World 28/08/51

- สถาบันการเงินต่างประเทศได้ปรับเพิ่มอัตราค่าความเสี่ยงทางด้านเครดิตของตราสารอนุพันธ์ Credit Default Swaps (CDS) ระยะเวลา 5 ปีของไทยขึ้นมา 0.4% จนไปอยู่ที่ระดับ 1.32% ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความไม่มีเสถียรภาพทางด้านการเมืองของไทย

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด

- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) จากแรงซื้อของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มโลหะ หลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหในตลาดโลกทะยานขึ้น นอกจากนั้นยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นยอร์ก หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่แข็งแกร่งเกินคาด

- บันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายกาเรงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 51 ที่ผ่านมา ได้รับการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า กรรมการทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันกับแนวโน้มที่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อคิดเห็นและการตั้งข้อสังเกตจากคณะกรรมการหลายคนถึง ระยะเวลาที่เหมาะสมและยาวนานเพียงใดที่จะต้องดำเนินนโยบายการเงินให้เข้มงวดมากขึ้น โดยประเด็นสำคัญจะอยู่ที่ตัวเลขเงินเฟ้อ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐฯขณะนี้อยู่ที่ 2%

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อคงทนที่แข็งแกร่งเกินคาด อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ หลังจากเจ้าหน้าที่ยุโรปแสดงความเห็นว่าธนาคารกลางยุโรปควรขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อในเขตยูโรโซน

- ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยยืนเหนือ 117 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อมีความวิตกมากขึ้นว่าพายุโซนร้อน กุสตาฟ อาจจะคุกคามแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโกเหมือนกับปี 2548 ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว และมีความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกหลังจากที่บุชประนามรัสเซียที่ยอมรับการแยกตัวของภูมิภาคที่เป็นกบฏในจอร์เจีย (Crude Oil Inventories ของสหรัฐที่ประกาศเมื่อคืน -0.1M ซึ่งลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วประกาศไว้ที่ 9.4M)

- ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นเหนือระดับ 118 ดอลลาร์/บาร์เรล

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.3%เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นผลมาจากยอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ พุ่งขึ้น 28% ยอดสั่งซื้อรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์เพิ่มขึ้น 1.2%

- นิตยสารสเติร์น รายงานโดยอ้างการให้สัมภาษณ์ของรมว.เศรษฐกิจเยอรมนีว่า "หากประเมินสถานการณ์ตามความเป็นจริงก็ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจเยอรมนีมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลง และรัฐบาลยังไม่มีแผนที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่อย่างใด" โดยเศรษฐกิจเยอรมนีในไตรมาสที่สองชะลอตัวลง 0.5% จากไตรมาสแรก ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่ตัวเลข GDP ของเยอรมนีปรับตัวลดลงนับตั้งแต่ไตรมาสที่สามของปี 2547

- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า จะสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ควบคุมการปล่อยกู้แก่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อที่จะกระตุ้นให้มีการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อ้างอิงจาก //www.ryt9.com , //www.moneychannel.co.th

ข้อสังเกตส่วนตัว
1. ทำไมยอดสั่งซื้อเครื่องบินพานิชย์จึงพุ่งขึ้นทั้งที่สายการบินทั่วโลกกำลังประสบปัญหาอยู่ หรือเพราะว่าราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้สายการบินต่างๆมีต้นทุนลดลงทำให้มีกำลังซื้อเครื่องบินมาเสริม...

2. Core Durable Goods Orders m/m เพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนที่แล้ว 2.4% ส่วน Durable Goods Orders m/m เพิ่มขึ้น 1.3% เท่ากับเดือนที่แล้วครับ (ผมไม่แน่ใจว่ารายละเอียด Core กับ None Core ต่างกันตรงไหน)

3. สินค้า Commodity ต่างๆกำลังเข้าสู่ภาวะกระทิงอีกรึปล่าว อันนี้ต้องดูอีกสักระยะ...

4. จากข่าวดอลลี่ กราฟ USD index ลดลงนะครับ

5. ตลาดหุ้นจีนตกมาแล้ว 5 วัน เป็นตัวชี้วัดอะไรบางอย่างรึปล่าว (ไม่มีในข่าวข้างบนครับ เอาข้อมูลมาจาก //www.bloomberg.com ครับ)

6. Crude Oil Inventories ของสหรัฐที่ประกาศเมื่อคืน -0.1M ซึ่งลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วประกาศไว้ที่ 9.4M นั้น เป็นการบอกอะไรบางอย่างรึปล่าว...

Create Date : 28 สิงหาคม 2551 Last Update : 28 สิงหาคม 2551 12:10:07 น. Counter : 369 Pageviews.		0 comments
Share Tweet