Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
29 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

อันดามันอาดูรรำลึก5ปีสินามิแผ่นดินไหวซ้ำ

* "มาร์ค" ปราศรัยส่งสารวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติในวันครบรอบ 5 ปีเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ที่ 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามันตกเป็นเหยื่อสังเวยไปกว่า 5,300 ศพ สูญหายอีกกว่า 4,499 ราย โดยทุกจังหวัดจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลและรำลึกถึงเหตุการณ์โหดพร้อมกันกับอินโดนีเซียและศรีลังกา ขณะที่เกิดแผ่นดินไหวในรัฐเอกราชซามัว 5.5 ริกเตอร์ ตรงกับพิบัติภัยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

วันที่ 26 ธันวาคม 2552 เป็นวันครบรอบ 5 ปีของเหตุการณ์ธรณีพิบัติจากคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มชายฝั่งทะเลอันดามัน ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลได้มีมติกำหนดให้เป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทยจึงใช้โอกาสรณรงค์ให้ประชาชนสร้างจิตสำนึกและตระหนักถึงความปลอดภัย และให้ดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ

     โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสารและกล่าวปราศรัยโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ได้เกิดโศกนาฏกรรมธรณีพิบัติภัยสึนามิครั้งใหญ่ในหลายประเทศ รวมทั้ง 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามันของไทย ทำให้ชาวไทยและชาวต่างชาติเสียชีวิตมากกว่า 5,300 ราย และที่น่าเศร้าโศกเสียใจอย่างยิ่งก็คือในจำนวนนี้มีคุณพุ่ม เจนเซ่น โอรสในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ประสบภัยในครั้งนี้ด้วย รัฐบาลไทยจึงกำหนดให้วันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พิบัติภัยต่างๆ มีทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและจากความบกพร่องของมนุษย์ และโรคอุบัติใหม่ร้ายแรงต่างๆ แต่จากการศึกษาพบว่าคนเป็นผู้ก่อให้เกิดอุบัติภัยสูงมากถึงร้อยละ 90 การสูญเสียคิดเป็นมูลค่ามหาศาล การสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเริ่มปลูกฝังตั้งแต่เด็ก และทุกฝ่ายต้องช่วยกันให้ความสำคัญ และขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยตั้งจิตมั่นที่จะร่วมกันสร้างความสำนึกในการป้องกันอุบัติภัย พร้อมอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย ตลอดจนพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดลบันดาลประทานพรให้พี่น้องชาวไทยประสบแต่ความสุขความเจริญ แคล้วคลาดจากพิบัติทั้งปวงตลอดไป

ทั้งนี้ เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เป็นผลกระทบจากปรากฏการณ์แผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาด 9 ริกเตอร์ บริเวณเหนือเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์พัดถล่มประเทศต่างๆ รอบมหาสมุทรอินเดีย 7 ประเทศ มีผู้เสียชีวิตกว่า 228,000 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนประเทศไทยได้รับผลกระทบ 6 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรังและสตูล มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 5,300 คน และอีกกว่า 4,499 คนยังหายสาบสูญ

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องในวันครบรอบ 5 ปีของการเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ใน 6 จังหวัดได้จัดพิธีรำลึกและไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตอย่างพร้อมเพรียงกัน โดย จ.กระบี่ ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 700 ราย นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าฯ ได้เป็นประธานทำบุญอุทิศส่วนกุศล 4 ศาสนา มีบรรดาญาติร่วมงานกว่า 100 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด จากนั้นได้มีการอ่านสารของนายกรัฐมนตรีและยืนสงบนิ่ง 1 นาทีเป็นการไว้อาลัย แล้วร่วมกันวางพวงมาลาที่อนุสรณ์สถานสึนามิใต้น้ำลึก 20 เมตร ห่างจากท่าเรือเกาะพีพีประมาณ 800 เมตร จากนั้นเวลา 09.00 น.ก็มีการจัดงานรำลึกที่ถนนคนเดิน ให้ผู้ร่วมงานวาดภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนผ้ายาว 99 เมตร

ที่จ.ภูเก็ต มีการประกอบพิธีทางศาสนาอย่างเรียบง่าย เพื่ออุทิศส่วนกุศลและไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต โดยนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง กล่าวว่า ได้รับผิดชอบพิธีทางศาสนาในช่วงเช้าที่ชายหาดป่าตอง ส่วนช่วงเย็น อบจ.ภูเก็ต จะรับผิดชอบงานภายใต้ชื่อ Light Up Phuket จะมีการจุดเทียนแล้วปักลงในหลุมตลอดแนวชายหาดเพื่อให้ญาติผู้เสียชีวิตและประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานได้ไว้อาลัย ขณะที่ผู้เสียชีวิตที่ยังไม่สามารตรวจสอบเอกลักษณ์ได้ยังคงหลงเหลืออยู่อีกหลายร้อยคน แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 5 ปีแล้วก็ตาม

ที่จ.ระนอง นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานจัดงานที่บริเวณอนุสรณ์สถานความสูญเสียจากภัยสึนามิ ศูนย์วิจัยชายฝั่งอันดามัน ต.กำพวน อ.สุขสำราญ เริ่มจากทำบุญตักบาตร พร้อมยืนไว้อาลัยพร้อมเปิดไซเรนและวางดอกไม้รำลึกเหตุการณ์

     นายอำพล คลองยวน อายุ 62 ปี กล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดยังคงตราตรึงอยู่ในความรู้สึกของชาวบ้านทุกคน ยังหวาดกลัวต่อความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้อีก ดังนั้นผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น บ้านทับเหนือ จะตื่นตัวรับฟังข่าวสาร ส่วนใหญ่แม้จะยังไม่มีสัญญาณเตือนภัยก็จะเก็บข้าวของเตรียมพร้อมอพยพผู้หญิงและเด็กไปก่อน โดยให้ผู้ชายอยู่คอยเฝ้าระวังเหตุ

นายชาสันต์ คงเรือง หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ระนอง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการวางระบบเตือนภัยเกือบครบทุกพื้นที่เสี่ยงแล้ว หากมีเหตุเกิดขึ้นอีกครั้งคงไม่สูญเสียเหมือนที่ผ่านมา เพราะมีการซ้อมอพยพประชาชนมาแล้วหลายครั้ง มีจุดเตือนภัยหลักที่รับสัญญาณจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ 6 จุด และจุดเตือนภัยที่จังหวัดติดตั้งเองส่งสัญญาณด้วยคลื่นวิทยุไร้สายอีก 44 จุด

ที่จ.พังงา นายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระเทพวีราภรณ์ เจ้าคณะภาค 8 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีญาติผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมใจกันแต่งชุดขาวมาร่วมกว่า 2,000 คน โดยนายเยี่ยมสุริยาได้จุดเทียนเคารพภาพถ่ายของคุณพุ่ม เจนเซ่น ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ขณะที่บริเวณอนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ มาเป็นประธานในพิธี โดยมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 500 คน

นายจุรินทร์กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสนใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยมาตลอดในทุกด้าน เพื่อสร้างโอกาสและการดำรงชีวิตให้ประชาชนที่ประสบภัย พร้อมทั้งจะจัดให้มีการหารือเพื่อปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น

     สำหรับที่ จ.ตรัง มีการจัดงานอย่างประหยัด โดยยกเลิกการจัดตามอำเภอต่างๆ มาจัดรวมกันที่ รร.ธรรมรินทร์ธนา อ.เมืองฯ จ.ตรัง มีสภากาชาดเป็นเจ้าภาพ และนายโส เหมกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติปี 2552 และวันรำลึกเหตุการณ์สึนามิครบรอบ 5 ปี ที่ จ.ตรัง มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย เป็นชาวไทย 3 และชาวต่างชาติ 2 ราย มีการอ่านสารของนายกรัฐมนตรี และยืนไว้อาลัย 1 นาที มีผู้มาร่วมงานประมาณ 200 คน โดยในงานมีการจัดนิทรรศการและมอบเกียรติบัตรแก่ชุมชนพร้อมรับภัยพิบัติ 14 ชุมชน

นายโสกล่าวว่า ขณะนี้ใน จ.ตรัง มีการตั้งหอเตือนภัยสึนามิแล้ว 23 จุด ครอบคลุมพื้นที่ทั้งบนบก ชายทะเล และบนเกาะ ปี 53 นี้ได้รับงบจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยสำนักนายกรัฐมนตรีอีก 7,219,000 บาท เพื่อสร้างหอเตือนภัย 2 จุด บริเวณท่าเทียบเรือหาดปากเมงและที่เกาะลิบง รวมทั้งสร้างอาคารศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพร้อมอุปกรณ์กู้ภัยทางทะเลครบชุด ส่วนหอเตือนภัยที่ศูนย์เพาะเลี้ยงประมงชายฝั่ง หมู่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ที่มีปัญหาเสียงไม่ชัดเจนได้ย้ายไปตั้งไว้ที่หน้าที่ทำการ อบต.ไม้ฝาด แล้วเช่นเดียวกับหอเตือนภัยบริเวณหาดยาว หมู่ 6 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ก็ย้ายไปติดตั้งในจุดที่เหมาะสมแล้ว

ขณะที่ญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ อ.ปะเหลียน กล่าวว่า น้อยใจที่ทางจังหวัดไม่ให้ความสำคัญในการจัดงานรำลึกเหตุการณ์สึนามิ ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บใน จ.ตรังมากนัก แต่กลับเน้นการจัดกิจกรรมงานวันป้องกันอุบัติภัยแทน อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการที่จังหวัดระบุว่าหากจัดงานในสถานที่ที่เคยจัดเป็นประจำทุกปีจะมีญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมาร่วมงานน้อยนั้น เห็นว่าเป็นข้ออ้างมากกว่า

ด้าน จ.นครศรีธรรมราช วันเดียวกันนี้ ได้มีการซ้อมแผนปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากคลื่นสึนามิ โดยมี ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒน์ เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน มีการสมมติว่าเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.9 ริกเตอร์บริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์ ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิที่บริเวณหาดกมลา กะตะ มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บด้วยเครื่องบินซี 130 ไปรักษาใน รพ.อำเภอท่าศาลา และในเมืองนครศรีธรรมราช

     ส่วนที่จังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสูญเสียมากที่สุด ญาติผู้เสียชีวิตได้ร่วมกันประกอบพิธีสวดมนต์และรำลึกถึงภายในมัสยิดและสุสานต่างๆ รอบเมืองบันดาอาเจะห์ โดยที่สุสานแห่งหนึ่งซึ่งฝั่งศพเหยื่อผู้เสียชีวิตที่ไม่สามารถระบุอัตลักษณ์ไว้มากกว่า 14,000 คน นางซิติ อมีนาห์ วัย 72 ปี ได้เข้าร่วมพิธีรำลึกถึงสมาชิกในครอบครัวที่เสียชีวิตจากภัยพิบัติดังกล่าวเพียงครั้งเดียวถึง 40 คน ซึ่งรวมถึงบุตรชาย บุตรสาว หลานๆ และบรรดาพี่น้องของเธอ ส่งผลให้เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพังมาเป็นระยะเวลาถึง 5 ปีแล้ว ทั้งที่ไม่มั่นใจว่าสมาชิกในครอบครัวที่เสียชีวิตทั้งหมดจะถูกฝังอยู่ที่สุสานแห่งนี้ แต่เธอก็มาประกอบพิธี ณ สุสานดังกล่าวทุกปี เพื่อรำลึกถึงพวกเขา

ขณะที่รองประธานาธิบดีโบดิโอโนของอินโดนีเซีย ได้เป็นผู้นำการประกอบพิธีรำลึกถึงเหยื่อจากเหตุการณ์สึนามิอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้นบริเวณท่าเรืออูลีลู ในถ้อยแถลงของรองผู้นำอินโดนีเซียระบุว่า เป็นเวลา 5 ปีแล้วที่ผู้ประสบภัยชาวอาเจะห์ได้รับความช่วยเหลือจากนานาประเทศ จนทำให้สามารถลุกขึ้นมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง

     ส่วนพิธีรำลึกเหตุการณ์สึนามิในศรีลังกา รัฐบาลได้ประกาศไว้อาลัยด้วยการยืนสงบนิ่งให้กับเหยื่อเป็นเวลา 2 นาที เมื่อเวลา 09.25 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเวลาที่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าชายฝั่งศรีลังกา โดยสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ของรัฐได้ยุติการออกอากาศรายการปกติในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งของรัฐเอกราชซามัววันนี้ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.5 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 05.04 น. ตามเวลาในไทย มีศูนย์กลางระหว่างตอนใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวงของซามัว 281 กิโลเมตร ลึก 35 กิโลเมตร แต่ไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ และเบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหาย.


ขอขอบคุณ
ที่มา :
ไทยโพสต์ 27 ธันวาคม 2552
ภาพประกอบ : อินเตอร์เนต


สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์


H O M E




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2552
0 comments
Last Update : 29 ธันวาคม 2552 19:20:19 น.
Counter : 714 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.