My life...my dream...My world... ไม่อนุญาติให้ทำซ้ำ หรือนำรูปภาพไปเผยแพร่
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

Arvika to Malmo

วันจันทร์ ที่ 28 มิย 53
หลังจาก เทศกาลต่าง ๆ ผ่านพ้นไปแล้ว ฉันก็กลับเข้ามานั่งหาข้อมูลที่พักเหมือนเดิม เพราะการกลับMalmo ครั้งนี้ คือการเริ่มต้นชีวิตที่นั่น ฉันกำหนดทางเดินชีวิตของฉันเอง และ ได้ห้องพักหลายแห่งมาก เจ้าของห้องพัก ส่งข้อมูลนัดหมายกันว่าจะให้ดูห้องพักได้ ตอนที่ฉันกลับ Malmo วันอาทิตย์ก่อนการเดินทาง แฟนเพื่อนกับเพื่อนได้ทำการจองตั๋วรถไฟให้ โดยพาไปจองที่สถานีตอนเย็น โชคดีได้ ตั๋วราคาไม่แพง แต่ การเดินทางครั้งนี้ ค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะว่าต้องเปลี่ยนรถไฟ สามขบวน ต่อด้วย รถ อีกหนึ่งขบวน เอาละซิ การเดินทางเริ่มตื่นเต้นเข้าให้แล้ว มากกว่ามาที่ Arvika อีกนะ
ฉันเลือกการเดินทาง ตอนเช้าตรู่ของวันจันทร์ เพราะจะได้ออกเดินทางพร้อมกับเพื่อนตอนไปทำงาน แฟนเพื่อนไปทำงานแต่เช้า ตรู่เช่นเคย ฉันกับแดง ออกไปตอนเจ็ดโมง เพราะรถไฟจะมาประมาณเก้าโมง ฉันตัดสินไปรอก่อนเวลา



การเดินทางเริ่มขึ้นอีกครั้ง และเป็นครั้งที่สอง ที่ใช้การเดินทางโดยรถไฟ วันนี้ ดูเหมือนราบรื่นทุกอย่าง กำหนดถึงMalmo เวลาประมาณ บ่ายสามโมง ฉันจองห้องพักกับที่โรงแรมเดิม เพราะรู็สึกว่าที่นี่ได้รับการช่วยเหลือทุกอย่าง และ ฉันรู้สึกว่า มีมิตรภาพอยู่ที่นี่ ฉันตัดสินใจ ว่าที่นี่คือการเริ่มต้นทุกอย่าง ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้แต่แรก อีกอย่าง ตั้งใจว่า ยังไง เราก็ต้องผ่านอุปรสรรคไปให้ได้ เลยไม่ต้องกังวลกับเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึง การเดินทางโดยรถไฟดูเหมือนจะไปได้ดี ขบวนแรก ขบวนสอง แต่พอจะเปลี่ยน อีกที่ ๆ Trollhattan - Goteborg ที่นี่แหละ เป็นปัญหาเลย เพราะว่า ฉันไม่เห็นมีรถไฟสักขบวน ทุกคนต่างมุ่งหน้าไปใต้ดิน เพื่อออกไปอีกทาง เอาละซิ ทำไงดีหว่า ฉันตัดสินใจ เดินถามคนแถวนั้น ได้ความว่า ไม่รู้เหมือนกัน เลยถามอีกคน น้องเขาท่าทางน่ารัก ได้คำตอบอย่างดี ไปที่เดียวกัน ดูไปดูมา อ้อ มันต้องต่อรถบัสนะ ไม่ใช่รถไฟ อ้าว เท่านั้นแหละ บางอ้อ มาถึงเลย น้องบอกว่า ไปทางเดียวกัน เราก็เหรอดีเลย ไปด้วยคนนะ จะได้มีเพื่อนร่วมทาง ไอ้การหอบของพะรุงพะรัง เพราะไม่เอากระเป๋าเดินทางจากบ้านเพื่อนมา เพราะคิดว่าไงก็กลับมาตอนเพื่อนแต่งเดือนหน้า อีกอาทิตย์เดียว เลยตัดสินใจ เป็นบ้าหอบฟาง ใส่ถุงพลาสติคหมด อ่ะนึกภาพไม่ออกละซิ คิดว่าใบเล็กใช่ไหม เปล่าหร๊อกกกกก ถุงพลาสติค ถึงสองใบใหญ่ ใส่ ที่ชาร์ท เอย เสื้อผ้าที่ต้องหอบมาซัก สองชุด แถมโค๊ชด้วย และก็ที่ขาดไม่ได้ ของกิน เวลานั่งรถไฟจะได้ไม่ต้องเดินไปซื้อ ไง อ้อ ที่สำคัญ ลูกชาย(โน๊คบุ๊ค) หอบหิ้วไปตลอด ฉันบอกเพื่อนว่า อะไรก็หายได้ แต่ของสามอย่าง หายไปฉันขาดใจแน่ ลูกชาย (โน๊ตบุ๊ค) ลูกสาว(กล้องถ่ายรูป) และบั๊ดดี้ (โทรศัพท์) สามอย่างนี้ ต้องอยู่ใกล้ตัวตลอด ให้หอบหนักแค่ไหน ไปห้องน้ำ ก็ทิ้งไม่ได้ เพราะกลัวว่า จะโดนลัก และ อีกอย่างเรามีอะไรมากมาย เป็นความทรงจำใน ของสามอย่างนี้
น้องเขาเห็นว่าหอบเป็นบ้าหอบฟาง ไม่มีกระเป๋า เขาก็ใจดีซะ บอกช่วยไหม เราเองเกรงใจ เลยบอกไม่เป็นไร ฉันถือเอง ขอตามไปขึ้นรถคันเดียวกันดีกว่า ปรากฏว่า รถมิได้มีแค่หนึ่ง แต่มีถึงห้ารถบัส เอาละซิทำไงหว่า ถาม เลย ได้ความว่าชอบคนขับคนไหน ขึ้นคันนั้น อ่ะ เปล่านะ ล้อเล่น อยากขึ้นคันไหน ไปได้เลย ไปที่เดียวกันทุกคัน จากที่ Trollhattan - Goteborg ต้องใช้การเดินทางด้วยรถบัสเท่านั้น การเดินทางค่อนข้างยาวนาน บวกกับการเหนื่อย เลยตั้ง นาฬิกาปลุก เกรงว่าจะหลับคารถ และไม่มีใครเรียกเหมือนบ้านเรา ปรากฏว่าได้ผล ตามที่คาด ผงกศีรษะไปเสียหลายรอบ จากการเดินทาง ตอนนี้คิดได้อย่างเดียวว่า ก่อนจะถึง Goteborg ต้องโทรหาเพื่อนก่อน เพราะว่าไม่เคยเดินทางแบบนี้ มีเพื่อนรู้จักคนหนึ่งที่นั่น โทรหากริ๊ง เพื่อนมารอก่อนเลย พอมาแล้ว พาไป ขึ้นรถไฟได้ตรงเวลา เราก็เลยได้รู้อะไรใหม่ ๆ ของสถานีรถบัส และไปต่อสถานีรถไฟ ที่นี่ไปในตัว ความรู้มีอยู่รอบตัวเราจริง ๆ หาได้เสมอ
หลังจากขึ้นรถไฟถูกขบวนแล้ว ก็ลาจากเพื่อน ไป ยัง Malmo มาถึงที่นี่ตรงเวลาตามที่กำหนดเอาไว้ ไม่มีสาย เลยสักนิด แต่ก็หลับยาวมากเพราะเหนื่อย ต้องต่อรถไฟสามขบวน แถมด้วยรถบัสหนึ่งคัน เข้าพักที่โรงแรม ก็ผลอยหลับไป ตื่นมาอีกทีก็วันใหม่แล้ว เพราะต้องไปดูห้องพัก และ ต้องไปตรงเวลาตามที่นัดกับเจ้าของห้องพัก ที่แรกที่ตั้งใจไปดูคือ ที่ Varmland ใกล้มัลเม่อที่สุด แต่ สุดท้ายได้ความว่า พักได้สองเดือน เลยไม่เอา เพราะคิดว่า ต้องพักยาวสองปี เลย ลากลับ และหาห้องพักแห่งใหม่แทน อีกอย่าง ฉันต้องรอให้เพื่อนมารับด้วย เพราะนัดกันว่าหลังเพื่อนเลิกงาน สามารถมารับฉันให้พักที่บ้านได้ ชั่วคราว จนกว่าจะหางานได้ และเรียน เลยไม่ได้ คิดมาก เพราะอีกอย่างกะว่าคงรบกวนไม่นาน เพื่อนมารับ ตอนบ่ายสามโมง ช่วงเช้าหลังจากเช็คเอ้าท์จากโรงแรม และไปดูห้อง จึงตัดสินใจ ไปเดินเล่น แถว ท่าเรือ ที่นั่นเรียกว่า Krankajen เป็นท่าเรือ และ ชายทะเล ฉันใช้เวลาตลอดช่วงบ่าย ไปนั่งเล่นริมทะเล และ พักผ่อนไปในตัว ฉันรู้สึกว่า ได้ใช้เวลา ช่วงบ่าย ได้คิดอะไรอีกมากมาย ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องเรียน เรื่องการทำงาน ต้องเริ่มอีกไม่ช้า ในสามเดือนข้างหน้า ตอนนี้ถือเป็นช่วงพักร้อนไปดีกว่า ฉันนั่งพัก แถวชายทะเล ริมม้านั่ง ใกล้คอนโด ของพวกคนมีเงิน เพื่อนเรียกแถบนี้ว่า ไฮโซ เพราะราคาที่พักแพงมาก แถม ติดชายทะเล ฉันชักชอบMalmo มากกว่าเดิมเสียแล้ว เพราะได้นั่งมอง เรือลำใหญ่ จาก Nordo Link เข้าออก อ่าวนี้ ได้ความว่า เรือลำนี้ไปเยอรมันนี เรือลำใหญ่มาก เวลาเห็นแล่นเข้ามาใกล้ ๆ ฉันเองไม่รู้อะไรมาก ขณะนี้ รู้แต่ว่า ชักเริ่มชอบ ที่นี่แล้ว เวลาผ่านไปรวดเร็ว ฉันตัดสินใจ กลับไปโรงแรม ขณะที่เดินอยู่ฉันรู้สึกว่า มีคนตามฉันมา วินาทีนั้น ฉันชักเริ่มกลัวขึ้นมาเหมือนกัน แต่ก็พยายามเดินให้เร็วที่สุด และ พยายามมีสติไว้ ได้ความว่า คนที่วิ่งตามฉันมานั้น เขาพักอยู่ที่ Krankajen และ จากการได้คุยกับเขาแล้ว ทำให้รู้ว่า เขาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้แต่แรก เขาบอกว่าเห็นฉันนั่งอยู่ริมทะเลนานแล้ว อ่านหนังสือ และ คุยโทรศัพท์ เขาประทับใจ และอยากเป็นเพื่อน แต่ไม่กล้าเข้ามาทัก จนกระทั่ง ขับรถเข้าที่พัก และ ทำความสะอาดห้องของเขา ระหว่างนั้นเห็นฉันเิดินผ่านห้องของเขา เขาจึงรีบวิ่งตามมาข้างหลัง มิได้ต้องการทำให้ฉันตกใจ อีกอย่างหลังจากได้พูดคุยและทักทายกันแล้ว เขาก็ดูเหมือนเป็นคนดีคนหนึ่ง กอปรกับตอนนี้ ต้องการมีเพื่อนใหม่ด้วย หลังจากเขาขอชื่อ และ เบอร์โทรของฉันแล้ว เขาถามว่าฉันจะไปไหน ฉันเลยบอกว่าจะไปพักบ้านเพื่อนนอกเมือง ไม่ไกลจากMalmo เท่าไหร่นัก
แอนเดรอ เลยเสนอว่าหากไม่มีรถจะบับพาไปส่ง ฉันบอกว่า รอให้เพื่อนมาก่อน เขาบอกไม่เป็นไร อาสาขับรถพาไปเอาของที่โรงแรม กระเป๋าใบใหญ่ พร้อม กับขับมารอเพื่อนที่สถานีรถไฟ Malmo เพื่อนเจ้ากรรม ดันไม่มีโทรศัพท์ ซิมของสวีเดน แต่นั่นก็มิได้เป็นปัญหา หยิบยืมคนอื่นโทรมาหาบอกว่ามาถึงแล้ว ฉันโทรกลับ จึงได้ความว่า เพื่อนตัวดี ยืมโทรศัพท์เขา ฉันต้องเดินหาเองว่า เพื่อนที่น่ารัก รอฉันอยู่ณ ตรงไหน ของสถานีรถไฟ และแล้วก็เจอหน้าเพื่อน ฉันเลยบอกว่า ฉันเจอคน ๆ หนึ่ง เขาอาสาพาเราไปส่งบ้าน โอเคไหม เพื่อนบอกว่า ก็ดีนะ เพราะไม่มีรถ อีกอย่างกระเป๋าหนักมากด้วย เลยตกลงตามนั้น แอนเดรอ รอที่รถ หลังจากได้ทำความรู้จักกันแล้ว สรุปว่า การอาสาพามาส่งของแอนเดรอ นั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุด ประหยัดที่สุด เพราะหากไม่ได้แอนเดรอ ต้องเสียค่ารถแท๊กซี่ ถึง 400 Sek นั่น มันแพงมากเลยนะ แค่ห่างจากตัวเมือง ประมาณยี่สิบนาที ค่าแท๊กซี่ ปาไป พันกว่าบาทไทย เราต่างหันมองหน้ากัน และกล่าวขอบคุณผู้มีบุญคุณครั้งใหญ่ ก่อนกล่าวลาจากกัน แอนเดรอถามว่า หากจะขอนัดทานข้าวได้ไหม ฉันรีบตอบตกลงทันที มิได้คิดนาน เพราะความมีน้ำใจ และ จากการเห็นชอบของเพื่อน บอกว่า เขาดูท่าทางเป็นคนดีน่าเชื่อถือ เลยมิได้กลัวเหมือนตอนแรก อีกอย่างกฏหมายของที่นี่ ดีมาก เลยมิได้กลัว อไรมากมายเหมือนเมืองไทย หลังจากล่ำลาเสร็จสรรพ ก็ยกสัมภาระเข้าห้องพัก เพื่อนมีเตียงสองเตียง แบ่งให้ฉันหนึ่งเตียง และ เพื่อนบอกว่า หากไปทำงาน อนุญาตให้พักได้สบาย เพราะไง ไม่ได้กลับมาห้องบ่อย ถือเสียว่าเป็นห้องของฉันเองละกัน เท่านั้นแหละ อยากกระโดด กอดเพื่อนฟอดใหญ่ เพื่อขอบคุณในความมีน้ำใจ อีกอย่างที่นี่ปลอดภัย อย่างมาก เพราะเจ้าของบ้าน ที่เพื่อนเช่า เธอเป็นคนน่ารัก ห้องที่เพื่อนเช่าเป็นห้องส่วนตัว เพิ่งสร้างเสร็จ และ อีกอย่างเพื่อนไม่ค่อยมาพักที่นี่ ได้แต่เช่าทิ้งไว้ เพราะต้องไปทำงานที่เดนมาร์ค เพื่อนบอกว่า ให้อยู่ได้สักพัก จนกว่าจะเริ่มเรียนทำงานและประหยัดในตัว ด้วย ส่วนหากไม่มีอะไร อาจแชร์ให้คนละครึ่ง ในกรณีที่เพื่อนไม่มีแฟน แต่หากว่า เพื่อนมีแฟน และอยากพาหญิงมาบ้าน ฉันก็ต้อง กระเด็นออกนอกหน้าต่าง ให้เพื่อนอัตโนมัติ นี่คือข้อตกลง ร
ะหว่างเพื่อนของฉัน ที่สำคัญ สิ่งที่พวกเราต่างชอบเหมือนกัน คือการพอกหน้า นั่นคือเหตุผล ที่เพื่อนอนุญาตให้พักที่นี่ได้ เพราะว่าอุปกรณ์พอกหน้า ของฉันมีเยอะมาก นำมาจากประเทศไทย โชคดียังมีอยู่ไม่หายไปหมด เราจึงได้แลกเปลี่ยนกัน ได้ อีกอย่าง เพื่อนบอกว่าฉันมิได้เป็นเกย์นะยะ แม้จะชอบพอกหน้า แต่ว่า ฉันเคยทำเกี่ยวกับเครื่องสำอางค์ เลยชอบมาก ฉันเข้าใจเพื่อนดี อีกอย่าง เพื่อนฉันก็ยังมีอะไรน่ารัก ๆ อีกมาก แถมด้วย การเป็นเพื่อนที่น่ารัก โอบอ้อมอารีย์ และ ช่วยเหลือเวลาที่มีปัญหา แม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ความมีน้ำใจ และ ความโอบอ้อมอารีย์จากมิตรภาพใหม่ ทำให้ฉันรู้สึกประทับใจเพื่อนคนนี้อย่างมาก




 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2553
0 comments
Last Update : 19 กรกฎาคม 2553 17:21:37 น.
Counter : 343 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


dov
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add dov's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.