“พริก” สุดยอดสมุนไพรชั้นดี กู้ชีวีคนและสัตว์

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ (คลิก)




น่ายินดีที่ทั้งปีนี้ทางภาครัฐฯเล็งเห็นความสำคัญของสมุนไพรไทย รณรงค์ให้ประชาชนบริโภคพืชผักสวนครัวสมุนไพร ที่นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้หลายภาคส่วนหันมาสนใจสินค้าที่แปรรูปจากสมุนไพร จนกระทั่งทำการศึกษาวิจัยเพื่อนำออกมาใช้ประโยชน์ได้จริง


ศ.ดร.นันทวัน บุณยะประภัศร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในที่สนใจในการศึกษาด้านสมุนไพร และยังได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว) เพื่อนำไปวิจัย แปรรูปสมุนไพรให้ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน บอกเล่าถึงที่มาของการวิจัยครั้งนี้ว่า งานวิจัยเรื่อง”สมุนไพรเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต” เป็นการดึงประโยชน์จากสมุนไพรที่อยู่ใกล้ตัวมาใช้ โดยหนึ่งในสมุนไพรที่ทีมวิจัยได้เลือกทำการศึกษาและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ นั่นคือ “พริก” ซึ่งเป็นสุดยอดสมุนไพรที่มีประโยชน์มหาศาล

จากการศึกษาสารสำคัญที่อยู่ในพริก สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ให้สีแดง ได้แก่ สารแคปแซนทีน (Capsanthin) มีประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในการปศุสัตว์ เช่น ใช้เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เพื่อให้ได้เนื้อสัตว์ที่มีสีสวย และไข่ไก่มีสีสด มีไขมันต่ำ โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะในสัตว์ ซึ่งจะส่งผลต่อมนุษย์ โดยจะทำให้เกิดการดื้อยา 2. กลุ่มที่ให้รสเผ็ด ได้แก่ สารแคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งมีประโยชน์ต่อการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสุขภาพ และยาสำหรับมนุษย์

ทั้งนี้จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพริกที่มีผลต่อสุขภาพ โดยนักวิจัยจากม.มหิดล ม.นเรศวร และม.ศรีนครินทรวิโรฒ พบว่าสารให้ความเผ็ดในพริกมีผลต่อระบบไหลเวียนของโลหิต ซึ่งมักเป็นปัญหาในผู้สูงอายุ โดยสารสกัดและผลิตภัณฑ์พริก ขนาด 0.25 - 4.0 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน เทียบเท่ากับพริกกระเหรียงแห้ง 0.79 – 12.64 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน สามารถลดและป้องกันการเพิ่มของระดับไขมันชนิดที่เป็นอันตราย หรือ คอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงการเกิดหลอดเลือดแข็ง และลดการสะสมไขมันและความผิดปกติที่ผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ ซึ่งมีผลใกล้เคียงกับยาลดไขมันในเลือดขนาด 40 มิลลิกรัม/กิโลกรัมต่อวัน

อาจารย์นันทวันยังบอกอีกว่า นอกจากนี้ สารสกัดและผลิตภัณฑ์พริกยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างไนตริกออกไซด์ที่ช่วยในการขยายหลอดเลือดและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด จึงมีประโยชน์ในการป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ อีกทั้งสารสกัดและผลิตภัณฑ์จากพริกยังมีข้อดีคือไม่มีผลต่อไตและตับ ซึ่งขณะนี้การวิจัยสารสกัดและผลิตภัณฑ์พริก อยู่ในขั้นตอนการทดสอบผลการใช้ในคน ซึ่งหากผลเป็นที่น่าพอใจจะผลักดันเข้าสู่อุตสาหกรรม





นอกจากผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพในผู้สูงอายุแล้ว ขณะนี้ยังมีการศึกษาผลิตภัณฑ์ยา โดยทีมนักวิจัยจากม.มหิดล และศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ในการลดขนาดอนุภาคของสารสกัดให้อยู่ในระดับนาโนเมตร เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนัง และไปถึงเส้นประสาทได้อย่างรวดเร็ว โดยจะพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ระงับอาการปวดปลายประสาท สำหรับผู้ป่วย “โรคเริม “หรืองูสวัด ทั้งนี้การลดอนุภาคสารสกัดในระดับนาโนเมตร จะช่วยลดอาการแสบร้อนจากผลิตภัณฑ์ทาถูนวดแบบเดิมได้ เนื่องจากอนุภาคขนาดเล็กจะดูดซึมได้เร็วกว่า และทำให้ผู้ป่วยได้รับสารสกัดได้มากขึ้น

ปัจจุบันทีมวิจัยสมุนไพรเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตยังมีการศึกษาพืชผักสวนครัวชนิดอื่นนอกจากพริกอีกหลายชนิด เช่น ตะไคร้ ซึ่งมีน้ำมันหอมระเหยที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างฟันปลอม น้ำยาบ้วนปาก ยาสีฟัน และน้ำยาลดการอักเสบของเต้านมวัว ขมิ้นชัน พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้กับไก่ โดยสารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชันจะช่วยเร่งการเจริญเติบโตของไก่ ทดแทนการใช้สารปฏิชีวนะ กากชา นำไปพัฒนาเป็นน้ำยาล้างฟันปลอม น้ำยาบ้วนปากเพื่อกำจัดจุลินทรีย์ที่ก่อโรคปริทันต์และฟันผุและเสริมอาหารสัตว์ เป็นต้น ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรทั้งหมดที่ทีมวิจัยได้ดำเนินการวิจัยไปแล้ว มีประมาณ 56 ผลิตภัณฑ์ และยังดำเนินการวิจัยและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป

“ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ทำการวิจัยและคิดค้นพัฒนาแล้ว สามารถนำออกมาจำหน่ายได้ ก็คือผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ที่ใช้เลี้ยงหมู ไก่ ทำให้เจริญเติบโตได้ดี ลดปัญหาระบบทางเดินอาหาร สุขภาพสมบูรณ์ ถ้าใช้กับไก่ จะทำให้ไก่โตเร็ว ต้นทุนการเลี้ยงดูก็จะลดลง ไม่ต้องใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะก็ได้ ที่สำคัญไข่ไก่ที่ออกมาจะมีคอลเลสเตอรอลที่ต่ำกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องรับประทานไข่ไก่เป็นอย่างยิ่ง” ศ.ดร.นันทวัน อธิบาย

อย่างไรก็ดี การวิจัยเพื่อพัฒนาสารสกัดและผลิตภัณฑ์จากพริก และพืชผักสวนครัวชนิดอื่นๆ ไม่เพียงส่งผลดีต่อผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับคุณค่าของสมุนไพรไทย และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร ทำให้เกษตรกรมีทางเลือก และมีรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดการขยายตัวในอุตสาหกรรมสารสกัด และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพที่กว้างขวางขึ้น ซึ่งการมีรายได้เพิ่ม มีอาหารที่ปลอดภัยรับประทาน รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพที่มีคุณค่า จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมของคนไทยที่ดีขึ้น





Create Date : 15 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 23 ธันวาคม 2550 1:23:12 น. 1 comments
Counter : 702 Pageviews.

 
ส่วนตัวแล้วชีวิตนี้ ขาดพริกไม่ได้ค่ะ


โดย: mopsen dog วันที่: 16 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:00:12 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

snodgrass
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





แสงหนึ่ง - ครอบครัว "ศรีณรงค์"
บรรเลงสดในรายการ "จับเข่าคุย"



ทำให้ใจเต้นแรง


บล็อกล่าสุด

รวมรูปคนดัง (6 มี.ค. 51) - Catherine Zeta Jones, Rachel McAdams, Maria Sharapova และอีกมากมาย

รวมรูปคนดัง (ครั้งยิ่งใหญ่) - Winona Ryder, Natalie Portman, Maria Sharapova และอีกมากมาย

รวมรูปคนดัง (ครั้งยิ่งใหญ่) - Jessica Alba, Kate Beckinsale, Jennifer Hawkins และอีกมากมาย

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในความทรงจำของ "หมึกแดง"

บทความเก่าของคุณ ปิติ เลิศลุมพลีพันธุ์ "สนามวิจารณ์ : คารวะแด่ Morricone"

: Users Online
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add snodgrass's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.