วันที่ สองในMalmo
วันที่ 20 มิย 53วันนี้ฉันได้พักมากกว่าเดิม หลังจากวันที่ 19 มิย เครื่องลงแต่เช้า และมาเช็คอิน ที่พัก แต่เช้า วันนี้ที่ฉันทำได้ คือ ต้องออกเดินสำรวจตัวเมือง มัลเม่อ เพราะที่นี่ติดชายฝั่งทะเล และ อีกฝากคือ ประเทศ เดนมาร์ค ชายฝั่งของมัลเม่อ ช่วงซัมเมอร์นี่ จะมีคนไปตกปลากันเยอะมาก และ อย่าลืมว่า เวลาที่นี่ พระอาทิตย์ไม่เคย อัสดง และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ฉันรู้สึกว่า มัลเม่อ เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหล วันแรกที่มาถึง อาจเป็นช่วงเช้ามืด เพราะร้านค้า ไม่เปิด และ ไม่มีคนเดินถนน แม้จะ มีแสงแดด สาดส่องไปทั่วเมืองหลวงก็ตาม ฉันคิดแต่ว่า หากเป็นกรุงเทพ บ้านเรา ไม่ว่าจะเช้า หรือสาย ฉันจะมองเห็นคนเต็มท้องถนน แต่นี่ เหมือนเมืองร้าง หากจะมีคนเริ่มเดินก็เป็นช่วง วัน ธรรมดา มากกว่า เสาร์ หรือ อาทิตย์ และ หากเป็นช่วง เสาร์ หรือ อาทิตย์ ก็จะเป็นช่วงสาย ๆ หน่อย ถึงจะมีนักท่องเที่ยว ออกเดินตามท้องถนน วันที่สองในเมืองนี้ ฉันได้เดินสำรวจสถานที่ต่าง ๆ มากมาย อาทิ จากที่พัก ที่อยู่ใจกลางเมือง หรือ เรียกว่า Central ที่โรงแรม ที่ฉันพัก มีชื่อว่า Hotal Plaza i Malmo AB อ่าขอโปรโมทเสียหน่อย ไม่ได้ตังค์หรอกนะ แต่ประทับใจกับการพักของที่นี่ และบริการของพนักงานมาก เพราะได้รับการช่วยเหลือหลายอย่าง และรู้สึกอบอุ่นอย่างมากมายHotal Plaza i Malmo ABKasinogatan 6//www.hotel-plaza.se อยากบอกว่า หากใครเดินทางคนเดียวมาที่นี่ อยากได้ที่พัก แบบอบอุ่นก็เข้าเช็คในเวบได้เลยนะคะ เพราะที่นี่ พนักงานเขาน่ารักจริง ๆ กลับมาสำรวจเมืองมัลเม่อ กันดีกว่า ฉันขอแผนที่จากพนักงาน และ ได้เดินชมรอบเมือง จนกระทั่งหลงทางก็ว่าได้ แต่สิ่งสำคัญ ให้จำไว้ว่า ถนนคนเดินในเมืองหลวงอยู่ตรงไหน ก็จะหาทางกลับมา โรงแรมที่พักได้เอง ไม่ต้องกลัวหลง ฉันเริมออกสำรวจ เมืองหลวง หลังทานอาหารเช้าเสร็จ เพราะว่า จะต้องหาห้องพัก เป็นเวลาสองปี ก่อนจะเปิดเทอม ห้องพักที่นี่ หายากเหมือนกัน แต่ยังไงก็ตามฉันก็พยายาม หาจากเว็บ ที่เพื่อนเดนนิชให้ไว้ คือ//www.blocket.seเวบนี้จะเป็นภาษาสวีดิช หากคนไม่ทราบภาษาสวีดิช อย่างฉัน ก็อาศัย กูเกิ้ล เป็นผู้ช่วยได้นะเออ วันนี้หลังจาก ได้ข้อมูลแล้ว ก็ทำการจดว่าต้องไปดูห้องที่ไหนบ้าง แต่ปรากฏว่า หาไม่เจอ เลยตัดสินใจ เดินรอบเมือง ตามที่เกริ่นทีแรกแหละ ฉันตั้งใจว่าวันนี้จะต้องหาไปรษณีย์ อย่างแรก เพราะพรุ่งนี้ต้องส่ง ชุดไทยให้เพื่อนให้ได้ ได้ข้อมูลว่า ที่นี่ ไปรษณีย์ ต้องไปที่ Hemkop ที่นั่นจะส่งพัสดุ อะไรได้หมด และเวลารวดเร็วมาก ถึงมากสุด แต่คุณต้องมีที่อยู่ของคุณเอง เป็นหลักแหล่ง กับที่อยู่ของเพื่อนคุณด้วยนะ อันนี้ขอบอก หลังจากหาไปรษณีย์เจอแล้ว ฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากโทมัสว่า วันนี้จะมาทานข้าวด้วย เพราะหายเมา และยังไม่ไปทำงาน ฉันตอบตกลงกับโทมัสทันที เพราะอย่างน้อยต้องการรายละเอียด เกี่ยวกับมัลเม่อหลายอย่างมาก อีกอย่างฉันต้องการเพื่อน เดินเท้าในเมืองหลวงด้วย ฉันกลับเข้าที่พัก เวลาประมาณ บ่ายสองโมง หลังจาก เดินหาสถานที่สำคัญ ที่ต้องการเจอ อาทิ ไปรษณีย์ และ สกั๊ด(Skatt) ฉันเรียกสั้น ๆ นะ เพราะว่าต้องทำบัตรประจำตัว เรื่องมาเรียน และ ทำงาน การทำบัตรสำคัญมาก หากไม่มีบัตรประจำตัวเวลามาอยู่ที่นี่ด้วย วีซ่า เรียน และ ทำงาน ไม่สามารถทำอะไรได้เลย อาทิ หากต้องการซื้อ ของ บางแห่ง หากไม่มีเลขประจำตัว ซื้อไม่ได้ หากต้องการซื้อ ไอโฟน ก็ซื้อไม่ได้อีก แต่บางร้านก็สามารถซื้อหาสินค้าได้ตามต้องการนะ ไม่เป็นไร แต่ มีบัตรดีสุด พอมาถึงที่พัก ฉันก็นอนพักผ่อน โทมัสโทรมาหาอีกประมาณ บ่ายสี่โมง บอกว่ามาก่อนเวลา ฉันเลยบอกว่าไม่เป็นไร เพราะว่าฉันเริ่มชินแล้ว กับสถานที่ และพักพอเพียงแล้วเช่นกัน ตอนนั้นรู้แต่ว่าหิวมากกว่า เลยได้แต่ รอ ๆๆๆๆ เวลาผ่านมา ผ่านไป เพื่อนฉันก็ยังมาไม่ถึงสักที ฉันเริ่มคิดแล้วซิว่า หากไม่มา คงต้องไปหาอะไรลองท้องก่อนละกัน แต่ก็รอไปอีกประมาณ สองชั่วโมง เกือบหกโมงเย็นได้ โทมัส โทรมาบอกว่ารอที่ล๊อบบี้ ฉันจึงลงไปหา และพากันเดินออกไปหาอาหารเย็นทานกัน เราตกลงกันว่าจะหาอาหารไทยทาน ตอนแรกกะว่าจะไปทานที่ Chili แต่ร้านไม่เปิด เลย เดินกลับมา ที่ถนนคนเดิน ร้านไหนมีอาหารไทย เข้าร้านนั้น ปรากฏว่า มีร้านหนึ่ง แต่จำชื่อไม่ได้ เพราะว่า มีอาหารไทย แต่พอสั่งมาทาน เราต่างมองหน้ากัน และ พอทานเสร็จ ต่างก็บอกเสียงเดียวกันว่า คนปรุง ไม่ใช่คนไทยแน่นอน เพราะว่ารสชาด เค็ม และ มันมาก แถม ไม่อร่อยด้วย นี่ เป็นเหตุผลหนึ่ง หากจะทานอาหารไทย ต้องหาเจ้าของร้านเป็นคนไทย และ คนปรุงอาหารคนไทยเท่านั้น 555 ฉันคิดเองนะ พอทานข้าวเสร็จ เราก็ตกลงกันว่าจะเดินชมเมืองกันสักหน่อย เพราะเวลาปาเข้าไป สองทุ่มแล้ว เราตกลงเดินไปริมทะเล ดูคนตกปลา และ พระอาทิตย์อัสดง ยามเย็น เอาแบบสวยหรู เลยนะ เรื่องของเรื่อง อยากเดินย่อยมากกว่า อีกอย่าง ที่นี่มืดยังไง ก็สว่างมีแสงแดดตลอด แม้ว่าแสงแดดไม่แรง ก็ตาม แต่ ขอบอกเลยว่า จะให้กลับไปนอน คงนอนไม่หลับแน่นอนหลังจากเดินชมทะเลยามเย็น และ พักผ่อน แล้ว พอถึงเวลา ต่างคนก็ต่างลาจากกัน เพราะว่า หนังท้องตึง หนังตาหย่อน ถึงเวลานอนของฉันด้วยนะเออ แต่วันนี้ ฉันก็ได้เจอะเจอกับสถานที่ หลายแห่ง ที่ฉันต้องการแล้ว แม้ว่าจะเดินหลงทาง และ เหนื่อย สักหน่อย แต่ก็ได้ความรู้มากมาย
เมื่อหลายปีก่อน ผมมีโอกาสมาเยือนที่นี่หนึ่งครั้ง
ตอนนั้นสะพานที่จะข้ามไปกรุงโคเปนเฮเกนยังสร้างไม่เสร็จครับ ต้องข้ามฟากนำรถลงเรือเฟอร์รี่ไป ตอนนี้สะพานเปิดใช้งานคงหลายปีแล้ว ธุรกิจเรือเฟอรืรี่คงตายสนิท
อาหารไทยจำพวกน้ำพริก น้ำจิ้ม ฯลฯ มีขายตามร้านคนเอเชีย
เยอะครับ หากผมมีโอกาสก็อยากไปอีกครับ
ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆ ถ่ายและโพสมาให้ดูเรื่อยๆนะครับ
ขอให้เจ้าของกระทู้ โชคดีและปลอดภัยนะครับ...