Group Blog
ธันวาคม 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog
--- แ ม ว ม า ห า ห ม า ม า สู่ กั บ บั ต ร ส น เ ท่ ห์ . . . ---

















1.

แมวมาหา หมามาสู่บ้านไหน เขาว่าเจ้าของบ้านนั้นมีบุญและใจดี ที่ว่ามีบุญเพราะมีโอกาสได้ต่อยอดกรรมดีในเรื่องความเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกด้วย เขามาหาที่พึ่ง ยิ่งถ้าเจ้าของบ้านไม่มีภาระอะไรแล้วด้วยก็ยิ่งดี ถือว่าได้เลี้ยงดูหมาจร แมวจรให้อิ่มท้องและรู้สึกว่าโลกนี้มีที่ทางที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้


วันหยุดยาวที่ผ่านมา น้องสาวไปพักผ่อนที่บ้านแม่ บ้านที่มีฉายาว่าบ้านสิบสามลายกระเบื้อง แต่สิ่งหนึ่งที่เพื่อน ๆ หรือคนรอบข้างรับรู้มาโดยตลอดคือ แม่เลี้ยงแมวจร การเลี้ยงแมวจรของแม่นั้นมีมาตลอดเวลายาวนาน แมวไหนก็เอ่ยกันปากต่อปากให้รับรู้ว่าบ้านนี้มีอาหารไม่อั้นและคุณยายใจดีมาก นอนจากให้ข้าวให้น้ำแล้วยังช่วยดูแลยามเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างดีด้วย มีที่นอนอุ่น ๆ จัดเตรียมไว้ให้แมวทุกตัวมาพักพิง ให้อิสระทุกอย่าง

บ้านแม่มีต้นไม้บังแดดหน้าบ้านร่มรื่น หมู่บ้านนี้มีหลายซอย แต่ละซอยมีถนนหน้าบ้านค่อนข้างกว้าง หากสำรวจจริงจังในหมู่บ้าน แทบไม่มีบ้านไหนปลูกต้นไม้เหมือนบ้านแม่เลย ส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ในกระถางจัดวางสักกระถางหรือจัดเรียงเป็นแถวแนวรั้ว เป็นไม้ดัดตกแต่งไม่ให้เติบโตหรือเลื้อยไปบ้านอื่น มีพอให้เห็นอู่บ้าง และมากไปกว่านั้น เขาไม่นิยมปลูกต้นไม้กันนอกจากใช้พื้นที่ 50 ตารางวากันจนเต็มพื้นที่ใช้สอย แต่ละบ้านไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกัน ส่วนใหญ่รับราชการ เช้ามาก็ไปทำงาน เย็นมาก็บ้านใครบ้านมัน

บ้านจัดสรรชั้นเดียว รั้วบ้านเดียวกันนั้น ต้องเห็นกันทุกวัน ใครทำกิจกรรมอะไรก็ต้องเห็นแม้จะไม่อยากเห็น เพื่อนดีก็เหมือนมีรั้วบ้านดี น้ำใจไมตรีเป็นสะพานมากกว่าก่อกำแพงกั้นกัน ตอนเลือกซื้อบ้านนั้น ต่างคนก็ดูทำเลบ้านมากกว่าจะเลือกเพื่อนบ้าน การจับจองวัตถุ รูปลักษณ์ภายนอกก็เป็นแบบนั้น แม้แต่เราเองก็เถอะ อาจจะเลือกบ้านตรงหัวมุม ไม่ติดกับใครสักด้าน ไม่ปรารถนาจะติดกับใครทั้งสามด้าน แล้วเราก็ไม่ได้เลือกอะไรเลยนอกจากเราถูกเลือกไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าเราต้องอยู่ตรงนี้

แม่อยู่ที่นี่มากว่าสามสิบปี อยู่ตั้งแต่ก่อนแม่เกษียณราชการ มีสุขทุกข์กันไปตามประสา ที่อยู่อาศัยเคยให้แต่ข้าราชการมาจับจอง แต่คนอยู่นั้นอาจไม่ใช่ การอยู่ที่เดียวกันนาน ๆ ก็ทำให้รู้จักคนบ้านข้าง ๆ มากขึ้น ซึ่งเราคาดหวังอะไรไม่ได้ เพื่อนบ้านก็เหมือนญาติเพราะญาติตัวจริงเสียงจริงเช่นลูก ๆ นั้น ต่างก็ทำงานและไม่ได้อยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ นอกจากไปมาหาสู่ตามเทศกาลหรือเจอะเจอกันวันหยุดและวันนักขัตฤกษ์

ใครก็ปรารถนาเรื่องการมีเพื่อนบ้านดีหลังจากได้เข้าอยู่บ้านที่ตัวเองจับจองแล้ว เราได้แต่คิดเพราะความเป็นจริงนั้น ต่างคนต่างสร้างอาณาจักรมิชิด เพื่อนบ้านที่พอมีเงินก็เริ่มต่อเติมพื้นที่บ้านให้เต็มจนชิดรั้ว ปิดผนังด้านข้างและด้านหลังจนไม่ต้องเห็นใคร ชีวิตมีคนอื่นไม่รื่นรมย์เท่าไหร่ หากคิดในทางดีก็ดี ใครชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้น แต่ทิศทางลมบ้านย่อมเปลี่ยน เขากั้นกำแพงบ้านสูงจนกั้นทางระบายลมที่เคยหายใจสบาย

แม่เป็นคนมือเย็น ใจเย็นและเอาใจใส่กับต้นไม้ที่แม่ปลูก แม่ไม่ทำรั้วสูงตาม แต่ปลูกต้นไม้เป็นรั้วบ้านแทน แต่ก็มีปัญหาเรื่องมันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และหากลมแล้งมาอย่างพายุอาจโค่นได้เหมือนกัน เพื่อนบ้านขอร้องให้แม่ตัดเถอะ แม่ก็ยอม ปลูกเฉพาะหน้าบ้านของตัวเองเป็นซุ้ม มีดอกไม้หลายชนิด เราจะเห็นนกกินน้ำหวานมาส่งเสียงและดูดน้ำหวานกินอย่างคุ้นเคยทุกครั้ง เรารื่นรมย์และรู้สึกเย็นเมื่อเข้าบ้านแม่

นอกจากต้นไม้แล้ว แม่เลี้ยงปลาเล็ก ๆ ในอ่างบัว ดูต้นไม้ หรือไม้น้ำของแม่ช่างอยากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแม่ ดอกบัวในอ่างโผล่พ้นน้ำมาให้ชื่นชมความงามพร้อมความสุขของปลาที่แหวกว่ายใต้ใบบัว พลิ้วหางทักทายแม่ทุกครั้ง

แต่สิ่งที่มาเหมือนเงาตามตัวแม่คือแมว ไม่ว่าแม่อยู่ที่ไหน แมวจากที่ไหนต่อที่ไหนจะมาหาแม่ บางตัวมาแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่แน่ใจในคำชวนของแมวอื่นที่บอกต่อ ๆ กัน แต่พอมาเห็นแมวที่ทำตัวเป็นเจ้าของแม่แล้ว ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ แมวแสนรู้นะ สบตาแม่ก็เห็นแววเชื้อเชิญ แม่เทอาหารใส่จานวางไว้ทุกมุมบ้านและคอยเดินดู เติมอาหารเติมน้ำไว้ไม่ขาด แมวแปลกหน้ามาเรื่อย ๆ แวะเวียนมากินแล้วก็จากไป

เมื่อมันแน่ใจกันแล้ว ก็ยกโขยงกันมาเป็นเวลา มาอยู่ มานอนพักท้อง นอนกอดกันในโรงเตี๊ยมที่แม่เตรียมไว้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ตัวไหนสมัครใจจะอยู่ถาวรแม่ก็เต็มใจ แถมมีชื่อน่ารัก ๆ ทุกตัว เขาก็รู้ว่าเขาชื่ออะไร เวลาแม่เรียกเขาก็มาหา บางตัวขี้ประจบ หอมแก้มซ้าย หอมแก้มขวา คลอเคลียกันไปมา ให้อุ้มให้กอด แม่ทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่แมว บ้านมีชีวิตชีวาขึ้น แม่มีเพื่อนเป็นแมว แม้ไม่ได้พึ่งพาอะไรกันได้ แต่แมวให้ความสุขใจแก่แม่อย่างนี้ทุกเช้าเย็นและทุกวัน อยู่กันนานจนผูกพัน

เขาว่าแม่รักลูกก็อย่างหนึ่ง รักหลานก็อีกอย่างหนึ่ง รักลูกยังมีดุว่า ตักเตือนและสอน แต่รักหลานจะโอ๋ เอาใจ รักจนบางครั้งแปลกใจว่า นี่มันรักแบบพ่อแม่รังแกฉัน ตามใจและให้ท้ายจนเด็กเสียและร้องหายายได้ ความสงสัยนี้อยู่ในใจเพราะแม่รักแมวเหมือนรักหลาน ทุกอย่างดีไปหมด ถูกต้องไปทุกอย่าง ตามใจ เอาใจใส่ละเอียดถี่ถ้วน ชอบอะไร ไม่ชอบอะไรแม่ใส่ใจทุกกระเบียดนิ้ว

แมวก็แสนรู้ รู้ว่าแม่รักหัวปักหัวปำ แล้วก็ทำให้แม่ช้ำใจ บางทีก็พากันหายไป ไปเที่ยวไกล ๆ หลายวัน ความผูกพันมากขึ้น ๆ จากที่คิดว่ามันเป็นแมวจร มาให้ชื่นใจแล้วก็จากไป ไม่คิดอะไรมาก แค่ให้อาหารเท่านั้น ไม่ได้เบียดเบียนใจเท่าไร มันไม่เบียดเบียนจริง ๆ แต่มันอัดแน่นอยู่กลางใจแม่จนเต็มพื้นที่ แม่รักและห่วงแมวของแม่ทุกตัว หายหน้าก็บ่นถึง รอแล้วรอเล่า กังวลว่ามันไปไหน จะอยู่จะกินอย่างไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มันอยู่ที่ไหนบ้างแล้วไม่รู้

มาให้รักแล้วจากไปเฉย ๆ เนี่ยนะ มันใจหายรู้มั้ย แม่รำพึงรำพันผ่านไลน์ให้เราฟังเป็นประจำเมื่อแมวแม่หายไป

ครั้นพอจะทำใจได้ มันก็แห่ขบวนกลับมานอนหนุนตักยาย เนื้อตัวสะอาดเอี่ยมไม่มีร่องรอยการต่อสู้

แม่ก็เพียรถามไปไหนมา ยายคิดถึงรู้มั้ย อย่าไปไหนอีกนะ อยู่กับยายไปนาน ๆ ก็ได้ ไปเที่ยวไหนแล้วก็รู้จักกลับบ้านบ้าง ยายเป็นห่วงหนู ๆ นะลูก

แมวก็เหมือนรู้ รับปากกันพัลวัน เคล้าแข้งเลียขา นอนในที่ตักผงฝุ่น ช่วยยายกวาดบ้าน ถูบ้าน

แมวจรส่วนใหญ่ที่มา จะเป็นแมวตัวเมีย มาพร้อมลูกเล็ก ๆ ในท้องทีละสี่ห้าตัว บางชุดก็อยู่รอด บางชุดก็ป่วยตาย แต่ส่วนใหญ่จะรอด เติบโตและหายไป ฉันสงสัยเหมือนกันว่าแม่จำแมวได้อย่างไร และรู้ได้อย่างไรว่าตัวไหนเป็นพ่อของพวกมัน

แมวที่หล่อที่สุดจะมีสีดำลายเสือ ลำตัวใหญ่ แข็งแรง เป็นสาวก็หลงรักล่ะ มาดดี ท่วงท่าสง่างามมาก แม่จะบอกว่า ตัวนี้แหละที่จีบสาวเก่งและลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง สาว ๆ ของแม่ก็เสร็จเจ้าตัวนี้ทุกราย แม่พูดไปหัวเราะไป มีความสุขกับเจ้าตัวเล็กที่เกิดมาอีกครอกแล้วครอกเล่า

เราบอกแม่ว่า มันเยอะเกินไปแล้วนะ เราจะเลี้ยงแบบนี้ไม่ได้ เราต้องพามันไปทำหมัน ปล่อยแบบนี้เราก็ลำบาก ไปไหนไม่ได้เลย ไม่มีวันหยุด วันพัก วันพักร้อน แทนที่จะได้ไปไหนก็ต้องมาเฝ้าแมวชุดแล้วชุดเล่า ดูแลทุกยามแบบนี้ เราจะป่วยเอาได้ เฝ้าไข้มันทั้งวันทั้งคืนไม่ได้หรอก

แม่ก็เห็นดีเห็นงามด้วยทุกอย่าง พวกเราจะช่วยออกค่าทำหมันให้ แต่ต้องไหว้วานใครมาช่วยพามันไปหาหมอ นัดหมอไว้ จับมันใส่กรง อดอาหารและน้ำหลังเที่ยงคืนและพาไป

จนแล้วจนรอด ก็ไม่เคยได้ทำหมันให้แมวตัวไหนสักตัว วีรกรรมของแม่แมวก็มากขึ้น บางทีสามแม่ออกลูกสามครอก นับได้เกินสิบตัว ดูอากัปรกิริยาของสัตว์โลกตัวเล็ก ๆ ช่างน่ารัก นอนดูดนมแม่กันเป็นแถว บางแม่ก็ใจดำ ไม่ยอมให้ลูกขี้เหร่ดูดนม เจ้าตัวขี้เหร่ ผอมแห้งแรงน้อยก็ต้องไปหาแม่อื่น มีการผลักไสไล่ส่ง บางแม่ก็คาบลูกไปซ่อนยายให้หากันจ้าละหวั่น ไม่รู้เขาอยากเล่นซ่อนหากับยายหรือไร ยายก็ต้องสังเกตว่ามันจะเลี้ยวไปทางไหนและเป็นเอมิลยอดนักสืบคอยตามดู บางทีมันก็เล่นเจ้าล่อเอาเถิดกับยาย มันหลอกล่อให้ยายหลงกล ไม่ยอมให้ยายรู้ว่ามันซ่อนลูกไว้ที่ไหน

แม่เล่าให้ฟังว่า แม่ถึงขนาดอ้อนวอนนะว่าเดี๋ยวลูกแกจะตาย เอามาให้ยายเถอะ แม่อื่นก็มี จะพากันหนีไปไหน ไม่รักยายแล้วเหรอ สุดท้าย เพื่อนแม่ที่อยู่หลังบ้านแอบมาบอกว่า มันอยู่ในท่อระบายน้ำฝนบนหลังคาบ้านเขา ให้แม่ไปเอาที แม่ต้องปีนไปเก็บมา แต่ได้ไม่ครบเพราะบางตัวก็ตาย แม่มันใจดำไม่ให้ลูกกินนมอีกต่างหาก แม่ดุแม่แมวยกใหญ่ แต่มันทำหน้าเฉย ไม่รู้ไม่สนใจ กลับมานอนที่เดิม หน้ามึน ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน

แมวบางตัวคลอดลูกเองไม่ได้ แม่ต้องเป็นหมอตำแยช่วยแม่แมวดึงลูกออกมาอีกต่างหาก เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้อีก ทั้งที่เวลาแม่แมวเกิดนี่แทบไม่มีใครจะได้เห็น เธอจะหลบซ่อนและหาที่ที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อคลอดลูก แต่แมวจรบ้านแม่กลับมานอนในรั้วบ้านแม่และขอความเมตตาฝากตัวฝากลูกในท้องอีกต่างหาก

เรื่องราวเล็ก ๆ น้อยเหล่านี้ ฉันฟังมาเนิ่นนาน ฟังเป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งแม่มีไอแพด แม่ก็ส่งรูปแมวให้ดูวันละสองเวลาคือเวลาก่อนอาหารและหลังอาหารของแม่ ส่งรูปแมววันละแปดร้อยห้าสิบเจ็ดภาพพร้อมเรื่องเล่าประกอบภาพ แม่ส่งตั้งแต่แม่ลืมตาจนเที่ยงคืน ฉันมักมาเห็นข้อความที่ไม่ได้อ่านตอนเช้าเสมอ

การมีแมวทำให้เราได้รู้กิจวัตรของแม่ทุกวัน นอกจากถ่ายรูปแมวแล้ว แม่ยังถ่ายกับข้าวกับปลาที่แม่กินอีกด้วย เราติดต่อผ่านไลน์เสมอมา ได้แต่ขอบคุณโลกออนไลน์และเทคโนโลยีปัจจุบันที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น






2.


การที่แม่ได้อยู่กับสิ่งที่แม่รักนั้น นอกจากแม่มีความสุขแล้ว ลูกทุกคนยิ่งมีความสุข ปรารถนาให้แม่ได้อยู่ในที่ที่แม่รักและผูกพัน แมวมาเติมเต็มชีวิตแม่ได้ดีมาตลอด แม่ไม่เคยบ่นเหงา แม่ไม่ร้องไห้กับอะไรง่าย ๆ เรื่องที่ทำให้แม่ร้องไห้ได้นั้นมีอะไรบ้าง ฉันไม่เคยถามเลย แต่เท่าที่ผ่านมา ฉันไม่เคยเห็นแม่ร้องไห้ไม่ว่าจะเจอเรื่องคอขาดบาดตายหรือเข้าตาจนแค่ไหนก็ตาม แม่สามารถผ่านมันไปได้เสมอโดยทิ้งผลเป็นรูปธรรมให้เราเห็นมากกว่าบอกให้เรารู้ ใครจะเอาเปรียบแม่ แม่รู้แต่ก็ไม่เอาคืน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพราะแม่ไม่เคยคิดว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ คิดแต่ว่าเขาคงจนตรอกเหมือนกันที่ทำกับแม่แบบนั้น แม่ให้อภัยได้โดยไม่ได้พูดว่าให้อภัย

วันนี้ น้องสาวพาแม่ไปเดินห้าง ซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นและพาแม่กินของอร่อย และที่แม่ไม่เคยลืมซื้อเลยคืออาหารแมว มันหมดเร็วมากเพราะแม่เทเต็มจานทั่วบ้านจนสงสัยว่าแม่เทวันละกระสอบเลยหรือไง แต่แม่ก็บอกว่า เล็กน้อยมาก แม่ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นี้เพราะแม่กินน้อย เงินบำนาญที่เหลือก็แบ่งให้แมวกินได้ตลอดชีวิตแม่นั่นแหละ

แม่กับน้องสาวเข้าบ้านแล้ว เห็นจดหมายนอนรอในกล่องไปรษณีย์สีแดง !!!

ร้อยวันพันปีไม่เคยมีจดหมายมาบ้านเพราะช่วงหลังมานี้ เราต่างเลิกเขียนจดหมายกันแล้วหรือไร ไม่เคยเขียนจ่าหน้าซองส่งจดหมายจนไม่รู้แล้วว่าเดี๋ยวนี้เขาติดแสตมป์จดหมายกี่บาท

น้องสาวเขียนมาในไลน์ว่า มีเรื่องจะปรึกษา..

ฉันงงนิดหน่อย ยังแซวไปว่า ทำเหมือนมีเรื่องไม่ดี น้ำเสียงซีเรียสเลย จากนั้นเธอก็ส่งจดหมายที่ว่านี้มาให้อ่าน เนื้อความมีใจความสำคัญว่า

'...แมวของท่านนำความเดือดร้อนมาให้คนในหมู่บ้าน ถ้าท่านไม่กำจัดมัน เราจะรวมหัวกันกำจัดมันหรือรวมหัวกันขับไล่ท่านออกจากหมู่บ้าน หรือแจ้งไปทางราชการให้ลูกของท่านพักราชการเพื่อมาเลี้ยงแมวของท่านที่บ้าน...'

จดหมายนี้ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 แต่มาถึงมือเราวันที่ 11 ธันวาคม 2559

ใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร เท่ากับว่า ผู้เขียนบัตรสนเท่ห์นี้ รู้จักบ้านเราเป็นอย่างดี รู้ว่าน้องชายฉันรับราชการ จึงไม่แสดงตัวหรือลงลายเซ็นให้รู้ว่าเป็นเจ้าทุกข์ จดหมายนี้ไม่ได้ผ่านเทศบาลจึงไม่ใช่จดหมายของทางราชการแน่แม้ว่าหัวกระดาษเป็นรูปครุฑก็ตาม

เราไม่ได้เพิกเฉย อ่านแล้วรับรู้ได้ถึงความเกลียดชังอย่างแสนสาหัสที่แผ่คลุมไปทั้งจดหมาย อยากให้เราเจ็บใจ ขู่และคุกคามอย่างโจ่งแจ้ง แสดงความเกลียดชังแม่มากเหลือเกิน

ใช่นะ...แม่เป็นผู้หญิงแก่ ๆ ที่อยู่บ้านตามลำพัง ลูก ๆ ไม่ได้อยู่ด้วย แม่อยู่กับแมวยิปซีเร่ร่อน จำเป็นไหมที่ใครต้องเกรงใจแม่หรือเกรงใจใคร จำเป็นไหมที่เขาต้องเกรงใจข้าราชการตำรวจอย่างน้องชายของฉัน เขาเห็นทุกคนเทียวไปเทียวมาเยี่ยมแม่ ย่อมรู้ว่า แม่ไม่ได้เป็นหญิงชราที่ลูกทิ้งหรือไม่ได้เหลียวแล แต่เขาเกลียดแมวของแม่


แม่รู้ทันทีว่าใคร แต่ไม่คิดว่าจะต้องรุนแรงขนาดนี้ แมวมาหาจะไม่ให้เมตตาหรือไร มันมาแล้วก็ไป จะให้จับมันไปไว้ที่ไหน

แล้วเราก็ย้อนคิดกลับไปว่า สองครั้งหลังที่แมวแม่ตายเป็นครอกนั้น เป็นเพราะโดนวางยาจริง ๆ ตายจนฝังแทบไม่ทัน ครั้งนั้น เราเพียงคุยกันว่า เขาไม่เห็นหัวแม่เลย กล้าทำกับแมวที่แม่รักขนาดนี้ เรารู้สึกตรงกันว่า เราไม่มีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ เขาไม่ชอบแต่เขาไม่เลือกที่จะพูดกับเรา ทั้งที่เขาก็เคยเลี้ยงไก่ เหม็นขี้ไก่ สกปรกมากเช่นกัน

แต่แม่ไม่คิดว่าจะมีใครวางยาเพราะมันบาปและใจดำเกินไป

เราก็ได้แต่ปลอบใจแม่ว่า ไม่เป็นไร มันไปสบายกันแล้ว แม่ป้อนยามันจนตายคามือทุกตัว ป้อนทุกวัน ๆ ละหลายตัวจนแม่ไม่ได้กินและพักผ่อน เราเป็นห่วง กลัวแม่จะป่วย แต่แม่ก็ไม่เคยสนใจตัวเองเลย ออกบ้านไปหาซื้อยามาป้อนแมวตามที่ฉันจดชื่อยาไว้ให้ แม่เพียรช่วยชีวิตมันสุดความสามารถทุกตัวแต่ก็ยื้อไว้ไม่อยู่ จนเหลือแต่ตัวแม่ที่แข็งแรงอยู่ แม่ดูเฉาไปพักใหญ่ ๆ และอยู่กับแมวที่เหลืออยู่

แต่ต่อมาไม่นาน แม่ก็ส่งไลน์มาอีกพร้อมแมวอีกครอกใหญ่ ดูแม่มีชีวิตชีวาขึ้นอีกรอบ แม่กำลังตั้งชื่อให้ลูกแมวอย่างสนุกสนานและมีความสุขตามประสาเขา แต่คืนนี้จำต้องอยู่กับพวกมันเป็นคืนสุดท้าย เพราะต้องหาวิธีเอาแมวไปไว้ที่ไหนสักที่ ขืนปล่อยมันไว้ต่อไป มันจะโดนวางยาเบื่อและตายทั้งหมด เราเหมือนทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้

ข้อหนึ่งที่เราเคยกังวลมาตลอดคือ เราสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านโดยที่เราไม่รู้ตัว เรารักแมวจร การที่มันอยู่กับเรานั่นคือแมวของเราไปโดยปริยาย เมื่อมันมีปัญหา เราคือเจ้าของแมวและต้องรับผิดชอบ ปัดภาระให้ใครไม่ได้ เราเลี้ยงมัน เราก็คือเจ้าของมัน

การที่เราละเลยเรื่องการทำหมันให้พวกมัน ทำให้มันแพร่พันธุ์ไม่หยุดหย่อน จะอยู่จะตาย มันก็ท้องได้อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าและหอบมาให้แม่เลี้ยงครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะรู้ว่าบ้านนี้ไม่มีทางที่จะทำร้ายพวกมัน

แต่คืนนี้ แม่จำต้องจับพวกมันทุกตัวเข้ากรงและรอให้น้องชายพามันไปปล่อยวัด เพราะแมวแม่ที่น่ารักทั้งหลายนั้น ถึงเวลาจะฝากให้เพื่อนคนไหนที่ชอบพอกันไปเลี้ยงนั้น ไม่มีใครต้องการหรอก เลี้ยงแมวไม่ใช่เรื่องง่าย เพื่อน ๆ แม่เขาใช้ชีวิตบั้นปลายเกษียณไม่เหมือนแม่ ลูกเขามีครอบครัวกันหมดแล้ว ลูกหลานก็แค่แวะมาเยี่ยมเยียนไม่ได้เป็นภาระอะไร เขาไปไหนมาไหนสะดวกโดยไม่ต้องมีภาระกับสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ในบ้านไม่ว่าจะสองขาหรือสี่ขา

มันเป็นเรื่องที่บั่นทอนและเศร้าใจมาก มือที่เคยโอบอุ้มมันทุกตัว ตั้งชื่อให้มันรู้จักตัวเอง มือที่คอยให้ข้าวให้น้ำ ทะนุถนอมเวลามันเจ็บไข้ได้ป่วย มือแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจและโอบอ้อมอารีทุกเวลา วันนี้กลับตาลปัตรเพราะเป็นมือที่จะต้องนำมันไปปล่อยให้อยู่กันเองตามป่าตามเขา หลีกลี้หนีภัยจากแมวเจ้าถิ่นและหมาวัดที่ไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัว ทุกตัวก็หวังพึ่งข้าวก้นบาตรของหลวงตาทั้งนั้น แล้วแมวที่เคยกินอิ่มนอนอุ่นเหล่านี้จะเอาตัวรอดอย่างไร อากาศหนาวแสนหนาว ลังนอนของยายก็ไม่มีอีกแล้ว แค่หลับตานึกก็น้ำตาร่วง แล้วแม่จะรู้สึกขนาดไหน หลับตานึกก็รู้สึก เวทนาใจแม่มาก

น้องสาวไลน์บอกมาว่า แม่สะอึกสะอื้น ร้องไห้หนัก กอดแมวแต่ละตัว ร้องไห้คร่ำครวญกับแมว เป็นภาพที่น่าเวทนามาก ได้แต่ถามกันในใจว่า แค่ความสะใจเท่านั้นจริง ๆ ทีได้ทำอะไรแบบนี้กับเรา

พยายามหาข้อแก้ต่างให้เขา เราชอบแมว แต่เราไม่ชอบกลิ่นอึและฉี่ของมัน กลิ่นของมันไม่พึงประสงค์ ทำไมเขาต้องชอบแมวเหมือนแม่ด้วย ทำไมเขาต้องทนกลิ่นฉี่ของมัน ทำไมเขาต้องรับรู้การแสดงออกซึ่งรักใคร่ของคนกับสัตว์ ทำไมเขาต้องอยู่กับเพื่อนบ้านที่เมตตาสัตว์โลกอย่างแม่ ทำไมและทำไม ???

ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ไม่มีเหตุผลมารับรองให้มันหนักแน่นมากไปกว่านี้ ไม่รู้ว่าเขาไม่ชอบคนหรือไม่ชอบแมวกว่ากัน การไม่ชอบหรือเกลียดใครนั้น มันสร้างความทุกข์ใจให้ตัวเขาเองไม่น้อย ยิ่งเกลียดคนอื่นมากเท่าไหร่ มันยิ่งเผาใจให้ร้อนรนมากขึ้นเท่านั้น เราทรมานใจเขามานาน เราเบียดเบียนใจเขามานาน เราเป็นคนสร้างความเกลียดชังขึ้นในใจเขา เราเป็นคนผิด...

ผิดที่พร่ำพูดและสอนลูกเสมอว่า อย่าเบียดเบียนใคร แต่ตอนนี้ บ้านเราไปเบียดเบียนเขาเพราะเลี้ยงแมวจร

สงสารใจแม่จริง ๆ ตอนนี้

แม่ยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น และต้องตัดใจมากที่ต้องทำร้ายจิตใจตัวเอง โทษตัวเองที่เป็นคนใจร้าย มือที่อุ้มชูแมวทุกตัวมากลับกลายเป็นมืออำมหิต รู้ทั้งรู้ว่าจับมันครั้งนี้แล้วจะไม่ได้เจอมันอีกแล้วก็ตาม

เราก็ได้แต่ปลอบใจว่า ปล่อยพวกมันไว้ ก็ตายทั้งหมด เอาไปไว้วัดก็เหมือนให้มันวิ่งหนีกระสุนข้างหลัง อย่างน้อยก็ต้องมีตัวรอดและมันต้องใช้สัญขาติญาณการมีชีวิตอยู่ตามธรรมชาติของมัน อย่างน้อยแมวก็คือเสือน้อยตัวหนึ่ง ภาวนาให้มันอยู่รอดปลอดภัยก่อนดีไหม เขาใจร้าย เขาเตือนเราหลายครั้งด้วยการวางยาเบื่อมันมาแล้ว

ตอนนี้ก็จะมาดูข้อกฎหมายว่า เขาสามารถทำอะไรกับเพื่อนบ้านได้แค่ไหน เราโทษเขาไม่ได้นอกจากสงสัยทั้งที่มันชัดเจนเพราะจดหมายไม่ได้ลงชื่อเป็นหลักฐาน แต่ก็วางไปก่อน จัดการปัญหาเฉพาะหน้าก่อน เพราะใจแม่จะขาดรอน ๆ อยู่แล้ว
















3.



ความโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อลูกน้องของน้องชายมาช่วยจับแมวไปปล่อยวัด บุรุษนอกราชการห้าคนทำตัวราวหนาวยคอมมอนโดบุกจับแมวเข้ากรง เป็นภาพที่วุ่นวายที่สุดพร้อมทั้งเสียงสะอึกสะอื้นร่ำไห้ของแม่ที่คอยเรียกแมวของแม่ ปละคอยปลอบใจทั้งน้ำตา อย่ากลัวนะลูก จะไปอยู่กับหลวงตาแล้วเดี๋ยวยายจะไปเยี่ยมหา แม่ร้องไห้ พร่ำรำพันไม่หยุด น้องสาวถ่ายรูปแม่ตอนปล่อยมือจากกรงแมวครั้งสุดท้าย ร้องไห้จนตัวโยน ตัวเธอเองก็ร้องไห้จนไม่รู้ว่าใครจะปลอบใครกันดี

เป็นเรื่องที่ต้องทำใจและต้องใช้เวลาพอสมควร คนอื่นก็ช่วยไม่ได้ เศร้าสุดใจ

เราอยากจะบรรเทาความเกลียดชังของเขาด้วยการหลบเลี่ยงไม่ให้เขาต้องเผชิญหรือต้องทำบาปมากขึ้น แต่เราก็ทำบาปมากเหมือนกัน เลี้ยงจนเป็นแมวบ้าน มีเจ้าของ มีที่นอนดี อบอุ่นใจไม่ต้องหวาดระแวงใคร มือนุ่ม ๆ อุ่น ๆ คอยระวังภัยและหาให้กินจนอิ่มท้องทุกมื้อทุกเมื่อเชื่อวัน

แต่วันนี้มือนี้กลับเป็นมือใจร้ายที่จับพวกเขาเข้ากรงและต้องไปปล่อยให้ต่อสู้กันเองตามยถากรรม เผชิญร้อน เผชิญหนาวและสัตว์ที่ใหญ่กว่า มันจะอยู่กันยังไง ขณะที่นึกถึงพวกมัน ฉันซุกร่างใต้เสื้ออุ่น ห่มผ้านวมนอนอุ่นบนเตียง กันลม กันสิ่งรบกวนจากภายนอก แต่ภายในใจร้อนรนเหมือนโดนไฟเผา บางคราวก็หนาวยะเยือกเพราะร่วมหัวกันเร่งแม่จัดการเก็บแมวให้ครบและไปปล่อยให้หมดทุกตัว

ฉันไม่ห่วงพวกมันเลยหรือ ฉันใจไม้ไส้ระกำเหมือนแม่บอกหรือที่เร่งแม่และคอยบอกแม่ว่า อย่าเอาไว้ บ้านเราไม่เหมาะจะเลี้ยงแมว มันรบกวนข้างบ้านมานาน ก่อนจะเกิดเหตุการส่งจดหมายแบบนี้ เขาคงคิดแล้วว่า พูดกับเราก็คงไม่จัดการจริงจัง ตอนนี้มันเกินการเจรจากันดี ๆ เขาต้องใช้ความรุนแรงเข้ามา มันสะเทือนใจมาก เขาเขียนก็ต้องการข่มขู่ คุกคาม ปรามาสและกดดันจนอยากจะขับไล่จริงจังทั้งที่ไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้น แต่หากใครมาดูสภาพหมู่บ้าน ก็จะเอนเอียงไปทางเกลียดแมวได้หมด เราเลี้ยงในที่ไม่เหมาะสมเพราะมันเกินกว่าจะรับไว้และไม่ดูแลเรื่องการทำหมัน ควบคุมประชากรพวกมัน

ฟังดูเหมือนดีนะที่เราไม่เก็บมันไว้ในบ้าน หิวมากิน นอนหลับได้และไปเที่ยวไหนก็ได้ ทุกตัวเป็นอิสระ มันก็คิดแบบนั้น นี่คือโรงเตี๊ยมที่ให้ที่พักที่กินโดยไม่ต้องจ่ายค่าที่พักและอาหาร มันถือเป็นที่อยู่ที่ตาย มันป้วนเปี้ยนไปมาจนเราหลงรักหลงลืมใครต่อใครในโลกและเป็นเจ้าของมันโดยไม่รู้ตัว เราหลงรักและรักมันแบบเป็นเจ้าเข้าเจ้าของไปโดยปริยาย แต่เราต้องไม่ลืมว่า เราต้องรับผิดชอบหากมันรบกวนผู้อื่น เราจะบอกว่ามันเป็นแมวจรแบบเดิมไม่ได้ ชื่อเสียงเรียงนามที่เราเรียกมันอจานเอย ชามเอย กาละมังเอย และจานที่วางรอบบ้านข้างรั้ว เทอาหารสำหรับแมวจรทุกตัวนี่ เท่ากับเป็นการผูกมัดเราไปในตัวว่าเป็นแมวเรา เพียงแต่เราไม่กักมันไว้ในบ้านเท่านั้นเอง

มันผิดที่บ้านเราเล็ก ไม่มีบริเวณที่จะโอบอุ้มพวกมันทุกตัวได้ พอถึงวันนี้ ต้องจับไปปล่อยเป็นทุกขเวทนาเราซึ่งเป็นเจ้าของมันมานานนับสิบปี

เมื่อเกิดขึ้นแบบนี้แล้ว เราจะทำอย่างไร ปล่อยแมววันนั้น มันคงขวัญหนีดีฝ่อ กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง แม่ก็เศร้าโศก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ บางคืนก็หลับไปทั้งเสียงสะอื้น น้ำตาคลออยู่อย่างนั้น ตื่นเช้ามาก็ร้องไห้ หยิบจับข้าวของตรงไหนก็ร้องไห้ น้องสาวเล่าให้ฟังตลอดว่าแม่ดูเหงาหงอย กลัวจะล้มป่วยเพราะใจล้มละลายไปตั้งแต่เมื่อวาน แล้วที่เหลือให้ดูต่างหน้านั้นคือลูกแมวน้อยหนึ่งตัว และตัวที่เป็นแมวเด็กแต่ขี้ตาเขรอะอีกหนึ่งตัว เจ้าขี้ตาเขรอะก็หวาดระแวงแม่ ไม่เข้าใกล้แต่ไม่ไปไหน แม่ก็ตีอกชกตัวว่า แมวมันเกลียดแม่ กลัวจนไม่ให้เข้าใกล้ เรียกหามาก็ไม่มาเหมือนเดิม

ส่วนเจ้าตัวเล็กก็นั่งหงอย แล้วแม่ก็พร่ำรำพันซ้ำ ๆ ว่า ยายทำบาป พรากลูกพรากแม่หนู ยายทำบาป ยายรู้ มาให้ยายกอดหน่อย แล้วก็กอดแมวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ร้องไห้เหมือนฝนหลงฤดูที่รุดจู่โจมเป็นน้ำป่าบ่าไหลในเดือนธันวา วิปโยคโศกนาฏกรรมที่สะท้อนสะเทือนมายังลูกทุกคน

แต่ข้างบ้านเงียบ(บอใบไม้ห้าสิบสามตัว) เงียบเพราะสะใจหรือสบายใจที่จัดการสำเร็จอย่างง่ายดาย ฉันนึกในใจว่า เขาจะรู้สึกแตกต่างจากที่เราคิดได้บ้างไหมหรือคอยแอบดูว่า เราจะจัดการสองตัวที่หลุดรอดจากกรงกันอย่างไร

นี่เป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่เราบอกให้แม่ต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่ เราเลี้ยงสัตว์แบบบ้านเมตตาไม่ได้ บ้านเราไม่มีบริเวณ

แม่บอกว่า อย่ากลัวว่าใครจะมาขับไล่ การอยู่ข้างบ้านกับคนใจดำนั่น ใครก็สุดทนเหมือนกัน

แต่เราทำไม่ถูกนะ เราทำให้คนอื่นเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว บ้านเล็ก ๆ ไม่ใช่สถานที่รับเลี้ยงดูสัตว์ ไหนจะมาจับคู่ขู่ฟอด ๆ วิ่งไล่กันบนหลังคานั่นอีก หากมันไม่สิงสถิตบ้านเรา เราก็ไม่คิดมาก แต่หากเราจะเลี้ยงก็ต้องคุมกำเนิดตัวเมียซึ่งเราก็ควรเลี้ยงไม่เกินสามตัว

หากเราดื้อดึงจะเลี้ยงอีก แมวแม่ก็จะหอบลูกมาทิ้งไว้ที่บ้านอีก วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่จบสิ้น ความรุนแรงก็จะเกิดขึ้นตามลำดับ ชีวิตบั้นปลายที่ควรจะมีความสุขตามอัตภาพกลับกลายมาต้องทะเลาะกับเพื่อนบ้าน มันสิ้นเปลืองพลังงานและทิ้งความสุขบั้นปลายไปอย่างน่าเสียดาย

เราชวนแม่มาอยู่บ้านเรานับครั้งไม่ถ้วน ขณะที่แม่เลือกได้ แม่ไม่เลือกเพราะชอบชีวิตที่อยู่คนเดียว อยากทำอะไรก็ได้ เขาคุ้นเคยกับที่อยู่และเพื่อนฝูงของเขา มาบ้านฉันเหมือนตัดจากท่องเที่ยวกับเพื่อนฝูงยกเว้นท่องอินเทอร์เน็ตส่งไลน์เท่านั้น แม่จะเฉากว่าการผจญภัยกับเพื่อนบ้านแบบนี้

เหตุการณ์ยังดำเนินไปแบบอึมครึม หาทางออกไม่ได้
แม่จะไม่ไปไหนและยังมีแมวในครอบครองอีกสองตัว
ฉันรำพึงรำพันว่า ความเมตตาของแม่ไม่ได้เป็นเกราะป้องกันแม่จากคนนอกเลย
แต่ฉันก็ทำใจไม่ได้หรอกถ้าแม่ฉันเป็นคนใจดำ ไม่ดูดำดูดีสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่หลงทาง











ภูพเยีย
12 ธันวาคม 2559












Create Date : 15 ธันวาคม 2559
Last Update : 15 ธันวาคม 2559 11:56:53 น.
Counter : 783 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com