<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
7 กุมภาพันธ์ 2555
 
 
กลเม็ดเด็ดหัวใจ พ่อแม่เขาให้รักเรา

แต่งงาน



Part I  เปิดตัวว่าที่ลูกเขย-ลูกสะใภ้

          หลังจากคบกันมาได้ระยะหนึ่ง คุณเกิดความมั่นใจขึ้นมาตะหงิดๆว่าคนนี้น่าจะใช่ จึงอดหมายมาดอยู่ลึกๆไม่ได้ว่าสักวันหนึ่ง คุณจะพาเขาหรือเธอคนนั้นไปให้พ่อแม่ของคุณรู้จัก แต่ใจหนึ่งก็กลัวไม่ได้ว่าทางบ้านจะไม่ชอบคนรัก แล้วจะทำอย่างไรดี We ฉบับนี้มีคำแนะนำดีๆมาเสนอเช่นเคย

 Step 1 : หยั่งเชิงดูก่อน

          พ่อแม่ใจดีบางอาจเปลี่ยนเป็นครูไหวใจร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อเมื่อรู้ว่าลูกมีแฟน การจะบุ่มบ่ามพาแฟนไปไหว้นั้นเสี่ยงเกินไป ดังนั้นลองเปรยๆถึงแฟนคุณให้พ่อหรือแม่รับรู้เสียก่อน

Step 2 : เริ่มต้นแนะนำตัว

          เมื่อบอกให้ทราบแล้วว่าเรามีแฟน ปฏิบัติการขั้นต่อไปคือค่อยๆให้แฟนเข้ามาในฉากชีวิตครอบครัวของคุณทีละน้อย โดยยังไม่ต้องพาไปไหว้พ่อแม่ถึงบ้าน

Step 3 : หาโอกาสบอกพ่อ

          เมื่อคุณแม่รับรู้ว่าลูกมีแฟน แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องถึงหูคุณพ่อเข้าจนได้ และหากคุณทำให้แม่รู้สึกดีกับแฟนแล้ว สิ่งที่คุณแม่จะบอกคุณพ่อต้องเป็นด้านดีของว่าที่ลูกเขย(สะใภ้) แต่ถึงอย่างไร คุณเป็นลูกต้องหาโอกาสบอกคุณพ่อด้วยตนเองด้วย เพราะเชื่อว่าท่านอยากฟังสิ่งที่ออกมาจากปากของคุณเองอยู่แล้ว

Step 4:ในที่สุด "เรา" ก็ได้อยู่กันพร้อมหน้า

          ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง เมื่อสมาชิกในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เพื่อต้อนรับมิสเตอร์ว่าที่ของคุณ งานนี้ต้องซักซ้อมทำความเข้าใจกันเล็กน้อย บอกเขาให้ทราบว่าพ่อแม่เราเป็นคนอย่างไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร เขาจะได้วางตัวถูก

           ร้อยทั้งร้อยต้องอยากได้คนดีมาเป็นศรีแก่ลูกเรา แล้ว "ความดี" นั้นดูได้จากอะไรบ้าง

1. นิสัยใจคอ

          ทั้งกิริยามารยาท การแต่งตัว การพูดจา สภาพอารมณ์ รสนิยมความชอบและความไม่ชอบ รวมไปถึงวิธีปฏิบัติต่อผู้คนรอบข้าง จะแสดงพื้นเพตัวตนของเขาตัวตนที่แท้จริงของเขา บางครั้งพ่อแม่ผู้เคยอาบน้ำร้อนมาก่อนมองทะลุทะลวงเห็นได้ชัดเจนกว่าตัวลูกที่คบกับเขามานานเสียอีก

2. พื้นฐานครอบครัว

          ต้องสืบสาวไปถึงครอบครัวของอีกฝ่ายว่าเป็นมาอย่างไร เหมือนดูตัวเขยและสะใภ้อีกคนหนึ่งนั่นเอง เพราะความสัมพันธ์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการที่คนสองคนรักกันเท่านั้น แต่ครอบครัวมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก มีไม่น้อยที่สองครอบครัวแตกต่างและเข้ากันไม่ได้ ความสัมพันธ์ของลูกก็พลอยแย่ตามไปด้วย โดยเฉพาะความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องศึกษากันให้ดี

3. ผู้คนรอบข้าง

          สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้จักคนๆนั้นมากขึ้นคือเพื่อนของเขานั่นเอง โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนสนิทจะช่วยประเมินนิสัยใจคอของเขาได้ เพื่อนเป็นคนที่เราเลือกคบเอง ต่างจากครอบครัวที่เราเลือกเองไม่ได้ ดังนั้น แฟนลูกคบคนแบบใด เขาก็เป็นคนแบบนั้นนั่นแล ถ้าเลือกคบคนดีก็ดีไป แต่ถ้าเกิดเพื่อนเป็นนักเลงหัวไม้หรือมีประวัติติดยา เล่นการพนัน คนเป็นพ่อแม่คงต้องคิดหนักสักหน่อย 



แต่งงาน



 Part II  ก้าวสู่การเป็นเขย-สะใภ้ดีเด่น

          การเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างนั้นเป็นเรื่องยาก แต่การรักษาสิ่งนั้นให้คงอยู่นี่สิยากกว่า และการรักษาความสัมพันธ์เป็นเรื่องยากที่สุด โดยเฉพาะกับพ่อตาแม่ยาย แม่ผัวลูกสะใภ้ เป็นปัญหาโลกแตก แต่ไม่ยากเกินความสามารถ อุตส่าห์ชนะใจลูกเขาได้ แล้วครอบครัวเขาล่ะ จะยากเย็นแค่ไหนกันเชียว

1. ดูแลคนของคุณให้ดี  

          คุณเป็นคนไปพรากลูกเขามาจากอ้อมอกพ่อแม่ ฉะนั้นเขาคงพอใจเป็นแน่ถ้ารู้ว่าคุณดูแลลูกเขาเป็นอย่างดี อาจไม่ดีไปกว่าเขา (ไม่มีใครจะรักลูกได้มากกว่าพ่อแม่) แต่อย่างน้อยให้ดีเทียบเท่าก็พอใจ

2. ปรองดองกันให้พ่อแม่เห็น  

          อย่าได้เผลอออกอาการไม่พอใจให้พ่อแม่ของเขาเห็นเป็นอันขาด ไม่ว่าสาเหตุนั้นจะมาจากตัวคุณ ตัวเขา หรือใครก็ตาม ทิ้งนิสัยถียงคำไม่ตกปากและเก็บฝีปากไปปะทะกันภายหลัง ถ้ายังอยากจะเคลียร์ โบราณว่าไว้ว่า เรื่องในบ้าน คนในอย่าบอก คนนอกอย่าให้รู้

3. หมั่นเข้าหา อย่ารอให้ท่านเป็นฝ่ายมาก่อน

          ทีพ่อแม่ตัวเองล่ะเพียรไปเยี่ยมเหลือเกิน ปฏิบัติต่อพ่อแม่แฟนด้วยความเคารพประหนึ่งว่าท่านเป็นพ่อแม่ของคุณเองด้วยสิ โทรไปถามสารทุกข์สุกดิบหรือซื้อของติดไม้ติดมือไปฝากท่านบ่อยๆ และเชิญท่านมาเยี่ยมบ้านบ้างเป็นครั้งคราว คุณเป็นเด็ก เชิญผู้ใหญ่ก่อนน่ะถูกต้องแล้ว อย่ารอให้ท่านอัญเชิญตัวเองมาเยี่ยม อย่างน้อยจะได้มีเวลาเตรียมตัวต้อนรับอย่างไรล่ะ

4. เจ้าตัวเล็ก: โซ่ทองคล้องใจ

          พอเห็นหน้าเจ้าตัวเล็กเป็นใครก็อดใจอ่อนไม่ได้ เมื่อเข้าสู่วัยชรา พ่อแม่คุณเริ่มเหงา ต่อให้มีหลานยั้วเยี้ยเต็มบ้านท่านก็ไม่บ่น ดีเสียอีก มีเสียงเจื้อยแจ้วกับเจ้าตัวซนให้วุ่นอีกครั้ง และแม้ว่าคุณจะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง แต่ให้พ่อแม่ได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงหลาน ไปขอคำปรึกษาจากท่านบ้างในบางโอกาส แม้ว่าคุณอาจไม่เห็นด้วยในบางเรื่องก็ตาม แต่ยังดีกว่าไม่ให้ท่านรับรู้ความเป็นไปของเจ้าตัวเล็กเลย

5. นิ่งเสียถ้าไม่อยากมีเรื่อง

          ในกรณีที่คุณและพ่อแม่ของเขาไม่ลงรอยกันเสียเลย ไม่ว่าจะกระดิกตัวทำอะไรก็ผิดไปหมด ช่างหาเรื่องกันเก่งจริงๆ จงใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว หากต้องมีปฏิสัมพันธ์กันก็ขอให้เป็นไปอย่างสุภาพนอบน้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอย่าเป็นฝ่ายเริ่มต้นเด็ดขาด คิดถึงใจคนรักของคุณเข้าไว้และเอาใจเขามาใส่ใจเราดูบ้าง ไม่แน่ว่าวันหนึ่งข้างหน้าคุณอาจไม่ถูกชะตากับคนรักของลูกก็เป็นได้

          ลองประมวลสถานะของคุณดูว่าเข้าข่ายจะเป็นเขย-สะใภ้ดีเด่นกับเขาได้หรือไม่ และถ้าชีวิตคู่ของคุณไร้ปัญหาใดๆในทุกข้อที่กล่าว ขอแสดงความยินดี เพราะคุณช่างโชคดีจริงๆ!!

ที่มา : //hilight.kapook.com/view/25354






Free TextEditor


Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2555 19:35:13 น. 1 comments
Counter : 586 Pageviews.

 
เจิมคะ


โดย: skylion วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:21:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

prayakong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add prayakong's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com