ใครที่ยังไม่เคยอ่านบล็อกก่อนนี้ก็ลองไปอ่านก่อนได้นะคะ จะได้รู้ว่าก่อนหน้านี้บ้านไร่เขาโซ่เป็นยังไง เรากลับไปอีกทีสองปีให้หลัง คลิกด้านซ้ายเลยค่ะแล้วหาหัวข้อบ้านไร่เขาโซ่เลยค่ะ จะทำไอ้ที่แบบคลิกได้เลยก็ทำไม่เป็น ฮ่าๆๆ
หลังจากที่เราได้ไปเยี่ยมเมื่อสองปีก่อนนั้น พี่ชายก็ได้ต่อเติมบ้านออกไปบางส่วน เพื่อรองรับบรรดาแขก ไทย ลาว อีสาน ฝรั่ง ที่จะเข้ามาพักซึมซับบรรยากาศบ้านนอกค่ะ
ต้องบอกว่าเพื่อนแกเยอะะะะะะ จะนัดทีนี่ต้องบอกกันล่วงหน้าเป็นเดือน นี่ขนาดไม่ใช่รีสอร์ทนะนี่ ยังมีแขกมาพักทุ๊กกกอาทิตย์ค่ะ เรียกได้ว่าได้บำรุงตับกันแทบจะทุกอาทิตย์หล่ะค่ะ 555
เอ้า มาดูภาพกันเลยค่ะว่าบ้านไร่เขาโซ่เปลี่ยนไปขนาดไหน
ทางเข้ายังเหมือนเดิมนะคะ ไม่ได้ถ่ายมาให้ดูค่ะแต่ทางแบบว่าได้โฟร์วีลมาก็จะดีมากค่ะ สงสารรถเก๋งแฮ่ ๆ แต่ถ้าถามอ้อแล้วอ้อไม่อยากให้สบายมากค่ะทาง บอกตามตรง ถ้าสมัยนี้ก็ต้องพูดว่า บ่องตง ใช่ป่ะคะ
ไม่งั้นมันไม่สนุกค่ะ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นระหว่างทาง ฮ่าๆ
อยากให้มันเป็นทางแบบนี้แหละ บ้านนอกดีค่ะ
ยินดีต้อนรับสู่บ้านไร่เขาโซ่อีกครั้งค่ะ
ถึงแล้วค่ะ บรรยากาศยังเหมือนเดิมมม
บ้านก็หลังเดิมแต่ต่อไปอีกค่ะ ด้านบนทำง่าย ๆ มีห้องเล็ก ๆ ให้ จะกางเต็นท์บนบ้านก็ได้
สร้างแบบง่าย ๆ ค่ะ แต่รับรองว่านั่งแล้วไม่พังลงมาแน่นอน 555
มุมยอดฮิตค่ะ ทั้งร้อง รำ ทำเพลง คาราโอเกะ กันให้ม่วนนนขนาดก็ตรงนี้แหละค่ะ ซวดๆๆๆเด้อพี่น้อง
หรือจะกางเต็นท์อย่างเราก็ได้ค่ะ ริมบ่อน้ำ
คืนนั้้นหนาวมากค่ะขอบอก น้ำค้างลง เล่นเอานอนไม่หลับไม่คิดว่าจะหนาว 555
มาคราวก่อนนอนหลังนี้ ตอนนี้กลายเป็นที่เลี้ยงไก่ไปแล้ว
สะพานก็กำลังต่อเติม จะทำเป็นที่นั่งตรงบ่อน้ำค่ะ กำลังคิดว่าพวกที่ไปนั่งก็เป็นพวกขี้เมาทั้งนั้น เกิดเมาแล้วตกน้ำขึ้นมาทำไงเนี่ย
อาหารก็แบบบ้าน ๆ ที่เห็นบนโต๊ะ ผักก็ปลูกเอง ปลาก็เลี้ยงเอง พริกแกงก็ตำเอง
อร่อยมว๊ากกก
หรืออยากจะทานแกงสายบัวก็ลงไปเก็บมาค่ะ อร่อยยเหมือนกัน
แต่เผอิญตอนที่ไปอาหารเยอะมากค่ะ ทานกันแทบจะไม่หมด
แท่น แท้น แท๊น ......และแล้วก็ได้เวลาเผยโฉมเจ้าแม่เขาโซ่
พี่ปลาค่ะ คนอาไรใจดีและน่ารักที่ซู้ดดด
ใครจะมาที่นี่ต้องทำอาหารทานเองค่ะ อุอุ อันนี้แหละปัญหาใหญ่ 555 กำลังนั่งเอาไส้ดอกแคออกค่ะ ช่วยกันหลาย ๆ คนสนุกดี ที่สำคัญหลาน ๆ และพี่สาวได้ฝึกภาษาไปในตัว ฮ่าๆๆ ดอกแคก็จากในไร่ปลอดสารพิษของแท้ ไม่รู้เด็กสมัยนี้รู้จักดอกแคหรือเปล่านะคะ
เอ้า เสร็จจากดอกแคก็เปลี่ยนโต๊ะมาแกะหอมกับกระเทียมอีก อย่าอู้ อย่าอู้
ทำอาหารไทยนี่เรื่องใหญ่จริง ๆ ค่ะ ยังไม่ได้ทานง่าย ๆ หรอกค่ะ บอกแล้วว่ามาที่นี่ต้องทำกับข้าวทานเอง
ใครใคร่จะดื่มก็ดื่มไป ผู้อำนวยการค่ายกับเจ้าของค่ายส.เพลินสุรา ก็ยังไม่มีใครยอมใครเหมือนเดิม
ปีนี้เพิ่มเติมมาด้วยลูกค่ายต่างชาติกับชาติไทย ฮ่าๆๆ
ม่วนซื่นขนาดกับการฝึกภาษา แต่เหนื่อยอิชั้นน่ะสิคะ เรียกให้มาแปลอยู่นั่นแหละ
สนุกดีค่ะ บรรยากาศพี่น้อง นาน ๆ ได้มาเจอกันแต่สายสัมพันธ์ก็ยังไม่คลาย
บรรยากาศยามเช้าก็ยังสดชื่นเหมือนเดิมที่บ้านไร่
กล้ามะละกอ และอะไรอีกก็จำไม่ได้รอเวลาเอาไปลงค่ะ
ห่านก็ส่งเสียงแปร๊ด ปร๊าดกันไม่หยุด
เลี้ยงไว้ได้กินไข่ค่ะ ที่นี่ดำเนินตามรอยพระราชดำริของในหลวงค่ะ เศรษฐกิจพอเพียง
หมูป่าก็เพิ่มมาเป็นหลายร้อยตัว เลี้ยงแบบปล่อยให้มันเข้าป่าหาอาหารกินเอง ปลอดสาร 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ เด็กๆชอบใจกันใหญ่
เลี้ยงไก่ไว้ด้วย แข่งกันขันเชียวตอนเช้า
ฮึ่ม คนจะนอน
กล้วยปิ้งตอนเช้านะ อร่อยมาก
บ่อน้ำก็ขุดเพิ่มต่อไปอีกหน่อย ตรงนี้แหละค่ะอาหารเลี้ยงแขก
รถในไร่ก็พัฒนาขึ้นมาหน่อยจากคราวก่อน 555
บรรยากาศแบบนี้ยังอยากให้คงอยู่ตลอดไป ไม่อยากให้มีอะไรเข้าไปทำให้มันเปลี่ยนไปกว่านี้เลย ถ้าวันนึงความเจริญเข้าไปถึงแล้ว คงไม่สามารถเรียกที่นี่ได้ว่าบ้านนอกแล้ว...
ขอบคุณที่แวะไปเที่ยวบ้านนอกกับคนบ้านนอกด้วยกันนะคะ ขอให้มีความสุขกับการคลิ๊กเข้ามาชมค่ะ
ขอบคุณเพลงเพราะ ๆ จาก youtube ค่ะ
น่าอยู่ๆๆๆๆๆๆ
อยากมีบ้านอยู่ทำเลแบบนั้นจัง
ว่าแต่ว่าเขยนอรเวย์ก็หล่อใช่เล่นนะนั่น..
มีความสุขมากๆน้องสาว