Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
ชาร์ลี 2 ตอน 18 เผชิญหน้าโจรสลัด


คุยกันก่อนอัพ


หลายท่านที่เข้ามาคงคุ้นเคยกับการอ่านข้อความต่างๆทางหน้าเว็บไซต์กันพอสมควร
มีบ้างที่เราเห็นการออกมาบอกเล่าเรื่องของความขุ่นข้องหมองใจ
ความไม่ลงรอยต่างๆ ส่วนมากคนเขียนข้อความเหล่านั้นก็จะใส่ทัศนคติและมุมมองของตัวเองลงไป

ยากนะคะกับการที่เราเป็นแค่คนผ่านไปมาจะสามมารถรู้ได้ทั้งหมดว่าเหตุการณ์จริงๆเกิดอะไรขึ้น

แม้กระทั่งในเรคื่องพยาน หลักฐานต่างๆ
บางครั้งพลอยกลับพบว่ามีบางส่วนที่ไม่เข้ากับความคิดเห็นของเจ้าของเรื่องถูกกันเก็บไว้

ฉะนั้นจะโทษคนอ่านที่คล้อยตามคำชี้แจงและหลักฐาน (บางส่วน) ซึ่งถูกนำมาอ้างอิงก็คงไม่ได้

เห็นแค่ไหนเขาก็ว่าไปตามนั้น
ที่พอเดาได้ว่าน่าจะมีอย่างอื่นเก็บเอาไว้ ก็อาจเรียกหาให้แถลงเพิ่ม
แต่ถ้าเป็นเรื่องไกลตัว...อีกทั้งรายละเอียดเหล่านั้นเราคาดไม่ถึงล่ะ
พอไม่มีใครถามถึง เจ้าของเรื่องก็สามารถชักจูงไปในทิศทางที่เขาต้องการได้

การอ่านข้อความที่ผ่านหูผ่านตาจึงมีหลายครั้งเหลือเกินที่ถามตัวเองว่าเราได้รับรายละเอียดทุกแง่มุมหรือยัง

เราควรจะไว้ใจใครได้บ้างบนโลกออนไลน์
เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากมากจริงๆ...

Ploy666.



**************

ชาร์ลี 2 [ภาค : มิตรสหายและศัตรู]
ตอนที่ 18 เผชิญหน้าโจรสลัด

ผู้แต่ง RED (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)



เวลาที่รอคอยดูจะมาไวกว่าที่คิดเมื่ออัสลันเดินกลับเข้าบ้านในเช้าวันหนึ่ง

“สัญญาณจากเรือวีซานด์...ซีนายนัดพบเจ้าพรุ่งนี้เช้าพร้อมกับข้า”

“เขาระบุหรือว่าเจ้าต้องไปด้วย”

“ใช่สิ!” เด็กหนุ่มกระแทกกายนั่งลงในเก้าอี้อีกตัวอย่างหงุดหงิดใจ “เชื่อได้เลยว่าเจ้าตัวแสบนั่นต้องเตรียมแผนร้ายเอาไว้อีกเหมือนเคย”

“ข้าไม่แปลกใจเลยที่ซีนายเกลียดเจ้า” ชาร์ลีพึมพำตอนที่รูดี้เลื่อนเอาชามอาหารที่ตักใหม่ส่งมาให้

เจ้าหญิงมีนาร์เพิ่งยอมกลับเข้าบ้านเมื่อเย็นวานแต่ก็หมกตัวอยู่เพียงในอาณาเขตห้องโดยมีรูดี้คอยวิ่งเข้าออกยกอาหารไปให้ตามคำขอของเด็กหญิง

ไม่มีใครกระตือรือร้นที่จะตอแยกันอีก แม้แต่รูดี้กับลาเฟลซึ่งเป็นคู่กัดกันตลอดกาลพักหลังๆนี้พอเจอปฏิกิริยาอึมครึมของเจ้าหญิงมีนาร์ที่แผ่ซ่านรายรอบบ้านก็ทำเอาหมดอารมณ์จะลับฝีปาก ได้แค่แยกย้ายกันอยู่มุมของตนไปอย่างเงียบๆ

ชาร์ลีเข้าไปควบคุมการผลิตในขั้นตอนมากมายจนไม่อาจปลีกเวลามาปรับความเข้าใจกับเด็กหญิงได้

ขณะที่อัสลันเองก็ง่วนอยู่กับการเฝ้าระวังชายฝั่ง

ความห่างเหินของคณะที่มาจากเซไลย์ดูจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นทุกวัน...

“ข้าต่างหากที่เกลียดเจ้านั่น” อัสลันทำเสียงเคืองขุ่น เด็กหนุ่มเริ่มลงมือรับประทานอาหารอย่างหิวโหย

ชาร์ลีได้แต่มองตามความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าที่ปรากฏในตัวของสหายสนิทจากไฮแลนด์ การควบคุมดูแลการเข้าเวรที่ทำให้อัสลันมีเวลาพักผ่อนน้อยลงมันทำให้เขาและดูโทรมไปถนัดตา กระนั้นความแกร่งกร้าวที่มาจากเนื้อในของอัศวินหนุ่มก็ทำให้เขาดูมุ่งมั่นและน่าเกรงขามกว่าเก่า

ภาระหน้าที่กำลังขัดเกลาให้อัสลันเปล่งประกายเจิดจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย!

แล้วเขาล่ะ...

พอคิดวกกลับมาหาตัวเองชาร์ลีก็ได้แต่เพียงทอดถอนใจ

ต่างคนต่างรับประทานไปเงียบๆ แมนเฟย์ไม่อยู่ร่วมวงด้วยเพราะออกไปเตร็ดเตร่ที่อื่นตั้งแต่เช้า ไม่มีใครสนใจชายชราแปลกถิ่นนักเพราะต่างก็รับรู้ว่าเขาเป็นคนป่วยในวาระสุดท้ายที่ยังเดินเหินได้แคล่วคล่องและชาร์ลีอนุญาตให้อยู่ที่นี่ได้

จะว่าไปแบบนั้นก็กลายเป็นเรื่องที่มีประโยชน์สำหรับชาร์ลีมากมายเมื่อเด็กชายหวนนึกถึงสิ่งซึ่งแมนเฟย์ไปจัดหามาจนได้ตามที่สั่งการไว้...

“วันนี้เจ้าจะทำอะไรล่ะ” อัสลันถามโดยไม่มองหน้า

ชาร์ลีหยุดคิดลำดับความ “ข้าจะไปดูบ่อเพาะพันธุ์ อยากให้แน่ใจว่าเพจคัดเลือกลูลูบิอาร์ดินีย์ที่ดีพอสำหรับการปลูกครั้งต่อไปเอาไว้แล้ว”

“เมื่อไหร่เจ้าจะไปถ้ำมาธาเกียร์”

คนฟังรู้ดีแก่ใจว่าในที่สุดอัสลันก็วกเข้าสู่สิ่งที่ต้องการรู้

ทุกคนไม่สบายใจกับการตัดสินใจของชาร์ลี แต่จะคัดค้านก็มองหาวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไม่ได้

“อาจจะตอนเย็น...ข้าว่าจะออกไปกับลาเฟล”

“ข้าไปด้วย”

“อัสลัน...” ชาร์ลีทวนชื่อนั่นเสียงเข้ม

ทว่าอีกฝ่ายเหลือบมองเพียงแวบเดียวด้วยแววตาที่จริงจังก่อนเสเบือนไปทางอื่นและยกผ้าซับปาก

“ข้าคิดว่าในฐานะอัศวินผู้พิทักษ์...ซึ่งตอนนี้อย่างที่เห็นล่ะนะ ข้าได้รับมอบหมายจากกษัตริย์คาลอสให้ดูแลความปลอดภัยของเจ้า แล้วข้าก็ยังไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั่งจับเจ่ามองน้ำมองฟ้าหรือไม่ก็มองดาวถ้าเข้าเวรกลางคืน...แต่ส่วนใหญ่ข้าจะเป็นแต่หมอกมากกว่า ฉะนั้นไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรข้าควรมีส่วนร่วมรู้เห็นด้วยถูกไหมชาร์ลี แต่ข้าไม่บังคับให้เจ้าบอกทุกอย่างที่คิดไว้หรอก อันที่จริงข้าไม่ค่อยอยากคิดมากเพราะแผนการของนูฟเจ้าเล่ห์เสียด้วยสิ”

เด็กหนุ่มเอนกายอย่างผ่อนคลายลงกับพนักพิง

รอยยิ้มกว้างเปิดเผยที่บอกความเป็นตัวตนของอัสลันแต้มกระจายทั่ววงหน้าคมคายอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อปิดท้ายเบาๆว่า

“ยังไงวันนี้ข้าก็จะไปถ้ำมาธาเกียร์กับเจ้าอยู่ดี!”



เคยมีใครเตือนเขาไหมนะว่าคบเพื่อนที่มีนิสัยดื้อรั้นเป็นที่สุด...ถึงอย่างนั้นชาร์ลีก็อุ่นใจสำหรับการเดินทางในเช้าวันใหม่ แม้ว่าปฏิกิริยาของอัสลันจะดูแย่ลงหลังกลับมาจากถ้ำมาธาเกียร์ตอนหัวค่ำวานนี้

“เจ้าแน่ใจนะชาร์ลีว่าเรื่องนี้มันจะดีสำหรับเรา”

“คงไม่ดีนักสำหรับเจ้า...ขอโทษที” ชาร์ลีเดินมาชิดพลางกระซิบบอกแกมขบขัน

อัสลันแยกเขี้ยวใส่ เขายกมือกอดอกยืนหน้ามุ่ยอยู่ที่ข้างเรือพายลำเล็ก

ชาวเมิร์ฟเนียยังคงมาส่งมากมายแม้จะได้รับคำสั่งจากชาร์ลีให้หยุดมองเพียงแนวป่าไม่ให้ล้ำเลยลงมาริมชายหาดซึ่งอาจกลายเป็นเป้าหมายการโจมตีที่ง่ายดายสำหรับเรือโจรสลัดที่จับตามองทุกการเคลื่อนไหวอยู่

“ให้ตายสิ! ข้าละอยากให้เอกเซสมาอยู่นี่ด้วยชะมัด เขาคงบ่นเจ้าสามวันสามคืน”

“หรือไม่ก็ไม่บ่นเลย” ชาร์ลีไหวไหล่เมื่อนึกถึงอัศวินคู่ใจอีกคนของอัสลัน ก่อนจะก้มลงมองน้ำทะเลสีฟ้าที่โยนตัวซัดเข้าท่วมถึงระดับข้อเท้าตนเองอย่างพึงพอใจ “เอกเซสไม่ได้ขี้หงุดหงิดอย่างเจ้าสักหน่อยนี่นา ข้าชอบนิสัยเขาออกน่า...เพราะอย่างงี้แหละที่ข้าไม่อยากบอกอะไรเจ้าเท่าไหร่”

“เคยห่วงตัวเองบ้างไหมนี่” อัศวินหนุ่มหลุดปากโพล่งออกมา

“ห่วงสิ...แต่คงน้อยกว่าที่ต้องจำไว้ตลอดเวลาว่าข้ามีภาระแค่ไหนน่ะ”

รอยยิ้มเย็นตาปรากฏจางๆบนใบหน้าของชาร์ลีทำให้อัสลันอึ้งไป

“เจ้าน่าจะได้เหรียญตราวีรบุรุษนะ”

พนันได้เลยว่าเขาโดนประชด...สิ่งที่ชาร์ลีทำเป็นเพียงการหัวเราะเบาๆ

“ชาร์ลี” อัสลันอดไม่ได้ต้องเรียกแว่วๆมา

“อะไร”

“เจ้าว่าเมื่อไหร่เราจะได้ไปจากที่นี่”

คนถูกถามไตร่ตรองเล็กน้อยอย่าสงระมัดระวัง “ข้าไม่แน่ใจหรอก เจ้าถามทำไมอัสลัน...อย่าบอกข้านะว่าเจ้าคิดถึงบ้านทั้งที่ตัวเจ้าเองนั่นแหละหาเรื่องออกทัพเพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่บ้าน”

เมื่อใดที่ต้องกลับไปพำนักไฮแลนด์นานๆชาร์ลีได้ยินมาว่าป้อมปราการที่นั่นแทบถล่มเพราะทั้งเซดจ์และอัสลันไม่ยอมลงให้กัน แม้จะเป็นเพียงการหยอกล้อกึ่งเล่นกึ่งจริงก็อดปฏิเสธไม่ได้ว่าพ่อลูกคู่นี้พอกันในเรื่องที่ไม่ค่อยออมฝีมือให้อีกฝ่าย

แต่ถึงยังไงนั่นก็คือครอบครัว...

“เราเคยสัญญากันว่าจะไปเกาะนูฟ” อัสลันหันมามอง

“ข้าจำได้”

“แต่ดูเหมือนตอนนี้เรากำลังติดแหง็กอยู่ที่นี่แล้วบางทีเราอาจไม่รอดไป”

เป็นการเลือกใช้คำที่ฟังดูแย่ๆชอบกล หากมันกลับเป็นความจริงที่ชาร์ลีไม่อาจบิดเบือนได้

พวกเขากำลัง ‘ติดแหง็ก’ ท่ามกลางปัญหาของเมิร์ฟเนีย หรืออีกนัยหนึ่งมันคือปัญหาที่พ่วงเอาความอยู่รอดของท้องทะเลออบิทตามติดแนบมาด้วย

แค่เพราะต้องการลูลูบิอาร์ดินีย์เมล็ดกะจิ๋วหลิว ตอนนี้พวกเขาต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงแบบไม่รู้ชะตากรรมภายใต้ความกดดันของคนที่ชาร์ลีเคยไว้วางใจอย่างซีนาย

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทีตอนสั่งซื้อของจากวู้ดช็อปไม่ยักเคยเห็นโปรโมชั่นมโหฬารแบบนี้สักหน!

ชาร์ลีอดอมยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องนี้

“ถ้าเราได้ออกไปจากที่นี่เจ้าจะสั่งซื้ออะไรจากวู้ดช็อปเป็นรางวัลให้ตัวเองน่ะอัสลัน”

“ข้ามีรายการเพียบเลย” อัสลันหัวเราะเต็มเสียง “แต่สงสัยอยู่นี่แหละว่าจะให้เขาส่งมันไปไว้ที่ไหนดี บางทีอาจเป็นเกาะของเจ้า...เซไลย์เขตชายฝั่ง ที่แน่ๆต้องไม่ใช่ไฮแลนด์เพราะพ่อข้าคงด่าลั่น หัวเสียจนทหารพากันหนีกระเจิงหมด”

“คิดเอาไว้ก็แล้วกัน บางทีรายการยาวเหยียดของเจ้าอาจได้มาฟรีเพราะกษัตริย์คาลอสยอมจ่ายแทนให้”

“ได้งั้นก็ดีสิ ว่าแต่...เจ้าแน่ใจแล้วนะว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแผนอีกน่ะ”

อัสลันถามเหมือนต้องการย้ำให้ชัดๆ

“ข้าตัดสินใจแล้ว” เด็กชายกล่าวช้าชัดถ้อยชัดคำ

ไม่มีเงาของเจ้าหญิงมีนาร์ท่ามกลางกลุ่มคนที่มารอส่งด้วยใจหวั่นไหว ชาร์ลีถอนใจยาวก่อนละสายตากลับมาจับที่คลื่นกระเซ็นซ่าที่ผิวน้ำตามเดิม

“ดูอะไรน่ะ”

แมนเฟย์เพิ่งเดินมาสมทบพร้อมกับเคลันอดถามไม่ได้

“คลื่นแรงดี...ใกล้ค่ำแล้ว คิดว่าซีนายคงคุยไม่นานเท่าไหร่หรอก”

“ข้าได้ยินว่านูฟว่ายน้ำไม่ได้” เคลันดูจะเป็นกังวล “ระวังตัวด้วย ถ้าคลื่นแรงกว่านี้มันอาจซัดเรือโคลงทำให้เจ้าตกน้ำได้นะชาร์ลี”

“ไม่หรอก...อย่างน้อยก็คงไม่ใช่คืนนี้...”

ชาร์ลีพึมพำ เขาก้มลงวักน้ำและชูขึ้นเพื่อตรวจสอบทิศทางลมให้แน่ใจอีกหน

“ไปกันได้แล้ว ดูเหมือนว่าคืนนี้เรามีบางอย่างที่ต้องทำกลางทะเลนั่น!”

ร่างสูงเพรียวก้าวยาวๆนำหน้าไป คนอื่นมองตามแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นนั้นด้วยความรู้สึกที่แวบเข้ามาในฉับพลัน

ไม่ว่ากำแพงสูงเบื้องหน้าจะเป็นอะไร

ชาร์ลีก็จะผ่านมันไปได้ในที่สุด!



ซีนายไม่ได้ลงเรือเล็กมาเพื่อเจรจาอีกต่อไป

โจรสลัดวีซานด์กำลังประกาศความยิ่งใหญ่ของตนโดยการให้คนลงเรือไปนำพากลุ่มที่เพิ่งมาจากเกาะเมิร์ฟเนียขึ้นสู่เรือใหญ่อันเป็นฐานบัญชาการลอยน้ำที่น่าทึ่งเมื่อชาร์ลีหยุดเงยหน้ามองขึ้นไปขณะรอคอยให้บันไดเชือกถูกหย่อนลงมารับ

แดดยามสายเริ่มแยงตา ชาร์ลีจะเริ่มไต่ขึ้นเรือไปอย่างระมัดระวังตามมาด้วยอัสลัน

“เฉพาะนูฟและอัศวินไฮแลนด์!” สมุนโจรที่ตีเรือคู่มานั้น ผลักอกแมนเฟย์ที่กำลังจะคว้าบันไดเชือกปีนตามปิดท้ายจนชายชราเซล้มลงไปนั่งกลางลำเรือ

มันถ่มน้ำลายใส่ผ้าคลุมศีรษะเชิงดูถูกและท้าทายในที

ร่างคุดคู้ที่กลางเรือเพียงแต่ก้มหน้างุดมิได้โต้ตอบ รอกระทั่งทุกคนจากไปแมนเฟย์จึงลุกมาหยิบพายแจวห่างออกมากลางน้ำทิ้งระยะเล็กน้อยก่อนลอยลำรอคอยเวลา

เขาหวังให้สิ่งที่ชาร์ลีคิดถูกต้อง

แมนเฟย์รับรู้ถึงความกระวนกระวายในจิตใจแต่ก็สะกดข่มมันเอาไว้เงียบๆ

เขาต้องเริ่มหัดศรัทธาในตัวของชาร์ลีเหมือนที่พวกเมิร์ฟเนียทำ แต่มันช่างยากเย็นเมื่อมองเห็นเรือสีขาวที่ลอยเด่นตัดกับท้องน้ำสีน้ำเงินอันกว้างใหญ่และใบเรือที่มีสัญลักษณ์ของวีซานด์กางออกท้าทายทุกสายลม

ของที่เป็นของเขาเองในครั้งอดีต

สิ่งที่กำลังขอยืมมือชาร์ลีให้ทวงคืน

มิตรภาพที่เต็มไปด้วยข้อแลกเปลี่ยนคงไม่ยืนนาน...แต่แมนเฟย์ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว!

คนที่กำลังถูกคาดหวังกำลังปีนขึ้นเหยียบดาดฟ้าเรืออย่างเชื่อมั่นท่ามกลางแสงสว่างของตะวันที่ลอยสูงจากเส้นขอบฟ้าขึ้นมาพอสมควร ชาร์ลีหันไปยื่นมือช่วงดึงอัสลันปีนข้ามขึ้นมาเคียงคู่กัน

เด็กชายชาวนูฟขยับธนูที่สะพายแนบบ่าอย่างเตรียมพร้อมก่อนหันไปมองกลุ่มคนที่เพิ่งเดินออกมาจากมุมหนึ่ง

ร่างสีขาวโพลนในรูปลักษณ์แปลกตาของโจรสลัดวีซานด์ยิ่งดูเผือดซีดเมื่ออยู่ในความสว่าง ชาร์ลีเพิ่งเห็นว่าสีหน้านั้นเยือกเย็นราวกับไร้จิตใจ รอบกายสี่มุมเป็นชายร่างใหญ่ที่มีแผลเป็นแลดูดุร้ายน่าประหวั่นพรั่นพรึงแวดล้อม...อย่าว่าแต่คนพวกนี้พกอาวุธครบมือเลย ต่อให้เป็นเพียงมือเปล่าชาร์ลีก็ไม่แน่ใจว่าอัสลันจะต่อกรแบบตัวต่อตัวได้โดยรอดไปอย่างปลอดภัย

นี่กระมังพวกที่แมนเฟย์เคยเล่าเท้าความให้ได้ยินได้ฟังมา...

ผู้ติดตามทั้งสี่ที่แสนกระหายในอำนาจแห่งท้องทะเล!

แต่คนที่เดินเข้ามาสมทบทีหลังนั่นต่างหากที่เรียกความสนใจจากชาร์ลีได้ดีเพราะของที่เด็กชายผิวสีคล้ำถือติดมือมาด้วยคือตำราปกหนังที่คุ้นตา

“ตำราพหูสูต!”

ชาร์ลีอุทานและทำเหมือนจะขยับไปข้างหน้าหากไม่เพราะอัสลันคว้าไหล่ยั้งด้วยแรงเอาไว้ก่อน

“ระวังหน่อยชาร์ลี...” คำเตือนด้วยเสียงต่ำๆนั้นดังมาเมื่อดวงตาสีฟ้าของอัสลันทอประกายจับเฉพาะใบหน้าของวีซานด์ซึ่งจุดแววรับรู้วาบขึ้นมาเพราะการเคลื่อนไหวแบบฉันพลันทันทีนั้น

จะเพราะอะไรก็ตามแต่ วีซานด์มีปฏิกิริยาโต้ตอบค่อนข้างไวต่อสิ่งที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และเป็นการโต้ตอบที่ทำให้อัสลันรับทราบถึงกระแสแห่งการฆ่าฟันอันรุนแรงที่แผ่ออกมาทางร่างกายที่ขยับเปลี่ยนท่าทีเพียงเล็กน้อย...

คนที่คลุกคลีอยู่กับการปลิดชีวิตผู้อื่นเท่านั้นที่จะหยั่งกิริยาเหล่านั้นออก

แน่นอนว่ามันรวมไปยังบรรดาลูกเรือที่มุงดูห่างๆที่แสยะยิ้มราวกับปรีดาต่อเกมตรงหน้าและกระเหี้ยนกระหือรือที่จะฉีกทั้งคู่ออกเป็นชิ้นๆเพียงรอให้สิ้นเสียงสั่งของผู้เป็นนาย

ซีนายกลับทำประหนึ่งว่าการมาเยือนของอดีตสหายตรงหน้าเป็นเรื่องน่าอิ่มเอมใจ ตีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ตอนเดินมาหยุดตรงกลางระหว่างคนสองพวกนั้นอย่างเจตนาแสดงตำแหน่งตัวเองในที

การเป็นคนกลางในวาระชี้ชะตากรรมนี้คงถูกพูดถึงไปอีกนาน...

“โอ๊ะโอ...น่าแปลกใจจริงชาร์ลี ข้าเห็นแล้วว่าเจ้ามาหาเราด้วยมือเปล่า”

น้ำเสียงเริงร่าเสแสร้งของซีนายทำให้อัสลันมองตามตาขุ่น

ชาร์ลีกลับสวมหน้ากากเย็นชาเมื่อหันไปทักทายเหมือนการมาครั้งนี้ซีนายทำให้เขาประหลาดใจ

“ข้าไม่ยักรู้ว่าเจ้าดูแลตำราพหูสูตของข้าให้เป็นอย่างดี บางทีถ้าเจ้าเบื่อแล้วข้าน่าจะขอคืน”

“เจ้าต้องถามเขา...ไม่ใช่ข้า” ซีนายปัดภาระการตัดสินใจไปทางวีซานด์ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มที่กวนใจใครหลายคน

ผู้ใช้เวทวัยเยาว์ตัวแสบแห่งดินแดนไร้ตะวันหันไปโค้งกายพินอบพิเทาต่อหน้าจอมโจรสลัดในตำนาน เพียงแค่วาทะที่เปิดการเจรจาชาร์ลีแทบไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือคนที่เขาเคยคิดว่าจะฝากชีวิตไว้ได้ เพราะถ้อยคำเหล่านั้นเจือไปด้วยความโป้ปดมดเท็จและลวงล่อกลอกกลิ้งสุดจะระงับอารมณ์ไม่ให้พุ่งขึ้นมาด้วยความเกรี้ยวกราดเมื่อนึกว่าซีนายเจตนาจะทำอะไรอยู่หรือเคยทำอะไรมาบ้าง

“ข้าแต่เจ้านายผู้เป็นใหญ่เหนือทะเลออบิท...” ซีนายเกริ่นนำอย่างอ่อนเบาน้ำเสียงชวนเพลินใจ แต่แววตาที่ปรายมาทางอัสลันเต็มไปด้วยเคลือบแฝงและมุ่งร้าย “ก่อนหน้านี้ข้าเคยนำคำสั่งที่เต็มไปด้วยน้ำใจของท่านไปยังนูฟและอัศวินผู้นี้ แต่เห็นได้ว่าพวกเขาด้อยปัญญาเต็มทีที่จะทำตามนั้น หากจะยังกรุณาให้ข้าแก้ไขข้อผิดพลาดของคนเหล่านี้เพื่อให้สองมือของท่านไม่ต้องแปดเปื้อนโลหิตก็เพียงแค่อนุญาตให้ข้าทำหน้าที่ต่ออีกสักหนเพื่อเปิดโอกาสสุดท้ายแก่คนโง่ตรงหน้านี้ด้วยเถอะครับ”

“ไอ้คนสอพลอ!” อัสลันลอบสบถเบาๆ นัยน์ตาจ้องเขม็งจับเฉพาะซีนายอย่างฉุนเฉียว

ชาร์ลีเองก็ตึงเครียดไปด้วยความรู้สึกสะอิดสะเอียนที่อธิบายไม่ถูก

ซีนายกำลังต้องการอะไรในละครฉากใหญ่ตรงหน้านี้ ชาร์ลีเท่านั้นที่รู้ดีแก่ใจ...ถึงอย่างนั้นเขายังอดยอมรับไม่ได้ว่าเกมหนนี้ซีนายจัดฉากได้อลังการยิ่งใหญ่เกินตัวจริงๆ ใครจะคิดว่าเด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบทิ้งๆขว้างๆท่ามกลางโจรสลัดเป็นร้อยๆจะสามารถเดินมาไกลถึงจุดนี้

จุดที่สามารถทำให้วีซานด์พยักหน้าอนุญาตตามคำร้องขอ!

อีกครั้งที่ซีนายโค้งรับบัญชาอย่างงดงาม...

ใบหน้าคมคายมียิ้มกว้างๆระบายเกลื่อนขณะหันมาทางชาร์ลีและเริ่มเปิดการเจรจาว่า

“ทำไมเจ้าไม่เอามาธาเกียร์มามอบให้ข้าตามที่ตกลงกันไว้”

“ข้าบอกแล้วว่ามันต้องใช้เวลา เจ้าคิดว่าการเคลื่อนย้ายของที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ออกจากสถานที่ของมันง่ายนักหรือยังไง” ชาร์ลีโต้ตอบทันควัน

สีหน้าที่เคร่งขรึมจริงจังของชาร์ลีราวกับตระหนักว่าสถานการณ์บัดนี้พวกตนตกเป็นรองทำให้ซีนายเพ่งมองอย่างคลางแคลงใจ

ตัวแทนจากโจรสลัดวีซานด์สืบเท้าใกล้เข้ามาพินิจดวงหน้าที่คุ้นเคยนั้นเพื่อหยั่งท่าที

“ข้ายังไม่เคยเห็นมาธาเกียร์ ตำราพหูสูตไม่มีบันทึกเอาไว้มากนักนอกจากรูปพรรณสัณฐานคร่าวๆ เอาเถอะ...ข้าจะลองเชื่อเจ้าดูอีกสักครั้ง แต่นี่เพราะข้าคิดว่าเจ้าเป็นเพื่อนหรอกนะชาร์ลี” ซีนายยังคงยิ้มได้

“ที่เจ้าทำมายังมีหน้ามาพูดถึงเรื่องความเป็นเพื่อนอีกงั้นหรือซีนาย!” อัสลันถามดุดัน

ท่าทีคุกคามของอัศวินหนุ่มไม่ได้สร้างความระย่อคร้ามเกรงแก่ซีนายได้เลยในเวลานี้

กลางทะเลที่อำนาจเวทมนตร์พร้อมพรั่งในมือ...ชาร์ลีเสียอีกที่กังวลจนต้องรั้งแขนอัสลันให้ยืนนิ่งเอาไว้ เขารู้ดีแก่ใจว่าเล่ห์กลของซีนายต้องมีมากพอ เพราะไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะถูกต้อนให้จนมุมได้เท่าที่ซีนายกำลังทำอยู่ นั่นเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจเมื่อคิดว่าซีนายตัวคนเดียวและมุมานะพยายามเสาะหาทุกอย่างด้วยวิธีการของตัวเอง

แวบหนึ่งที่ชาร์ลีหวาดกลัว...

อนาคตของซีนายหากเขาไม่รีบยุติความอหังการเหล่านี้ลง อีกฝ่ายจะตะกายขึ้นสูงเพียงใด บางทีทุกแผ่นดินในออบิทอาจแหลกละเอียดภายใต้ฝ่าเท้าของเด็กชายคนนี้หากเขาต้องการ

ความทะเยอทะยานของซีนายเป็นดังพรสวรรค์และคำสาปไปพร้อมๆกัน!

ชาร์ลีรู้สึกโล่งอกที่ซีนายไม่ได้มีท่าทีจะใส่ใจกับอากัปกิริยาหงุดหงิดงุ่นง่านของอัสลันนัก

“ข้าให้เวลาเจ้าอีกเจ็ดวัน” ซีนายเน้นเสียงสั่ง “เจ้าต้องมาที่เรือนี่ก่อนอาทิตย์ตกดินพร้อมสิ่งที่ข้าต้องการ ไม่อย่างนั้นทุกย่างบนเกาะเมิร์ฟเนียจะราบเป็นหน้ากลอง เจ้าก็เห็นแล้วว่าเราทำได้มากมายแค่ไหน...อย่างบิดพลิ้วและอย่ามีลูกเล่นอีก ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้าเลยสักนิดเดียว”

“ข้าจะเชื่อได้ยังไงว่าหลังจากได้มาธาเกียร์แล้วพวกเจ้าจะจากไปโดยไม่ทำร้ายเรา”

“เจ้าไม่มีทางรู้หรอกชาร์ลี...”

นั่นเป็นครั้งแรกที่น้ำเสียงของซีนายเจือแววเยาะหยัน

ซีนายตะโกนสั่งการกับสมุนโจรที่อออยู่รายรอบนั้นด้วยท่าทีทรงอำนาจ

“ส่งนูฟลงเรือกลับไป...ตามลำพัง...ปลดอาวุธอัศวินจากไฮแลนด์เพราะเขาจะอยู่เป็นแขกเราในห้องขังที่ข้าจัดเตรียมไว้”

เสียงเฮรับดังกระหึ่มโดยรอบ บ้างโห่ร้อง บ้างกระทืบเท้าอย่างสะใจ

อัสลันขยับฉวยดาบแต่ครั้นเห็นชาร์ลีส่ายหน้าเขาก็กระแทกดาบนั้นลงคืนฝักและปลดออกโยนลงกับพื้นอย่างไม่เต็มใจนัก สมุนโจรสลัดอีกสองคนตรงเข้ามาล็อกล่ามแขนเด็กหนุ่มไพล่หลังอย่างกระตือรือร้น เห็นได้ชัดว่าไม่บ่อยนักที่พวกมันจับอัศวินได้

รอยแย้มดุจเยาะของซีนายยิ่งกระจ่างชัดเมื่อมีใครบางคนผลักให้อัสลันล้มคะมำลงมาแทบเท้าเด็กชายอย่างไม่ได้เจตนา

อัสลันเงยมองอย่างอาฆาตแค้น ขณะที่ชาร์ลีผวาจะเข้าไปช่วยเพื่อนสนิทแต่กลับได้ยินเสียงตวาดลั่นว่า

“อย่าเข้ามาชาร์ลี!”

ซีนายทรุดลงนั่งยองๆ มองตรงเข้าไปในดวงตาคู่สีฟ้าของอัสลันอย่างปราศจากความหวั่นเกรง

“ข้าจำเป็นต้องเอาเจ้าไว้เพื่อให้ชาร์ลีรู้ถึงอำนาจของเรา...ขอโทษทีนะอัสลัน ข้าไม่ได้เอาอคติส่วนตัวมาใช้กับเจ้าเลย แต่ชาร์ลีจะกลับมาอีกครั้งพร้อมมาธาเกียร์ อ้อ...อย่าลืมเอาดันลานี่มาด้วยล่ะ ข้าไม่อยากรู้สึกระแวงว่าพวกเจ้าคิดจะทำอะไรนอกเหนือไปจากข้อตกลงที่เราคุยกันไว้”

“ข้าจำเป็นต้องมีคนช่วย” ชาร์ลีโพล่งออกมา

อัสลันเสียอีกที่ทำท่าขัดแย้ง “ข้าจะอยู่ที่นี่!”

“แต่เจ้าหญิงมีนาร์น่าจะมีอำนาจต่อรองมากกว่า เธอเป็นน้องสาวกษัตริย์คาลอส!”

ประโยคนั้นทำให้ใครหลายคนเหลียวมองกระทั่งวีซานด์ที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าราวกับคนป่วย

“ที่นูฟนั่นพูดมาจริงหรือเปล่า”

“เอ่อ...จริงครับ แต่ข้ามีเรื่องที่อยากบอก” ซีนายเริ่มร้อนรนเมื่อโดนสายตากังขาจากใครอีกหลายคนในกลุ่มที่ล้อมอยู่ เขาชี้แจงเร่งร้อนว่า “แต่เจ้าหญิงมีนาร์ไม่มีค่ากับเราเพราะตอนนี้เราต่อรองกับชาร์ลีไม่ใช่กษัตริย์คาลอส และเขาก็ทะเลาะกับเธออยู่...ข้าคิดว่าเขาไม่ค่อยชอบเธอเท่าไหร่นัก แล้วถึงจะเอาเธอมาที่นี่จริงๆข้าอาจมีวิธีสะกดเวทมนตร์ในกรณีที่เจ้าตัวให้ความร่วมมือด้วยก็จริง แต่ข้าไม่เคยใช้กับแม่มด...ไม่เคยเลย”

คำสุดท้ายซีนายเริ่มตั้งหลักได้มากพอที่จะย้ำอีกหนว่าแม่มดเป็นสิ่งซึ่งอันตรายเพียงใด

หนึ่งในสี่ของผู้ติดตามนั้นอดไม่ได้ต้องแทรกขึ้นมาว่า

“หวังว่าที่เจ้าคิดจะถูกนะไอ้เด็กกำพร้าอย่างเจ้าถ้าพลาดขึ้นมาข้าไม่เอาไว้แน่” ความเกลียดชังเจือมาแบบไม่ต้องสงสัย

น่าแปลกที่ซีนายไม่กล้าโต้ตอบ

วีซานด์เพียงโบกมือให้ยุติการข่มขู่นั้นลงและสรุปว่า “เราจะเชื่อสิ่งที่เจ้าบอกมาก็แล้วกัน หวังว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น”

“ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอนครับ” ซีนายสูดลมหายใจลึกและลุกยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อรอส่งวีซานด์กลับเข้าไปในเรือ

กระทั่งเหล่าโจรสลัดค่อยๆสลายตัวลงเพราะเห็นว่าหมดความน่าสนใจแล้วนั่นแหละ ที่ซีนายหันมาบอกด้วยความฉุนเฉียวว่า

“เจ้าเกือบทำแผนข้าพัง เจ้าคิดว่าข้าจะติดกับโง่ๆที่ว่าเจ้าหญิงมีนาร์มีค่ามากกว่าอัสลันรึไงชาร์ลี...เจ้าเห็นข้าเป็นใครกัน ข้ารู้นะว่าเจ้ามันพวกให้ความสำคัญกับเพื่อน ข้าเองก็เหมือนกัน ข้าให้ความสำคัญกับเจ้าและกันไม่ให้เจ้าถูกทำร้ายแต่เจ้ากลับทำให้ข้าโดนดูถูกจนต้องชี้แจงต่อหน้าลูกเรือลำนี้มันสมควรหรือเปล่า!”

ชาร์ลีถอยหลังมาอีกก้าวอย่างระมัดระวังเมื่อเห็นว่าซีนายไม่อยู่ในอารมณ์ขี้เล่นเป็นปกติเช่นครู่นี้

“ข้าแค่เสนอสิ่งที่คิดว่าดีกว่า”

ซีนายบอกเกือบเป็นกระซิบแต่นัยน์ตาจ้องอย่างโกรธเคือง “ใช่สิ! ดีกว่าสำหรับคนอื่นๆแต่ไม่ได้ดีสำหรับเจ้า คิดว่าข้าไม่รู้เรื่องที่เจ้าเกลียดเจ้าหญิงมีนาร์หรือไงกัน ถึงทีแรกข้าจะคิดว่าการสะกดอำนาจแม่มดสักคนเป็นเรื่องท้าทายจนใช้เวทเคลื่อนย้ายพาเธอมาจากเซไลย์เพราะกะเอาไว้ก็เถอะ แต่ข้ารู้ดีว่ามาธาเกียร์สำคัญสำหรับทุกอย่างแค่ไหน เจ้ามันโง่ที่ไม่รู้อะไรเลยแล้วจะมาทำเป็นซ้อนแผนยื่นสิ่งไร้ประโยชน์ให้กับข้า แค่ไม่มีอัสลันเจ้าก็จะเหมือนถูกลอยแพและรู้ว่าการป้องกันเกาะแบบงี่เง่าที่เตรียมไว้นั่นมันไร้สาระสิ้นดีเมื่อไม่มีคนรู้งานบงการพวกเมิร์ฟเนียนั่น ถ้าข้าเอาเจ้าหญิงมีนาร์มาเป็นตัวประกันแล้วยังไง ข้าก็ต้องมาเสี่ยงกับอำนาจที่มหาศาลของเธอ...ตอนนี้ข้าเลือกแล้ว”

ไม่ว่าก่อนหน้านี้ซีนายจะเคยลังเลเพียงใด แต่เห็นได้ชัดว่าบัดนี้เขาตัดสินใจตั้งมั่นที่จะจับอัสลันเป็นเชลยอย่างแน่นอน

ความคิดนั้นทำให้ร่างที่เขม็งตึงของชาร์ลีกลับผ่อนคลายลงมากพอที่จะวางเฉยและบอกสั้นๆว่า

“ตามใจเจ้าก็แล้วกัน ยังไงเจ้าก็บอกเหตุผลต่อหน้าทุกคนแล้ว ข้าคิดว่าการกลับคำจะทำให้เจ้าดูก่อข้อผิดพลาดไว้มากกว่าจะเป็นผลดี”

“ข้าไม่มีเหตุผลที่ต้องกลับคำ!” ซีนายแสยะยิ้มเชื่อมั่น

เด็กชายแห่งเรือโจรสลัดกระชากโซ่ดึงให้อัสลันลุกขึ้นมาอย่างไร้ปราณี

“อยากรู้ไหมว่าทำไมชาร์ลี...เพราะข้าเตรียมแผนการต้อนรับอัสลันไว้เพียบเลยน่ะสิ” เขาบอกเสียงแผ่วเกือบเป็นกระซิบอย่างช้าๆอีกครั้ง ดวงตาสีเทาขุ่นวาววามไปด้วยความโมโหที่แฝงเร้น

และก่อนที่จะยืนทรงตัวสำเร็จเพราะพะวงกับโซ่เส้นยาวที่ลากไปพันติดกับเสาเรือนั้น ซีนายก็ซัดกำปั้นทางหลังมือใส่อัสลันเต็มเหนี่ยวจนเขาผงะหน้าหงายอุทานออกมาอย่างเจ็บปวด

ทว่าคนที่ตกตะลึงตาค้างกลับเป็นซีนาย เพราะเมื่อร่างอัสลันร่วงผล็อยลงไปที่พื้นสายตาเขาก็มองผ่านไปเห็นใบหน้ายิ้มกว้างของชาร์ลีซึ่งมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปากก่อนหลุดเสียงหัวเราะกังวานอย่างสาสมใจ

“นี่มัน...เกิดบ้าอะไรขึ้น ชาร์ลีทำไมเจ้า...เลือดนั่นมาจากไหนกัน”

ซีนายตัวสั่นเทิ้มเต็มไปด้วยความสับสน

“เจ้าเลือกเองนี่นาซีนาย” ชาร์ลีมองมาด้วยความสังเวชและยกแขนปาดเลือดออกเนิบช้า “เจ้ารู้เรื่องที่นูฟมีความเปลี่ยนแปลงตอนอายุสิบสี่หรือเปล่า ตอนที่เราเริ่มกลายสภาพและบ้าคลั่ง ถ้าเป็นที่เกาะข้าจะถูกขังในถ้ำพร้อมกับผู้เฒ่าประจำเกาะเพื่อให้ใครสักคนยุติความเปลี่ยนแปลงนั้นลง”

“ข้าไม่เข้าใจ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าและอัสลัน...”

“มันทำให้คนสองคนเกิดการเชื่อมต่อกันทางจิตวิญญาณที่ข้าเองก็ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ แต่ความเจ็บปวดของเขาจะเป็นของข้าเสมอ...ไม่ว่าเจ้าคิดจะทำอะไรกับเขาในระหว่างที่เอาเขาเป็นตัวประกันอยู่ที่นี่ จำไว้ให้ดีซีนาย...เจ้ากำลังทำร้ายข้าและอาจทำให้แผนการทุกอย่างของเจ้าพังพินาศลง!”

ชัยชนะที่กำอยู่ในอุ้งมือของซีนายแตกสลายลงด้วยประกาศิตของชาร์ลี...










Create Date : 19 มีนาคม 2554
Last Update : 19 มีนาคม 2554 15:20:04 น. 0 comments
Counter : 590 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.