินเข้าไปโอบร่างท้วมของผู้สูงวัยกว่าด้วยกริยาประจบประแจงไม่ต่างจากยามเป็นเด็ก
คิดถึงแม่แสงจัง
คิดถึงแล้วทำไมไม่กลับบ้านตั้งสองสามปี คุณรวีบ่นขณะกวาดสายตาสำรวจ ลูกสาวคนเล็ก โดยละเอียด
โธ่! ก็รุ้งต้องทำงานนี่คะ ที่ได้กลับมานี่ก็มาทำงานนะคะ
ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยยายเด็กบ้างาน รู้ไหมเจ้านายเราเขาเล่าให้แม่ฟังหมดแล้วว่าเราทำวีรกรรมอะไรเอาไว้บ้างในที่ทำงาน
รุ่งกาลหน้าง้ำเมื่อได้ยินประโยคบอกเล่านั้น
...เจมส์นะเจมส์ นินทาเราเสียได้...ชิ...
แน่ะ! ดูสิยังมาทำหน้างอใส่แม่อีก มาช่วยแม่ใส่บาตรเลยพระมานู่นแล้ว
คุณรวีดุไม่จริงจังนัก ในขณะที่รุ่งกาลกุลีกุจอช่วยหยิบนั่นส่งนี่ให้ผู้สูงวัยกว่าด้วยความเต็มใจ
หญิงสาวรอจนคุณรวีกรวดน้ำเสร็จจึงค่อยถือถาดเปล่าเดินตามผู้สูงวัยกว่าเข้าบ้าน
กินอะไรมาหรือยังรุ้ง วันนี้รู้สึกในครัวจะทำข้าวต้มปลาล่ะมั้ง อยู่กินข้าวเป็นเพื่อนพ่อกับแม่หน่อยพี่ไลท์ออกไปดูไร่ตั้งแต่มืดกว่าจะกลับคงสายๆ นู่นแหละ แล้วนี่เจอพี่เขาหรือยัง?
รุ่งกาลส่ายศีรษะทำหน้ายุ่ง หากดูเหมือนว่า...คนที่ถูกเอ่ยถึงดูจะอายุยืนกว่าที่คิด เมื่อชายหนุ่มโผล่เข้ามาในห้องรับแขกพร้อมๆ กับคำถาม
นินทาอะไรผมอยู่หรือครับแม่
เปล่าสักหน่อย แม่กำลังชวนน้องกินข้าว ผู้เป็นมารดาตอบ
แสงฉานพินิจมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายทางกับกางเกงสแล็กสีดำสนิท ผมยาวถึงกลางหลังถูกเจ้าตัวมัดรวบเป็นหางม้า เผยให้เห็นใบหน้ารูปไข่และเครื่องหน้าอันประกอบด้วยดวงตายาวรีสีน้ำตาลล้อมกรอบไว้ด้วยขนตาดกหนา ปลายจมูกโด่งเชิดตั้งอยู่เหรือริมฝีปากรูปหัวใจ หญิงสาวแต่งหน้าอ่อนๆ ยิ่งทำให้ใบหน้าคล้ายตุ๊กตายิ่งดูชวนมอง
รุ่งกาลยกมือไหว้เขาตามมารยาท
สวัสดีค่ะพี่ไลท์ เธอทักทายเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ฟังดูเป็นทางการจนเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างกระทันหัน
สวัสดีรุ้ง สบายดีไหม? เขาเอ่ยถามพร้อมกับยื่นมือออกไปแย่งถาดในมือเธอมาถือไว้เสียเอง
สบายดีค่ะ พี่ไลท์ล่ะคะ?
สบายดี ขอบใจ
แม่ขอไปล้างมือแป๊ปนึง ไลท์กับรุ้งไปที่ห้องกินข้าวก่อนเลยนะลูก คุณรวีเอ่ยกับสองหนุ่มสาวก่อนจะเดินจากไป
แสงฉานมองคนตัวเล็กบางที่เดินอยู่ข้างกาย เค้าหน้าหญิงสาวไม่ค่อยเปลี่ยนไปจากในวัยเด็กสักเท่าไหร่ ทว่าชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
...จากเด็กหญิงซนๆ ใครจะคิดว่ารุ่งกาลจะกลายเป็นผู้หญิงสวยหวาน น่าทนุถนอมแบบนี้...
ไปอยู่กรุงเทพเป็นยังไงบ้าง? เขาเอ่ยถามเป็นการเปิดประเด็น ขณะเดินไปยังห้องรับประทานอาหารด้วยกัน
ก็...สนุกดีค่ะ รุ่งกาลตอบสั้นๆ ทั้งที่ความตั้งใจแต่แรกที่ทำให้เธอมาถึงไร่แสงตะวันแต่เช้าก็คือ...เธออยากพบหน้าแสงฉานเร็วๆ แต่เมื่อพบกันแล้ว...เธอกลับไม่รู้ว่าจะพูดคุยอะไรเสียอีก...
หญิงสาวลอบมองคนข้างกาย
...ร่างสูงโปร่งของแสงฉานดูจะกำยำขึ้นกว่าแต่ก่อน ใบหน้ารูปไข่นั้นดูคมคายด้วยคิ้วหนาเข้มพาดเฉียงอยู่เหนือดวงตาสีดำแกมเทา ขนตาชายหนุ่มไม่ดกนักหากยาวงอนเป็นแพสวย ระหว่างดวงตาทั้งสองข้างคือจมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหนาได้รูป
สิ่งเดียวที่ทำให้เขาแลดูผิดไปจาก พี่ไลท์ ในความทรงจำก็คือท่าทีเคร่งขรึมจนแทบจะดูเป็นดุสำหรับคนที่ห่างเหินกันไปพักใหญ่
...บางทีอาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกระมัง...หญิงสาวบอกตัวเอง
~~~~~~~~~~
เจมส์มาร่วมโต๊ะอาหารเป็นคนสุดท้าย
อรุณสวัสดิ์ครับ เขาทักทายทุกคนพร้อมกันในคราวเดียว ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ รุ่งกาลที่ว่างอยู่
ผมกำลังคิดอยู่เชียวว่าคุณจะทิ้งผมให้ทำงานคนเดียวหรือเปล่า เขาเอ่ยกับเธอยิ้มๆ
พูดแบบนี้แสดงว่าอยากฉายเดี่ยวใช่ไหมคะ? ดีเหมือนกันรุ้งกำลังอยากใช้สิทธิ์ลาพักร้อนพอดี หญิงสาวตอบหน้าตาย ทำเอาคนคิดจะเล่นมุกต้องรีบกลับลำโดยด่วน
ผมรู้ว่าคุณไม่ใจร้ายกับผมแบบนั้นหรอก
ก็ไม่แน่เหมือนกันนะคะคุณเจมส์ ตอบเสียงเย็นหากดวงตาเป็นประกายอย่างพึงใจที่แกล้งคนตรงหน้าได้สำเร็จ ก่อนที่เธอจะหันกลับมาตักข้าวต้มในชามตรงหน้าเข้าปากเป็นการตัดบท
แสงฉานมองกริยาต่อปากต่อคำของทั้งคู่ ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจที่เขาเองก็บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารเช้าก่อนจะลุกจากที่
ผมขอตัวไปจัดการงานในออฟฟิตก่อน อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่หน้าตึกนะครับ ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว โดยมีสายตาของคุณพงษ์และคุณรวีมองตามไปด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่ผู้สูงวัยทั้งสองคนจะหันมาสบตากันเอง
...ไม่รู้นายไลท์เป็นอะไรของเขา...
~~~~~~~~~~
สามสิบนาทีไม่ขาดไม่เกินแสงฉานก็มาพบกับสองหนุ่มสาวที่หน้าตึกตามที่นัดหมาย โดยมีชายวัยกลางคนซึ่งได้รับการแนะนำในภายหลังว่าเป็นหัวหน้าคนงานประจำไร่ตามหลังมาด้วย
เขาพาเจมส์และรุ่งกาลเดินอ้อมตึกไปทางด้านหลัง ก่อนจะพาเดินขึ้นไปตามทางเดินแบบขั้นบันไดเล็กๆ ซึ่งทอดสูงขึ้นไปบนเนินเขาด้านทิศตะวันออกพร้อมกับอธิบาย
ตรงส่วนนี้เป็นเขตไร่เมี่ยงเก่าที่ทำกันมาตั้งแต่ชาวบ้านรุ่นแรกๆ ย้ายมาตั้งรกรากที่นี่ อันที่จริงผลผลิตตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้วเพราะปลูกกันมานาน แต่ผมอยากอนุรักษ์ไว้
ถัดจากเนินเขาที่เป็นไร่ชาเมี่ยง ชายหนุ่มก็พาสองหนุ่มสาวอ้อมเนินไปยังส่วนของไร่กาแฟที่ชายหนุ่มบอกว่า...
ผมปลูกไม่เยอะ เพราะคุณภาพยังสู้กาแฟจากแม่สรวยไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมก็อยากให้คนที่มาเที่ยวได้ชินกาแฟแท้ๆ ที่ปลูกในพื้นที่จริงๆ
จากไร่กาแฟ...แสงฉานเดินไปพลางสั่งงานไปด้วยตลอดทางจนไปถึงไร่ชาสมุนไพร พื้นที่ราบเล็กๆ บนไหล่เขาถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ตามชนิดของสมุนไพร ตั้งแต่พืชสวนครัว เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ และใบเตย ไปจนไม้ยืนต้นอย่างขี้เหล็ก และมะรุม ก่อนจะจบลงที่สวนหม่อนซึ่งกินอาณาเขตกว้างขวางไม่ต่ำกว่าสิบไร่
ผมเน้นชาใบหม่อนมากกว่าชาชนิดอื่นๆ เพราะมีร้านค้าในเมืองรับซื้อเป็นลูกค้าประจำอยู่หลายเจ้า ส่วนลูกหม่อนที่ออกมาผมให้คนงานเก็บเข้าส่วนกลาง ให้กลุ่มแม่บ้านแปรรูปเป็นแยมขายเป็นของที่ระลึกของหมู่บ้านแสงฉานอธิบาย
ชายหนุ่มเก็บลูกหม่อนสุกจัดจนเป็นสีม่วงเข้มราวสี่ห้าพวงส่งให้ลูกทัวร์กิติมศักดิ์
เด็ดชิมจากต้นได้นะครับ ผมรับรองได้ว่าอร่อยและไร้สารพิษจริงๆ
เจมส์ส่งผลไม้ที่ได้มาเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พยักหน้าอย่างพึงใจก่อนจะเอ่ยชม
อร่อยจริงๆ ครับ
เหนื่อยกันหรือเปล่าครับ ผมให้ฤทัยจัดอาหารกลางวันรอไว้ที่น้ำตก เดินไปอีกนิดก็ถึงแล้ว แม้ปากจะเอ่ยถามเป็นกลางๆ หากสายตาอ่อนโยนทอดมองไปยังคนที่หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อเป็นรอบที่สิบเห็นจะได้
...เครื่องสำอางอ่อนๆ ที่แต่งมาแต่เช้าหลุดหายไปหมดแล้ว เผยให้เห็นผิวแก้มเนียนละเอียดที่ระเรื่อขึ้นเพราะความร้อน...
รุ่งกาลดูจะไม่ชินกับชีวิตกลางแจ้งสักเท่าใดนัก หากถึงกระนั้นหญิงสาวก็ไม่ปริปากบ่นแม้สักคำ
เจมส์มองตามสายตาเจ้าของไร่หนุ่ม ก่อนจะเอ่ยออกมา ขอพักขาสักครู่เถอะครับ กลับไปเห็นทีจะต้องหัดออกกำลังกายเสียบ้าง เดินได้ไม่เท่าไหร่ก็ชักจะหมดแรงเสียแล้ว
เป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบสี่ชั่วโมงที่แสงฉานเห็นว่า...ชายหนุ่มตรงหน้าก็
...ไม่เลวนัก...
~~~~~~~~~~
น้ำตกธารดอกเอื้องเป็นน้ำตกเล็กๆ ที่ทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาสูงราวห้าเมตร ตัวน้ำตกแบ่งออกเป็นสองชั้นคือ...ลานหินด้านล่างที่สูงจากธารน้ำราวเมตรเศษๆ และชั้นที่สองซึ่งเป็นหน้าผากว้างราวๆ สองเมตร สูงจากลานหินชั้นแรกขึ้นไปประมาณสาม-สี่เมตร ละไอที่เกิดขึ้นจากการตกลงมาจากที่สูงของน้ำทำให้บริเวณโดยรอบชุ่มชื้นอยู่ตลอดปี
ดอกกล้วยไม้ประจำถิ่นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า เอื้องคำ ต่างพากันออกดอกสีเหลืองเข้มห้อยเป็นระย้าอยู่ตามคาคบไม้ทั่วบริเวณนั้น จนดูเผินๆ คล้ายกับต้นไม้เหล่านั้นเป็นผู้ผลิดอกเสียเอง
การสังเกตว่าป่าต้นน้ำแห่งนั้นอุดมสมบูรณ์อยู่หรือเปล่า เราจะสังเกตได้ง่ายๆ ว่าบริเวณนั้นมีกล้วยไม้ขึ้นอยู่บ้างหรือเปล่า อย่างตรงน้ำตกนี้นับว่าสมบูรณ์มาก ที่เห็นออกดอกอยู่นี่เป็นกล้วยไม้ประจำถิ่นที่คนทางเหนือเรียกว่า...เอื้องคำ ชาวบ้านเลยเรียกลำธารสายนี้ว่า...ธารดอกเอื้อง และกลายเป็นชื่อหมู่บ้านในที่สุด แสงฉานอธิบายให้เจมส์ฟังในฐานะคนนำเที่ยวที่ดี
สวยจัง รุ่งกาลอุทานอย่างตื่นเต้น หญิงสาวยื่นมือออกไปสัมผัสกลีบดอกไม้จากช่อบนคาคบใกล้ตัว ดวงตาเป็นประกาย
แสงฉานทักทายชาวบ้านที่พานักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมธรรมชาติบริเวณน้ำตกอย่างคุ้นเคย สองหนุ่มสาวอายุราวๆ ยี่สิบปีพับขากางเกงขึ้น ก่อนจะชวนกันลงไปเดินท่องเล่นอยู่กลางลำน้ำ ในขณะที่นักท่องเที่ยวบางคนเดินสำรวจไปรอบๆ พร้อมกับกล้องถ่ายรูปตัวเก่งเพื่อบันทึกภาพประทับใจเก็บไว้
รุ่งกาลเห็นหนึ่งฤทัยที่นั่งรออยู่บนเสื่อผืนกว้างไม่ห่างจากธารน้ำสักเท่าใดนักก็เร่เข้าไปหา เธอทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิบนมุมเสื่อก่อนจะยื่นมือออกไปรับน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ ที่เพื่อนสาวเทส่งให้มาดื่มแก้กระหาย
มีน้ำเปล่าไหมฤทัย ขออีกแก้วหนึ่งเถอะ...ร้อน... เอ่ยถามพลางยื่นแก้วน้ำในมือคืนให้เพื่อน
มีสิ เดี๋ยวนะ หนึ่งฤทัยตอบก่อนจะหยิบขวดน้ำดื่มจากตะกร้าข้างตัวออกมา
ทำยังไงขนมาน่ะฤทัย ตะกร้าเบ้อเร่อเลย
น้าดุลย์เอามอเตอร์ไซคล์มาส่งจ้ะ
รุ่งกาลนั่งพักดื่มน้ำพอหายเหนื่อยก็ช่วยเพื่อนสาวลำเลียงกับข้าวที่เตรียมมาออกจากตะกร้า เจมส์และแสงฉานเดินเข้ามาสมทบกับสองสาว แล้วอาหารกลางวันแบบกลางแจ้งก็เริ่มขึ้นอย่างง่ายๆ
บรรยากาศแสนสบายริมธารน้ำช่วยให้สี่หนุ่มสาวเจริญอาหารได้มาก โดยเฉพาะรุ่งกาลที่เติมข้าวเป็นครั้งที่สามและถูกเจมส์ล้อเลียน
วันนี้เลขานุการผมกินจุแฮะ ขืนกินจุแบบนี้ทุกวันผมจะเลี้ยงไม่ไหวเอานะรุ้ง
กองทัพเดินด้วยท้องค่ะคุณเจมส์ อยากได้เลขาใหม่บอกรุ้งมาตรงๆ ก็ได้นะคะ ไม่ต้องอ้อมค้อม หญิงสาวตอบเจ้านายด้วยน้ำเสียงสะบัดงอน
ทว่าแทนที่จะง้อ ชายหนุ่มกลับหันไปถามหนึ่งฤทัยพร้อมกับ แปลงสาร หน้าตาเฉย
คุณฤทัยสนใจงานเลขานุการบ้างไหมครับ เลขานุการผมเขาทำท่าจะไม่อยากทำงานกับผมแล้วล่ะ
เห็นจะไม่ไหวหรอกค่ะฤทัยไม่ได้เรียนมาทางนั้น หญิงยิ้มในหน้าพร้อมกับตอบปฏิเสธ
รุ้งเขาก็ไม่ได้จบเลขามาหรอกครับ แต่ทำงานเก่งกว่าเลขาคนเก่าของผมที่จบสายตรงมาเสียอีก
รุ่งกาลเห็นอาการของเจ้านายหนุ่มที่เปลี่ยนอาชีพไปเป็นพ่อค้าขนมจีบเสียแล้วก็ส่ายหน้าอย่างระอา
...เจมส์หนอเจมส์ เก็บอาการไม่เป็นเอาซะเลย...
รุ้งไปเดินย่อยอาหารก่อนนะคะ หญิงสาวเอ่ยขอตัวเบาๆ ก่อนจะลุกเดินไปสำรวจลำธารใกล้ๆ
พี่ไปด้วย แสงฉานบอกก่อนจะลุกขึ้นตาม
น้ำในลำธารใสจนมองเห็นก้อนกรวดน้อยใหญ่ได้ชัดเจน หญิงสาวถอดรองเท้าก่อนจะพับขากางเกงขึ้น รุ่งกาลแตะเท้าลงในน้ำช้าๆ ก่อนจะก้าวลงไปยืนอยู่กลางลำน้ำในเวลาถัดมา น้ำในธารแม่ดอกเอื้องสูงแค่ครึ่งน่องหากเย็นพอสมควรเพราะเป็นเขตต้นน้ำ
ทันทีที่เธอเริ่มออกเดินมือใหญ่อบอุ่นก็แตะลงบนบ่า แสงฉานเข้ามายืนซ้อนหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ หญิงสาวหันกลับไปสบตาคนข้างหลัง แววตาชายหนุ่มแลดูประหลาดชวนให้หัวใจเต้นรัวจนต้องปรามตัวเอง
...พี่ไลท์แค่ห่วงใยเธอในฐานะน้องสาวเท่านั้นเอง...
ค่อยๆ เดินนะ เห็นน้ำใสอย่างนี้เดินเพลินๆ ก็สะดุดหินล้มเอาได้ง่ายๆ เหมือนกัน น้ำเสียงอ่อนโยนของชายหนุ่มนั้นฟังดูไม่แตกต่างจากเมื่อตอนเธอเป็นเด็กสักเท่าใดนัก
รุ่งกาลย้ำเท้าไปตามธารน้ำช้าๆ อดนึกถึงเพื่อนรักที่จากไปไม่ได้
คิดถึงไบร์ทนะคะ
เขาไปดีแล้ว ชายหนุ่มตอบเรียบๆ ไม่บอกอารมณ์
นั่นน่ะสิคะ
แม่กับพ่อตั้งผ้าป่าทุกปี ไว้วันหลังรุ้งก็มาด้วยสิ
ค่ะ หญิงสาวรับคำสั้นๆ
จากนั้นต่างคนก็ต่างเงียบกันไปพักใหญ่ ก่อนที่แสงฉานจะเอ่ยขึ้น
ฟังจากที่คุณเจมส์เล่ามา งานเราท่าทางจะเหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันนะ
ก็ไม่ลำบากเท่าไหร่หรอกค่ะ เป็นเลขาต้องละเอียดรอบคอบ แต่เห็นแบบนั้นเจ้านายรุ้งเขาใจดีนะคะ หญิงสาวเอ่ยถึงเจ้านายด้วยท่าทีสดใส
ท่าทางเขาเองก็ชอบรุ้งนี่
อะไร บางอย่างในน้ำเสียงชายหนุ่มทำให้หญิงสาวต้องหันกลับมาสบตาเขาอีกครั้ง
รุ้งไม่ได้เป็นอะไรกับคุณเจมส์นะพี่ไลท์ นอกจากเจ้านายกับเลขา เธอบอกเขาชัดถ้อยชัดคำ
แสงฉานรู้สึกถึงอาการพองโตของก้อนเนื้อในช่องอก หากถึงกระนั้นความสงสัยใคร่รู้ทำให้เขาอดที่จะถามคำถามถัดไปไม่ได้
พูดแบบนี้แสดงว่ามีคนอื่นอยู่หรือเปล่า?
รุ้งไม่เคยมีแฟน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอจะต้องรีบร้อนแก้ตัวกับเขาด้วย รุ่งกาลรู้สึกร้อนวาบบนใบหน้าขณะเร่งฝีเท้าขึ้น
ระวัง! แสงฉานร้องเตือน ชายหนุ่มพยายามจะคว้าร่างหญิงสาวเอาไว้แต่ระยะห่างที่เพิ่มมากขึ้นทำให้...
...สุดปลายมือคว้า...
ตูม!!!
รุ่งกาลลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ในน้ำเป็นที่เรียบร้อย สายตาหลายคู่มองมาตามเสียง ทว่าเมื่อเห็นว่ามีคนคอยให้ความช่วยเหลืออยู่แล้วก็ละความสนใจ
แสงฉานก้าวมาถึงตัวหญิงสาวในวินาทีถัดมา เขาดึงตัวเธอขึ้นมาจากน้ำ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าร้อนรน
เจ็บตรงไหนหรือเปล่า แถวนี้น้ำลึกตะไคร่เยอะ พี่กำลังจะเตือนรุ้งก็ลื่นลงไปแล้ว
รุ้งไม่เป็นไรหรอกค่ะ เปียกน้ำเท่านั้นเอง หญิงสาวตอบ ผิวแก้มแดงระเรื่อขึ้นด้วยความอาย
แสงฉานกวาดสายตาสำรวจคนตรงหน้าแต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว ...เสื้อเชิ้ตสีอ่อนยามเปียกน้ำทำให้เห็นชัดไปถึงไหนต่อไหน...
...ไม่ยักรู้ว่าเห็นผอมๆ บางๆ แบบนี้จะซ่อนรูป...หากเพียงแค่คิดว่าอาจจะมีใครมองเห็นหน้าอกอวบอิ่มผ่านเสื้อผ้าเปียกๆ นั่น เขาก็รู้สึกแทบคลั่ง...
ความรู้สึกหวงแหนที่ก่อตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วยังผลให้ชายหนุ่มรีบปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก ก่อนที่เสื้อเชิ้ตลายตารางสีเข้มจะถูกคลุมลงบนไหล่คนตัวเล็กพร้อมกับคำสั่งเฉียบขาด
ห้ามถอดนะ เสื้อเราบางมากเลยรู้ไหม
ประโยคหลังนั้นทำเอาคนรับคำสั่งยิ่งหน้าแดง หญิงสาวก้มหน้างุดขณะก้าวเท้ากลับมาที่เดิมตรงที่วางรองเท้าไว้ ปลายหูได้ยินเสียงเขาบอกหนึ่งฤทัยและเจมส์แว่วๆ
คุณเจมส์พักผ่อนตามสบายนะครับ ให้ฤทัยพาดูอะไรแถวนี้ก่อนก็ได้ ผมจะพารุ้งกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า...เปียกไปทั้งตัวแบบนี้เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา
เจมส์ดูเหมือนจะจับความรู้สึกของชายหนุ่มตรงหน้าได้อย่างชัดเจนจากคำพูดนั้น
งั้นก็...รบกวนด้วยนะครับ เขาบอกกับแสงฉาน
ผู้ชายสองคนสบตากันสื่อสารทางสายตา
...ผมเปิดโอกาสให้คุณแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะ...
ชายหนุ่มหันไปทางเลขานุการสาวที่กระชับเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่พลางห่อตัวด้วยความหนาว
วันนี้คุณพักผ่อนอยู่กับบ้านเลยก็แล้วกัน ผมขี้เกียจทำงานแล้วล่ะ เจมส์พูดออกมาหน้าตาเฉย
รุ่งกาลได้ยินแล้วอยากตวัดค้อนคมๆ ให้สักทีด้วยความหมั่นไส้ ทว่าตอนนี้เธอหนาวจนแทบจะขยับไม่ได้
เดินไหวไหม หรือจะให้พี่เอารถมารับ แสงฉานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย แม้ตัวน้ำตกจะอยู่ลึกเข้ามาในส่วนของป่าชุมชน แต่เพื่อความสะดวกชาวบ้านต่างตกลงใจทำถนนเล็กๆ พอที่รถจักรยานหรือรถจักรยานยนต์จะผ่านเข้ามาได้
หญิงสาวส่ายหน้าก่อนจะออกเดินโดยไม่เอ่ยอะไร
~~~~~~~~~~
ทางเดินจากน้ำตกไปยังบ้านเธอนั้นไม่ไกลนัก รุ่งกาลคุ้นทางดีเพราะตอนเป็นเด็กมักจะเล่นซอนซอกไปทั่วกับตะวันฉายจนจำพื้นที่ในหมู่บ้านได้ทุกตารางนิ้ว
อาการหนาวจนตัวสั่นของเธอทำให้คนที่เดินเคียงข้างทนไม่ไหว แสงฉานตวัดร่างบอบบางของหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว
อุ๊ย! พี่ไลท์ปล่อยรุ้งนะ หญิงสาวโวยวายทั้งที่ฟันกำลังกระทบกันกึกกัก
ไม่ปล่อย มีอะไรไหม?
รุ่งกาลเงยหน้าขึ้นมองคนพูด ทว่าทันทีที่สบเข้ากับสายตาเป็นประกายประหลาดเธอก็ต้องรีบก้มหน้าลง หัวใจชักจะเต้นไม่เป็นส่ำ
เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า พูดอุบอิบอยู่แค่ในลำคอ ไม่รู้ว่าความมั่นใจที่เคยมีมันหายไปไหนหมด
เห็นก็ดีสิ เขาตอบคนในอ้อมแขน
รู้ตัวไหมคะว่าพูดอะไรออกมา? เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
รู้สิ พี่นี่โง่นะ...ที่ปล่อยให้รุ้งไปอยู่ไกลหูไกลตาได้ตั้งนาน
พี่ไลท์! หญิงสาวอุทานออกมาอย่างคาดไม่ถึง เธอพยายามใช้ฝ่ามือดันตัวเองออกจากแผ่นอกกำยำ จากที่รู้สึกหนาวๆ กลับกลายเป็นรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเพราะคำพูดนั้น
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ก่อนที่ตะวันฉายจะเอ่ยถาม
รุ้ง...
คะ?
ยังหนาวอยู่ไหม?
ไม่หนาวแล้วค่ะ ตอบเบาจนแทบไม่ต่างจากเสียงกระซิบ
แสงฉานคลายอ้อมแขนออก เสื้อยืดชั้นในสีขาวเปียกน้ำจนเห็นกล้ามเนื้อหน้าอกชัดเจน เขายังคงโอบเธอไว้หลวมๆ ขณะเดินเคียงกันไป
~~~~~~~~~~
รุ่งกาลหยุดเดินก่อนถึงประตูรั้วด้านหลังบ้านเล็กน้อย หญิงสาวรวบรวมความกล้าแล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับแสงฉานอีกครั้งทั้งๆ ที่หัวใจยังคงเต้นไม่เป็นจังหวะ
...ถ้าไม่คุยกันให้ชัดเจน ต่อไป...เธอก็คงไม่รู้จะวางตัวยังไง...
พี่ไลท์
ทำไมจ้ะ? ชายหนุ่มถามกลับ พร้อมกับหันไปสบตาคนที่ดันตัวออกจากอ้อมแขนเขาสำเร็จในที่สุด
พี่ไลท์ไม่ได้คบอยู่กับฤทัยเหรอคะ? ถามออกไปแล้วก็แทบจะกัดริมฝีปาก เมื่อนึกขึ้นได้ว่า...ระหว่างมื้ออาหารแสงฉานวางตัวเป็นกันเองกับหนึ่งฤทัยก็จริง แต่จะเรียกว่าใกล้ชิดสนิทสนมก็คงจะไม่ได้ เธอเองยังสนิทกับเจมส์มากกว่าเสียอีก...
ไม่ได้คบ...และไม่เคยคิดจะทำอย่างนั้นด้วย ตั้งแต่กลับมา...พี่ไม่เคยมีใคร ชายหนุ่มเน้นเสียงในตอนท้าย เขาสบตาเธออย่างจริงจังก่อนจะเอ่ยต่อ
กับรุ้งพี่ก็บอกไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่รู้แต่ว่า...พี่คิดถึงรุ้ง...ดีใจมากที่รุ้งกลับมา แล้วพี่ก็ไม่อยากให้รุ้งกลับไปกรุงเทพเลยสิ...ให้ตาย เขาสบถในตอนท้าย
น่าแปลกที่คำสารภาพอย่างตรงไปตรงมาของแสงฉานทำให้เธอรู้สึกเต็มตื้นอย่างบอกไม่ถูก...รุ่งกาลนิ่งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ
รุ้งก็คิดถึงพี่ไลท์
ทันที่ที่พูดจบหญิงสาวก็ผลักประตูรั้วให้เปิดออก แล้วก้าวเท้าเร็วๆ ไปยังตัวบ้านโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองคนที่เดินตามมาทางด้านหลัง...
~~~~~~~~~~
รุ่งกาลเข้าบ้าน เธอพบผู้เป็นมารดากำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องรับแขก คุณพรทิวาหันมามองมองลูกสาวก่อนจะเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
ไปทำอะไรมาน่ะรุ้งถึงไปเปียกไปทั้งตัวแบบนั้น
หญิงสาวยังไม่ทันเอ่ยอะไร แสงฉานที่ตามเธอมาติดๆ ก็เป็นผู้ตอบแทน
ตกลงไปในห้วยน่ะครับ
อ้าวไลท์ก็มาด้วยเหรอ
ครับผม
รุ่งกาลจึงถือโอกาสนั้นก้าวเท้าเร็วๆ หายขึ้นไปบนบ้าน ในขณะที่ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยท่าทีสนิทสนมคุ้นเคย
โตแล้วยังซุ่มซ่ามอยู่อีกลูกคนนี้ ผู้เป็นมารดาบ่นพร้อมกับส่ายหน้า
ผมผิดเองครับที่เตือนน้องไม่ทัน ชายหนุ่มรับผิดแทนรุ่งกาลหน้าตาเฉย ทำเอาผู้สูงวัยกว่ามองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ หากก็เพียงแวบเดียว
...จะว่าไปแล้ว...แสงฉานก็ถูกทั้งตะวันฉายและรุ่งกาลโบ้ยให้รับผิดเป็นประจำนั่นแหละ...จนตอนหลังคนทำหน้าที่ผู้พิพากษาต้องใช้วิธีสอบพยานตัวต่อตัวทีละคนจึงจะได้ความจริง...
แล้วนี่ไปถึงไหนกันมา?
น้ำตกครับ ดอกเอื้องกำลังสวยเลยให้ฤทัยจัดมื้อกลางวันไปกินที่นั่น
คุณพรทิวาพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเป็นเชิงปรารภ
ท่าทางยายรุ้งจะไม่ค่อยถูกกับน้ำ
นั่นน่ะสิครับ
แสงฉานอยู่คุยกับคุณพรทิวาต่ออีกครู่ใหญ่จึงลากลับ ใจจริงเขาอยากจะคุยกับรุ่งกาลต่อ แต่ชายหนุ่มก็รู้ว่าทั้งเขาและรุ่งกาลต้องการเวลาเพื่อทบทวนความรู้สึกของตัวเองอยู่เหมือนกัน
~~~~~~~~~~
เย็นวันนั้นแสงฉานมีโอกาสได้พบรุ่งกาลอีกครั้ง เพราะหญิงสาวรับปากคุณรวีไว้ว่าจะไปทานอาหารเย็นด้วย เจมส์ยังคงคุยถูกคออยู่กับคุณพงษ์ ในขณะที่เขาแทบไม่ได้คุยอะไรกับใครเลย ชายหนุ่มจมเจ่าอยู่กับความคิดของตนเองจนอาหารค่ำมื้อนั้นผ่านพ้นไป
คุณพงศ์ชวนเจมส์ไปรวมกลุ่มกับนักท่องเที่ยวที่มาจัดแคมป์ไฟใกล้ๆ กับน้ำตกธารดอกเอื้องที่ไปเที่ยวมาตั้งแต่ตอนกลางวัน โดยที่ชายหนุ่มเองก็ไม่ปฏิเสธแถมยังหันมาชวนรุ่งกาลต่ออีกทอดหนึ่งด้วย
ไปด้วยกันไหมรุ้ง
หญิงสาวส่ายศีรษะปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
ไม่ไปค่ะคุณเจมส์ เอาแต่เที่ยวแบบนี้เมื่อไหร่งานจะเสร็จคะ? ถามด้วยมาดคุณครูเจ้าระเบียบอีกตามเคย
พรุ่งนี้ก็เสร็จแล้ว เหลือแค่ชิมแล้วก็เอาตัวอย่างไปส่งแล็บก็พร้อมทำสัญญาได้เลย อาจจะต้องรบกวนคุณไลท์ให้ลงไปกรุงเทพด้วยนะครับ เจมส์ตอบเลขานุการสาว ก่อนที่เขาจะหันไปบอกกับแสงฉานด้วยน้ำเสียงเอาการเอางานในตอนท้าย
ครับผม ชายหนุ่มตอบรับสั้นๆ
~~~~~~~~~~
ผู้ร่วมเดินทางไปยังลานแคมป์ไฟดูจะมิได้จำกัดอยู่แค่สองหนุ่มต่างวัย เพราะหนึ่งฤทัยพาน้องชายมารออยู่ในห้องโถงด้านหน้าพร้อมไฟฉายกระบอกโต เจมส์ยิ้มกว้างเมื่อเห็นหญิงสาว
สวัสดีครับฤทัย ขาเอ่ยทักเธอด้วยสีหน้ายินดีอย่างปิดไม่มิด ในขณะที่หนึ่งฤทัยเพียงแต่ส่งยิ้มไปให้
อย่ากลับดึกนักนะฮะพ่อ ฤทัยฝากด้วยนะ แสงฉานบอกบิดาก่อนจะหันไปสั่งความกับผู้ร่วมงานสาว ก่อนที่ทั้งสี่คนจะค่อยเดินตามกันไปยังที่ตั้งแคมป์ ทิ้งแสงฉานและรุ่งกาลที่มายืนรอส่งไว้ด้านหลัง
พระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาไปแล้ว หากยังเหลือแสงรางๆ พอให้มองเห็นสรรพสิ่งรอบกาย
ไปเดินเล่นกันไหม? เขาหันมาถามคนข้างกายแทบจะทันทีที่คณะของบิดาและเจมส์เดินลับไปจากสายตา
สายตารุ่งกาลที่แลสบกับแสงฉานฉายแววไม่มั่นใจเท่าใดนัก ทว่าหญิงสาวก็พยักหน้าอย่างง่ายๆ
เขาพาเธอเดินอ้อมสวนไปยังระเบียงบ้านทางทิศเหนือ ซึ่งล้อมรอบไปด้วยไม้กระถางจำพวกเฟิร์นข้าหลวง และไม้ประดับจำพวกสาวน้อยประแป้งและโกศลให้ความรู้สึกร่มรื่นฉ่ำเย็น
หญิงสาวเงยหน้ามองไม้ระแนงที่ถูกตีไว้ต่างหลังคา คลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของระเบียงไม้ด้านที่ติดกับตัวบ้านไว้ ทั้งราวระเบียงด้านข้างและซุ้มเหนือศีรษะมีต้นเล็บมือนางขึ้นคลุม ใบสีเขียวเข้มตัดกับดอกสีชมพูอมแดงอ่อนแก่พราวไปทั้งบริเวณทำให้แลคล้ายซุ้มดอกไม้ในนิทาน
...จำได้ว่าแต่ก่อนนี้ มันยังเป็นระเบียงโล่งๆ ที่เธอกับตะวันฉายมักจะปีนป่ายเล่นล่าสมบัติกันอยู่เลย...
รุ่งกาลก้าวเท้าขึ้นบันไดเล็กๆ ขึ้นไปบนระเบียง พื้นที่ด้านหนึ่งปูเสื่อกกตั้งตั่งไม้ขนาดใหญ่พอสมควร มีเบาะรองนั่งทำจากผ้าฝ้ายทอมือสีตุ่นวางอยู่โดยรอบ เอกสารหลายแฟ้มวางเรียงระเกะระกะอยู่ทั้งบนตั่งและรอบพื้น แสดงว่า...แสงฉานคงหอบเอางานมาทำที่นี่เป็นประจำ...
มานั่งนี่สิรุ้ง เขาทรุดตัวลงนั่งก่อนจะตบมือลงบนเบาะผ้าข้างตัว หญิงสาวทำตามอย่างว่าง่าย
สองหนุ่มสาวทอดสายตาไปยังภูเขาด้านหน้า ดาวประจำเมืองสุกสกาวอยู่ตรงขอบฟ้าราวกับจะล้อเลียนพระอาทิตย์ที่กำลังจะอัสดงลงไป
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ก่อนที่รุ่งกาลจะหันมาสำรวจข้าวของบนตั่งตรงหน้า กรอบรูปสีขาวที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของตั่งเรียกความสนใจของเธอได้เป็นอย่างดี หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาดูด้วยสีหน้าประหลาดใจ เธอไม่ทันสังเกตเห็นกล่องโลหะขะมุกขะมอมที่วางอยู่ไม่ห่างจากกันมากนัก จนกระทั่งแสงฉานหยิบมันขึ้นมา
รุ้งเคยแต่งงานกับพี่นะ จำได้ไหม? ชายหนุ่มเปิดกล่องในมือออกแล้วส่งไปให้คนข้างกายได้พิจารณาสิ่งที่อยู่ภายใน
แน่นอนว่ารุ่งกาลจำแหวนสองวงนั้นได้ หญิงสาวหันไปสบตาแสงฉาน
บางที...หัวใจพี่อาจจะเป็นของรุ้งตั้งแต่วันนั้นแล้วก็ได้ ที่พูดนี่...พี่ไม่คิดจะเร่งรัดอะไรรุ้งหรอกนะ แค่อยากบอกให้รู้ไว้ว่า...พี่รักรุ้ง เริ่มต้นตั้งแต่รักแบบน้อง...จนวันนี้พี่อยากมีรุ้งเดินอยู่ข้างๆ ไปพร้อมกันกับพี่ มือใหญ่อบอุ่นเลื่อนมากุมมือเธอไว้พาให้หัวใจเต้นระรัว ชายหนุ่มไล้ปลายนิ้วบนหลังมือเธอเบาๆ
หญิงสาวนิ่งไปคล้ายกำลังตรึกตรองอะไรบางอย่าง แล้วเธอก็เอ่ยออกมาในที่สุด...
ถ้าหากว่ารุ้งจะเกิดมาเพื่อใครสักคนบนโลกใบนี้...ใครคนนั้นของรุ้งก็คือ...พี่ไลท์ หญิงสาวชะงักไปชั่วขณะก่อนจะเอ่ยต่อ
พี่ไลท์รู้ไหมคะว่า...สายรุ้งเป็นส่วนหนึ่งของแสงอาทิตย์
...ไม่มีคำว่า รัก ในประโยคนั้น หากมันดูจะไม่สำคัญสำหรับแสงฉานสักเท่าไหร่นัก...
รุ่งกาลซบศีรษะลงบนต้นแขนเขาเหมือนที่เคยทำในยามเด็ก ชายหนุ่มขยับตัวก่อนจะดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน อ้อมอกแข็งแกร่งในวันนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับอ้อมอกที่เธอเคยซุกซบทั้งน้ำตา
...เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่า...การเดินทางในครั้งนี้จะทำให้เธอได้มีโอกาสบอกเล่า ถึงความรู้สึกที่ซุกซ่อนอยู่ในหัวใจมานานแสนนาน...
ในขณะที่แสงฉานมองคนในอ้อมแขนอย่างพินิจ ...ทั้งเธอและเขาต่างเติบโตขึ้น...แต่ความผูกพันยังคงเป็นเช่นเดิม...และเขาก็หวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป...
~~~~~~~~~~
รุ่งกาลกลับกรุงเทพพร้อมเจมส์ในอีกสองวันถัดมา โดยมีแสงฉานขับรถไปส่งถึงสนามบิน
แล้วพบกันนะครับคุณไลท์ เจมส์บอกกับแสงฉานก่อนจะหันไปทางเลขานุการสาว ผมเข้าไปรอข้างในนะรุ้ง ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าแต่ยังขยิบตาให้คล้ายจะล้อเลียน
รุ่งกาลจึงตวัดค้อนคมๆ ไล่หลังเจ้านายหนุ่มไปสองทีซ้อน โดยที่แสงฉานเองก็ไม่ค่อยรู้สึกขุ่นเคืองกับท่าทีสนิทสนมของทั้งคู่เท่าไรนัก
ต้องยกความดีความชอบในเรื่องนี้ให้ผู้เป็นมารดาที่ช่วยไขความกระจ่างให้เขา เมื่อคุณพงษ์เริ่มบ่นว่าคงจะคิดถึงเจมส์มากขนาดไหน เมื่อชายหนุ่มกลับไป
ไลท์อาจจะไม่ทันสังเกต เพราะรูปลักษณ์ภายนอกเจมส์ดูยังไงก็เป็นฝรั่ง แต่ถ้าตัดรูปร่างหน้าตาออกแล้วเจมส์น่ะนิสัยเหมือนนายไบร์ทยังไงยังงั้นเลย
เขาจึงเริ่มจับสังเกตตามที่ผู้เป็นมารดาบอกและก็เห็นจริงตามนั้น รุ่งกาลเองก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอสนิทกับเจมส์เพราะอะไร
รอยยิ้มอ่อนๆ บนใบหน้าคมคาย และสายตาอ่อนโยนที่ทอดแลมายังเธอ เรียกรอยยิ้มเขินของรุ่งกาลได้ไม่ยากนัก
พี่ไลท์จะลงไปกรุงเทพเมื่อไหร่คะ? หญิงสาวเอ่ยถามแสงฉานด้วยสีหน้าคาดหวัง
ยังบอกไม่ได้ เขาตอบพร้อมกับจับสังเกตท่าทีของคนตรงหน้าโดยละเอียด
สีหน้าทำหน้ามุ่ยๆ คล้ายจะงอนนั้นบอกเขาว่า...เด็กหญิงรุ่งกาลยังคงเหลือเค้าอยู่ในตัวคนตรงหน้าไม่น้อย
ชายหนุ่มยื่นมือไปจับปอยผมเล็กๆ ที่หลุดออกมาทัดหูให้หญิงสาว ก่อนจะขยายความคำพูดตัวเอง
ที่บอกไม่ได้ เพราะพี่จะเคลียร์งานแล้วลงไปหารุ้งให้ไวที่สุดต่างหาก
พี่ไลท์แกล้งรุ้ง
พี่เปล่านะ รุ้งคิดไปเองต่างหาก
...ไม่รู้ไปหัดค้อนควักมาจากไหน ขยันเควี้ยงใส่คนนู้นคนนี้เป็นว่าเล่นเชียว...แสงฉานคิดในใจด้วยความรู้สึกเอ็นดู
เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องเรียกให้รุ่งกาลหันมามองเขาด้วยสีหน้าอาลัยอาวรณ์ที่ทำเอาเขาแทบจะใจอ่อน อยากซื้อตั๋วเครื่องบินตามไปให้รู้แล้วรู้รอด
รุ้งต้องไปแล้วล่ะพี่ไลท์ เธอบอกกับเขา
...เป็นครั้งแรกที่รุ่งกาลรู้สึกอยากจะกลับมาอยู่บ้านอย่างเป็นจริงเป็นจังในรอบหกปีที่ผ่านมา...
เดี๋ยวสิรุ้ง แสงฉานรั้งมือเธอไว้เมื่อหญิงสาวทำท่าจะก้าวไปยังประตูห้องผู้โดยสารขาออก พลางล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยถามอะไร แหวนทองวงเล็กก็ถูกสวมเข้ากับนิ้วนางข้างซ้ายของเธออย่างรวดเร็ว
พี่ไลท์! รุ่งกาลอุทานพร้อมกับพยายามชักมือออกจากการเกาะกุมของเขา
ถ้ารักพี่ก็ห้ามถอด เขาบอกก่อนจะปล่อยมือ
แต่ว่า... หญิงสาวไล้มือไปตามความโค้งของโลหะ ทั้งน้ำหนักและประกายพราวระยับล้อแสงไฟของหัวแหวนบอกชัดว่ามันเป็น ของแท้ ไม่ใช่พลาสติกอย่างที่เธอเคยเล่นกับเขา
วงนี้พี่ให้รุ้งในฐานะพี่ชาย เอาไว้ให้รุ้งมั่นใจว่าอยากจะอยู่กับพี่ตลอดไปแล้วพี่จะหาวงใหม่ให้...แบบที่รุ้งอยากได้...นะจ๊ะ
พี่ไลท์แน่ใจแล้วเหรอคะ? เอ่ยถามเสียงแผ่ว
แน่ใจซี พี่รอคำตอบของรุ้งเท่านั้นแหละ ทั้งน้ำเสียงและสีหน้ามั่นใจของชายหนุ่มดูเหมือนจะปลุกความแก่นเซี้ยวของรุ่งกาลขึ้นมาอีกครั้ง
งั้น... หญิงสาวยิ้มหวาน เธอลากเสียงยาวก่อนจะโผเข้ากอดคนตรงหน้าพร้อมกับกระซิบบอก
พี่ไลท์รีบไปกรุงเทพนะคะ รุ้งจะเตรียมคำตอบไว้รอ
หญิงสาวผละจากเขาแล้วรีบเดินผ่านประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว
แสงฉานมองตามหลังร่างบางไป ก่อนจะส่ายหน้าทั้งที่รอยยิ้มยังแต้มอยู่บนใบหน้า
...ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยตัวร้าย...
~~~~~~~~~~
ชายหนุ่มรอจนเครื่องบินลำที่รุ่งกาลโดยสารทะยานขึ้นสู่ฟ้าแล้วจึงค่อยออกรถ
ระหว่างทางกลับบ้าน... แสงตะวันยามบ่ายส่องลอดก้อนเมฆเป็นลำสวยอยู่เหนือยอดเขา บางส่วนที่ตกต้องเมฆสะท้อนเป็นเงาสีรุ้งพราวระยับ ราวกับจะย้ำคำพูดที่รุ่งกาลบอกกับเขา
...สายรุ้งย่อมเป็นหนึ่งเดียวกับแสงตะวันเสมอ...
...ด้วยความรัก...
~~~~~~~~~~
มาแล้วค่ะ ตอนสุดท้ายแบบร้อนฉ่า ตอนแรกตั้งใจว่าจะแปะตั้งแต่เมื่อวาน แต่ปรากฏว่า...ธารสลบกลางอากาศค่ะ หลับคาหน้าจอเลย ^^"
ยอมรับนะคะว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยหวานเท่าไหร่ กลัวว่าถ้าเขียนให้หวานมากๆ จะเลี่ยนกันไปเสียก่อนน่ะค่ะ
มาคุยเรื่องฉากของเรื่องกันดีกว่า... เรื่องนี้ธารใช้หมู่บ้าน "แม่กำปอง" มาเป็นฉากค่ะ ประทับใจในธรรมชาติของหมู่บ้าน และการจัดการชุมชนของเขาจริงๆ ใครสนใจเรื่อง eco-tourism อยากไปพักผ่อนสัมผัสกับธรรมชาติแท้ๆ เชิญได้นะคะ สนใจรายละเอียด www.mae-kampong.com เลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ แล้วพบกันค่ะ ^^
Create Date : 03 พฤษภาคม 2552 |
|
53 comments |
Last Update : 5 กันยายน 2552 18:29:22 น. |
Counter : 862 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: nikanda 3 พฤษภาคม 2552 21:09:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: เทียนสี IP: 80.225.172.195 3 พฤษภาคม 2552 22:26:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tyra (Tyra ) 4 พฤษภาคม 2552 9:05:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: GoOsHa!R IP: 114.128.169.189 4 พฤษภาคม 2552 12:35:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 4 พฤษภาคม 2552 16:41:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธาร นาวา 4 พฤษภาคม 2552 18:24:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: Paulo 5 พฤษภาคม 2552 8:26:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 6 พฤษภาคม 2552 20:32:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 11 พฤษภาคม 2552 17:55:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 12 พฤษภาคม 2552 0:01:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: BeCoffee 15 พฤษภาคม 2552 22:49:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 16 พฤษภาคม 2552 8:21:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 18 พฤษภาคม 2552 17:17:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 21 พฤษภาคม 2552 18:34:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: nikanda 22 พฤษภาคม 2552 6:06:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธาร นาวา 23 พฤษภาคม 2552 17:13:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 24 พฤษภาคม 2552 21:38:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 26 พฤษภาคม 2552 19:52:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: วรบรรณ 28 พฤษภาคม 2552 6:03:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 31 พฤษภาคม 2552 19:49:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 4 มิถุนายน 2552 17:36:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชาจัง (สุรัสวดี ) 4 มิถุนายน 2552 21:00:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 6 มิถุนายน 2552 23:59:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 7 มิถุนายน 2552 14:28:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: GoOsHa!R IP: 202.44.135.39 12 มิถุนายน 2552 23:07:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 16 มิถุนายน 2552 20:24:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 17 มิถุนายน 2552 0:29:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรายทราย 22 มิถุนายน 2552 19:45:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: teansri 24 มิถุนายน 2552 17:49:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 28 มิถุนายน 2552 20:26:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: Paulo 2 กรกฎาคม 2552 7:59:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 2 กรกฎาคม 2552 20:17:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชาจัง (สุรัสวดี) IP: 112.142.89.146 3 กรกฎาคม 2552 20:47:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 3 กรกฎาคม 2552 23:53:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทราย IP: 125.25.155.30 7 กรกฎาคม 2552 10:35:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 8 กรกฎาคม 2552 14:41:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 11 กรกฎาคม 2552 0:50:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 15 กรกฎาคม 2552 19:07:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: nikanda 18 กรกฎาคม 2552 5:36:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: teansri 18 กรกฎาคม 2552 18:23:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 26 กรกฎาคม 2552 10:31:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 26 กรกฎาคม 2552 15:23:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: teansri 26 กรกฎาคม 2552 21:56:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 7 สิงหาคม 2552 21:24:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 8 สิงหาคม 2552 17:17:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 14 สิงหาคม 2552 7:01:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 16 สิงหาคม 2552 1:24:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปฐพีหอม 16 สิงหาคม 2552 15:45:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: PiCorn (Camille) IP: 71.81.178.101 14 มิถุนายน 2553 6:26:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ความต้องการความหวานของคนเราไม่เท่ากัน
..
..
พี่ไลท์รู้ไหมคะว่า...สายรุ้งเป็นส่วนหนึ่งของแสงอาทิตย์..นางเอกก็แอบซึ้ง
ถ้ารักพี่ก็ห้ามถอด..เจอประโยคนี้ไป
ไม่รู้คนอ่านคนอื่นเป็นไหม?..แต่เราอ่านถึงประโยคนี้
ใจมันว๊าบ..บ..บ....อ๊าย..ย..ชอบ
เหมือนการขอความรัก แกมบังคับกลายๆ
แบบว่าหัวใจพี่เป็นของเธอ แล้วแต่เธอจะพิจารณา
แต่เลือกได้ จงเลือกพี่..ทำนองนั้น