Bloggang.com : snodgrass : ปัญหาโลกร้อนทำโลกาภิวัตน์ยุติ กูรูชี้คุกคามความมั่นคงชาติต่างๆ

ปัญหาโลกร้อนทำโลกาภิวัตน์ยุติ กูรูชี้คุกคามความมั่นคงชาติต่างๆ

ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ (คลิก)

เอเจนซี - ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงแห่งชาติชี้ปัญหาโลกร้อนจะทำให้กระแสโลกาภิวัตน์ยุติลงภายในปี2040 เนื่องจากชาติต่างๆจะหันมาพิทักษ์สงวนหวงแหนทรัพยากรที่ขาดแคลน อีกทั้งความขัดแย้งจะเพิ่มสูงรุนแรงขึ้น เมื่อมีผู้ลี้ภัยจำนวนมากอพยพหนีความแห้งแล้งและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น

รายงาน "The Age of Consequences" ซึ่งเผยแพร่โดยศูนย์เพื่อการศึกษาด้านยุทธศาสตร์และนานานาชาติ เมื่อวันจันทร์(5) ระบุว่าผลกระทบจากปัญหาภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญต่อการสิ้นสุดของกระแสโลกาภิวัตน์ เนื่องจากชาติในพื้นที่ต่างๆในโลก ต่างพยายามจำกัดตัวเอง มีปฏิสัมพันธ์แต่เฉพาะกับคนในประเทศ เพื่อสงวนสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการอยู่รอด

ลีออน เฟิร์ธ แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดทำรายงานฉบับนี้ กล่าวว่าความขาดแคลนจะเป็นปัจจัยที่กำหนดเงื่อนไขของการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เฟิร์ธยังกล่าวว่าความร่วมมือระดับโลกในโลกที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์นั้นอาจสิ้นสุดลง ขณะที่รัฐบาลที่ขาดแคลนสินค้าโภคภัณฑ์ที่จำเป็น ก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่ทำให้ความร่วมมือระดับโลกเกิดขึ้นได้

อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของอดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์ กล่าวว่าชาติร่ำรวยจะก้าวผ่านช่วงเวลาของการปฏิเสธไม่รับผู้ลี้ภัยจากเรือช่วยชีวิตเข้าประเทศ นาน 30 ปี ขณะที่ชาติยากจนที่สุดในโลกก็ต้องเผชิญกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งจะยิ่งทำให้ศีลธรรมเสื่อมโทรมลงอย่างมาก

ปัญหาโลกร้อนยังชี้ให้เห็นว่าความเกลียดชังบางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มเชื้อชาติศาสนาที่แตกต่างกัน จะรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มที่แตกต่างกันเหล่านี้จะพยายามย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่มีสภาพเอื้ออำนวยมากกว่า

รายงานฉบับนี้ได้สมมติสถานการณ์ปัญหาโลกร้อนในแง่ของความมั่นคงปลอดภัย 3 สถานการณ์ ซึ่งเริ่มจากสถานการณ์คาดการณ์โดยเฉลี่ย ที่คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) คาดการณ์ไว้

สถานการณ์สมมตินี้ซึ่งรายงานระบุว่าอาจเกิดขึ้นได้นั้น พยากรณ์ว่าโลกจะร้อนขึ้น 1.3 องศาเซลเซียส และระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นราว 9 นิ้ว (0.23 เมตร) ภายในปี2040

จอห์น โพเดสตา ซึ่งเคยเป็นประธานคณะทำงานของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และปัจจุบันเป็นประธานศูนย์เพื่อความก้าวหน้าของชาวอเมริกัน กล่าวว่าคณะผู้จัดทำรายงานฉบับนี้ได้คาดการณ์ถึงสถานการณ์ที่ประชาชนและชาติต่างๆถูกคุกคามโดยภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำครั้งใหญ่ ภัยธรรมชาติที่ล้างผลาญชีวิตมนุษย์ และการระบาดของเชื้อโรคมรณะ

โพเดสตากล่าวว่าผลกระทบเหล่านี้จากปัญหาโลกร้อนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าสหรัฐฯ ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก จะยอมปฏิบัติตามเป้าหมายของนานาชาติ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในทันทีก็ตาม

ที่ผ่านมานั้น ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ต่อต้านมาตรการบังคับในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยอ้างว่ามาตรการนี้จะส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

รายงานฉบับนี้กล่าวว่า ปัญหาโลกร้อนจะทำให้เกิดการย้ายถิ่นฐานทั้งในประเทศและข้ามพรมแดนไปยังต่างประเทศ เนื่องจากประชาชนจะย้ายออกจากบริเวณที่อาหารและน้ำขาดแคลน นอกจากนี้ ประชาชนยังจะหนีออกจากบริเวณที่น้ำทะเลเพิ่งสูงขึ้น และบริเวณที่ประสบภัยพิบัติจากความแห้งแล้ง น้ำท่วม พายุขั้นรุนแรง ซึ่งล้วนแต่เป็นผลจากปัญหาโลกร้อน ที่ผู้เชี่ยวชาญพยากรณ์ไว้

ภูมิภาคเอเชียใต้ แอฟริกา และยุโรปจะเป็นจุดเสี่ยงที่เผชิญกับการอพยพย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ โดยเฉพาะจากประเทศที่แนวคิดอิสลามิสต์หัวรุนแรงแผ่ขยายมากขึ้น

โพเดสตากล่าวว่า ในตะวันออกกลางนั้น การเมืองเรื่องน้ำจะมีอำนาจขึ้นมา โดยแม่น้ำจอร์แดนจะสร้างเส้นทางทางกายภาพเชื่อมโยงผลประโยชน์ของซีเรีย เลบานอน จอร์แดน อิสราเอล และองค์การบริหารปาเลสไตน์(พีเอ)

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2550

Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 17:27:44 น.

0 comments

Counter : 676 Pageviews.