....ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะมีเธอมีฉัน อยู่ข้างๆกันเสมอ....
Group Blog
 
<<
เมษายน 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
10 เมษายน 2548
 
All Blogs
 
ระยะห่าง, การรอคอย และความเหงา ใน " กั๊กกะกาวน์ (My Space) "

ได้ดูหนังเรื่องนี้ในเทศกาลหนัง Bangkok International Film Festival 2005 ที่เมืองไทยเมื่อปลายเดือนมกราคม ตอนที่กลับไปเยี่ยมเมืองไทยช่วงเดือนธันวาคมและมกราคมที่ผ่านมา ช่วงนั้นได้ไปเก็บดูหนังไทยหลายๆเรื่องครับ หนังเรื่องนึงที่ชอบและประทับใจมากทีเดียวก็คือ กั๊กกะกาวน์ (My Space) ครับ


" กั๊กกะกาวน์ (My Space) "





"เวลา....ได้พาคนแปลกหน้า 2 คนมาพบกัน"




ตอนแรกที่เริ่มดูก็รู้สึกเฉยๆ ดูเหมือนไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ นอกจากทำให้เห็นชีวิตและย้อนนึกถึงชีวิตนิสิตนักศึกษาแพทย์ ซึ่งสะท้อนออกมาได้ใกล้เคียงมากๆ จนทำให้ย้อนนึกถึงเรื่องราวตอนสมัยเรียนของตัวผมเอง แต่พอดูต่อไปเรื่อยๆ ก็เห็นแง่มุมของหนังในด้านต่างๆเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ของเพื่อนในช่วงวัยรุ่นที่น่าสนใจมากๆ หนังแสดงให้เห็นเกี่ยวกับระยะห่าง, การรอคอย และความเหงา, ความสัมพันธ์แบบเพื่อนและความรักระหว่างเพื่อน, การตั้งคำถามกับชีวิต ระยะห่าง ความสัมพันธ์และความรัก เป็นความรู้สึกของวัยรุ่นและหลายๆคนที่เคยผ่านความรู้สึกแบบนี้และเคยเจอกับเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้กันมาแล้ว จนทำให้เป็นหนังที่เข้าถึงความรู้สึกเหงาได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง ดูๆไปแล้วทำให้นึกถึงบรรยากาศของหนังฮ่องกงที่ผมชอบอีกเรื่องหนึ่ง คือ ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา (Turn Left Turn Right) มีส่วนคล้ายๆกันอยู่ในเรื่องของความเหงาของคนในเมืองใหญ่ๆ แต่เหมือนเรื่องกั๊กกะกาวน์จะจบแบบเศร้าๆซึ้งๆมากกว่า ไม่ happy ending เหมือนอย่าง Turn Left Turn Right ดูหนังเรื่องนี้แล้วให้บรรยากาศคล้ายๆอ่านหนังสือภาพเรื่องดวงตะวันส่องฉาย (A Chance of Sunshine) ครับ

กั๊กกะกาวน์ นำเสนอเรื่องราวของวัยรุ่นและหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ป่าน นักศึกษาแพทย์ปี 4 กำลังตามหาว่าจริงๆ แล้ว ชีวิตในแต่ละวันนั้นเธออยู่เพื่ออะไร ท่ามกลางความเหงานั้น เธอรอคอยอะไร หรือใครบางคนอยู่
นิค ช่างภาพอิสระ อารมณ์ศิลปิน อาศัยอยู่ห้องตรงข้ามกับเธอ หลายครั้งที่เจอกัน ไม่มีใครกล้าเริ่มบทสนทนา จนวันหนึ่งที่นิคเอ่ยปากคุย ทั้งสองจึงเริ่มต้นที่จะมีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน ทั้งสองเริ่มเรียนรู้กันและกัน เรียนรู้และพยายามเข้าใจความแตกต่างระหว่างกัน เธอสอนให้เขาได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจผู้อื่น แต่เขาสอนให้เธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ และรู้จักกับคำว่า"รัก"ที่จะไม่มีวันเลือนไปจากความทรงจำ

หลายๆฉากในหนังโดยเฉพาะฉากบทสนทนาทำให้ผมรู้สึกซึ้งๆและน้ำตาซึมๆ มีคำพูดซึ้งๆกินใจและได้ข้อคิดหลายๆอย่างจากหนังเรื่องนี้



"คำว่าสักพักนึงของคนที่ต้องรอมันมักจะช้ากว่าคนทั่วไป"

"ระยะทางไม่สำคัญเท่าระยะห่างของความรู้สึก"

"ความเหงาทำร้ายใครหลายๆคน แต่บางครั้ง
มันก็พาให้ใครบางคนมาพบกัน"


ดูแล้วก็ได้เข้าว่าการรอคอยนั้น คนที่ต้องเป็นฝ่ายรอ จะรู้สึกยาวนานกว่าเสมอ หรือบ่อยๆครั้งเราเองก็มักจะให้ความสำคัญกับคนที่เราใส่ใจจนลืมนึกไปว่ามีคนใกล้ๆตัวข้างๆตัวที่เอาใจใส่เราอยู่เสมอ เหมือนลืมคนที่ดีๆที่อยู่ใกล้ๆตัวเรานี่เอง

เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ดูง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน แต่สามารถสื่อให้เห็นถึงเรื่องราวชีวิตความรักที่เกิดขึ้นได้อย่างจริงๆในชีวิต

หลายๆคนเคยผ่านการรอคอยคนรัก, เคยรักคนที่ไม่ได้รักเรา, เคยเป็นฝ่ายที่ต้องรอบางคนมากกว่าอีกฝ่าย, ต้องรอคอยบางคนที่อาจจะไม่ได้ใส่ใจเราเท่าไหร่ โดยที่ไม่รู้ว่าบางคนเอาใจใส่ รักและเป็นห่วงเราอยู่ .... และสุดท้ายหนังเรื่องนี้ก็จบลงด้วยความซึ้งประทับใจแบบเหงาๆ กินใจดีครับ

โดยสรุปก็ชอบหนังเรื่องนี้มากๆครับ ติดอยู่ตรงที่ว่าภาพและดนตรีประกอบในโรงก็ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ครับ แต่เนื้อเรื่องดีและน่าสนใจมากๆครับ ก็คิดว่า DVD คงผลิตให้ภาพและเสียงออกมาชัดเจนยิ่งขึ้นครับ ตอนนี้ก็มี DVD ออกมาแล้ว ผมคงต้องหาซื้อมาเก็บสะสมหนังเรื่องนี้ไว้ล่ะครับ ^ ^


"ความเหงาทำร้ายใครหลายๆคน แต่บางครั้ง
มันก็พาให้ใครบางคนมาพบกัน" จริงมั้ยครับ...






Create Date : 10 เมษายน 2548
Last Update : 13 เมษายน 2548 21:09:03 น. 14 comments
Counter : 1075 Pageviews.

 
ครับ เห็นด้วยนะ

อยากดูเรื่องนี้เหมือนกันครับ

ตรงๆกับตัวเองไงไม่รู้


โดย: underdog IP: 203.156.68.63 วันที่: 11 เมษายน 2548 เวลา:11:57:58 น.  

 
อิอิ ช่ายคับ ได้ข่าวว่าตอนดูในโรงภาพไม่ค่อยชัดนี่คับ

ตอนนี้ dvd ก็มาแย้ว เป็นอีกเรื่องหนึ่งใน wish lists ของผม คับ ..


โดย: เด็กชายหัวหอม วันที่: 12 เมษายน 2548 เวลา:11:31:50 น.  

 
ผมเป็นพวกตามกระแสครับ
เห็นเค้าด่า / ว่าหนังกันเยอะ
เลยตัดสินใจไม่ดูซะเลย

แต่พอมาอ่านในนี้ เอ...หรือบางทีอคติที่เรามีอาจทำให้เราตัดสินใจอะไรผิดพลาดไปนะ ต้องลองไปเช่าดูแล้ว .....


โดย: it ซียู วันที่: 12 เมษายน 2548 เวลา:18:40:30 น.  

 
อ๊า..ชอบ ชอบเรื่องนี้ อ่ะ
พระเอกเซอร์โคตร แต่นางเอก innert มั่กๆขอบอก 5555


โดย: vecchio IP: 202.129.48.226 วันที่: 13 เมษายน 2548 เวลา:18:01:21 น.  

 
สงสัยตอนกลับเมืองไทย ต้องไปหามาดูซะแล้วสิเนี่ย ได้ยินเสียงร่ำลือมานาแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เป็น talk of the town ในโต๊ะเหลิมไทย


โดย: อีกฝั่งของท้องฟ้า วันที่: 14 เมษายน 2548 เวลา:7:32:53 น.  

 
I heard this movie after have been in europe. I felt at the first time only, what such this movie is.....So, til now I don't have a chance to watch it yet. Perhaps after getting back to thailand so far.......



โดย: Kamui IP: 84.176.239.49 วันที่: 14 เมษายน 2548 เวลา:14:25:17 น.  

 
ยังไม่ได้ดูครับ


โดย: merveillesxx วันที่: 14 เมษายน 2548 เวลา:15:02:57 น.  

 
อยากดูเหมือนกันแฮะ


โดย: ปิงปองงง วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:8:51:09 น.  

 
แวะมาทัก & ขอโทษ


โดย: แ ม ง ป อ วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:19:52:54 น.  

 
วันนี้ พอหงุดหงิดแล้ว ก็แวะเข้ามา
แล้วก็นั่งฟังเพลงนี้อยู่นาน
รู้สึกตัวเองร้อนจริง ๆ วันนี้
หงุดหงิดคน ด้วยเรื่องอื่นที่พาลคิดถึงไปเอง
ขอโทษอีกที .. ค่ะ


โดย: แ ม ง ป อ วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:19:59:53 น.  

 
เวลาพูดชื่อนี้ต่อหน้ากระจกแล้วดูปากตัวเองไปด้วย อดขำไม่ได้ครับ


โดย: underdog(พ่อน้องโจ) IP: 203.156.77.121 วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:22:12:40 น.  

 
ตัวหนังใช้ได้ครับ แม้จะดูเป็นมือสมัครเล่นไหน่อย (ก็สมัครเล่นจริงๆนั่นแหละ!!!) แต่ที่ไม่ชอบเป็นอย่างยิ่งก็โปสเตอร์ของหนังเรื่องนี้แหละ

ตามความคิดของผมนะ......มันผิดคอนเส็ปต์ของหนังมากๆ การที่ให้ตัวพระเอกนางเอกยืนในลิฟท์แล้วหันหน้าไปคนละทาง แถมมีเส้นประตูลิฟต์แบ่งตรงกลางอีก กับภาพที่เดินในสวนสาธารณะแล้วก็มีต้นไม้มาแบ่งครึ่ง(อีกแล้ว) ทำให้รู้สึกว่าสองคนนี้เหมือนจะทะเลาะกันรุนแรงจนไม่อยากมองหน้ากันอีกในชาตินี้ หรือไม่ก็เป็นพวกปิดกั้นตัวเอง แยกตัวเองออกจากโลกรอบข้าง ไม่สนใจใยดีใคร มากกว่าจะแสดงความโหยหาส่วนที่ขาดหายไปของกันและกัน เหมือนที่เป็นพล็อตของเรื่อง

โปสเตอร์ของหนังเรื่องนี้ทำลายตัวหนังมากกว่าจะช่วยส่งเสริมความงดงามของพล็อต ผมเห็นโปสเตอร์หนังเรื่องนี้ทีไร(ตอดโปรโมตเยอะมากๆ)แล้วนึกหงุดหงิดทุกที ยิ่งพอไปดูหนังด้วยแล้วยิ่งมั่นใจเลยว่า ตัวหนังบอกคนละเรื่องกับโปสเตอร์


โดย: das Kino วันที่: 3 พฤษภาคม 2548 เวลา:0:22:40 น.  

 
เพลงประกอบตอนหนังจบ ชื่อเพลงอะไร ใครร้อง ช่วยบอกที จะเก็บไว้ฟัง เพราะมาก


โดย: pookky IP: 210.246.154.61 วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:13:30 น.  

 
ชอบมากค่ะ เป็นหนังที่ประทับใจที่สุดในชีวิต


โดย: นศ.แพทย์ IP: 203.172.53.26 วันที่: 20 สิงหาคม 2549 เวลา:2:50:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Tempting Heart
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




....ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะมีเธอมีฉัน อยู่ข้างๆกันเสมอ....
Friends' blogs
[Add Tempting Heart's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.