Bloggang.com : snodgrass : คำสารภาพของนักล่าฝัน...ถึงแฟนคลับ พะแพง VS ตี๋

คำสารภาพของนักล่าฝัน...ถึงแฟนคลับ พะแพง VS ตี๋

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ - คอลัมภ์ Idol (คลิก)

ก่อนเริ่มเขียน ขอส่งเสียงกรี๊ดดังๆ ร่วมกับเหล่าแฟนคลับ AF4 หลังจากที่ชาว

D-Life ได้ไปร่วมชะตากรรมกับแฟนคลับในวันอากาศร้อนระอุ ณ สตูดิโอเปรียว พร้อมกันก็ต้องขอซูฮกในความอดทนของแฟนคลับทั้งหลายที่ลงทุนปูเสื่อรอนักล่าฝันถ่ายแฟชั่นกันตั้งแต่เคารพธงชาติช่วงเช้า จนเคารพธงชาติรอบเย็น

เพราะแรงขับเคลื่อนของกลุ่มที่เรียกว่า "แฟนคลับ" นี้เอง ทำให้เด็กธรรมดาๆ กลายมาเป็น "STAR" ได้ภายในเวลาระยะสั้น จากรายการเรียลิตี้โชว์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด True Acadamy Fantasia เป็นเวลา 4 ปีแล้วที่โปรเจ็กต์นี้สร้างศิลปินเข้าสู่วงการหลายต่อหลายคน รวมถึง 2 นักล่าฝันน้องเล็ก "พะแพง-ศุภรดา เต็มปรีชา" (V3) และ "ตี๋-วิวิศน์ บวรกีรติขจร" (V12) ที่เราขอถอดเทปคำสารภาพของ 2 V ที่มีต่อแฟนคลับ...แบบคำต่อคำ

ชีวิตหลังออกจากบ้าน

ตี๋ : ตอนแรกออกจากบ้านเจอแฟนคลับมากมาย รู้สึกตื่นเต้นมาก จริงๆ ผมก็พอรับรู้ได้จากเวลาเล่นคอนเสิร์ต ทุกวีกมีคนใส่เสื้อสีแดงเยอะมาก แต่ว่าไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ พอออกจากบ้านมาก็มีคนรู้จักมากขึ้น และทุกคนให้กำลังใจ เป็นห่วง มีคนคอยรัก เยอะมาก เหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน

พะแพง : มีความสุขดีค่ะ รู้สึกว่ามีคนให้ความสำคัญกับเรามากขึ้น ดีที่มีคนให้ความสำคัญ ดีที่มีคนรู้จัก แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากมายสำหรับตัวแพงเอง ตอนนี้ทำงานมาเกือบเดือนแล้ว เริ่มชิน อาจจะมีเหนื่อยบ้าง แต่ท้อไหม ไม่ท้อ สนุกดีค่ะ

รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รู้สึกว่าใช้สติมากขึ้น ปกติไม่ค่อยได้ใช้ (หัวเราะ) เมื่อก่อนคิดอะไรก็พูดเลย ไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีก่อน การใช้ชีวิตในวงการ ก็คือ การทำตัวปกติ ไม่ต้องเสแสร้ง เป็นตัวของตัวเอง ถึงจะอยู่ได้นาน

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิต

ตี๋ : ผมไม่รู้สึกกดดัน อยู่ในบ้านผมมีนิสัยอย่างไร ผมก็แสดงออกมาให้ทุกคนเห็นแล้ว ถ้าคนเขารับไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้ แต่ผมได้แสดงตัวตนของผมให้เห็นทุกอย่าง ถ้าผิดพลาดผมก็พยายามปรับปรุงให้ดี พยายามแก้ไข แต่ว่าผมก็เป็นตัวผมอย่างนี้ ในอนาคตผมก็ต้องพัฒนาตัวเอง ทั้งเรื่องการร้องเพลง และการเอ็นเตอร์เทนคนดู ซึ่งการเอ็นเตอร์เทนคนดู ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ยาก ผมสังเกตว่าหลายๆ คนร้องเพลงเพราะมาก แต่ว่าการสื่อสารกับคนดูทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อาจจะทำให้ดร็อปไปได้ ตรงนี้ที่ผมต้องพัฒนา

พะแพง : ไม่รู้สึกหนักใจ แต่ภูมิใจมากกว่าที่เรามาถึงจุดนี้ได้เร็ว มันไม่มีอะไรให้ต้องหนักใจมาก เรื่องข่าว ถ้าเราไม่ได้ทำตัวแย่คงไม่มีอะไร มีข่าวคงเพราะตัวเองทำตัวเอง แต่ถ้าเราทำตัวปกติ ก็อยู่อย่างมีความสุข

การปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง

ตี๋ : ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยทำงานหนักอย่างนี้มาก่อน ปกติไปเรียนหนังสือ เลิกเรียน กลับบ้าน กินข้าว ก็ได้พักผ่อนแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ ตื่นแปดโมงเช้า กว่าจะได้กลับบ้านก็เที่ยงคืน ตีหนึ่ง ทุกวันทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมง แต่ก็จำเป็น ช่วงนี้เป็นช่วงที่ควรเก็บเกี่ยวให้มากที่สุด หลังจากนี้คงเริ่มซาๆ ลง ถ้าไม่ทำเดี๋ยวจะมาเสียใจทีหลัง ก็ทำงานให้เต็มที่ สำหรับการเรียนผมคงไม่ทิ้ง ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะเรียนให้จบ ปีหน้าก็จะเริ่มเรียน แต่ปีนี้ทำงานให้เต็มที่ไปเลย

แต่ผมก็ยังเป็นตี๋ คนธรรมดาคนหนึ่ง อาจจะร้องเพลงได้หน่อย อาจจะเล่นกีตาร์ ได้บ้าง ผมก็แค่คนธรรมดาที่โชคดีมาติดเอเอฟ แค่นั้นเองครับ การใช้ชีวิตของผมยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ปกติถ้าไม่ได้ไปงานผมก็แต่งเสื้อยืด รองเท้าแตะ บางทีพลาดใส่รองเท้าแตะไปงาน ยังโดนว่าด้วยซ้ำไป (หัวเราะ)

พะแพง : หนูคงยังเป็นธรรมชาติเหมือนเดิม อาจจะเปลี่ยนเรื่องคำพูด การกระทำ ไม่ได้เปลี่ยนมากจนทำให้เราอึดอัด เปลี่ยนให้เรารู้สึกดีขึ้น ไม่ได้แย่ลง มันก็ควรปรับให้ดีขึ้นมากกว่า อาจจะปรับเรื่องคำพูด อาจจะลดเรื่องคำหยาบ แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเด็กผู้หญิง และเยาวชน ที่เราจะเป็นแบบอย่างให้เขา

จากเด็กธรรมดา กลายมาเป็นคนพิเศษของแฟนคลับ

ตี๋ : สำหรับผมแฟนคลับมีอิทธิพลอย่างมากๆ ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะร้องเพลง มีกำลังใจที่จะทำงานต่อไป ทุกๆ ครั้งที่ไปร้องเพลง แม้จะร้องแค่นิดหน่อย แต่เขาก็จะกรี๊ดให้กำลังใจตลอดเวลา มันมีพลัง อย่างวันนี้ผมป่วยพอสมควร เมื่อวานเสียงก็ไม่มีเลย คิดว่าวันนี้คงแย่แน่ๆ มาเห็นสีแดง คนที่เชียร์ตี๋ เยอะไม่แพ้คนอื่นเลย ให้กำลังใจตลอด แม้ผมจะร้องผิด ก็ยังให้กำลังใจ เยี่ยมมาก ทำให้ผมมีกำลังที่จะร้องเพลงต่อไป

ในอัลบั้มเอ็กซ์ตรีม ตี๋เองอาจจะไม่ได้ร้องเพลงเดี่ยว เพราะไม่ได้ติด 1 ใน 5 แต่แฟนคลับก็ยังให้กำลังใจ และตามไปเชียร์ตลอดทุกที่เลยครับ และได้เสียงกรี๊ดที่ดังตลอด ดีใจมากขนาดที่เราไม่ติด 1 ใน 5 เพลงเดี่ยวก็ไม่มี ทั้งอัลบั้มร้องไม่กี่ท่อน เขาก็ยังคงตามไปเชียร์แบบเต็มที่ รู้สึกมีกำลังใจและขอบคุณ

พะแพง : แฟนคลับให้กำลังใจดีมาก คอยเอาของมาให้ เอาแบรนด์ซุปไก่ เอายาแก้ไอมาให้ ซื้อของมา ดูแลเรา ซื้อเครื่องสำอาง อาหารการกิน ทุกอย่างตั้งแต่หัวจดเท้า เขาดูแลให้แบบสุดยอด เหมือนเราเป็นลูกเป็นหลาน เป็นเพื่อนเขา รู้สึกดีใจมากที่เรามีคนเอ็นดูเราขนาดนี้เลยนะ

หนูรู้สึกมีความสุขที่มีคนมาดูแลเรา ให้ความสำคัญกับเรา เห็นเราเป็นแบบอย่าง รู้สึกว่าเราอยากทำให้เขาเห็นว่าเราก็ตั้งใจทำอะไรเพื่อเขาไม่แพ้กับที่เขาทำเพื่อเรานะ เขาเป็นกลุ่มๆ หนึ่งที่ไม่ใหญ่มาก แต่สำคัญสำหรับหนูมาก ในการทำงานแต่ละอย่าง สิ่งที่หนูนึกถึงเสมอคือ แฟนคลับ ต้องทำเพื่อเขาด้วยนะ ทุกอย่างจะมาเลย เป็นเหมือนแรงใจ และเราก็อยากให้ออกมาดีด้วย

ใครกันที่คอยดูแลแฟนคลับแทนเรา

ตี๋ : พี่ชายกับพ่อและแม่จะคอยดูฟีดแบ็ก และดูแลแฟนคลับให้ ช่วงหลังผมไม่มีเวลาเข้าเว็บเลย เมื่อก่อนเข้าไปบ่อย เยอะมากกับข้อความให้กำลังใจ เยอะมากจริงๆ ตอนนี้ ก่อนนอนก็พยายามไล่อ่านที่พ่อกับพี่ปรินท์มาให้ เฮียเล้ง พี่ชายผม มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้ผมมาถึงทุกวันนี้ เขาช่วยเทกแคร์แฟนคลับ และช่วยหลายๆ เรื่องมาตลอด ในเว็บบ้านคิงคอง ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่มากๆ ถ้าเข้าไปเว็บนี้ ถ้าเหนื่อยเราเข้าไปจะเจอคนที่ให้กำลังใจเราเต็มไปหมด เมื่อไหร่ที่ท้อ เข้าบ้านคิงคองครับ

พ่อบอกเสมอว่า "คนที่เขาดีกับเรา เราต้องดีกับเขาเสมอ" ต้องพยายามเทกแคร์เขาให้ดีที่สุด นี่ขนาดจากคนที่เราไม่เคยรู้จักเลยนะ แต่ว่ามาเทกแคร์เรา มาตามเชียร์เราทุกที่ คอยให้ขนม ให้อาหาร ให้กำลังใจ คอยช่วยทุกอย่าง ทุกเรื่อง เราต้องการอะไรเขาก็ให้ ผมก็รู้สึกว่าเราก็ต้องตอบแทนเขา อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขามีความสุขเท่าที่จะทำได้

พะแพง : ส่วนใหญ่พี่ชายหนูจะคุย จะดูแลแฟนๆ แทนหนู เขารู้ว่าหนูทำงานมาเหนื่อยๆ จะไม่มีเวลาตอบ ไม่มีเวลาทำอะไร ก็เลยจะดูแลแทน หนูก็เลยรู้สึกว่าดีมากเลย เพราะมีอะไรพี่ชายจะโทร.มาบอก พี่ชายจะถือของมาให้ แล้วจะบอกว่ามาจากคนนี้นะ จำได้ไหม นี่เขาฝากมาให้เซ็นนะ เดี๋ยวพี่จัดการเอาไปให้เอง ดีมากพี่ชายหนู

คิดอย่างไรกับประโยคที่ว่า "แฟนคลับเอเอฟสามารถทำให้เด็กธรรมดาสามารถกลายเป็นสตาร์ในข้ามคืน"

ตี๋ : แฟนคลับเป็นกลุ่มที่สำคัญมาก สนับสนุน คอยตามเชียร์ตลอด เหมือนกับเขาช่วยให้เราเป็นที่รู้จัก เหมือนกับเราไปตามที่ต่างๆ ถ้าไม่มีเขาเสียงอาจจะเงียบๆ ไป คนที่ไม่รู้จักเราก็อาจจะเอ...อะไรวะ แต่ถ้ามีเสียงกรี๊ดๆ คนก็จะอ๋อ... และถ้าวันหนึ่งกระแสนี้เฟดไป ผมก็คิดไว้อยู่แล้วว่า คนเรามันถึงจุดสูงสุดก็ค่อยๆ ลงมา ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำมันได้นานแค่ไหน ขึ้นกับความสามารถของเราด้วยว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จนานแค่ไหน แต่ผมว่าส่วนหนึ่งขึ้นกับความประพฤติของตัวเองด้วย ถ้าเราประพฤติตัวไม่ดีเขาก็ไม่สนับสนุน การที่จะทำให้เราอยู่ในวงการนี้ต่อไปได้ คงเป็นความรับผิดชอบต่องาน ทำหน้าที่ที่ได้รับให้ดีที่สุด อย่าขี้เกียจ

พะแพง : มีส่วนทีเดียว เขาจะสนับสนุนในเรื่องดีๆ ถ้าได้คุยเขาจะสนับสนุน แนะนำเรา แพงต้องทำอย่างนั้นนะ ต้องทำอย่างนี้นะ เขาเตือนเรา เหมือนเขารู้ว่าเป็นอย่างนี้ อย่างงานบางงานเขาจะรู้ว่าเหมาะไม่เหมาะกับเรา ถ้าไม่เหมาะจะไม่สนับสนุน ถ้าเหมาะจะสนับสนุนให้ดีขึ้น เขาสนับสนุนทุกอย่างที่เราทำ ไม่มีปฏิเสธ

เทียบกับศิลปินคนอื่น หนูว่าเรามีโอกาสมากกว่า ที่ออกจากบ้านแล้ว มีแฟนคลับเหนียวแน่น มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เรียกว่าอะไรดี ...มันอิ่มใจ โอ้โหสุดยอด มีความสุขมาก ไม่เชื่อว่าเราจะประสบความสำเร็จได้เร็วขนาดนี้ จากเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่ง มาถึงทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งจากแฟนคลับที่คอยโหวต คอยให้กำลังใจกันมาตลอด

กระแสเชียร์แบบแพ็กคู่ "ตี๋-พะแพง"

ตี๋ : ดีใจที่ทุกคนรักกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องเชียร์ตี๋ แล้วไม่เชียร์พะแพง ขอให้แบบเชียร์ตี๋ เชียร์พะแพง ไม่แค่ตี๋กับพะแพง แต่เป็นพี่นัท พี่ต้อล มิวสิกด้วย อยากให้ทุกคนรักกัน อาจจะแยกกันรัก แต่เวลามาคอนเสิร์ตก็มาร่วมกันเฮ ร่วมกันตบมือให้พวกเราทุกคน จริงๆ เชียร์คู่กัน ก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแฟน ผมกับพะแพงอาจจะมีลักษณะนิสัยคล้ายๆ กัน ก็เลยถูกเชียร์คู่กัน

พะแพง : ก่อนเข้าบ้านหนูสนิทกับตี๋ กับมิวสิก หลังๆ สนิทกับแจ๊ค พี่ปุยฝ้าย กับเพื่อนๆ มีปัญหาอะไรก็คุยกัน เขาจะคอยเตือน อย่างพี่ฝ้ายจะคอยเตือนสติตลอดเวลา ส่วนที่เชียร์เป็นคู่ หนูว่าก็ดีค่ะ เหมือนสนับสนุนให้ดีไปมั้งคู่ ไม่มีใครจะตกต่ำ เขาแพ็กคู่เชียร์สองคน ก็ยิ่งดี สองกลุ่มมารวมกัน ก็ช่วยกันดันเป็นก้อนใหญ่ๆ มากขึ้นไปอีก กับตี๋ก็ขำๆ ค่ะ เป็นเพื่อนกันไป ก็ดีค่ะ ยังคุยกับตี๋ว่ามีโอกาสคิดว่าควรทำอะไรด้วยกันบ้างเพื่อเขาบ้างเลย

ตอบแทนน้ำใจให้แฟนคลับ

ตี๋ : ผมไม่คาดคิดมาก่อน ระยะเวลาที่ผมอยู่ในบ้านผมอาจจะทำตัวดื้อ (ยิ้ม) ออกมาก็ไม่คิดว่าคนจะรักเรามากขนาดนี้ ผมคิดว่าผมดื้อ ผู้ใหญ่อาจจะไม่ชอบ แต่ผลตอบรับมันพลิกเลย ทำให้รู้สึกขอบคุณทุกๆ คนที่เชียร์ตี๋ อยากคุยกับทุกๆ คน ถ้าเป็นไปได้ ถ้าเจอก็อยากให้ทักกัน อยากให้พี่ๆ ทุกคนรักษาสุขภาพ อย่าเป็นหวัดเหมือนผม (ยิ้ม)

ผมจะพยายามจำทุกคนให้ได้ ถึงแม้บางคนอาจจะจำชื่อไม่ได้ แต่คนที่มาบ่อยๆ จะจำได้ทุกคน ผมว่าเป็นความสำคัญ เพราะว่าเขาให้ความสำคัญกับเรามาก เราก็ต้องให้ความสำคัญกับเขาเช่นกัน อย่างแค่เราจำชื่อเขาได้ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เทียบกับเขาต้องมารอเราตั้งแต่เช้า คอยซื้อขนม ซื้ออะไรมาให้กิน ไม่คิดว่าคนจะมารักเราเหมือนลูกเหมือนหลานขนาดนี้ ขอบคุณทุกกำลังใจ ผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อน เขาก็มาคอยสนับสนุนเรา ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดไม่ให้เขาผิดหวัง

พะแพง : ถ้าให้คะแนน 1-10 หนูให้ 10 บวกดาวไป 2 ดวงเลยสำหรับแฟนคลับ พวกเขายอดมาก พวกเขาน่ารักมาก บุกน้ำฝน นั่งรอเรา 5-6 ชั่วโมง เพื่อรอเจอเราแค่ 2-3 นาที สุดยอด จะหาที่ไหนได้ สิ่งที่หนูทำได้ คือ ทำผลงานออกมาให้เขาพอใจ และมีความสุขกับผลงานที่หนูทำออกมา คิดว่าถ้าเราทำออกมาได้ดี ก็เพราะพวกเขาด้วย นี่คือสิ่งตอบแทนน้ำใจจากเขา

สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คงเป็นที่เขาอยากให้เราตั้งใจทำงานให้มากที่สุด นั่นคือสิ่งที่เขาอยากได้ เขาคงไม่อยากได้การ์ด สิ่งของหรือ ลายเซ็นจากเราหรอก เขาคงอยากให้เราประสบความสำเร็จในอนาคต แล้วก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด หนูว่านั่นเป็นสิ่งที่เขาอยากได้จากเรามากที่สุด :D (หน้าพิเศษ)

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2550

Last Update : 23 ธันวาคม 2550 1:34:53 น.

0 comments

Counter : 640 Pageviews.