World 04/09/51
- นายชุมพล ศิริวรรณบุศย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาระบบคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิในทรัพย์สินอุตสาหกรรมกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมมีแผนเจรจากับธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติมอีก 2-3 แห่ง เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ให้เข้าร่วมโครงการแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุน จากปัจจุบันมีเฉพาะธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการที่นำทรัพย์สินทางปัญญามาขอสนับสนุนทางการเงิน

- แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าปลายสัปดาห์นี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผู้ดูแลโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง 2551 เตรียมเสนอคณะกรรมการขอเพิ่มเป้าหมายรับจำนำข้าวเปลือกจาก 2.5 ล้านตันเป็น 4 ล้านตัน เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรว่า มีผลผลิตค้างที่จะออกสู่ตลาดพร้อมกันถึงกลางเดือนกันยายนนี้ เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ จากตัวเลขยอดรับจำนำ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2551 รับจำนำโดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) มีประมาณ 1.8 แสนตันข้าวเปลือกและจำนำกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กว่า 7 แสนตัน ซึ่งเกินจำนวนเป้าหมายที่ขอไว้กับคณะกรรมการ และเป็นยอดจำนำสูงสุดในรอบ 10 ปี

- นายวีรพล ศรีเลิศ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขากรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไทยประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนไม้ในการผลิตสินค้า โดยเฉพาะไม้ยางพาราที่ขาดตลาด 20-30% เนื่องจากปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำโรงเลื่อยไม้ไม่กล้าเสี่ยงเข้าไปตัดไม้

- พ.ร.ก.ฉุกเฉินทำเจ้าหนี้ต่างประเทศในตลาดเงินโลกขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้กู้ รัฐบาลไทยวันเดียว 0.4% อยู่ที่ดอกเบี้ยไลบอร์ บวก 1.40% และจากปัจจัยการเมืองมีปัญหาได้ประมาณ 1 เดือนทำดอกเบี้ยไทยขึ้นแล้ว 0.8-0.9% เพราะรัฐบาลไทยเคยกู้ในอัตราดอกเบี้ยไลบอร์ บวก 0.5-0.6% ขณะที่เอกชนไทยหมดสิทธิกู้เงินนอก

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ดัชนีดีดตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์นี้
หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแอมแบคซึ่งเป็นบริษัทประกันหุ้นกู้รายใหญ่ของสหรํฐ ดีดตัวขึ้น 22.4% หุ้นเฟรดดี แมค พุ่งขึ้น 3.9% ส่วนหุ้นเลห์แมน บราเธอร์ส พุ่งขึ้น 5% หลังจากมีข่าวว่าเลห์แมน บราเธอร์ส กำลังเจรจาขายหุ้น 5% ให้กับธนาคารของเกาหลีใต้

- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 120 จุดเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นโวดาโฟน หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิต สวิส คาดการณ์ว่า โวดาโฟนซึ่งเป็นบริษัทผลิตโทรศัทพ์มือถือยักษ์ใหญ่ จะมีผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศปรับตัวขึ้น 1.3% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียล/ไอเอฟอาร์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.8% นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปยืนยันว่า เศรษฐกิจยุโรปขยายตัวเพียง 0.2% ในไตรมาสสอง พร้อมกับประกาศลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในยุโรปลงสู่ระดับ 1.4%ต่อปี จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 1.5%ต่อปี
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังค์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจทั่วสหรัฐ ว่า ภาคธุรกิจทั่วประเทศชะลอตัวลง และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวลดลงด้วย

- ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นและข้อมูลที่บ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานลดน้อยลง โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแม้มีรายงานว่าบริษัทพลังงานหลายแห่งยังคงปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าสธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโกหลังจากพายุเฮอริเคน"กุสตาฟ"เคลื่อนตัวผ่านก็ตาม
ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมพลังงานของสหรัฐคาดว่า โรงกลั่นน้ำมันในรัฐหลุยเซียน่าอาจต้องใช้เวลาถึง 10 วันจึงจะกลับมาเปิดดำเนินการได้ตามปกติ หลังจากที่ต้องปิดทำการจากอิทธิพลของเฮอริเคนกุสตาฟที่ส่งผลให้ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ซึ่งหากโรงกลั่นเหล่านี้กลับมาผลิตน้ำมันได้ช้าเท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นผลลบ เนื่องจากเวลานี้คลังสำรองน้ำมันเบนซินในบริเวณอ่าวเม็กซิโกอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนแล้ว
ทั้งนี้ หลุยเซียน่าเป็นรัฐที่กลั่นน้ำมันได้มากที่สุดเป็นอันดับสองของสหรัฐ และส่งเชื้อเพลิง 75% ที่ผลิตได้ไปยังรัฐอื่นๆ

- ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลงและดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบยังฉุดราคาโลหะมีค่าประเภทอื่นๆดิ่งลงถ้วนหน้า

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนก.ค.ขยายตัวขึ้นเพียง 0.2% หลังจากพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน ร่วงลง 0.7% ในเดือนก.ค. ซึ่งร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีพ.ศ.2548
ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ และเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะปรับตัวลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตและมีการรวบรวมข้อมูลก่อนวันที่ 25 ส.ค. ว่า เศรษฐกิจในทุกภูมิภาคของสหรัฐชะลอตัวลง เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาพลังงานและอาหารที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลบั่นทอนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคเอกชน
รายงาน Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 16 ก.ย.นี้ โดยรายงานฉบับล่าสุดรวบรวมได้ก่อนวันที่ 25 ส.ค. ทั้งนี้ เฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

- นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือนส.ค.ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.สหรัฐจะร่วงลง 75,000 อัตรา ซึ่งจะเป็นสถิติที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 และคาดว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจะทรุดตัวลง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมาก

- เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดในคูเวต โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของบริษัทคูเวต เนชั่นแนล ปิโตรเลียม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ต้นเพลิงมาจากถังบรรจุน้ำมันที่โรงกลั่นมีนา อัล-อาห์มาดี ซึ่งมีกำลังการผลิตที่ 460,000 บาร์เรลต่อวัน
ล่าสุด โฆษกของบริษัทออกมาเปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้รุนแรงและอาจลุกลามขยายเป็นวงกว้าง ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ ยังไม่มีรายงานในขณะนี้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

- สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูตว่า เกาหลีเหนือได้กลับมาประกอบเครื่องปฏิกรณ์ที่โรงงานนิวเคลียร์ยองเบียนขึ้นใหม่เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางกับข้อตกลง 6 ฝ่ายที่ระบุว่า เกาหลีเหนือจะยกเลิกกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ที่โรงงานดังกล่าว

อ้างอิงจาก //www.ryt9.com

ข้อสังเกต
1. ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนเปิดมาสักพักก็ร่วงครับ (100 กว่าจุด) ก่อนที่จะดีดขึ้นมาปิดบวกได้ ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐอื่นๆปิดลบครับ

2. หุ้นทางยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบครับ มีเยอรมันที่รอด ซึ่งคงเป็นผลจากการประกาศ Retail Sales m/m ของยุโรป -0.4% จากที่คาดการณ์ไว้ 0% และคาดว่านักลงทุนคงจะรออัตราดอกเบี้ยของอังกฤษที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะคงอัตราไว้ที่ 5% (แต่ตัวเลขประกาศอื่นๆของฝั่งยุโรปก็ดูดีนา...) (อ้างอิงข้อมูลจาก //www.goldhips.com , //www.allstocks.com)

3. ค่าเงินดอลแข็งค่าขึ้นเพราะสหรัฐต้องการนำเงินจากภูมิภาคต่างๆกลับเข้ามาในระบบ เพื่อค้ำจุนสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐเอง (มองในลักษณะมหภาคนะ ) ซึ่งก่อนหน้านี้หลายบริษัทในสหรัฐประสบปัญหาอย่างมากทั้งจากต้นทุนที่เพิ่มและการจับจ่ายที่ลดลง ฉะนั้นสภาพคล่องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้หลายๆบริษัท และสหรัฐเองอยู่รอดต่อไปได้ การระดมเงินเข้ามาในระบบจึงเป็นสิ่งจำเป็น
สิ่งที่ต้องจับตาดูก็คือเงินที่ "สามารถ" ดึงเอามาเพิ่มในระบบจะหมดก่อนเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวหรือปล่าว เพราะหากหมดก่อนก็จะมีผลต่อค่าเงินดอลเป็นอย่างมากครับ (อย่าเชื่อมาก ผมก็เดาเรื่อยเปื่อยไป... ซึ่งถ้าได้ข้อมูล หรือความเห็นอื่นมาแชร์กันก็จะดีครับ)

4. USD Index เมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงครับ ซึ่งดูกราฟเทคนิครายวันแล้ว ไม่นานก็น่าจะปรับตัวลงครับ แต่ก็ไม่แน่ครับ ดูเทคนิค ดูพื้นฐาน ฤ จะสู้เจ้ามือแทรกแซง...

5. ราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวสูงขึ้น โดยขณะนี้ (9.38) Nymex Cruid Oil อยู่ที่ 109 ครับ (แต่ต้องดูยาวๆ) ส่วนข่าวไฟไหม้โรงกลั่นที่คูเวตไม่น่ามีผลเท่าไหร่ (แท่นขุดหรือท่อส่งก็ว่าไปอย่าง) เพราะเค้าส่งออกน้ำมันดิบกัน (ไม่ชัวร์ แต่ไม่มีเวลาหาข้อมูลเพราะวันนี้เนตอืดดดดดมากๆๆๆๆๆ)

6. จากรายงาน Beige Book แสดงว่า Fed กำลังให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อ ซึ่งจะมีผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หาก Fed ต้องการลดภาวะเงินเฟ้อจริงๆ และให้น้ำหนักในการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำกว่า... ซึ่งหากปรับขึ้นจริงคงสร้างความลำบากต่อสถาบันการเงินในสหรัฐพอสมควร ยกเว้นว่าสถาบันการเงินสหรัฐจะเข้มแข็งพอที่จะรับผลกระทบจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
ฟังหูไว้หูนะครับ ข่าวแนวโน้มพวกนี้ส่วนใหญ่จะมีผลเชิงจิตวิทยาในการลงทุน เพราะฉะนั้นการปล่อยข่าวเพื่อให้ตลาดเดินไปตามแนวทางที่ต้องการนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ประการใดครับ

-----------------------------------------------------------------------------

คำเตือน - ข้อมูลดังกล่าวผู้เขียนตั้งใจเก็บไว้สำหรับเตือนความจำ และประกอบการวิเคราะห์ของผู้เขียน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีข้อผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังนั้นผู้เข้าเยี่ยมชมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ



Create Date : 04 กันยายน 2551
Last Update : 4 กันยายน 2551 10:37:28 น.
Counter : 290 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Death_13
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กันยายน 2551

 
6
7
8
9
13
14
20
21
23
24
27
28
29
30
 
 
4 กันยายน 2551