การศึกษา,แคลคูลัส,ข้อสอบทั่วไป,อย่างเก่งภาษาอังกฤษ,การเขียนโปรแกรมภาษาซีเบื้องต้น,เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์,แวดวงอินเทอร์เน็ต เรื่องน่ารู้,วิทยาศาสตร์น่ารู้,ประวัติศาสตร์น่ารู้,การใช้ชีวิตให้มีความสุข ,ความรัก คืออะไร?,เรื่องขำขำ,เกร็ดความรู้,การถ่ายภาพ,สิ่งแวดล้อม, คุณธรรมจริยธรรม,มาคุยกันเรื่องธรรมะ,จิตวิทยา,นิยาย เรื่องสั้น,เรื่องลี้ลับ,เทคนิคการเล่นกีฬา,สุขภาพ,อาการของโรคภัยไข้เจ็บ,ข่าวสารกีฬา,Sex สุขภาพ,สมุนไพรเพื่อสุขภาพ,ผู้หญิง ความงาม,การลดความอ้วน,ครอบครัว แม่และเด็ก,บ้านและสวน,การใช้รถรักษารถ,เคล็ดลับการใช้โทรศัพท์,อาหารของญี่ปุ่น,ขนมและอารหาร,รวมสูตรการทำแยมผลไม้,สูตรการทำแซนวิชที่อร่อย,เคล็ดลับการทำสลัด,เคล็ดลับในครัว,ผลไม้,ผัก แปรรูป,โภชนาการ,นานาสาระ,อภิสิทธิ์แสงแพง
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
วิธีป้องกันพฤติกรรมการติดของหวานของเด็ก




ท่านต้องการเตรียมการป้องกันพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และขนมที่มีรสหวานเกินไปหรือไม่ครับ
ถ้าท่านต้องการ
วันนี้ขอนำเสนอความรู้เกี่ยวกับการดูแลไม่ให้บุตรหลานของท่าน มีพฤติกรรมดังกล่าวนี้กันนะครับ
โดยเริ่มต้นดังต่อไปนี้ครับ

1. มารดาที่ตั้งครรภ์ ควรทานอาหารทุกประเภทที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่
และไม่ควรทานหวานจนเกินไปเพื่อป้องกันเด็กทารกคุ้นเคยรสหวานตั้งแต่ในครรภ์มารดา


2. เด็กทารกหลังคลอด ควรเลี้ยงด้วยนมมารดาดีที่สุด
นอกจากนมมารดาจะได้ทั้งอาหารทางกายและอาหารทางใจ
เพิ่มประสิทธิภาพระบบภูมิคุ้มกันป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ
แล้วนมมารดายังสามารถกระตุ้นประสาทรับรู้ของทารก
จากรสชาติและกลิ่นของนมมารดาในแต่ละวันไม่เหมือนกัน
ทำให้เด็กได้รับการฝึกฝนยอมรับอาหารเสริมตามธรรมชาติได้ดี
และยังมีโอกาสทานผักผลไม้ได้ดียิ่งขึ้น
และถ้าเป็นไปได้ทารกควรทานนมมารดาอย่างเดียว เป็นเวลาอย่างน้อย 4- 6 เดือน


3. เมื่อถึงวัย 4-6 เดือน ควรเริ่มทานอาหารเสริม
ซึ่งเป็นอาหารที่คุณแม่จัดเตรียมตามธรรมชาติมากกว่าอาหารสำเร็จรูปจำพวกซีเรียล
ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดความคุ้นเคยรสชาติที่แท้จริงของอาหารมากกว่า


4. ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนเป็นนมผงสูตรต่อเนื่อง
แนะนำให้ใช้นมผงที่ไม่มีน้ำตาลทราย หรือการเพิ่มความหวานมากขึ้นกว่าปกติ


5. เด็กวัย 6-8 เดือน เริ่มหัดหยิบจับคว้าเอง
ผู้ปกครองควรจัดอาหารให้มีความหลากหลายชนิด เปลี่ยนจากบดละเอียดเป็นบดหยาบ
และอาหารนิ่มที่เด็กหัดหยิบจับทานได้เอง เน้นความเป็นธรรมชาติของสารอาหารนั้น ๆ
เช่นขนมปังไม่เคลือบน้ำตาล ส้มเป็นกลีบนำเมล็ดออกแล้ว เป็นต้น


6. เด็กวัยอายุมากกว่า 1 ขวบควรได้เริ่มหยิบจับช้อนเองและเริ่มฝึกหัดทานนมจากถ้วยแก้ว
เด็กที่ทานนมจากขวดก็ควรเลิกในวัยนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรให้เด็กทานอาหารได้ 3 มื้อ
สำหรับนมในวัยนี้จัดเป็นอาหารเสริม ไม่ควรเกิน 500-600 ซีซีต่อวันหรือประมาณ 2 แก้ว
และไม่ควรให้ทานน้ำอัดลม ขนมถุง


7. เด็กโตให้เด็กช่วยตัวเองในการทานอาหาร
และมีส่วนร่วมในการเตรียมอาหาร ในกรณีที่เป็นผักอาจดัดแปลงในรูปแบบต่าง ๆ ดูแล้วน่าทาน
โดยผู้ใหญ่ร่วมท่านไปด้วยกันเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กด้วย


8. ควรให้เด็กทานอาหารว่าง หลังจากทานอาหารครบ 5 หมู่
อาหารว่างที่ดีควรเป็นผลไม้สดทำความสะอาด และไม่ได้นำมาดัดแปลงเติมความหวานมาก
ไม่ควรปล่อยให้ลูกทานขนมตามใจชอบโดยไม่เลือกเวลาและปริมาณ


ข้อมูลโดย ผ.ศ. ดนัย บวรเกียรติกุล
ที่มา : //www.maikinwan.com


Create Date : 12 ตุลาคม 2554
Last Update : 12 ตุลาคม 2554 15:50:32 น. 1 comments
Counter : 690 Pageviews.

 


โดย: น้องเมย์น่ารัก วันที่: 3 เมษายน 2557 เวลา:23:31:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apisit.az
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








Friends' blogs
[Add apisit.az's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.