|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สุริยาแห่งหทัย ตอนที่ 02
คุยกันก่อนอัพ
ระยะสามวันดีสี่วันไข้ค่ะ T^T ช่วงนี้พยายามพักผ่อนให้มากขึ้น แต่พอนึกถึงเวลาที่หายไปเกือบครึ่งปีมันก็อดพะวงกับตารางต่างๆที่กะเอาไว้ไม่ได้
ชีวิตที่เร่งรีบนี่ไม่ดีเลยนะคะ มันทำให้เราเครียดได้แม้ว่าจะไม่ตั้งใจ
การเรียนรู้เพื่อที่จะผ่อนคลายในหลายหนมันยากเสียยิ่งกว่าทำอะไรให้จบๆลงเสียอีก
ปล่อยชีวิตให้ราบเรียบลงบ้างน่าจะดีค่ะ จะเร็วจะช้าถ้ายังมีความสุขอยู่บ้างก็ โอ.เค. ^ ^
Ploy666.
**************
สุริยาแห่งหทัย ตอนที่ ๐๒
ผู้แต่ง Ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)
คนปากคอร้ายกาจ...หากแต่...มิใช่ชั่วร้าย...
อสิตาง่วนอยู่กับการเลือกสรรกลีบดอกไม้หอมเบื้องหน้าร้อยลงกับเข็ม ความร้อนรุ่มอย่างขัดใจแปลกๆค่อยคลายเป็นความระรื่นเยือกเย็น มยุราซึ่งเพิ่งเสร็จจากงานเดินผ่านประตูห้องพักซึ่งเปิดกว้างไว้รับลมเย็น ลิ่วตรงมานั่งเคียงกันบนเตียงไม้ซึ่งประกอบด้วยเครื่องนอนแต่ถูกแปรสภาพกลายเป็นที่นั่งกรองมาลัยชั่วคราว สีหน้าของนางกำนัลผู้เข้ามาใหม่ดูตื่นเต้น
มีคนเอามาลือกันว่าเห็นเจ้าเดินเล่นกับทหารรูปงามอยู่ในอุทยาน แต่ไกลเกินกว่าจะเห็นหน้าเขาได้ถนัด จริงเท็จยังไงกันอสิตา
เข็มร้อยมาลัยแฉลบจนคนถูกถามสะดุ้งหันขวับมาจ้องตาค้างโดยพลัน
ใครเห็น!
...ก็ว่า ดูซ้ายดูขวาดีแล้วนะนี่...
สินี คนเฉลยยิ้มแป้น ดึงเอาเข็มร้อยมาลัยออกจากมืออีกฝ่ายเพื่อดึงเข้าสู่การสนทนาจริงจังขึ้น นางเห็นตอนผ่านไปธุระแถวนั้นแต่กำลังรีบเลยไม่ทันเข้าไปดูให้รู้แน่ว่าเจ้าอยู่กับบุรุษผู้ใด เดาว่าหนุ่มๆในวังก็มีแต่ทหารยาม
ข้าหารู้ไม่ว่าเขาเป็นใคร คงเป็นพวกทหารเข้าวังมาใหม่ยังไม่เห็นสวมเครื่องแบบ เขาช่วยข้าเก็บดอกไม้เพราะเห็นบ่ายคล้อยเต็มที
อสิตาละประเด็นที่นางนอนเล่นจนเป็นที่ขัดตาเขาเข้าแลโดนเอ็ดมากลายๆ
นางไม่ชินกับการถูกชายแปลกหน้าแตะเนื้อต้องตัว แต่ทว่ากลับกรณีชายหนุ่มผู้นี้นางกลับรู้สึกได้ถึงนิสัยอันสมควรแก่การเว้นกติกานั้นไว้
มีบางอย่าง คู่ควร ต่อการไว้วางใจ
บางสิ่งที่ประดุจม่านบางๆคลี่กระจายรอบกายเขา ชวนให้นางสัมผัสได้ค่อนข้างชัดเจน...
มีเพื่อนใหม่บ้างจะเป็นไร ใครกำหนดว่าเพื่อนใหม่ต้องมีแต่สตรีเท่านั้นเล่า อสิตาหาข้ออ้างโมเม
เมื่อนึกถึงคนที่ถูกเหมาเอาดื้อๆว่าเป็นสหายใหม่ คงไม่รู้สึกยินดีแน่กับสถานะนั้น นางก็ได้แต่อมยิ้ม
มยุราหรี่ตาลงอย่างเท่าทันด้วยวัยไล่เลี่ยกัน
นั่นแน่ อสิตา เจ้ายิ้มแบบนี้ข้าว่าต้องมีอะไรมากกว่าที่เพิ่งบอกมาแน่แท้เชียว
หาได้มีไม่! อสิตาปฏิเสธแบบไม่หยุดคิด
เจ้าพูดถึงเขาแล้วยิ้มด้วยเหตุใดเล่า
คนเจ้าคารมตาพราวสดใสนัก
ข้าแค่ขำที่ผู้ชายตัวโตช่วยเก็บดอกไม้แบบมือเบา เจ้าดูนี่สิมยุรา ดอกไม้ในตะกร้าข้าเหล่านี้แทบมิได้ช้ำเลย
ส่วนที่ช้ำนั่นน่ะ ฝีมือนางเองล้วนๆ
เพราะปกติอสิตาใจร้อนขณะทำงานเป็นทุนเดิมที่ติดตัวมา
มือ ซึ่งช่วยยื่นไปเด็ดดอกไม้จากกิ่งสูงลงสู่ตะกร้าให้ เป็น มือ เดียวที่นางมองเห็นความเอาใจใส่ต่อดอกไม้แลสิ่งรอบกายมากกว่าใครทั้งนั้น
เขาทำให้นางอุ่นในหัวใจ
อสิตามิต้องยกมือแนบอกบัดนี้ก็ราวกับจะระลึกรู้ สิ่งที่อยู่ลึกลงไปราวกับมีดวงสุรีย์ดวงใหม่ส่องแสงสว่างกระจ่างเจิดจ้าอ่อนหวานนัก ใบหน้าเข้มขรึมคมคายของคนซึ่งนางลอบมองด้วยหางตาบ่อยหนเมื่อบ่ายที่ผ่านมา ตรึงสู่ดวงตาของนาง
อสิตารู้ดีว่าตนควรเป็นผู้ซื่อตรงต่อใจ!
ข้าชอบเขา แต่ข้าหาได้รู้ชื่อของเขาไม่
อสิตา! ช่างบอกข้าออกมาได้ นี่เจ้ารู้ตัวไหมว่าเอ่ยวาจาเยี่ยงไร มยุราหัวเราะออกมาแม้จะขบขันแต่ก็ระคนไปกับความตกใจ
คนถูกถามกล่าววาจาอ่อนหวานโต้ตอบทันควัน
ข้าแค่ถูกใจชายแปลกหน้าเท่านั้น หาได้ทำผิดกฎระเบียบใดๆนี่นา
เจ้าชักจะร้ายขึ้นทุกวัน
เพื่อนสนิทใช้ปลายนิ้วจิ้มจมูกโด่งแหลมเล็กของอสิตาอย่างหมั่นไส้
อสิตาเอนกายหนีจากการเย้าแหย่แต่เพียงเท่านั้น สายตาของนางมุ่งมั่นจริงจังผิดแปลกกว่าทุกวัน
อย่างไรเสียการได้เข้าเฝ้าองค์หริทัศว์ต้องมาเป็นอันดับแรก เรื่องในวันนี้อีกหน่อยข้าคงลืมไปเอง
ใช่ว่าคนเราจะมีโอกาสประสบพบหน้ากันบ่อยเท่าที่ใจอยากให้เป็น...
อารมณ์ระรื่นกลายเป็นความใจหายหดหู่ แต่เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างยังคงเห็นท้องนภาพร่างด้วยแดดยามเย็นสีแดงก่ำที่ส่องลอดเมฆาสีขาวสร้างพิภพให้สดใส อสิตาจึงปัดความเสียดายนั้นออกพ้นความคิดคำนึงไป
หน้าที่ควรมาก่อนใช่หรือไม่
เรื่องอื่นๆที่อาจไขว้เขวไปบ้างหากมิใช่ผลดีต่อใคร นางยังรู้จักสะกดใจตนเองแม้จะหวั่นไหวกับการตัดสินใจนั้นเต็มที
อสิตาบอกตัวเองเป็นครั้งที่สามร้อยว่านางแยกแยะได้ กระนั้นอีกสองวันถัดมาบ่ายที่ว่างนางยังมีแก่ใจย่องแยกจากเพื่อนเจียดเวลาพัก หิ้วตะกร้าบรรจุมาลัยซึ่งร้อยเองกลับมายังอุทยาน ความหวังวูบลับชะงัดนักเมื่อพื้นที่โอบล้อมด้วยร่มไม้แลพุ่มกุสุมามิได้ปรากฏเงาร่างผู้ใด
วันนี้สุริยาทิตย์ราวกับจะดับแสงลง ณ ใจนางนั้น...
เสียงสนทนาของคนกลุ่มใหญ่ซึ่งนางได้สดับทำให้อสิตาหันรีหันขวางอย่างตกใจ บุรุษกลุ่มใหญ่โผล่พ้นกำแพงพุ่มพฤกษ์ที่ตัดแต่งกิ่งใบเอาไว้หนาตาค่อนข้างกะทันหัน
นั่นใครขวางทางเสด็จเจ้าชายฉัตริน! เสียงตวาดจากนายทหารราชองครักษ์ผู้กรูกันเข้ามาหาดังลั่น
อสิตาทรุดลงคุกเข่ายังพื้นหญ้าอย่างหมดข้อกังขาในกลุ่มผู้มาใหม่นี้
สายตาของนางจรดต่ำลง ขณะที่คมศาสตราวุธแตะลงยังคอด้านข้างทันที ความเย็นยะเยือกของปลายหอกด้ามยาวนี้ทำให้ความทรงจำเมื่อค่ำคืนหนึ่งหวนกลับมาจนใจสั่นรัวด้วยความกลัวอย่างฉับพลัน
ไม่เป็นไร...ปล่อยนางเถิด คงเป็นนางกำนัลที่มาเก็บดอกไม้ละแวกนี้
อสิตาได้ยินพระสุรเสียงอ่อนโยนเจือกระแสสรวลด้วยซ้ำ
นางลืมตัวเงยขึ้นสบพระเนตรบุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังทอดตรงมา
ยังทรงหนุ่มฉกรรจ์...แต่ชันษาเจ้าชายพระอนุชาแห่งชญบดีก็ยี่สิบห้า มากพอที่จะทำให้นางกำนัลใหม่อย่างอสิตาระลึกได้ว่าตัวเองในวัยสิบแปดปีช่างดูไร้เดียงสาราวดรุณีแรกรุ่นขาดความน่าเชื่อถือสำหรับทุกคำแก้ตัวที่มาเดินเที่ยวท่องในเขตอุทยานหลวงแบบนี้
ฉัตรินทรงทำราวกับว่าสตรีซึ่งกำลังคุกเข่าเบื้องพระพักตร์นั้นคุ้นเคยยิ่ง
เจ้าชายพระอนุชาแห่งชญบดีปัดหอกออกพ้นจากนางแทนบัญชาระงับโทษทัณฑ์ของการขวางทางเสด็จแบบไม่ตั้งใจ พระฉวีค่อนข้างขาว วรกายสูงโปร่งอยู่ในฉลองพระองค์สีเขียวเข้ม พระแสงดาบยังอยู่ในฝักประดับมรกตฝังเพชรเม็ดเล็กเรียงราย...เครื่องหมายบอกพระอิสริยยศอันสำคัญแห่งราชวงศ์อันทรงศักดาซึ่งได้รับการพระราชทานให้จากพระราชบิดาผู้เป็นกษัตริย์องค์ก่อนแห่งชญบดี
บัดนี้พระเชษฐาขึ้นครองราชย์ได้หลายปีมาแล้ว หากองค์หริทัศว์ราชันเป็นเกศแก้วซึ่งปวงชนเทิดไท้ องค์ฉัตริน...พระอนุชาก็ถูกลือขานไปไกล ด้วยพระอัจฉริยภาพอีกหลายด้านอันมิได้ด้อยไปกว่ากัน
บัดนี้อสิตาได้ทัศนาหนึ่งในเชื้อพระวงศ์พระองค์สำคัญของแคว้นชญบดีแล้วในระยะประชิดด้วยสายตาของนางเอง!
เจ้า...ลุกขึ้นสิ
ขอบพระทัยเพคะ อสิตาพยายามลุกแต่เพราะความกลัวที่แล่นปราดจับเมื่อครู่ทำให้เข่าอ่อนลงไปอีกครั้ง
พระหัตถ์อีกฝ่ายรั้งต้นแขนนางไว้ ฉัตรินทรงขยับมาประชิดทันควัน
ระวังหน่อย สายพระเนตรที่อยู่ใกล้นั้นทอแววขบขันจากพระทัย
ความใกล้ชิดอันเป็นไปโดยธรรมชาตินั้นทำให้ชายสูงวัยซึ่งติดตามมาในขบวนส่งเสียงกระแอมออกมา อสิตาทรงตัวได้จึงถอยห่าง นางย่อตัวอีกครั้งถวายบังคมก่อนยิ้มนิดๆ ตาเบิกกว้างติดจะตื่นๆด้วยซ้ำ
ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันมาหาดอกไม้ไปร้อยมาลัย ไม่ทันคิดว่าแถวนี้จะมีผู้ใดใช้ทาง
ฝ่าบาท...เสด็จต่อเถิดพระเจ้าค่ะ
จะรีบไปไหนกันท่านรณชิต แค่งานปรับปรุงอุทยานเล็กน้อย เจ้าพี่หริทัศว์ไม่ได้คาดโทษใครเอาไว้ อันที่จริงให้เสนาบดีวังอย่างท่านรับไปเองเลยก็ไม่เห็นจะเป็นไร ฉัตรินทรงแสดงพระอาการมิสู้ใส่พระทัยในราชกิจซึ่งได้รับมอบหมายมา มากไปกว่าการสนทนากับนางกำนัลหน้าใสชวนเอ็นดูนางเดียวซึ่งบังเอิญได้พบพาน
เสนาบดีวังจึงได้แต่ฝืนยิ้ม ถอยห่างออกมา
มาลัยดอกไม้ของอสิตากลายเป็นของที่สายพระเนตรเจ้าชายฉัตรินจับนิ่ง
เจ้าร้อยเองรึ...ชื่ออะไรกัน
หม่อมฉันชื่อ...อสิตา เพคะ คนตอบเองละม้ายยังงงๆ
คราวนี้ฉัตรินซึ่งทรงยืนอยู่ใกล้ สรวลเต็มสุรเสียงได้ยินกังวานไกล
ข้าถามชื่อดอกไม้ ไม่ได้ถามชื่อเจ้า
อ้าว หม่อมฉันไม่รู้นี่เพคะ... คนซึ่งปกติช่างจำนรรจาอุทานออกมาเสียอย่างนั้น ก่อนแก้เก้อด้วยการยิ้มกว้าง ส่งให้ดวงหน้าโสภายิ่งจับตาคนกำลังทอดพระเนตรมายังนางอย่างพึงพระทัยลึกๆในที
ไม่รู้ว่าข้าถามเรื่องใด หรือไม่รู้ว่าดอกไม้นั่นชื่อว่าอะไรกัน
นางสารภาพตามจริงเมื่อเริ่มตั้งหลักได้ ทั้งสองประการเพคะ คงต้องขอประทานอภัยอีกที
บุรุษผู้ครองพระยศเป็นรองเพียงกษัตราธิราชเจ้าทรงคว้ามาลัยในตะกร้าไปถือด้วยพระอากัปกิริยาผ่อนคลายยิ่ง
ถ้าเช่นนั้นมาลัยนี่ ข้าขอ
แต่ว่า... มือนางทำเหมือนจะขยับตามมาลัยพวงนั้นแล้วก็ชะงักเมื่อนึกถึงฐานะอีกฝ่าย
ฉัตรินทรงสังเกตทัน เนตรหรี่ลงอย่างทรงครึ้มพระทัยรับสั่งถามทันที
มาลัยนี้มีเจ้าของแล้วรึ
...เจ้าของที่ไม่อยู่ที่นี่น่ะหรือ...
อสิตาอยากจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกไปดัง ตัดใจทูลไปว่า
ถือว่าหม่อมฉันถวายเป็นการไถ่โทษเถิดเพคะ
ตกลงตามนั้น ทรงรับคำง่ายๆตามพระอุปนิสัยที่มี ขอบใจนะอสิตา นับแต่นี้ข้าจะจำชื่อเจ้าเอาไว้ด้วยเช่นกัน
หม่อมฉันเป็นเพียงนางกำนัลหาได้มีความสำคัญอันใด
แถวนี้มี คนสำคัญ เยอะเกินไป รับสั่งมีนัย
อสิตาเผลอมองไปทางเสนาบดีวังที่กำลังทำหน้ายุ่ง ร่างผอมสูงของชายวัยหกสิบสี่อยู่ในเสื้อผ้าเนื้อดี ศีรษะซึ่งล้านเลี่ยนไปครึ่งไม่ได้ลดความภูมิฐาน ทว่าท่าทางลำบากใจราวกับต้องตัดสินใจเรื่อง พระสหาย แทนฉัตรินเสียเองอสิตาก็เริ่มเข้าใจได้ว่าพระอนุชากำลังแกล้งเหน็บชายสูงวัยเล่น อาจจะเขม่นกันมาก่อนหน้านี้
นางหลุดเสียงหัวเราะออกมา พาเอาฉัตรินเองทรงแย้มโอษฐ์ละไมเฉกกัน...
ท่านลุงของหม่อมฉันก็เป็นคนสำคัญนะเพคะ ท่านเป็นเสนาบดีการต่างประเทศ
เจ้าเป็นหลานท่านเมธางั้นหรือ ดีจริง รับสั่งแสดงความประหลาดใจทว่าท้ายๆคล้ายจะทรงยอมรับผู้ที่กำลังเอ่ยถึงอยู่พอสมควรตามฐานะอีกฝ่ายซึ่งถูกแต่งตั้งมา
อสิตาน้อมรับอย่างเต็มความภูมิใจ แคว้นชญบดีเลือกเสนาบดีการต่างประเทศหาผิดคนไม่
เจ้าเองก็น่าสนใจ
ฉัตรินยอมรับกับพระองค์เองว่าน้อยครั้งนักที่จะเจอสตรีผู้สนทนากับพระองค์ได้อย่างไม่น่ารำคาญพระทัย จังหวะการพูดจาของอสิตาแม้นว่าแรกนั้นนางดูตกอกตกใจอยู่บ้าง ครั้นตั้งตัวได้นางก็เจรจาฉะฉานอย่างมั่นใจในตัวเองเห็นได้ชัด โดยปกติเหล่านางกำนัลหรือสตรีอื่นซึ่งทรงได้พบมามีแต่มักถูกสอนให้หลบสายพระเนตรบ้าง หรือไม่ก็ติดเขินอายดั่งธรรมชาติสตรีเมื่อพบบุรุษซึ่งทรงศักดิ์แลสง่างาม ไม่เป็นอันคุยกันรู้เรื่องแทบทุกคนจนเจ้าชายพระอนุชาแห่งชญบดีทรงทอดพระเนตรผ่านๆเจรจากับนางเหล่านั้นพอให้พ้นกันไป
ด้วยลักษณาการนี้เจ้าชายพระอนุชาจึงทรงมีพระปฏิสันถารสั้นๆ
ข้าถูกใจเจ้า แหวนวงนี้แทนรางวัลจงรับเอาไปสิ
ดวงตาวาววับกอปรไปด้วยน้ำหล่อเลี้ยงของแทบนางสะท้อนบนพระธำมรงค์ประดับเพชรซึ่งฉัตรินถอดจากพระกนิษฐายื่นประทาน
จะดีหรือเพคะ... อสิตาลังเล
มิใช่เพราะเพชรงาม ทว่าสิ่งที่กำลังจะรับคือน้ำพระทัย
อีกฝ่ายรับสั่งหนักแน่น รับไปอสิตา ค่าแห่งมิตรภาพหาประเมินได้ด้วยสิ่งของใดๆ ที่ข้าบอกนี้ออกมาจากหัวใจ วันนี้เจ้าเป็นคนแรกที่ทำให้ข้าหัวเราะออกมาได้ แหวนวงนี้แทนสัญญาผูกมัดระหว่างเราไว้ เจ้าจะได้หนึ่งอย่างที่ต้องการเมื่อเอ่ยปากขอมา แลสิ่งนั้นมิเหลือบ่ากว่าแรงเกินกว่าข้าสามารถสรรหาหรือทำให้ได้
ประกายความหวังจุดวูบในดวงตาใสจนสว่าง
อสิตามิรู้ดอกว่าจะได้ใช้ธำมรงค์สัจจานี้เมื่อใด แต่สังหรณ์เร้นลับกลับปรากฏในจิตใจลึกลงไป วันหนึ่งฉัตรินจะทรงมีความหมายต่อวิถีชีวิตของนาง...
ฉัตรินเสด็จจากไปพร้อมข้าราชบริพารแล้ว คนซึ่งเอนกายซุ่มเงียบมานานบนคาคบไม้สูงมองตามร่างบางของนางกำนัลใหม่ซึ่งถอนใจเฮือก ยกตะกร้ามาเขย่าราวกับอยากให้มีปาฏิหาริย์บังเกิดมาลัยงอกจากความว่างเปล่า...เห็นแล้วรอยยิ้มนิดๆก็ผุดขึ้นบนริมฝีปากเขาง่ายดายยิ่ง นัยน์ตาสีดำนิลฉายแสงแรงกล้าเกินกว่าจะปิดบังความขบขันประดามี
เจ้านี่...ไม่ไหวจริงๆอสิตา... คำพึมพำอย่างระอาแต่แฝงความเอ็นดูแปลกๆดังออกมาอย่างแผ่วเบา
เขาเอื้อมมือไปเขย่ากิ่งไม้จนใบขยับส่งเสียงกราวลั่น
นางที่อยู่เบื้องล่างห่างออกไปจากโคนไม้สะดุ้งเฮือกหันขวับ เงยมองมาราวกับกำลังเห็นภูตผี
ดวงตากลมโตของนางเบิกกว้างแต่เขาเห็นชัดว่ามันวาววับดุจอัญมณี
ท่านอยู่ที่นี่!
นางอุทานบางประการที่เขาจับใจความไม่ทัน ก่อนก้าวไวๆเข้ามาหา
น่าเสียดายที่ใบหน้าคมสันถูกเกลื่อนด้วยเค้าเฉยชา เรียบเรื่อย ก่อนที่นางทันได้เห็นบางสิ่งซึ่งซ่อนอยู่ภายในอารมณ์เมื่อครู่นี้
อสิตามองตามร่างสูงซึ่งเหวี่ยงกายกลับลงมายืนยังพื้นพอดิบพอดี เพิ่งสังเกตแบบชัดๆเต็มตาเป็นหนแรกว่าอีกฝ่ายมีเรือนกายสูงประกอบด้วยไหล่กว้าง หลังตรงสง่า แข็งแรงบึกบึน
ท่านเป็นใครกันแน่จึงได้เดินเที่ยวไปทั่วอุทยานหลวงเช่นนี้ ข้อสงสัยของนางกึ่งประชดในที
เขาตอบเรียบๆเกินกว่าจะตีความในน้ำเสียงได้ว่า
ข้าหาใช่เจ้าชายฉัตรินที่เจ้าได้เข้าเฝ้าเมื่อครู่นี้ก็แล้วกัน
อ้อ...ท่านเห็น อสิตายิ้มร่าเริงขึ้นได้อีกครั้ง เช่นนั้นท่านคงเห็นแล้วว่ามาลัยของท่านถูกยึดเอาไป ข้าไม่กล้าพอจะปฏิเสธรับสั่งขอจากเจ้าชายพระอนุชา
ชายหนุ่มทอดถอนใจยาว ข้าไม่อยากได้มาลัยของเจ้า
แต่ข้าทำมาให้ท่านนี่นา อสิตามิวายดึงดัน
กิริยาสดใสของนางทำให้สายตาของคนกำลังมองมาฉาบด้วยความอ่อนอกอ่อนใจอยู่พอสมควร
อสิตา...เจ้าควรเป็นนางกำนัลที่สำรวมกว่านี้ รู้หรือไม่ว่าอิสตรีที่ดีไม่ควรเที่ยวร้อยมาลัยให้แก่บุรุษคนไหน ข้าไม่ใช่คู่หมั้นคู่หมายเจ้า ไม่ใช่คนรู้จักด้วยซ้ำไป
นางไม่แปลกใจที่ได้ยินชื่อตัวเองหลุดจากปากเขาเพราะเมื่อครู่คำสนทนาระหว่างนางกับเจ้าชายฉัตรินหาได้เบานัก
ที่นรธาไม่เห็นมีใครสนใจข้า... อสิตานับนิ้วทันทีทันใด ท่านช่วยข้าเก็บดอกไม้ร้อยมาลัย ท่านไม่เอาเรื่องข้าไปฟ้องพี่ปารวตีทั้งที่ท่านน่าจะพอรู้จักนางจากที่ข้าคาดคะเนไว้
นั่นเพราะข้าไม่อยากยุ่งเรื่องไร้สาระ หาใช่ข้าเป็นคนดี เขาขัด
แต่ก็เหมือนที่ผ่านมาเพราะนางดื้อรั้นจนเกินกว่าจะสนใจ
ข้าว่าท่านดี ท่านก็จงรับคำชมไป ส่วนที่ท่านจะดีจริงหรือไม่เอาไว้คบหากันไปนานๆค่อยว่ากันอีกที
รอยยิ้มของสตรีตรงหน้าพราวพราย
นางโมเมแกมบีบบังคับเขาควรจะโมโหด้วยซ้ำไป ทว่าลึกลงไปชายหนุ่มกลับเพียงสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่อวลในหัวใจแผ่วโชย ลูบไล้ ประหนึ่งสายลม...
เขายืนกอดอก จับจ้องยังนางด้วยความกังขา
สองวันที่ผ่านมาเขาพาตัวเองมาหยุดยังอุทยานหลวงแห่งนี้ด้วยความหวัง เสียงเจื้อยแจ้วของนางน่าจะชวนรำคาญแต่กลับทำให้เขาสบายใจ อย่างน้อยในแต่ละถ้อยคำที่ผ่านโสตให้สดับหาได้เคลือบแฝงคำลวงหลอกใดๆเฉกที่คนรอบกายของชายหนุ่มมักกระทำ
เขาพินิจดวงตานางระเรื่อยจนถึงแก้มเนียนใส
ศลิษา... เขาพึมพำ
นางสะดุดหูในถ้อยคำนั้นพอจะย้อนถามกลับไป ท่านกล่าวว่ากระไร
ดอกศลิษา เขาย้ำอย่างตั้งใจ ตาคมกระหวัดจับตะกร้าเปล่าอธิบายเนิบนาบกึ่งรำคาญนัยๆ ชื่อดอกไม้ที่เจ้าสู้อุตส่าห์ลากข้าไปตากแดดยามบ่ายเด็ดมา คราวหน้าคราวหลังจะได้รู้ว่านำดอกอะไรมาร้อยเล่น ไม่จำเป็นจะได้ไม่บอกชื่อใครออกไปเพื่อแลกกับแหวนเพียงวงเดียว
...แหวนเพียงวงเดียว...
ประโยคนั้นสำหรับนางช่างฟังขัดหู
ฝ่ามือที่ยื่นไปแทบชิดจมูกเขาบอกอย่างหมั่นไส้ระคนอวดโอ่น้อยๆ
ท่านเห็นหรือไม่ นี่ธำมรงค์ประดับเพชร
นางไม่ทันตั้งตัวเมื่อเขาฉวยข้อมือนางยึดไว้มั่นคง อีกมือหยิบพระธำมรงค์นั้นไปว่องไว เขาวางแหวนอีกวงซึ่งทำจากทองคำสลักลวดลายแบบเรียบๆน่าจะเตรียมไว้ก่อนหน้านี้มาแทนที่ให้
ข้อมือนางอุ่นจนร้อนผ่าวจากสัมผัส...
จังหวะการหายใจของอสิตาปั่นป่วนด้วยซ้ำไป...
ทว่าน้ำเสียงเรียบเย็นของอีกฝ่ายเสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ
แหวนวงนี้มีค่ามากกว่าธำมรงค์จากเจ้าชายพระองค์ไหน สายตาแน่วแน่เปี่ยมจับมายังนางไม่คลาดไป อย่ารับของจากบุรุษใดง่ายๆ เจ้ายังเป็นหนี้มาลัยข้าหนึ่งพวง จำเอาไว้ให้ดีอสิตา!
หนี้มาลัยหรือหนี้แห่งดวงใจกันแน่...
นางยิ้มในความมืดของห้องพัก เพียงแค่แตะลงบนเรือนแหวนทองสุกปลั่งก็ราวกับจะระลึกรู้คำตอบในทุกคำถาม
ลมหายใจแผ่วของมยุราสหายร่วมห้องดังแว่วมาสอดประสานกับลมดึกที่พัดผ่านหน้าต่างซึ่งเปิดค้างไว้ ม่านไหวพะเยิบพะยาบเบาๆ เงาไม้วูบวาบก่อนหน้านี้เคยก่อความหวั่นหวาดแก่อสิตาผู้เก็บเอาความหวังลึกลงไปในอกถึงการเข้าเฝ้าราชันแห่งชญบดี
ลมเอยบอกที ข้ามิถวาย ดวงเนตรแห่งนรธา แก่หริทัศว์ราชันได้หรือไม่...
เสียงพึมพำของนางแทบไม่พ้นลำคอเลยออกไป ตามมาด้วยเสียงทอดถอนใจยาวอย่างอ่อนล้าเหนื่อยหน่ายเต็มที
หน้าที่...บัดนี้หนักหนาเสียแล้ว
เมื่อ รัก ปรากฏราวกับโชคชะตาเล่นกลต่อนางดังนี้
ความเขลา...ความเยาว์วัย...หรือสิ่งอื่นที่อสิตาควรจะโทษซัดดี
ทว่าบุรุษเดียวที่นางไม่อาจโทษได้คือคนที่นางได้พบในอุทยานหลวงแห่งชญบดี ผู้ซึ่งนางไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเสียงเรียงนามหรือที่มาที่ไป!
ยามที่นางรั้งข้อมือกลับมาได้ ร่างสูงก็ถอยห่างแล้วตัดบทเพียงว่า
ข้าต้องรีบไปทำงานก่อน หากว่างจึงมาที่นี่อีกได้
ข้าจะรู้ว่าท่านว่างได้ยังไง นางต่อว่าแกมบ่น
คนฟังประสงค์แสดงท่าทีไม่อาทรร้อนใจ
ทว่าสายตาดำจัด บัดนี้กลับทอประกายละมุนตามความรู้สึกภายใน
สิ่งใดที่เจ้ารอคอยมานาน จงเรียนรู้ที่จะเฝ้ารอต่อไปอีกนิดเถิดอสิตา
นางมองหาคนซึ่งนางอยากพบ
เมื่อเจอแล้วจึงค้นพบบางสิ่งในดวงใจซึ่งมีพลังแกร่งกล้า
ภาระแห่งนางคือต้องหาทางเข้าเฝ้าราชันผู้ครองแคว้นชญบดีเพื่อถวายเครื่องราง ดวงเนตรแห่งนรธา อันมีค่าควรแผ่นดิน แต่สิ่งเดียวที่นางปรารถนาได้ยินขณะนี้คือการที่หริทัศว์จะไม่ทรงยินดีในสิ่งซึ่งนางนำมาถวายให้
...มีหรือราชันใต้โค้งฟ้านี้จะไม่ปรารถนาอำนาจ...
นฤบดีแคว้นนรธาหรือแคว้นชญบดีคงไม่ต่างกันสักเพียงไหน
เปลือกตาที่ปิดลงเต็มไปด้วยความหนักใจ อสิตาไม่รู้ว่านางจักต้องเจรจาต่อรองเช่นไรเพื่อสักวันจะได้มีอิสระในจิตใจอันแท้จริงเสมือนหนึ่งพระพาย...
Create Date : 31 พฤษภาคม 2554 |
|
4 comments |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2554 12:32:53 น. |
Counter : 646 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ploy666 (ploy666 ) 31 พฤษภาคม 2554 14:57:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: ploy666 (ploy666 ) 1 มิถุนายน 2554 2:02:59 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก https://ploy666.bloggang.com
ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา) นามปากกา : สิตาปางค์ ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5 ออกแบบปก : Little thing
ราคา : 850.- บาท สินค้าหมด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28
สั่งซื้อที่ : .........
หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ
** ***********************************
ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ นามปากกา : ลายน้ำ ราคา : 259.- บาท สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)
สินค้าหมดค่ะ
****************
นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง
รอยทรายบนลายรัก ...และ... กระต่ายในใจจันทร์
***********
เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า ทนไม่ไหวแล้ว... จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ
โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด
เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
Ploy666.
************
หมายเหตุสักนิดค่ะ...
ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย
ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ
**************
เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
|
|
|
|
|
|
|
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
ท่าทางว่าคงจะเป็นนิยายเรื่องยาวแน่ ๆ เลย คงต้องมีตอนต่ออีกหลายตอนแน่ ๆ เอาเปห็นว่าผมมาลงชื่ออ่านไว้ก่อนนะครับ
อิอิ