การศึกษา,แคลคูลัส,ข้อสอบทั่วไป,อย่างเก่งภาษาอังกฤษ,การเขียนโปรแกรมภาษาซีเบื้องต้น,เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์,แวดวงอินเทอร์เน็ต เรื่องน่ารู้,วิทยาศาสตร์น่ารู้,ประวัติศาสตร์น่ารู้,การใช้ชีวิตให้มีความสุข ,ความรัก คืออะไร?,เรื่องขำขำ,เกร็ดความรู้,การถ่ายภาพ,สิ่งแวดล้อม, คุณธรรมจริยธรรม,มาคุยกันเรื่องธรรมะ,จิตวิทยา,นิยาย เรื่องสั้น,เรื่องลี้ลับ,เทคนิคการเล่นกีฬา,สุขภาพ,อาการของโรคภัยไข้เจ็บ,ข่าวสารกีฬา,Sex สุขภาพ,สมุนไพรเพื่อสุขภาพ,ผู้หญิง ความงาม,การลดความอ้วน,ครอบครัว แม่และเด็ก,บ้านและสวน,การใช้รถรักษารถ,เคล็ดลับการใช้โทรศัพท์,อาหารของญี่ปุ่น,ขนมและอารหาร,รวมสูตรการทำแยมผลไม้,สูตรการทำแซนวิชที่อร่อย,เคล็ดลับการทำสลัด,เคล็ดลับในครัว,ผลไม้,ผัก แปรรูป,โภชนาการ,นานาสาระ,อภิสิทธิ์แสงแพง
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
สอนวิธีใช้เงินแก่เด็ก



การสอนให้เด็กรู้จักค่าของเงิน และรู้จักใช้เงิน เป็นการสอนที่คุ้มค่า
เพราะเป็นการปูรากฐานไปสู่ชีวิตที่มั่นคงต่อไปในอนาคต นักวิชาการพบว่าวิธีการสอนเด็ก
ที่ดีที่สุดคือการทำตัวเป็นแบบอย่าง ไม่ว่าฐานะการเงินของครอบครัวจะอยู่ในระดับใดก็ตาม
พ่อแม่ ผู้ปกครองควรจะแสดงให้เด็กเห็นถึงตัวอย่างของการเก็บออม และการใช้เงิน
ทั้งนี้ในการสอนเกี่ยวกับการใช้เงินและออมเงินนี้ ต้องยอมให้เด็กมีการทำผิดพลาดบ้าง
เพื่อการเรียนรู้ และต้องให้เด็กได้เข้ามาในวงสนทนาเกี่ยวกับการเงินของครอบครัวบ้าง
ตามความเหมาะสมของวัย

ก่อนอื่น เด็กต้องเรียนรู้ถึงค่าของเงิน ต้องทราบว่าเงินมีค่า และไม่ได้มาง่ายๆ
ต้องมีการทำงานเพื่อให้ได้มา เด็กอาจจะสงสัยว่าพ่อแม่มีรายได้เท่าไร
ไม่จำเป็นต้องบอกรายละเอียดค่ะ แต่ต้องบอกว่ารายได้ไม่ได้มีไม่จำกัด
(ไม่ว่าท่านจะมีเงินมากเพียงใดก็ตาม) และรายได้ที่ได้มาก็ต้องนำ
มาจัดสรรแบ่งไว้ใช้ในส่วนต่างๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าเช่าบ้าน ผ่อนบ้าน ค่าเล่าเรียน
ใช้ในการพักผ่อนหย่อนใจ เก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน และเก็บไว้ใช้ในยามที่หยุดทำงาน

เด็กควรจะถูกฝึกให้รู้จักการไปจับจ่ายซื้อของ
การพาเด็กไปซื้อของด้วยจึงเป็นกิจกรรมหนึ่งในการช่วยให้เกิดการเรียนรู้
สิ่งที่ต้องระวังคือการพาเด็กไปซื้อของที่มีราคาสูง เช่น เครื่องประดับหรือของฟุ่มเฟือย
กิจกรรมเหล่านี้ท่านควรจะไปเอง หรือไปกับเพื่อน ไม่ควรพาเด็กไปด้วย

การซื้อของที่น่าจะพาเด็กไปด้วยคือ การซื้อของใช้ประจำวัน หรือการซื้อของที่ต้องมี
การต่อรอง เด็กจะได้เห็นการเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติ พร้อมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับ
ความคุ้มค่า ถ้าท่านเป็นคนที่ซื้อของโดยไม่เปรียบเทียบหรือไม่สนใจความแตกต่างของ
คุณภาพหรือความคุ้มราคา ท่านควรจะให้ผู้อื่นพาเด็กไปแทน ต้องอย่าลืมว่า เด็กจะจดจำ
และเลียนแบบพฤติกรรม ดังนั้นโดยส่วนใหญ่คุณแม่จะสอนลูกเรื่องการใช้เงินได้ดีกว่า
คุณพ่อ เพราะผู้หญิงจะมีความละเอียดกว่าในการพิจารณาของค่ะ

เด็กต้องรับทราบว่าในบางครั้งผู้ใหญ่ก็ไม่สามารถได้ของทุกอย่างที่อยากได้หรือต้องเก็บ
เงินเป็นเวลานาน กว่าจะได้สิ่งของที่อยากได้ และหลายๆครั้งต้องพบกับความผิดหวัง
มิเช่นนั้น เด็กจะสงสัยว่า ทำไมเขาไม่ได้ของชิ้นนี้ชิ้นนั้น เพราะแม่บอกว่าแพงเกินไป
แต่แม่กลับซื้อของแพงมากๆให้ตัวเอง จนคุณพ่อบ่นบางครั้งพ่อแม่อาจจะต้องระมัดระวัง
การพูดถึงเงินจำนวนก้อนสูงๆ เพราะเด็กอาจจะสำคัญผิดว่าพ่อแม่ร่ำรวย
และเขาไม่ต้องเดือดร้อนดิ้นรน ก็จะมีเงินใช้ไปตลอด

เมื่อเด็กโตขึ้น การให้เงินค่าขนมเป็นก้อน เช่น รายสัปดาห์หรือรายเดือน จะช่วยให้เด็ก
เรียนรู้ที่จะจัดสรรเงินเพื่อให้ใช้ได้จนครบกำหนดเวลา ในช่วงแรกๆอาจชักหน้าไม่ถึงหลังบ้าง
แต่ก็เป็นการเรียนรู้จากข้อผิดพลาด เพื่อให้ในครั้งต่อๆ ไป สามารถจัดการเงินได้ดีขึ้น

เด็กควรจะเรียนรู้ที่จะออมเงินค่าขนมไว้ส่วนหนึ่งและรู้ว่าเงินที่ออมไว้นี้จะสามารถนำไปซื้อ
ของชิ้นใหญ่ที่เด็กอยากได้ด้วยตนเอง ในช่วงต้นๆ อาจต้องสร้างแรงจูงใจให้ออม เช่น
ด้วยการช่วยสมทบเงินให้อีก 50% เพื่อให้เด็กซื้อของที่อยากได้เร็วขึ้น
แต่ถึงจุดหนึ่งแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องสมทบค่ะ เมื่อเงินออมพอกพูน
ก็อาจจะเริ่มเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารได้

ผู้ใหญ่ควรจะสอนให้เด็กรู้จักเผื่อแผ่ให้กับผู้อื่นด้วย ในโอกาสที่มีการทำทาน ทำบุญ
ควรทำให้เด็กเห็น และสอนบทเรียนให้ด้วย การพาไปสถานสงเคราะห์เด็กพิการ
ก็จะเป็นบทเรียนหนึ่งที่ให้เด็กเรียนรู้ว่าตนเองโชคดีกว่าผู้อื่นเพียงใด
ที่ร่างกายมีความสมบูรณ์ และเด็กควรจะนำเงินที่ออมมาบริจาคด้วยส่วนหนึ่ง
เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจ และอิ่มเอิบใจ

เมื่อโตขึ้นถึงระดับหนึ่ง เด็กควรจะเรียนรู้ที่จะหาเงินรายได้พิเศษเพื่อเก็บไว้ใช้จ่ายหรือ
เพื่อซื้อในสิ่งที่ประสงค์ สมัยเด็กๆ ดิฉันชอบขายของมาก คือ สนุกที่จะได้เก็บเงิน
ทอนเงิน สนุกที่จะได้กำไร เงินที่ได้ส่วนใหญ่จะนำไปซื้อหนังสือนวนิยาย เพราะหนังสือ
ความรู้ขอเงินพิเศษซื้อได้อยู่แล้ว แต่นวนิยายต้องเก็บเงินซื้อเอง ขายไปขายมา ก็ขาย
เพราะอยากได้กำไร เอามาออมต่อ ไม่ได้เอาไปใช้ซื้ออะไร แต่ได้เรียนรู้ถึงการลงทุน
การผลิต(ในบางครั้ง)และการขาดทุนด้วย ซึ่งก็ทำให้เรียนรู้ว่าเงินทองเป็นของหายาก

ท่านอาจจะจ่ายค่าจ้างให้กับบุตรหลานของท่านในการไหว้วานให้ช่วยงานบางอย่าง เช่น
เช็ดกระจกหน้าต่างบ้าน ล้างรถ ฯลฯ ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการสอนให้เด็กเห็นแก่เงิน
แต่เป็นการให้รางวัล และสอนให้รู้จักทำงานหาเงิน วิธีฝรั่งจะใช้กันมาก อายุเกิน 10 ขวบ
พ่อแม่ก็จะจ้างให้ตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ หรือหากอายุเกิน 15 ปีก็อาจออกไปรับจ้างดูแล
เด็กบ้านอื่น ในยามที่พ่อแม่ของเด็กออกไปธุระข้างนอก เป็นต้น

สอนเรื่องการกู้ยืม
ควรจะใช้โอกาสที่เด็กต้องการในสิ่งที่มีมูลค่าสูง ในการสอนเรื่องการกู้ยืม
โดยให้กู้จากพ่อแม่นี่ละค่ะ กู้แล้วต้องใช้คืน จะคิดดอกเบี้ยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
เด็กจะได้ทราบว่าเขาสามารถกู้ยืมได้ แต่ต้องมีภาระในการใช้คืน
ถ้าไม่ใช้คืนก็ต้องใช้วิธีการหักค่าขนมในงวดต่อๆ ไป เพื่อสร้างวินัยให้กับเด็ก

ในการสอนการใช้เงินให้กับเด็กนี้ ผู้ปกครองต้องใจแข็ง หากต้องการบรรลุเป้าหมาย
เพราะเมื่อโตขึ้น บุตรหลานของท่านจะต้องออกไปต่อสู้กับโลกภายนอกด้วยตนเอง
ท่านไม่สามารถจะดูแลเขาไปได้ตลอด เขาจึงต้องเรียนรู้และจัดการเงินของตนเองได้

ที่มา : วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ


Create Date : 12 ตุลาคม 2554
Last Update : 12 ตุลาคม 2554 16:00:41 น. 1 comments
Counter : 599 Pageviews.

 


โดย: น้องเมย์น่ารัก วันที่: 3 เมษายน 2557 เวลา:23:33:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apisit.az
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








Friends' blogs
[Add apisit.az's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.