DXIII Blog...... ON MY WAY!!!
|
|||
World 10/10/51 - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) หรือกว่า 7% โดยดัชนีดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 9,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งสูงขึ้นในตลาดอินเตอร์แบงค์และตัว เลขการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐที่ปรับตัวลดลงได้จุดกระแสความวิตกกังวล ที่ว่าบริษัทผลิตรถยนต์ บริษัทประกัน และบริษัทพลังงาน อาจเป็นเหยื่อวิกฤตสินเชื่อรายต่อไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ ขู่ว่าจะปรับลดอันดับเครดิตบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดดิ่งลง 678.91 จุด หรือ 7.33% แตะที่ 8,579.19 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดร่วงลง 75.02 จุด หรือ 7.62% แตะที่ 909.92 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดดิ่งลง 95.21 จุด หรือ 5.47% แตะที่ 1,645.12 จุด นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ระบุว่า เอสแอนด์พี กำลังทบทวนอันดับเครดิตของจีเอ็ม และบริษัทในเครือคือ จีเอ็มเอซี แอลแอลซี เพื่อพิจารณาว่าสมควรจะปรับลดอันดับเครดิตหรือไม่ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ามีโอกาสถึง 50% ที่จีเอ็มและจีเอ็มเอซีจะถูกลดอันดับเครดิตภายใน 3 เดือนข้างหน้านี้ หลังจากยอดขายรถยนต์ของจีเอ็มตกต่ำมากในแถบอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ เอสแอนด์พียังประกาศ "เครดิตพินิจ" แก่บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ โดยระบุว่าสภาพคล่องของฟอร์ดและจีเอ็มมีอยู่เพียงพอในขณะนี้ก็จริง แต่สถานการณ์ในปีหน้าอาจเปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นจีเอ็มดิ่งลง 31% และหุ้นฟอร์ดร่วงลง 22% อาร์เธอร์ โฮแกน นักวิเคราะห์จาก Jefferies & Co กล่าวว่า "นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในแทบจะทุกด้าน ตลาดหุ้นนิวยอร์กและเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญวิกฤตศรัทธาอย่างรุนแรง แม้ธนาคารกลางทั่วโลกพร้อมใจกันลดดอกเบี้ยและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ ระบบการเงิน แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการร่วงลงของดาวโจนส์ได้ และไม่สามารถสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของต้นทุนการกู้ยืมในตลาดอินเตอร์ แบงค์ได้เลย" - ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 50 จุดเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสาธารณูปโภค หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์ถูกแรงขายถล่มลงกว่า 600 จุดนับเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงด้วย - ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ในตลาดการเงิน ทั่วโลกที่ยังพุ่งสูงขึ้น แม้ธนาคารกลางทั่วโลกพร้อมใจกันประกาศลดดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ก็ตาม สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 99.610 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 99.250 เยน/ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.1300 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1269 ฟรังค์/ดอลลาร์ ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3583 ดอลลาร์/ยูโร จากวันพุธระดับ 1.3629 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.7067 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.7279 ดอลลาร์/ปอนด์ ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก กล่าวว่า "ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมในตลาดอินเตอร์ แบงค์ทั่วโลกที่ยังพุ่งสูงขึ้น แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอื่นๆทั่วโลกประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อคลายภาวะตึงตัวใน ตลาดสินเชื่อก็ตาม" - ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 2.36 ดอลลาร์และแตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าความพยายามของธนาคารกลางทั่วโลกที่พร้อม ใจกันลดอัตราดอกเบี้ยและใช้มาตรการฟื้นฟูภาคการเงิน อาจไม่สามารถยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกระหน่ำขายแม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันก็ตาม สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 2.36 ดอลลาร์ หรือ 2.65% ปิดที่ 86.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.32-89.82 ดอลลาร์ นักลงทุนยังคงกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบแม้มีข่าวว่า กลุ่มโอเปคอาจจัดประชุมฉุกเฉินในเสาร์ที่ 18 พ.ย.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อหารือกันถึงเรื่องราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องและวิกฤต เศรษฐกิจที่กำลังส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงานทั่วโลก ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าโอเปคอาจจะลดเพดานการผลิตน้ำมัน ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว หลังจากสหรัฐปิดการผลิตน้ำมัน 43.4% ในอ่าวเม็กซิโกเพราะได้รับความเสียหายจากพายุเฮอริเคนไอค์ ขณะที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งยังคงปรับเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิต โดยบริษัท เปเม็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเม็กซิโก ระบุว่าทางบริษัทได้ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันกลับสู่ระดับปกติแล้ว หลังจากที่เคยปรับลดการผลิตลง 250,000 บาร์เรลต่อวันภายหลังจากโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐได้รับความเสียหายจาก พายุเฮอริเคนไอค์ - ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 20 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบ กับสกุลเงินหลักๆเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยตลาดอินเตอร์แบงค์พุ่งขึ้นทั่ว โลก และยังได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความ กังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 886.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 20 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 882.90-914.40 ดอลลาร์ ตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์สกุลเงินดอลลาร์ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ย LIBOR ในตลาดลอนดอน อัตราดอกเบี้ย SIBOR ในตลาดสิงคโปร์ และอัตราดอกเบี้ย HIBOR ในตลาดฮ่องกง นอกจากนี้ ราคาทองคำยังถูกดดันอย่างหนักจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง 2.36 ดอลลาร์ แตะที่ 86.59 ดอลลาร์/บาร์เรล (สุดท้ายหลังปิดตลาดนิวยอร์ก ทองคำกลับมายืนเหนือ 900 ครับ พักหลังๆนี้ราคาช่วงหลังปิดตลาดเคลื่อนไหวแรงเหลือเกิน) - ตลาดหุ้นนิวยอร์กคาดจำนวนบริษัทจดทะเบียนที่จะต้องถูกถอนชื่อออกจากการ ซื้อขายในตลาดอาจมีมากที่สุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากบริษัทที่จดทะเบียนจำนวนมากไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานได้ หรือไม่ก็ล้มละลายไป ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตสินเชื่อครั้งใหญ่ที่ทำให้ราคาหุ้นร่วงอย่างหนัก บลูมเบิร์กรายงานว่า สำหรับตลาดหุ้นแนสแดคนั้น หุ้นบริษัท 263 แห่งปิดที่ระดับต่ำกว่า 1 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงสิ้นปีที่แล้วที่ 53 แห่ง ในขณะที่ตลาดเองก็กำลังหาทางที่จะยืดระยะเวลาให้กับหุ้นที่มีระดับราคา ต่ำกว่าขีดกำหนด โดบหุ้นในตลาดแนสแดคที่มีราคาต่ำกว่า 1 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ได้แก่ หุ้นซีรีอุส เอ็กซ์เอ็ม เรดิโอ อิงค์ และหุ้นทรัมพ์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ รีสอร์ต อิงค์ บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก 19 รายถูกถอดชื่อออกจากตลาดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบได้ เช่น กฎข้อบังคัดด้านราคาหุ้น มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือการล้มละลาย หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป จำนวนบริษัทจดทะเบียนที่จะถูกถอดออกจากตลาดจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 25 รายในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546 - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมจัดหาเม็ดเงินเพิ่มอีก 3.78 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจประกันของบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) หลังจากที่เคยให้เงินช่วยเหลือกว่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ไปเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อวานนี้สภาคองเกรสได้พิจารณาประเด็นที่ก่อให้เกิดกระแสการ วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังมีรายงานว่าทางเอไอจีได้ใช้เงินกว่า 440,000 ดอลลาร์เพื่อจัดการประชุมที่รีสอร์ทริมทะเลในแคลิฟอร์เนีย ทั้งที่บริษัทเพิ่งได้รับความช่วยเหลือไม่ถึง 1 สัปดาห์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน - ฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซูเอลา ออกมากล่าวโทษว่ารัฐบาลสหรัฐและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในขณะนี้นี้ นายชาเวซมีถ้อยแถลงดังกล่าวระหว่างพิธีเปิดการประชุมเศรษฐกิจนานาชาติ ในหัวข้อ "คำตอบของอเมริกาใต้ต่อวิกฤตเศรษฐกิจโลก" ("Answers from the South to the World Economic Crisis") ซึ่งมีผู้แทนจากทั้งลาตินอเมริกา อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย เข้าร่วม นายชาเวซกล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐแสดงให้เห็นว่าระบบเศรษฐกิจแบบอาณานิคมกำลังล่มสลาย โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และไอเอ็มเอฟ ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบ พร้อมกดดันให้ไอเอ็มเอฟเลิกแสร้งทำเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือผู้ อื่นทั้งที่ตนเองเป็นต้นเหตุของวิกฤตที่เกิดขึ้น "ผู้บริหารระดับสูงของไอเอ็มเอฟควรลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ" นายชาเวซ กล่าว - ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษ ส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางทั้งสองแห่งอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากที่ได้ร่วมมือกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารยักษ์ใหญ่อีกหลายแห่งของโลก ประกาศลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ อีซีบียืนยันว่าพร้อมที่จะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารได้มากเท่าที่จำเป็น - ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เสนอเงินสดให้ธนาคารพาณิชย์กู้ได้อย่างไม่จำกัด เป็นระยะเวลา 6 วัน ซึ่งถือเป็นมาตรการล่าสุดเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดเงิน อีซีบีระบุว่า ธนาคารจะปล่อยกู้ที่อัตราดอกเบี้ยระดับใหม่ 3.75% หลังจากที่ธนาคารเพิ่งประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงจากระดับ 4.25% เมื่อวานนี้ บลูมเบิร์กรายงาน - เอชบีโอเอส พับลิคเปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษเดือนก.ย. 2551 ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 25 ปี เนื่องจากวิกฤตการเงินโลกส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้สนใจซื้อบ้าน และยังทำให้ธนาคารต่างๆระงับการปล่อยกู้ โดยต้นทุนเฉลี่ยของบ้านหนึ่งหลังลดลง 12.4% จากระดับปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 170,866 ปอนด์ หรือ 296,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2536 โดยเมื่อเทียบกับตัวเลขเดือนส.ค. ราคาบ้านลดลงไป 1.3% ในช่วงที่การปล่อยกู้เพื่อการจำนองอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ และเศรษฐกิจอังกฤษก็ใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย รัฐบาลอังกฤษจึงได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือธนาคารมูลค่า 5 หมื่นล้านปอนด์ ธนาคารกลางอังกฤษก็ได้ปรับลดดอกเบี้ยลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งเป็นความร่วมมือกับธนาคารกลางต่างๆ เพื่อสกัดวิกฤตการเงินครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดภาวะเศรษฐกิจหด ตัวครั้งรุนแรงสุดในสหรัฐ หรือ Great Depression บลูมเบิร์กรายงานว่า มาร์ติน เอลลิส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชบีโอเอส กล่าวว่า แรงกดดันที่มีมากขึ้นเรื่อยๆต่อรายได้ของครัวเรือน ประกอบกับการลดจำนวนการปล่อยกู้เพื่อการจำนอง แสดงให้เห็นว่าตลาดจะยังคงอยู่ในสภาพที่ท้าทายต่อไป การอนุมัติยอดการปล่อยกู้เพื่อการจำนองปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุด ในรอบเกือบ 20 ปี ส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษต้องเข้าไปช่วยเหลือแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ และเอชบีโอเอส ในขณะที่ดอกเบี้ยปล่อยกู้ระหว่างแบงค์ก็ดีดตัวสูงขึ้น - ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (CEBR) เปิดเผยว่า บรรดาธนาคารที่ดำเนินธุรกิจในกรุงลอนดอนอาจปรับลดการจ่ายเงินโบนัสลง 60% ในปี 2551 ยอดเงินโบนัสที่จ่ายให้พนักงานธนาคารในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นย่านธุรกิจการเงินที่สำคัญของอังกฤษอาจร่วงลงไปอยู่ที่ระดับ 3.6 พันล้านปอนด์ (6.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ จากระดับ 8.5 พันล้านปอนด์เมื่อปี 2550 ขณะที่บริษัทที่ประสบปัญหาสภาพคล่องหลายแห่งไม่สามารถจ่ายเงินโบนัสได้ อย่างเต็มที่ หลังจากรัฐบาลอังกฤษใช้เงินอัดฉีดภาคธุรกิจธนาคาร 5 หมื่นล้านปอนด์ไปเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษกำลังประสบปัญหาการควบคุมเงินโบนัสให้พนักงานธนาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่สภานิติบัญญัติบางท่านกล่าวว่าเงินดังกล่าวเป็นต้นเหตุ ของปัญหาสินเชื่อ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำกับดูแลภาคธุรกิจการเงินเตรียมร่างแผนการใช้ จ่ายเงินให้กับผู้บริหารของธนาคารพาณิชย์ในอังกฤษ โดยภาคธุรกิจธนาคารของอังกฤษจัดสรรเงินกว่า 3.1 หมื่นล้านปอนด์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเงินดังกล่าวมักนำไปใช้ในการลงทุนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซื้อรถยนต์ และสินค้าฟุ่มเฟือย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินโบนัสจะปรับตัวลดลง จากจำนวนพนักงานที่น้อยลง ขณะที่บริษัทในกรุงลอนดอนผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมากโดยบรรดาสถาบันการเงิน ได้ปรับลดพนักงานลงกว่า 133,000 ตำแหน่งทั่วโลกนับตั้งแต่วิกฤตสินเชื่อเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อปีที่ แล้ว ขณะที่เจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดว่าอัตราว่างงานในสแควร์ ไมล์ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญในกรุงลอนดอนอาจมียอดรวมที่ 40,000 ตำแหน่งในปีนี้ - ลุค ฟรายเดน รมว.ฝ่ายงบประมาณของลักเซมเบิร์ก เปิดเผยว่า รัฐบาลเบลเยียม ฝรั่งเศส และลักเซมเบิร์ก ตกลงเห็นชอบที่จะรับประกันการกู้ยืมเงินของธนาคารเด็กเซีย เอสเอ (Dexia SA) เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นให้กับเด็กเซีย เบลเยียม ฝรั่งเศส และลักเซมเบิร์ก ได้จัดหาวงเงินกู้รวมกัน 6.4 พันล้านยูโร หรือ 8.8 พันล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อปกป้องเด็กเซียไม่ให้ล้มละลาย ขณะที่เด็กเซียประกาศแต่งตั้งนายปิแอร์ มาเรียอานี อดีตผู้บริหารบีเอ็นพี พาริบาส์ เป็นซีอีโอคนใหม่เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเอ็กเซล มิลเลอร์ ซีอีโอคนเก่าของเด็กเซียถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา วงการธนาคารยุโรปจับตาดูรายงานข่าวที่ว่า เด็กเซีย ธนาคารสัญชาติเบลเยียม-ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้นำด้านพันธบัตรเทศบาลในยุโรปได้รับความช่วยเหลือจาก รัฐบาลเบลเยียมที่ประกาศยืนหยัดเคียงข้าง หลังจากราคาหุ้นเด็กเซียดิ่งลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 29 ก.ย. เนื่องจากธนาคารขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน - สำนักงานกำกับดูแลการเงินไอซ์แลนด์เตรียมยึดกิจการแบงค์โคปทิง ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ และยังเป็นธนาคารของไอซ์แลนด์รายที่ 3 แล้วที่ถูกยึดกิจการไปโดยรัฐบาล นับตั้งแต่ที่วิกฤตการเงินทวีความรุนแรงขึ้น โดยเงินฝากของลูกค้าภายในประเทศของธนาคารโคปทิงจะได้รับการรับประกัน อย่างเต็มที่ และเป้าหมายของการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ก็คือ การส่งเสริมระบบการธนาคารภายในประเทศให้สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ บลูมเบิร์กรายงานว่า กิจการธนาคารของไอซ์แลนด์ต้องตกอยู่ภายใต้ภาระหนี้สินสูงถึง 12 เท่าของขนาดของเศรษฐกิจประเทศ สำนักงานกำกับดูแลการเงินของไอซ์แลนด์เข้ามายึดกิจการของแบงค์ ใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของประเทศไปแล้ว คือ กลิตนีร์แบงค์ และแลนด์แบงสกี นายกรัฐมนตรีเกียร์ ฮาร์ด ของไอซ์แลนด์กล่าวว่า เขาอาจจะถูกบีบให้ขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หลังจากที่ไม่สามารถขอเงินกู้จากรัฐบาลและธนาคารกลางในยุโรปได้ เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางไอซ์แลนด์ต้องล้มเลิกความพยายามยามในการปรับอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารไม่มีอำนาจที่จะหยุดค่าเงินโครนาที่ร่วงลงได้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ไอซ์แลนด์ได้เริ่มเจรจากับรัสเซียเพื่อขอเงินกู้สูงถึง 4 พันล้านยูโร หรือ 5.46 พันล้านดอลลาร์ - รัฐบาลรัสเซียจะเริ่มดำเนินการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคารจำนวน 1.86 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพื่อสกัดกั้นวิกฤตการณ์การเงินครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดีเมดเวเดฟได้สั่งการให้รัฐบาลออกเงินกู้แก่ธนาคารราย ใหญ่ที่สุดในประเทศ 3 แห่งจำนวน 9.5 แสนล้านรูเบิล (3.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการเงินในสหรัฐจนส่งผลให้ตลาดหุ้น รัสเซียดิ่งลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2541 พร้อมทั้งออกเงินกู้ ประมูลวงเงินสด และปรับลดภาษีเพิ่มเติมอีกเป็นวงเงิน 1.50 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังรอให้รัฐสภาผ่านร่างกฏหมายออกเงินกู้ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับธนาคารในประเทศ เช่น OAO Sberbank และ VTB Group เป็นเวลา 5 ปี และตั้งวงเงินรีไฟแนนซ์หนี้ต่างประเทศของบริษัทต่างๆ เป็นมูลค่า 5.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ - อัตราดอกเบี้ยในตลาดอินเตอร์แบงค์เอเชียปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ยังคงลังเลที่จะปล่อยเงินกู้ แม้ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ธนาคารกลางไต้หวัน ธนาคารกลางฮ่องกง และธนาคารกลางจีน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย และแม้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางออสเตรเลียอัดฉีดเงินเข้า สู่ระบบการเงินกว่า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์แล้วก็ตาม คาเซร์ บาโยนิโต นักวิเคราะห์จาก Allied Banking Corp แสดงความเห็นว่า "การลดอัตราดอกเบี้ยอาจช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลในตลาดการเงินได้ บ้าง แต่ปัญหาใหญ่ไม่ได้อยู่ที่การลดหรือไม่ลดดอกเบี้ย แต่อยู่ที่ความเชื่อมั่นของสถาบันการเงินต่างหาก" ในวันนี้ (9) ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00% ธนาคารกลางไต้หวันลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน 0.25% และธนาคารกลางฮ่องกงลดอัตราดอกเบี้ยข้ามคืน 0.50% แตะระดับ 2.0% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน - ธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ในฮ่องกง และธนาคารเซี่ยงไฮ้ แบงค์กิ้ง คอร์ป ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (prime lending rate) ในฮ่องกงไว้เท่าเดิมที่ 5.25% แม้ธนาคารกลางฮ่องกงและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม - พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่นกำลังพิจารณาเรื่องการฟื้นกฎหมายที่ให้ อำนาจในการอัดฉีดเงินเข้ากองทุนสาธารณะ เพื่อที่สถาบันการเงินจะได้ใช้งาน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล ญี่ปุ่น กฎหมายอัดฉีดเงินทุนได้มีการนำมาใช้เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2547 เพื่อใช้เป็นกฎหมายชั่วคราว และหมดอายุลงเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา พรรคแอลดีพีมองว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับฐาน ธุรกิจในภูมิภาค และธนาคาร รวมทั้งเครดิตยูเนียนผ่านทางการอัดฉีดเงินทุน เพื่อรับประกันว่าจะมีการให้เงินทุนแก่ธุรกิจท้องถิ่น และป้องกันความเสียหายจากวิกฤตสินเชื่อ ท่ามกลางความวิตกกังวลเรื่องผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น - ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แล้วสำหรับยอดสั่งซื้อในเดือนส.ค. ส่งผลให้ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรตกลงยาวนาน นับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยเมื่อปี 2544 ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร ซึ่งถือเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายเงินทุนในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้านั้น ตกลงถึง 14.5% จากระดับเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นสถิติที่ตกลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี และยังเป็นตัวเลขที่แย่กว่าค่าเฉลี่ยที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์ก สำรวจความคิดเห็นได้คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 2.8% ริชาร์ด เจอแรม หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของแมคควอรี ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกดูแย่ลงมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกไปยังสหรัฐ บางส่วนของยุโรป และจีน เป็นเรื่องยากที่จะเห็นว่าการส่งออกจะฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้านี้ - หน่วยข่าวกรองสหรัฐและเกาหลีใต้ได้ตรวบสัญญาณการเตรียมความพร้อมของ กองทัพเกาหลีเหนือที่จะยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้จำนวน 10 ลูกจากเกาะโชโดไปทางทะเลเหลือง และยังได้ประกาศเขตห้ามเดินเรือในบริเวณรอบๆเกาะโชโดไปจนถึงวัน ที่ 15 ต.ค. หลังจากที่มีการออกคำสั่งห้ามเดินเรือในบริเวณดังกล่าวแล้ว กองทัพเกาหลีเหนือยังได้ขนย้ายเรือประมงและเรือประเภทอื่นๆออกจาก พื้นที่ ภาพจากสัญญาณดาวเทียมชี้ว่า เกาหลีเหนือได้ติดตั้งขีปนาวุธแล้ว หน่วยข่าวกรองชี้ว่า เกาหลีเหนืออาจจะยิงขีปนาวุธมากกว่า 5 ลูก สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หน่วยข่าวกรองระบุว่า เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือตามแผนการ ซ้อมรบปกติ หากว่ามีการยิงขีปนาวุธหลายลูก ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการวิเคราะห์ว่า เกาหลีเหนือตั้งใจจะทำอะไร - บรรดานายจ้างในออสเตรเลียต่างปรับลดจำนวนการว่าจ้างพนักงานในเดือนก. ย. 2551 เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจในประเทศที่มีการขยายตัวมายาวนาน 17 ปีกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะที่ผู้บริโภคเองก็ปรับลดการใช้จ่าย สำนักงานสถิติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานในเดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้นเพียง 2,200 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 10,200 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์ 21 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะย่ำฐานทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.3% จากเดิมที่ 4.1% - อเล็กซานเดอร์ สเตดท์เฟลด์ ผู้อำนวยการหอการค้าอุตสาหกรรมมาเลเซีย-เยอรมนี กล่าวว่า เศรษฐกิจมาเลเซียจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากวิกฤตสินเชื่อที่เกิด ขึ้นในสหรัฐ เนื่องจากมาเลเซียได้กระจายการลงทุนในตลาดส่งออกเป็นอย่างดี นอกจากนี้มาเลเซียยังได้ลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐ ผอ.หอการค้าฯ กล่าวว่า อัตราการพึ่งพาตลาดสหรัฐมีน้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อ 10-15 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสหรัฐเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญที่สุดสำหรับมาเลเซีย โดยสินค้าส่งออกของมาเลเซียไปยังสหรัฐช่วงนั้นอยู่ในสัดส่วนเกือบ 30% ตอนนี้สหรัฐเป็นตลาดอันดับ 4 คิดเป็นสีดส่วนของยอดส่งออกสินค้าทั้งหมดของมาเลเซียแค่ 16% ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบลดลงนั้น คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลดีไปด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญต่างก็มองว่า มูลค่าจริงของราคาน้ำมันดิบควรจะอยู่ที่ระดับประมาณ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อ้างอิงจาก //www.ryt9.com , //www.goldhips.com ข้อสังเกต 1. จากข่าวในช่วงนี้จะเห็นได้ว่า Scope ของความเสียหายยังอยู่ในกลุ่มสถาบันการเงินเป็นหลัก แต่ ณ วันนี้ข่าวในแง่ลบที่อยู่นอกเหนือจากกลุ่มสถาบันการเงินกำลังเริ่มออกมา ซึ่งก่อนหน้านี้จะออกมาก็แต่เพียงข่าวการลดพนักงาน กับความเสียหายที่เกิดขึ้นตอนที่ราคาน้ำมันอยู่เหนือ 120 ขึ้นไป ซึ่งหากมีบริษัทใหญ่ๆที่อยู่นอกกลุ่มสถาบันการเงินเกิดล้มขึ้นมาอีก คงสร้างความตระหนกให้กับนักลงทุนอีกพอสมควรครับ 2. วันนี้มีการประชุมกลุ่ม G7 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์ Subprime คงต้องมาดูกันว่า กลุ่ม G7 จะหามาตรการใดมาเพิ่มเติมเพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ครับ ---------------------------------------------------------------------------------- คำเตือน - ข้อมูลดังกล่าวผู้เขียนตั้งใจเก็บไว้สำหรับเตือนความจำ และประกอบการวิเคราะห์ของผู้เขียน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีข้อผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังนั้นผู้เข้าเยี่ยมชมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ |
Death_13
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |