Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2560
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
27 มิถุนายน 2560
 
All Blogs
 
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า.. ไบโพลาร์! : เรื่องเล่าครั้งที่ 4.อดนอน



  4.อดนอน


ผมตื่นลืมตาขึ้นมาตอนบ่ายสามโมงของวันถัดไป ซึ่งเท่ากับว่าผมใช้เวลาหลับไป 20 ชั่วโมงเต็มๆ ตั้งแต่เมื่อวานที่น็อคเพราะฤทธิ์ยาในตอนช่วงประมาณหนึ่งทุ่ม

“อ้า.... นี่ละคือสิ่งที่เราต้องการมานานแสนนาน... ก็คือการนอนนี่เอง!”

ใช่แล้วครับ! ผมเพิ่งรู้ตัวว่าผมไม่ได้นอนติดต่อกันเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์! เพราะอาการหลงผิด คิดว่าหากตัวเองหลับไป มนุษยชาติต้องล่มสลาย เนื่องจากตัวเองเป็นจุดศูนย์รวมของสายใยชีวิตมนุษย์ เหมือนในหนังเรื่องอวตาร (Avatar) ที่เพิ่งไปดูมา 

“อืม... สดชื่นจริงๆ เลย...”

สมองผมปลอดโปร่งโล่งสบายเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง! ความรู้สึกสับสนอลหม่านดั่งมีพายุสึนามิในหัวหายไปจนหมดสิ้น แม้นจะเป็นช่วงเวลาบ่ายสามโมง แต่ผมรู้สึกเหมือนเป็นตอนเช้าที่อากาศแจ่มใส

“เอ... นี่เราอยู่ที่ไหนกันเนี้ย ? เป็นโลกของความฝันหรือความเป็นจริงวะ ?”

แม้นสมองจะปลอดโปร่งแต่ความสับสนยังไม่จางคลาย มันเหมือนเป็นโลกในมิติของกาลเวลาที่ทับซ้อนกันไปมา

ผมสำรวจดูตัวเองก็รู้สึกถึงความเปียกชื้นบริเวณหว่างขา เอ้ย!... ผมปัสสาวะรดที่นอน! แต่ไม่แปลกใจ เพราะก่อนหน้าที่จะมาอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ ผมเคยถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคเครียด และหมอก็จ่ายยานอนหลับอย่างแรงให้ ทำให้ผมปัสสาวะรดที่นอนแทบจะทุกคืน เพราะไม่สามารถบังคับตัวเองได้เลยเมื่อยาออกฤทธิ์แล้ว


ผมมองดูไปรอบๆ พบผู้ป่วย 4-5 คนที่ผมเจอเมื่อวาน บางคนนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง บางคนเดินไปเดินมาเหมือนคนสติไม่ดี คนตัวใหญ่ๆ (ที่ผมเห็นหายตัวเข้าไปในห้องน้ำเมื่อวาน) กำลังนั่งสมาธิอยู่ ส่วนอีกสองคนนั่งดูทีวี ไม่มีใครสนใจใคร ทุกคนเหมือนอยู่ในโลกของตัวเองอย่างสมบูรณ์!

“ท่าน ท่าน ท่าน!!”

“ท่านครับ ท่าน ท่าน”

“เอ้ยยยย!!... อะไรวะ ??” หัวเราะ

ผมตกใจอย่างสุดขีด! เมื่อมีผู้ชายสูงอายุคนนึง ยื่นหน้าขาวๆ ที่เต็มไปด้วยแป้งเข้ามาหา!

“ท่านนะละ เป็นยังไงบ้าง นอนหลับสบายดีไหม ?”

“ดะ ดะ ดี ดี ดีครับดี!”

ผมตอบไปแบบเสียไม่ได้เพราะรู้สึกหวาดกลัวมาก (หลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมง ผมจึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนนิสัย
ดี แต่เป็นผู้ป่วยจิตเภทที่อาการหนักมากที่สุดในหอผู้ป่วย)

ผมคุยกับเขาอีกสองสามประโยค ซึ่งจำไม่ได้ว่าคุยอะไรกันไป เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เหมือนพูดกันคนละภาษา

“นี่ผมบ้า หรือเขาบ้ากันวะเนี้ย ?”

ผมนึกงงๆ ในใจ

ในช่วงระหว่างนี้ไม่มีใครมายุ่งกับผมมากนัก ผมจึงมีเวลาพอที่จะมองไปรอบๆ ตัว เพื่อสังเกตความเป็นไปต่างๆ ในหอผู้ป่วยจิตเวช
ห้องที่พวกเราอยู่เป็นห้องที่มีกรงขนาดใหญ่ล้อมรอบ (แต่เหล็กไม่หนาเหมือนในคุก) มีส่วนหนี่งเป็นที่ทำงานของหมอและพยาบาลอยู่ด้านหน้า มีช่องหน้าต่างเปิด-ปิดให้พอติดต่อสื่อสารกันได้ มองออกไปเกือบสุดทางออกก็มีลูกกรงกั้นอีกหนึ่งชั้น อธิบายโดยภาพรวมก็ต้องบอกว่า.. ระบบการป้องกันแน่นหนาดี น้องๆ ห้องขังในทัณฑสถานเลยละ


----------------------
4.1 การนอน 

ก่อนที่ผมจะเล่าเรื่องราวสนุกๆ ต่อจากนี้ ผมขออนุญาตคั่นเวลาด้วยเรื่องที่ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์มากที่สุด และสำคัญมากที่สุดจริงๆ สำหรับผู้ป่วยจิตเวชที่ผมเพิ่งจะรู้ด้วยตัวเองเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นคือ...

“เรื่องของการนอนครับ!”

สำหรับผู้ป่วยจิตเวชโดยเฉพาะโรคไบโพลาร์ การนอนหลับมีความสำคัญเทียบเท่ากับยาที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องกินกันเลยครับ  เพราะมีผลวิจัยออกมามากมายว่า.. ในผู้ป่วยโรคไบโพลาร์แทบทุกคนมักมีประวัติการนอนที่ไม่ปกติ

และการนอนไม่เพียงพอนี่ละ เป็นการทำลายสมองโดยตรงเลยทีเดียว ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดพบว่า การที่คนเราอดนอนมากๆ นั้น 
จะมีผลต่อสมองเทียบเท่ากับการดื่มเหล้าจนเมามาย ถึงแม้นว่าคุณจะไม่ได้เป็นคนรักการดื่มก็ตาม

ทุกครั้งที่ผมไปหาหมอ หมอมักจะถามว่า “เป็นยังไงบ้างช่วงนี้โอเคไหม ?” ถ้าผมตอบว่า “ปกติดีครับหมอ” จากนั้นหมอจะพูดสรุปว่า “การนอน,การออกกำลังกายปกติดีนะ ?” ถือเป็นบทสนทนาพื้นฐานที่หมอใช้คุยกับผมทุกครั้งที่ต้องไปรับยาทุกๆ สามเดือน

หากช่วงไหนที่ผมเริ่มไม่ปกติ หมอจะถามทันทีว่า “การนอนเป็นยังไงบ้าง ? เล่าให้หมอฟังสิ” ก่อนที่จะปรึกษากันเรื่องการปรับเพิ่มหรือลดยา

เมื่อเวลาผ่านมาหลายๆ ปี ผมจึงเริ่มจับทางได้ว่า การนอนนี่ละเป็นเหมือนเทอร์โมมิเตอร์ทางสมองเลยทีเดียว หากช่วงไหนที่อารมณ์เราแปรปรวนไป ไม่ว่าจะเป็นในช่วงแมเนียหรือดีเพรส มันจะเริ่มมีสัญญาณบอกเหตุจากพฤติกรรมการนอนหลับที่เปลี่ยนไป เพราะสาเหตุเกิดจากสารเคมีในสมองที่เริ่มแปรปรวนแล้ว จนส่งผลต่อการนอนหลับ

เมื่อผมทราบเรื่องนี้จึงรีบบอกภรรยา ให้ภรรยาคอยจับตาดูพฤติกรรมของผม เมื่อใดก็ตามที่ผมนอนดึกโดยไร้สาเหตุอันควร ให้เธอสังเกตุดูให้ดี เพราะนั่นอาจจะหมายถึงผมกำลังอยู่ในช่วงแมเนียโดยไม่รู้ตัว..... อยู่.. ก็.. เป็น.. ได้...ตึง!! (กรุณาอ่านออกเสียงแบบรายการผีนะครับ!)

“จะเล่นมุขทำไม ?” ยิ้ม

เอาละมาจริงจังกันต่ออีกหน่อย.. อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ (ฮ่าๆ)

สิ่งที่ผมอยากจะย้ำเป็นที่สุดสำหรับหลายท่านที่ (อาจ) เป็นเพื่อนร่วมโรคด้วยกันคือ.. 

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฟ้าจะถล่ม แผ่นดินจะทลาย เมื่อช่วงเวลากลางคืนมาถึง.. คุณต้องนอน คุณต้องนอน และคุณต้องนอน!”

ขอให้ท่องไว้ในใจแบบนี้เลย เพราะเรื่องนี้มีความสำคัญกับอาการของโรคมากที่สุด ถ้าคุณต้องทำงานที่ทำให้นอนกลางคืนไม่ได้ ผมแนะนำให้ลาออกไปหางานใหม่เลยครับ! ผมพูดจริงๆ ไม่ใช่พูดเล่น! เพราะโรคนี้มันอดนอนไม่ได้จริงๆ ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่มีวันหายหรืออาการดีขึ้นเลย ถ้ามีพฤติกรรมที่ทำลายสมองแบบนี้

หลายคนอาจเกิดคำถามว่า.. “เอ.. แล้วอย่างนี้ เรานอนตอนเช้าให้ครบ 6-8 ชั่วโมงแทนไม่ได้หรอ ?” ก็ขอแบบตรงๆ เลยว่า “ไม่ได้ครับ!” เพราะนาฬิกาสมองในตัวคนเรา มันทำงานตามแสงอาทิตย์ ที่จะกำหนดการหลั่งของสารเคมีในสมองไปตามเวลากลางวันและกลางคืน ฉะนั้นการนอนในช่วงกลางวัน แม้นจะใช้เวลามากพอ ก็ไม่สามารถฟื้นฟูความเสียหายของสมองที่ถูกทำลายลงได้ และมีผลวิจัยในเมืองนอกที่ทำกับกลุ่มตัวอย่างเป็นล้านๆ คนพบว่า การนอนน้อยจะส่งผลทำให้เราอายุสั้นลงอีกด้วย!

ถ้าคุณเริ่มมีอาการ.. นอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ ฝันร้ายแทบทุกคืน สะดุ้งตื่นกลางดึกแล้วหลับต่อไม่ได้อีกเลย.. หรืออาการของการนอนที่ผิดปกติต่างๆ ติดต่อกันประมาณหนึ่งสัปดาห์ขึ้นไป ผมแนะนำให้เริ่มนัดพบแพทย์ประจำตัวได้เลยครับ เพราะนั่นเป็นการส่งสัญญาณของสมองว่า.. มันเริ่มมีอะไรที่ผิดปกติแล้วละ!

----------------------

(เล่าต่อ)

“อ้าว.. พิชิต นั่งสมาธิอีกแล้ว พอเลยๆ ถอดจิตไปเห็นอะไรมาอีกละ นรกหรือสวรรค์ ? พอได้แล้ว.. ลืมตาขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยครับ!”

บุรุษพยาบาลทหารคนที่สัมภาษณ์ผมเมื่อคืน ตะโกนบอกผู้ชายรูปร่างใหญ่ ที่กำลังนั่งสมาธิตัวเกร็งแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้

“อ้าว.. วิชัยวันนี้กี่ครั้งแล้วเนี้ย ? เข้าห้องน้ำไปช่วยตัวเองอีกแล้ว!”

บุรุษพยาบาลทหารคนเดิม ตะโกนบอกคุณอาหน้าขาว ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรกที่มาชวนผมคุยตอนตื่นนอน

“คนที่นี่.. มันเป็นบ้าอะไรของมันกันวะเนี้ย ?”

ผมนึกสบถในใจดังๆ ด้วยความเหนื่อยล้าที่ไม่รู้ว่า.. วันข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง ในโรงพยาบาลแห่งนี้ ?

--------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไป.. 

อ่านย้อนหลังตอนที่ 1 https://pantip.com/topic/36601977
อ่านย้อนหลังตอนที่ 2 https://pantip.com/topic/36604256
อ่านย้อนหลังตอนที่ 3 https://pantip.com/topic/36604290





Create Date : 27 มิถุนายน 2560
Last Update : 27 มิถุนายน 2560 11:54:36 น. 0 comments
Counter : 468 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 2533784
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 2533784's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.