Group Blog
 
 
ธันวาคม 2548
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
นอนไม่หลับ..และคิดถึง





นานแล้วที่เวลาแบบนี้มีนจะยังไม่นอน
ปกติแล้วจะหลับ อาจจะด้วยภาระงานที่ทำทั้งวัน
และวันแบบนี้อย่างที่บอกไป มีนเบี้ยวงานแต่เช้า
มีออกไปข้างนอกแค่ช่วงตอนบ่าย และกลับมาช่วย
พี่ชายเก็บของ เช็คของที่ต้องใช้ระหว่างทำหน้าที่
อยู่ที่โน่น และเพื่อเตรียมตัวเดินทาง

เมื่อสักสองชั่วโมงก่อน
นั่งฟังรายการบางรายการผ่านอินเตอร์เนตกับพี่ชาย
แยกย้ายกันนั่งฟังเงียบๆ และมีความเห็นบางความเห็น
ในบางส่วน...เป็นการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างมีน
กับพี่ชายบ่อยครั้ง....หลายหนท่านเดินมาจับหัวโยกไปมา
เมื่อมีนคุยโน่นนี่แล้วหยุดไป....แล้วบอกมีนว่า
ยังไงเราก็ติดต่อกันได้ตลอดเวลา..น่า น่ะ

จำได้ว่าหนก่อน พี่ไปเรียนหนึ่งปี...เสาร์-อาทิตย์
กลับบ้านแทบทุกวัน...วันที่มีนกังวลคือวันศุกร์
กับวันอาทิตย์ เพราะพี่ชายมีนชอบขับรถเร็วมาก
.ท่านขับรถ พิดโลก-กรุงเทพ...ตลอด
นั่งเครื่องก็ไม่ นั่งรถก็ไม่ ต้องขับเองอยู่แบบนั้น
มีนเอง ก็ถูกแม่มอบหมายให้โทรถามเสมอ ว่า
จะออกเดินทางเมื่อไหร่ และแม่ก็จะบ่นว่า
ทำไม ขับรถเร็วไม่เลิก

หลังๆ ท่านโทรบอกก่อนตั้งแต่อยู่ในที่ที่เรียน
ชั่วโมงสุดท้าย ซึ่งก็ไม่ได้พ้นมีนกับแม่ที่จะรู้หรอกว่า
ท่านไม่ได้ขับรถน่ะเวลาแม่บอก .ว่ารู้ทัน
ท่านก็จะบอกว่า...ไม่ได้พูดไม่จริง
ก็บอกว่าจะออกเดินทางแล้วครับ....ซึ่งพี่ชายมีน
ขับรถไวมาก คือสามชั่วโมงนิดนิดถึงบ้านแล้วเสมอ

มีนกับพี่หากนับว่าไม่เคยไกลกันเลยคงไม่ใช่
ต้องเรียกว่า ไม่เคย..ห่างกันในแบบ ทิ้งระยะเป็นเดือน
หรือหลายเดือนแล้วค่อยพบกัน...ยกเว้นช่วงมีนเด็กมาก
คือประมาณไม่ถึงสิบขวบแล้วพี่ต้องไปเรียนเตรียมนายร้อย
หนนั้นน่ะนานจนแทบลืมหน้า เพราะบ่อยไป
ที่พวกเรา..พ่อแม่และมีนไปรับท่านพี่แล้วท่านถูกกัก
ต่อ...ในแบบหน้าตาเฉย รุ่นพี่ไม่ให้กลับบ้านเสมอ

มีนเองเคยแทบดิ้น..บ่อยไป ความที่จะเอาพี่ชายคืนแล้วเว้ย
นี่วันศุกร์น่ะ ปล่อยพี่เรากลับมา แต่พ่อก็จะบอกเสมอ
ว่ากฏระเบียบเป็นแบบนี้ พี่ต้องฟังรุ่นพี่ เพราะฉะนั้น
การพบกันระหว่างมีนกับพี่ ยามเห็นพี่ชายหัวเกรียนๆ
กลับบ้านคือการกระโดดตัวปลิว ไปอยู่บนหลังพี่หรือ
เดินเกาะไปเกาะมา แบบไม่ปล่อยกันเลย....................
เคยเห็นคนขายาวถึงพื้นแต่ยังขี่หลังอยู่ไหมล่ะ
มีนนี่หล่ะ :)

แต่ถ้านับการห่างอีกระยะหนึ่งคือตอนที่พี่ขึ้น
ชายแดนแถว แม่สอด แม่สะเรียง ทางเชียงใหม่
อะไรนั่น ก็ประมาณยี่สิบสามสิบวันเจอกันครั้ง
ก็จะได้เห็นพี่ชายจากตัวขาวๆ เปลี่ยนเป็นผู้ชาย
สีน้ำตาล..ตัวบึกบึก และดูแข็งแกร่งขึ้น และดู
ใจร้ายโหด ๆ กลับบ้านมาเสมอ

หนนี้การห่างกันเพื่อให้พี่ได้ทำหน้าที่แบบที่ตนพูดเสมอ
ว่าเกิดมาต้องไม่เสียชาติเกิด ท่านบอกมีนว่ายังไม่มั่นใจนัก
ว่าจะได้พักช่วงแรกเมื่อไหร่ จึงยังไม่ได้มีการรับปากอะไร
ไว้ในขั้นต้น นอกจากการจะติดต่อกับแม่และน้องตลอดเวลา
เท่านี้มีนก็ถือว่าอุ่นใจในระดับหนึ่งแล้ว

ช่วงเวลาของมีนตอนนี้มีนไม่ทราบหรอกว่าเกิดอาการอะไร
จะด้วยไม่ค่อยได้พบพี่คนดีในเวลาเคยพบอย่างเคย
และมารู้สึกว่าพี่ชายจะเดินทางไปปฏิบัติงานที่ไกลๆด้วยไหม
รวมไปถึงไม่หลับไม่นอนในเวลาสมควรจะหลับด้วยหรือเปล่า
มีนมีหลายความรู้สึกในตอนนี้ในแบบอธิบายไม่ได้ จะเรียกว่า
คว้างก็คงไม่ใช่หรอก เพราะมีนพยายามอย่างมากในการนิ่ง
และสงบที่สุดแล้ว อ่อ วันนี้เราอยู่ห้องพระกันเกือบทั้งวัน
พี่ชายมีนคงอยากให้มีนสบายใจด้วยหล่ะ.....เราทำความสะอาด
ห้องพระกันเอง หลังจากปล่อยให้น้องที่บ้านทำเสมอ

นานแล้วที่ไม่ได้หยิบหลวงพ่อองค์โน้นองค์นี้มาพูดคุยถึง
โชคหรือบุญ หรือวาสนาในแต่ละครั้งของเราสองพี่น้อง
ที่มักได้รับเสมอ ขณะทำความสะอาดพระ
พี่หยิบ..พระกริ่งนเรศวรรุ่นเพชรกลับ...มาให้มีนมอง
มีนจำที่มาได้ว่า ช่วงนั้นพี่จะไปชายแดนเกี่ยวกับช่วงที่มี
ว้าแดง...พี่มีหลวงปู่ทวด สมเด็จพระนเรศวร สมเด็จโต
ที่อาราธนาคล้องคอไว้เสมอ.......

แต่ไม่ทราบเพราะอะไร วันหนึ่งพี่ยกมือขึ้นไหว้แล้วนึกถึง
หลวงพ่อพุทธิชนราชรุ่นเพชรกลับ มีนเคยขำที่พี่ระบุรุ่น
และเย็นวันนั้นพี่ได้หลวงพ่อแบบที่นึกถึง
จากอนุศาสนาจารย์ของกองทัพภาคที่ 3 ในแบบ ไม่ต้องบูชา..
เอาไปเลยไอ้น้อง พี่ให้.................................ในทันที

ในครั้งหนึ่งที่พี่จะไปแม่สอด..อยู่ดีดี.ระหว่างนั่งสมาธิสวดมนต์
กันทั้งบ้าน จำได้ว่า การสวดมนต์พร้อมกันของบ้านมีนเป็นไป
ยากมาก เพราะแต่ละคนสวดออกเสียงทั้งสิ้น พี่ชายมักจะชอบ
นั่งสมาธิในเวลาที่มีนสวด ส่วนแม่จะสวดคนละรอบกับมีน
บ้านเราช่วงวันพระ จึงเหมือนมีคนถือศีลเพราะเวลาไหว้พระ
เราไม่ได้ใส่ชุดปกติ..แต่ใส่ชุดขาว เพราะทั้งหลวงปู่และคุณตา
สอนเหมือนกันคือ การไหว้พระ หากไหว้ดี และน้อมใจถึง
เหมือนได้เฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ตรองและคิดดูว่า
ควรแต่งตัวอย่างไร

ใครไปมาหาแม่หรือพี่ชายหรือแม้แต่มีนในวันพระช่วงหัวค่ำ
จึงมักพิศวง จนถึงงง ไปเสมอ....ว่าบ้านนี้เข้าออกห้องพระ
ยังกับมีหนังฉายหลายรอบ แต่พี่ชายไม่ชอบสวดมนต์
ชอบนั่งสมาธิ.....และชอบมากในการนั่งสมาธิแบบมีมีน
สวดมนต์เพราะท่านบอกว่า สบายใจดี
จำได้ว่าวันปิยะมหาราชของปีไหนสักปี ^^
พี่บอกมีนหลังนั่งสมาธิว่า อยู่ดีดีก็นึกถึงพระสมเด็จ
แล้วบอกว่า สีแบบนี้ลักษณะแบบนี้ บอกอีกว่า พี่ว่าพี่จะได้น่ะมีน
มีนขำน่ะไม่ใช่ไม่ขำ แต่หลังจากนั้นขำไม่ออก
เพราะอีกวันพี่ชายได้พระสมเด็จ จากพี่ที่สนิทมากของมีน
ทางที่ทำงานอีกต่างหาก ไม่ได้ชิดเชื้อกับพี่กอล์ฟเลยด้วยซ้ำ
เป็นแบบที่พี่บอกกับมีน ทุกประการ ที่แปลกคือ
การไม่เคยขอ แต่ได้ มีอีกหลายเหตุการณ์ ในส่วนที่เจอ
จังจังกับมีนคือการได้ พระบรมรูป(เรียกแบบนี้ถูกไหมน่ะ)
ของสมเด็จพระปิยะฯ แบบเป็นองค์ใหญ่ๆ องค์แรกที่เข้าบ้าน
มาทางมีน....และจากใครไหมคะ จากเจ้านายที่ทำงานเก่า
ซึ่งไม่เคยถูกกันกับมีนเลย (ไม่ใช่เจ้านายที่รักมีนแล้วมีน
เล่าให้พี่คนดีฟังน่ะ) แต่เป็นคนที่มีนเคยเล่าว่า ไม่ว่ามีนจะ
ทำงานอะไร เขาจะบอกเสมอว่า เสี่ยงเกินไป ไม่คุ้ม
ไม่ได้ ไม่ให้ทำ ในแบบไม่เคยเห็นความจำเป็นในการ
ออกไปทำงานของมีนเลยด้วยซ้ำ

แต่เขาคนเดียวกันอยู่ดีดีเหมือนละเมอพูด
ยกพระบรมรูปนี้ให้มีน ซึ่งมีนเองก็ต้องบอกว่า
เหมือนละเมอรับเช่นกัน และแม่ให้มีน
อาราธนามาไว้ที่ขอนแก่นด้วย เพราะแม่บอกว่า
นี่เป็นของมีน......และมีนต้องเป็นคนบูชา

มีนยังได้พระอีกมากมาย จนใครมาเห็นห้องพระ
จะมีอาการงง ได้อีกมาก และหลายคนจะบอกว่า
มีนยังเด็กมากเกินกว่าจะมีพระเยอะแบบนี้ เยอะแบบ
ไม่ธรรมดา และมีนไม่ใช่คนสะสมพระ แต่หลวงปู่
หรือแม้แต่คุณตาจะบอกมีนว่า ก็ของของมีนทุกครั้งไป

ไม่ใช่แต่รับน่ะคะ มีนเคยเหมือนละเมอให้เช่นกัน ๕๕
องค์นั้นบูชาเองเพราะชอบมาก คือสมเด็จพระเอกาทศรฐ
องค์เล็กๆ ขนาดสักสิบกว่าเซนต์ ไม่ทราบทำไมจึงอยากบูชา
และแปลกที่ ชอบมากขนาดนั้นมีนกลับให้ใครอีกคนไป
โดยถามเขาซ่ะอีกว่าเขาขาดอยู่ใช่ไหม คนถูกถามตอบว่าใช่
มีนบอกอ่ะ พี่ มีนให้................................วันนี้มีนบ่นถึงองค์นี้
พี่กอล์ฟต้องบอกว่า นั่นไม่ใช่ของมีน ให้แล้วอย่าเสียดายสิน้อง
แหะๆ

มีนเล่าเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยเลย ยาวมากเลยน่ะคะเนี่ย
เอาเป็นว่า การเล่าเรื่องต่างๆ ตั้งแต่แรกจนถึงบรรทัดนี้
ทำให้มีนผ่านบางช่วงเวลาที่เงียบและไม่ทราบว่าเหงาหรือเปล่า
ไปได้อีกครั้ง

ทำให้มีนรู้สึกเหมือนนั่งคุยกับพี่อยู่
ทำให้รู้ว่ามีอีกคนรับฟังมีน..แม้เราจะไกลกัน และบางครั้ง
เหมือนวันทั้งวันเราไม่เจอกันเลย ก็ตาม...มีนก็ยังรู้สึกดี
ว่าทุกครั้งที่มีนเขียน เดี๋ยวจะมีคนที่ตั้งใจอ่านตัวหนังสือ
ของมีนทุกตัว รับรู้อารมณ์ว่าตอนนี้มีนเป็นยังไง
อะไรได้ ในแบบมีนเคยคิดว่า รับรู้หรือทราบได้อย่างไร
มีนรอให้คนนั้นมาอ่าน และรอมองเห็นคอมเม้นท์ที่บอกว่า

พี่อ่านแล้วน่ะครับ









เกเร อารมณ์ดี
8 ต.ค. 2548 เวลา 00:01 น




Create Date : 12 ธันวาคม 2548
Last Update : 12 ธันวาคม 2548 22:48:13 น. 0 comments
Counter : 221 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจ้าทานตะวัน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เจ้าทานตะวัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.