Predestination (2015) : ยึดเวลา ล่าอนาคต
Never do yesterday what should be done tomorrow. If at last you do succeed ,never try again. จงอย่าทำเมื่อวานในสิ่งที่ควรทำวันพรุ่งนี้ หากสุดท้ายคุณทำสำเร็จ จงอย่าพยายามอีก
ไมเคิล และ ปีเตอร์ สเพียริก พี่น้องฝาแฝด ผู้กำกับ และ ดัดแปลงบทภาพยนตร์ไซไฟจากเรื่องสั้น ออล ยู ซอมบี้ส์ ของ โรเบิร์ต เอ ไฮน์ไลน์ เคยมีผลงานที่รู้จักกันดีในหนังแวมไพร์ สยองขวัญ/วิทยาศาสตร์ เรื่อง เดย์เบรคเกอร์ส ซึ่งเป็นเครดิตให้ทีมผู้อำนวยการสร้างมั่นใจว่าพวกเขาจะทำหนังเรื่องใหม่สัญชาติออสเตรเลียออกมาได้ดี
โลกแห่งอนาคต เจ้าหน้าที่พิเศษ (อีธาน ฮอว์ก - แสดง)ได้รับภารกิจในการเดินทางข้ามเวลาไปยุคสมัยต่างๆเพื่อหยุดยั้งอาชญากรรมก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง ปฏิบัติการครั้งสุดท้ายคือ ย้อนเวลาไปตอนเป็นเด็ก เพื่อชักชวนคนให้เข้ามาทำงานเหมือนเขา และ ตามล่ามือระเบิดด้าน,อาชญากรข้ามเวลาปริศนาที่เขาไล่หลังมาตลอดชีวิต
พี่น้องสเพียริกอยากขยายขอบเขตเรื่องราว ต่อยอดเรื่องสั้น เสริมแต่งรายละเอียด ให้กลายเป็นหนังไซไฟขนาดยาว ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นกับแนวคิดที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน เขาบอกภายในเรื่องเดียวกันนี้จะมีแนวหนังแอ็กชั่น สืบสวนสอบสวน รักโรแมนติก ไซไฟเข้มข้น บอกเล่าผ่านผู้ชาย (ผู้หญิง?)คนหนึ่งพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ มันมีทั้งแง่มุมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ปรัชญา กฎแห่งกรรม ผสมผสานความบันเทิงข้ามมิติสุดลึกล้ำ
เปิดฉากเจ้าหน้าหน่วยสืบราชการลับกำลังกู้ระเบิดเวลาแต่ถูกยิงขัดขวาง เขาโดนสะเก็ดระเบิดจนเสียโฉม ได้รับคำยกย่องชมเชยในความกล้าหาญจากทางการ แต่เขาอยากย้อนเวลากลับไปสู่อดีตอีกครั้งเพื่อปฏิบัติการครั้งสุดท้าย เขาทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ และ ได้พบปะพูดคุยกับนักเขียนหนุ่ม คอลัมน์คำสารภาพในนิตยสารใช้นามปากกาว่า คุณแม่ผู้ไม่แต่งงาน เขารู้สึกเห็นใจอีกฝ่าย และ ยื่นข้อเสนอพิเศษอย่างเหลือเชื่อให้ นั่นคือที่มาของเรื่องราวที่โยงใยเกี่ยวพันกันสลับซับซ้อน
พรีเดสติเนชั่น เป็นหนังที่ยากจะเล่าให้ใครฟังรู้เรื่อง หรือ แตะต้องในรายละเอียดมากไปกว่านี้ได้เพราะอาจหมดสนุก คงต้องหาเฉลย หรือ สปอยล์กันเองหลังจากดูจบแล้ว มีความสนุก น่าติดตามต่อเนื่องไปจนจบ เพราะมีเงื่อนงำหักมุมหลายตลบเป็นเหตุเป็นผลถักทออย่างดี สาระคือการค้นหาตัวตน รัก ให้อภัย และ จัดการตัวเองขั้นเด็ดขาด เหตุการณ์ในชีวิตพวกเขาพัวพันกันไม่ต่างกับงูกินหาง หาจุดเริ่มต้นไม่พบ คลำจุดจบไม่เจอ คล้ายคำถามโลกแตกว่า ไก่ กับ ไข่ อันไหนเกิดก่อนกัน
อีธาน ฮอว์ก บอกหนังมีสาระเกี่ยวกับเรื่องโชคชะตา และ เจตจำนงเสรี ผู้ชมอาจฉุกคิดว่าทำไมสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ อนาคตของเราเองมีความเป็นไปได้มากมาย ไม่แน่นอน หรือ ชะตาชีวิตถูกลิขิตเอาไว้แล้วด้วยสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายอะไรได้
ซาราห์ สนู้ค ดาราสาวชาวออสเตรเลียได้รับเลือกให้แสดงเป็นทั้งผู้ชาย (จอห์น) และ ผู้หญิง (เจน) ในโลกของมนุษย์สองเพศที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา อารมณ์ ลักษณะท่าทาง และ กริยาภายนอก ต้องแสดงให้สมบทบาท สอดคล้อง และ ขัดแย้งกัน เป็นสิ่งท้าทายเธอมาก
แม้หนังจะถ่ายทำเพียง 32 วัน แต่ขั้นตอนเตรียมงานยาวนานกว่านั้นหลายช่วงตัว มันผ่านการขบคิดเกี่ยวกับ ไทม์ไลน์ หรือ เส้นเวลา และ การเดินทางข้ามเวลา อย่างละเอียดครบถ้วนก่อนการถ่ายทำแล้วเขียนเป็นสตอรี่บอร์ด ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อนักออกแบบเครื่องแต่งกาย และ องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมในยุค 40's และ 70's ที่เน้นสีทึบทึม ซีดจาง ขณะโลกอนาคตแลดูสว่างไสว โลเกชั่นเมืองเมลเบิร์นถูกดัดแปลงให้เป็นอเมริกา
หนังทุนต่ำ แต่มีการสร้างบรรยากาศ และ เรื่องราวเฉพาะตัว บทดี เค้นออกมาจากความคิดสร้างสรรค์ล้วนๆ ยังเรียกร้องให้ผู้ชมเข้าไปพิสูจน์ ชวนฉงนสนเท่ห์ได้เสมอ ..
*ย่อ และ เรียบเรียงใหม่จาก นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่1178 ,1179 กุมภาพันธ์ และ มีนาคม 2558
Create Date : 21 กันยายน 2558 |
Last Update : 21 กันยายน 2558 0:35:32 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1472 Pageviews. |
|
|