การศึกษา,แคลคูลัส,ข้อสอบทั่วไป,อย่างเก่งภาษาอังกฤษ,การเขียนโปรแกรมภาษาซีเบื้องต้น,เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์,แวดวงอินเทอร์เน็ต เรื่องน่ารู้,วิทยาศาสตร์น่ารู้,ประวัติศาสตร์น่ารู้,การใช้ชีวิตให้มีความสุข ,ความรัก คืออะไร?,เรื่องขำขำ,เกร็ดความรู้,การถ่ายภาพ,สิ่งแวดล้อม, คุณธรรมจริยธรรม,มาคุยกันเรื่องธรรมะ,จิตวิทยา,นิยาย เรื่องสั้น,เรื่องลี้ลับ,เทคนิคการเล่นกีฬา,สุขภาพ,อาการของโรคภัยไข้เจ็บ,ข่าวสารกีฬา,Sex สุขภาพ,สมุนไพรเพื่อสุขภาพ,ผู้หญิง ความงาม,การลดความอ้วน,ครอบครัว แม่และเด็ก,บ้านและสวน,การใช้รถรักษารถ,เคล็ดลับการใช้โทรศัพท์,อาหารของญี่ปุ่น,ขนมและอารหาร,รวมสูตรการทำแยมผลไม้,สูตรการทำแซนวิชที่อร่อย,เคล็ดลับการทำสลัด,เคล็ดลับในครัว,ผลไม้,ผัก แปรรูป,โภชนาการ,นานาสาระ,อภิสิทธิ์แสงแพง
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
รอบรู้เรื่อง ฟ.ฟันของลูก

เวลาเราพูดถึง “ฟัน” เรามักจะนึกถึงเรื่องการกินอาหาร การเคี้ยวอาหาร
เพราะเป็นหน้าที่ที่ชัดเจนที่สุด และถูกใช้มากที่สุด ทั้งที่จริงเจ้าอวัยวะส่วนนี้มีประโยชน์มากมายมหาศาล

รูปหน้าคนเราจะหล่อจะสวยหรือไม่ ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับฟันด้วย
บางคนหน้าตาดีแต่ไม่กล้ายิ้มให้เห็นฟันก็น่าเสียดาย ในขณะที่บางคนดูดีไปหมด
แต่ออกเสียงไม่ชัดก็มี เรียกว่าทำให้เสียความมั่นใจไปก็ไม่น้อย

ดิฉันเองก็มีปัญหาเรื่องฟันเหมือนกัน ในบรรดาหมู่มวลพี่น้องก็มีปัญหาเรื่องฟันกันหมด
อันเนื่องมาจากเมื่อก่อนคุณแม่ไม่มีความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพฟันของลูก ซึ่งแท้จริงต้องเริ่มตั้งแต่ในท้องเลยทีเดียว

ช่วงที่คุณแม่ไม่สบาย คุณหมอให้ยามารับประทานทั้งที่คุณแม่กำลังตั้งท้องน้องชายของดิฉัน
ยาที่คุณแม่รับประทานก็คือเตตร้าซัยคลิน ซึ่งกลายมาเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันของเขาไม่สวยและมีปัญหาอยู่จนทุกวันนี้
ยังมีอีกหลายกรณีที่ดิฉันได้มีโอกาสพบเห็นเจอะเจอคนที่มีปัญหาเรื่องฟัน อันเนื่องมาจากในยุคสมัยก่อน
พ่อแม่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลสุขภาพฟันอย่างถูกวิธี

ยามเมื่อดิฉันได้เป็นแม่คน ก็เลยพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะรู้ดีว่าเรื่องฟันเป็นเรื่องสำคัญต่อการสร้างความมั่นใจ
มีส่วนต่อบุคลิกภาพ รวมถึงมีส่วนสำคัญที่ช่วยในเรื่องการออกเสียงที่ชัดเจน

เรียกว่าต้องดูแลตัวเองตั้งแต่ตั้งครรภ์ และดูแลรายละเอียดของลูกน้อยตั้งแต่เล็กๆ เพื่อให้สุขภาพฟันของเขา
และเธอตัวน้อยมีฟันที่สวยและสุขภาพแข็งแรง เพียงแค่พ่อแม่รู้จักวิธีการดูแลฟันอย่างถูกต้อง



ลองไปทำความรู้จัก “ฟัน” กันก่อนค่ะ

ฟันซี่แรกของลูกหรือที่เรียกว่า ‘baby teeth’ มีมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่เลยทีเดียว
พอเป็นทารกก็จะเป็นตุ่มเล็กๆ แต่จะโผล่ขึ้นมาเห็นเป็นฟันน้อยๆ เมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือน

โดยทั่วไปฟันน้ำนมทั้ง 20 ซี่จะขึ้นครบ เมื่อเด็กอายุประมาณ 2 ปี และจะเริ่มหลุดเมื่ออายุประมาณ 6-7 ปี
แล้วฟันแท้จะขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนม โดยฟันหน้าล่างจะหลุดก่อน ตามมาด้วยฟันหน้าบน

ส่วนฟันกรามแท้ซี่แรกจะขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 ปี
และฟันแท้ทั้งหมดจะขึ้นครบตอนเด็กอายุ 13 ปี
ยกเว้นฟันกรามซี่ในสุดจะขึ้นตอนอายุ 18 - 25 ปี
แต่บางคนอาจจะซ่อนอยู่ข้างในเรียกว่า “ฟันคุด” ซึ่งเด็กแต่ละคนฟันจะขึ้นเร็วช้าไม่เท่ากัน

ช่วงอายุ 6 เดือนถึงขวบปีแรก เมื่อลูกเริ่มมีฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นแล้ว
ควรให้คุณหมอช่วยดูว่าฟันของลูกขึ้นถูกต้องหรือไม่และควรดูแลสุขภาพฟันอย่างไรไม่ให้ฟันผุ
เนื่องจากเด็กเล็กมักจะมีปัญหาเรื่องฟันผุที่เกิดจากการดูดขวดนมหรือกินนมแม่ไม่ถูกวิธี
จึงควรพาเด็กไปพบหมอฟันตั้งแต่เนิ่นๆ ข้อดีของการพาเด็กไปพบหมอฟันตั้งแต่เล็ก
จะช่วยให้เด็กคุ้นเคยกับบรรยากาศของห้องทำฟัน และคุ้นเคยกับหมอฟัน ทำให้ไม่รู้สึกกลัว

อ้อ..อย่าลืมบอกเด็กว่าการไปพบหมอฟันไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรเอาบรรยากาศของการไปหาหมอฟันไปขู่เด็ก
เช่น ถ้าไม่ยอมทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็จะพาไปพบหมอฟัน ซึ่งจะทำให้เด็กรู้สึกว่ากลัวหมอฟัน
อันจะนำไปสู่ความกลัวต่อการไปทำฟันอีกต่างหาก

ควรทำให้เป็นเรื่องธรรมดา ท่าจะให้ดีพาเด็กไปตรวจฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อให้เด็กคุ้นเคยก็จะเป็นการดี

สำหรับวิธีทำความสะอาดเริ่มได้ตั้งแต่ฟันยังไม่ขึ้น
โดยใช้ผ้านุ่มชุบน้ำสะอาดเช็ดบริเวณเหงือกเบาๆ เมื่อฟันเริ่มขึ้นแล้ว ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดที่ฟันหรือใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็กที่มีขนแปรงที่อ่อนนุ่มทำความสะอาด

ในช่วงแรกพ่อแม่ควรช่วยเด็กแปรงฟันโดยยืนหรือนั่งด้านหลังเด็กและเชยคางเด็กเพื่อให้แปรงฟันได้ถึงด้านใน
โดยให้คำแนะนำในการแปรงฟันของเด็กจนเด็กอายุ 6 - 7 ขวบ จึงให้เด็กรับผิดชอบการแปรงฟันด้วยตัวเองได้
โดยให้เด็กแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนเข้านอน ควรชมเชยและให้กำลังใจทุกครั้งที่เด็กแปรงฟันเอง

สำหรับปัญหาของเด็กไทยที่พบบ่อยก็คือ ฟันน้ำนมซี่หน้าบนและล่างผุ ซึ่งเกิดจากการแปรงฟันที่ไม่ถูกวิธีและ
การดูดนมขวดที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น จึงควรฝึกให้เด็กดื่มนมจากแก้วเมื่ออายุ 1ขวบ
และไม่ควรปล่อยให้นอนหลับขณะที่ขวดนมคาอยู่ในปาก เมื่อฟันเริ่มขึ้นแล้ว
ช่วงกลางคืนไม่ควรให้นอนหลับคานมแม่ และหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผลไม้จากขวดนม
แต่ให้ดื่มจากแก้วหรือใช้หลอดดูดก็ได้ ควรเลิกดูดนมขวดตอนอายุ 12-14 เดือน

นอกจากนี้ พฤติกรรมการดูดนิ้วของเด็กก็มีส่วนอย่างมากที่ทำให้รูปฟันไม่ปกติ
ส่วนมากถ้าเด็กยังดูดนิ้วหลังจากอายุ 4 ปี อาจทำให้เกิดปัญหาฟันเกซ้อนกัน
การปรึกษาคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำให้เด็กเลิกดูดนิ้วจึงมีความจำเป็น
โดยเฉพาะหลังจากฟันแท้ขึ้นแล้ว (ประมาณ 6 ขวบ) เด็กยังดูดนิ้วอยู่
จะส่งผลทำให้ฟันแท้เกได้ อย่ามองข้ามเรื่องฟันของเจ้าตัวเล็กนะคะ

คุณพ่อคุณแม่คือคนที่มีส่วนสำคัญทำให้เขาหรือเธอเมื่อเติบโตขึ้นมามีบุคลิกภาพที่ดี และยิ้มอย่างมั่นใจหรือเปล่าค่ะ..!!

โดย สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน


Create Date : 12 ตุลาคม 2554
Last Update : 12 ตุลาคม 2554 15:44:22 น. 1 comments
Counter : 601 Pageviews.

 


โดย: น้องเมย์น่ารัก วันที่: 3 เมษายน 2557 เวลา:23:31:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apisit.az
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








Friends' blogs
[Add apisit.az's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.