|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เล่ห์ร้าย อุบายรัก ตอนที่13
ท้องฟ้าสีขมุกขมัวด้วยเมฆฝน...เมฆสีเทามืดครึ้มปกคลุมไปทั่ว ส่งผลให้ท้องฟ้ายามใกล้โพล้เพล้มืดมิดเร็วกว่าที่เคยเป็น ฝนตั้งเค้าเหมือนเตรียมจะต้อนรับการกลับบ้านของใครหลายคนในเวลานี้ ไม่นานนัก...หยดน้ำสีขาวใสก็หยดลงจากฟากฟ้าสู่พื้นดิน ผสมผสานกับเสียงฟ้าร้องเป็นระยะ ส่งผลให้การจราจรในท้องถนนติดขัดมากกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด
เสียงถอนหายใจลอดออกจากริมฝีปากบาง ดวงตากลมโตที่ล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอนเป็นแพเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะปกคลุมไปด้วยเมฆฝน....เสมือนในใจของเธอ ที่มืดมน...มืดแปดด้านไปหมดมองไม่เห็นทางไป นี่เธอมาถึงทางตันแล้วหรือ
สมองของหญิงสาวไม่รับรู้อะไรอีกแล้วนอกจาก...ความสิ้นหวัง ที่ประดังเข้ามาถาโถมใส่จิตใจดวงน้อยอีกครั้ง และในครั้งนี้มันได้พาเอาความหวังของเธอไปหมด คำพูดของคุณหมอยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท
หัวใจแย่ลงนะคุณพิชญา มือหนาทว่าแลดูเหี่ยวตามวัยของคุณหมอเถกิงเดช นายแพทย์ผู้ทำการรักษาของหญิงสาว พลิกแผ่นฟีลม์เอกซเรย์ผลการตรวจของหญิงสาวไปมาพลางส่ายหน้า
แล้วผลจากการทำเอคโค่ของคุณออกมาไม่ดีเลยนะครับ ลิ้นหัวใจรั่วทำให้หัวใจทำงานหนัก การบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจรุนแรงขึ้น ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปหัวใจจะทนรับปริมาณเลือดที่ต้องสูบฉีดในแต่ละวันไม่ไหว... คุณหมอละเสียงไว้แค่นั้น ทำให้หญิงสาวร้องถามต่ออย่างร้อนรน
ทำไมหรือคะคุณหมอ
มันเสี่ยงต่อสภาวะหัวใจล้มเหลว
ร่างบางของหญิงสาวสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว พิชญาเพ่งมองคุณหมอด้วยดวงตาที่พร่างพรายไปด้วยหยาดน้ำตา ทำไมล่ะคะ ดิฉันทานยาตามที่คุณหมอสั่ง ปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอทุกอย่าง พยายามปฎิบัติตัวตามข้อจำกัดอย่างเคร่งครัด แล้วทำไม... น้ำเสียงที่เอ่ยออกไปเบาหวิวราวกับเสียงกระซิบ รู้สึกโหวงเหวงในช่องท้องไปหมด ความรู้สึกในจิตใจ...อ่อนล้าเหลือเกิน นี่เธอกำลังจะตายใช่ไหม??
พักนี้คุณเครียดกับงาน มีเรื่องให้วิตกกังวนรึเปล่าครับ คุณหมอถามอย่างใจเย็น ยิ่งเห็นสีหน้าของคนไข้ที่ว่าซีดแล้วยิ่งซีดลงไปอีกก็ยิ่งแน่ใจ คุณหมอเถกิงเดชจึงอธิบายต่อโดยไม่รอคำตอบ
จริงอยู่ว่าการทานยา การทำตามคำแนะนำของหมอทุกอย่างเป็นวิธีการรักษาของโรคทุกโรค แต่คุณอย่าลืม...ไม่ว่าโรคไหนก็ตามล้วนต้องการกำลังใจที่ดีจากคนรอบข้างและกำลังใจของคนไข้ต้องดีด้วย โดยเฉพาะโรคหัวใจ การเครียดจนเกินไปก็อาจมีผลทำให้การรักษาแย่ลง ถึงแม้จะใช้ยาดีแค่ไหน ทำตามคำแนะนำยังไงก็อาจทำให้โรคทรุดได้ถ้าจิตใจแย่ ใจเป็นนายกายเป็นบ่าวไงครับ ทั้งๆที่การตรวจครั้งล่าสุดคุณอาการดีขึ้นมาก แค่ทำการรักษาด้วยยาก็พอ หมอไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุให้กลับมากำเริบอีกจนอาการของโรคแย่ลงขนาดนี้
หญิงสาวสะดุ้งกับคำถามของคุณหมอ เธอเข้ารับการตรวจครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้ามาทำงานกับบริษัทของภูมิรพี นับตั้งแต่นั้นเธอก็เจอเรื่องร้ายๆเข้ามาไม่หยุดหย่อน เธอไม่อยากโทษว่าเพราะพวกเขาถึงทำให้อาการป่วยของเธอแย่ลง แต่มันคงไม่อาจปฎิเสธความจริงข้อนี้ไปได้
ปะ...แปลว่าดิฉันกำลังจะตายรึคะ หลังจากได้ฟังคำบอกกล่าวของคุณหมอจบ ไม่รู้ว่าเธอเอ่ยคำคำนี้ออกไปได้อย่างไร แต่ ณ นาทีนี้หญิงสาวไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว
นอกจากความกลัว
ไม่หรอกครับ อาการของคุณพิชญายังไม่หนักถึงขั้นรักษาไม่ได้ แม้ว่าอาการจะแย่ลงกว่าเมื่อการตรวจครั้งที่แล้วมากก็ตาม แต่หมอแค่อยากเตือนให้คุณทำใจให้สบายไว้ เพราะถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ...คุณอาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ หรือถ้ามันร้ายแรงกว่านั้นมันอาจจะต้อง
ทำการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ
ผะ...ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจรึคะ การผ่าตัดเป็นเรื่องใหญ่และน่ากลัวสำหรับเธอมาก หญิงสาวจำได้ว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนชายของเธอคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถมอเตอร์ไซถูกเหล็กจากรถสิบล้อเสียบเข้าที่ใต้ราวนมฉีกยาวไปลงถึงหน้าท้อง แต่เพื่อนของเธอรอดได้ราวปาฏิหาริย์เพราะถึงมือหมอทันเวลา หญิงสาวยังจำวันที่ไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาล ตอนนั้นคุณพยาบาลใจดีกำลังเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เพื่อนของเธอใหม่พอดี จังหวะนั้นเองที่เธอได้เห็นถึงบาดแผลจากการผ่าตัดยาวลงไปตั้งแต่ใต้ราวนมถึงหน้าท้อง จนหญิงสาวต้องเบือนหน้าหนีปล่อยให้คุณพยาบาลทำแผลให้เสร็จถึงกล้าเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนด้วย ช่างเป็นภาพที่น่าสยดสยองสำหรับเธอยิ่งนัก วาสินีถึงกับกินข้าวกลางวันไม่ลงเพราะภาพติดตา ส่วนสิริสราไม่ต้องพูดถึง เป็นลมตั้งแต่เห็นบาดแผลแล้ว
แค่เห็นเธอยังทนไม่ได้ แล้วนี่บาดแผลนั่นต้องมาอยู่บนตัวเธอ ถึงจะไม่ยาวและลึกเท่านั้น แต่มันก็น่ากลัวอยู่ดี
หมอเคยคุณเตือนหลายตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้ว จำได้ไหมครับ นับจากครั้งแรกที่คุณถูกส่งตัวเข้ามารับการรักษาเพราะรถคว่ำ แต่อาการหลักหรือสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนั้นมันมาจากอาการหัวใจล้มเหลว
จำได้สิ ทำไมเธอจะจำไม่ได้ล่ะ ก็มันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด จุดเริ่มต้นของความแค้น ความเจ็บปวดและความปวดร้าวของใครหลายคนกับสิ่งที่เธอถูกยัดเหยียดให้เป็น
ทุกอย่างเริ่มต้นจากตรงนั้น... ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่เลือกเดินทางเส้นนั้นเด็ดขาด แต่ตัวเธออาจจะไม่ใช่คนที่กำหนดชะตาชีวิตของใครได้ หรือแม้กระทั่งชะตาชีวิตของตัวเอง ทุกอย่างล้วนเป็นไปอย่างที่คนบนฟ้าหรือโชคชะตากำหนดหรืออยากให้เป็น...
แล้วถ้าดิฉันผ่าตัดจะหายขาดไหมคะ ดิฉันไม่อยากกินยาอีกแล้ว
หมออยากให้เราทำความเข้าใจกันก่อน โรคลิ้นหัวใจรั่วไม่เหมือนโรคทั่วไป การผ่าตัดอาจช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น ช่วยต่อชีวิตคุณให้ยืนยาว แต่ไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ ถึงจะผ่าตัดไปแล้วคุณก็ต้องทานยาเหมือนเดิม ถ้าคุณไม่ทานยาเมื่อไหร่ก็เหมือนการฆ่าตัวเองทางอ้อม
พิชญาพยักหน้ารับอย่างอ่อนแรง ยิ่งฟังคำคุณหมอเท่าไหร่เธอก็ยิ่งกังวน มือบางทั้งสองกุมกันแน่นจนรู้สึกเจ็บแต่เธอก็ยังไม่ยอมคลายมือออก เหงื่อชื้นๆเริ่มผุดพรายตามไรผมทั้งๆที่บรรยากาศในห้องตรวจก็แสนจะเย็นสบายด้วยเครื่องปรับอากาศ อาการแบบนั้นไม่รอดพ้นการสังเกตของคุณหมอที่รับมือกับคนไข้ต่างๆมามาก
หมอไม่อยากให้คุณเครียดหรือวิตกจนเกินไป แต่ห้ามนิ่งนอนใจเด็ดขาด ต้องปฏิบัติตัวตามที่หมอสั่งทุกอย่าง ห้ามดื่มสุรา....
ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามทานอาหารเค็ม อาหารที่มันจัด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายพอประมาณแต่อย่าหักโหม ทานน้ำให้เยอะๆ เห็นไหมคะคุณหมอ ดิฉันฟังมาเป็นร้อยรอบจนจำได้หมดแล้ว แล้วก็ทำได้ครบทุกข้อตามที่บอกด้วยนะคะ เพียงแต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเพราะงานยุ่งน่ะค่ะ
คุณหมอเถกิงเดชยิ้มพลางส่ายหน้า ออกกำลังกายนั่นแหละครับที่สำคัญที่สุด ถ้าออกกำลังกายบ่อยๆหัวใจจะได้แข็งแรงและทำงานให้เราได้อีกนาน คุณเข้าใจที่หมอพูดใช่ไหมครับ
หญิงสาวพยักหน้าแรงๆเป็นการตอบรับ ก่อนที่คุณหมอเถกิงเดชจะหยิบยกประเด็นใหม่ขึ้นมากล่าวต่อ
อาการหัวใจล้มเหลวมันอันตรายมาก คุณต้องระวัง อย่าหักโหมทำงานหนักจนเกินไป พยายามทำใจให้สบายเข้าไว้ อย่าเครียด ถ้าต้องผ่าตัดคุณต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเพราะถ้าร่างกานอ่อนแอมันค่อนข้างเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน คุณหมอเถกิงเดชกล่าวต่อไปเรื่อยๆพร้อมกับสังเกตอาการของหญิงสาวไปด้วย เมื่อเห็นว่าเธอหน้าซีดลงเรื่อยๆคุณหมอจึงกล่าวให้กำลังใจ
คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ การแพทย์สมัยนี้ก้าวหน้ามาก สำคัญคือสุขต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงก็พอ แล้วถ้ามีอาการอะไรผิดปกติก็ให้รีบมาหาหมอให้เร็วที่สุด
มาหาหมอให้เร็วที่สุด....
คิดมาถึงตรงนี้แล้วพิชญาก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก ไปหาหมอหรือ... ไปนะเธอไปแน่ แต่ค่ารักษาพยาบาลมันจะต้องใช้เงินมากมหาศาลขนาดไหนกันนะ แล้วถ้าเธอไม่มีเงิน คุณหมอยังจะยินดีให้เธอไปพบอยู่รึเปล่า ลำพังเงินเก็บที่มีอยู่เพียงน้อยนิดก็แทบจะไม่พอค่ายา แล้วถ้าผ่าตัด...คงจะเป็นเงินจำนวนมิใช่น้อยเลย เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก จะให้ไปหยิบยืมใครที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่อง อัญชลีกับป้าดวงก็ใช่ว่าจะมีเงินถุงเงินถังเหลือเฟือพอให้เธอยืมได้ ทุกคนมีความจำเป็นต้องใช้เงินด้วยกันทั้งนั้น
จะเหลือที่พึ่งสุดท้ายก็คือ....พี่เอก ถ้าเขารู้เรื่องนี้เข้า เขาต้องยินดีที่จะช่วยเหลือเธออย่างแน่นอน แต่มันจะไม่เป็นการรบกวนเขาจนเกินไปหรือ และนี่มันก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆเลย ถึงพี่เอกจะร่ำรวยมากก็ตาม ขอให้นี่เป็นทางเลือกสุดท้ายของเธอก็แล้วกัน...
เพราะรู้ถึงความเดือนร้อนของตัวเองดี จึงไม่อยากทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนเพราะตัวเองไปด้วย
แต่!! แต่ถ้าเธอตายล่ะ... ทุกคนรอบข้างเธอจะเป็นอย่างไร พิชญานึกตอบตัวเองได้ในวินาทีนั้น ทุกคนคงดีใจคงไม่มีใครร้องไห้หรือเสียใจให้กับการจากไปของเธอ ทั้งคุณภูมิรพีคงดีใจที่เธอตาย เพราะตลอดเวลาเขาเฝ้าแต่ภาวนาขอให้เป็นอย่างนั้น วาสินีเพื่อนรักหรือแม้กระทั่งคุณหญิงสิริโสภากับท่านนายพลขจรศักดิ์ บิดามารดาของสิริสราก็คงจะดีใจที่คนเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของบุตรสาวตายไป... ถ้าไม่มีเธอสักคนพี่เอกก็คงกลับไปหาคุณโสภิตาหมั้นของเขา คุณโสเธอก็คงจะดีใจที่เธอไม่ถูกแย่งผู้ชายที่เธอรัก ป้าดวงก็จะสบายขึ้นถ้าไม่มีเธอคอยรบกวนหรือเป็นภาระ
พิชญาแค่นหัวเราะ ดูเหมือนถ้าเธอตายไปคงไม่มีใครโศกเศร้าหรือเสียใจ ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน ชีวิตเด็กกำพร้าอย่างเธอไม่มีใครต้องการจริงๆ คิดได้แค่นี้ขอบตาก็ร้อนผ่าวเหมือนมีใครนำไฟมาทาบทับไว้ พิชญาหนาวสั่นไปทั้งตัวน้ำฝนไหลปนน้ำตา ร้องไห้ตอนฝนตกก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยจะได้ไม่มีใครรู้ว่าเธอร้องไห้ ผู้คนเขาจะพากันสมเพชเปล่าๆ
หญิงสาวถามตัวเองหลายครั้งถ้าในวันนั้นคนที่ตายเป็นเธอ เรื่องราวในวันนี้คงไม่เกิดขึ้น ภูมิรพีคงสมหวังกับสิริสราแต่งงานกันอย่างมีความสุข เผลอๆอาจมีลูกน้อยไว้เชยชมแล้วก็ได้ ทุกคนคงมีความสุขสมหวังกันถ้วนหน้า
ส่วนเธอล่ะ ถ้าคนที่จากไปเป็นเธอ อย่างน้อยในงานศพของเธอคงจะมีคนโศกเศร้าอาลัย เสียน้ำตาให้กับความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของเธอที่ยอมเสียสละทั้งความรัก และชีวิตให้เพื่อนรัก
มันช่างหน้าขัน โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ
ปี๊น!!! เสียงแตรรถดังสนั่นไปทั่วท้องถนนนั้นทำให้พิชญาสะดุ้งสุดตัวและตื่นจากภวังค์โดยฉับพลัน ป้ายรถเมล์เล็กๆที่มีผู้มีผู้คนเบียดเสียดกันอย่างเนืองแน่นไม่สามารถคุ้มฝนให้เธอได้ดีนัก รู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าทั้งเนื้อตัวของเธอเปียกปอนไปด้วยละอองน้ำฝนที่กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ปี๊น!!! เสียงแตรถยังคงดั่งสนั่น รถยุโรปสุดหรูแล่นฉิ่วผ่านเธอไปเพียงเล็กน้อย พิชญาเหลียวตัวกลับไปมองหาใช่ตกตะลึงเพราะเสียงแตรของรถ แต่เป็นเพราะรถคนนั้นแสนจะคุ้นตา
แล้วไม่นานนักเธอก็ได้รับคำตอบ เมื่อกระจกข้างคนขับค่อยๆลดลงพร้อมกับปรากฏเสี้ยวหน้าคมเข้มกระชากใจสาว ใช่...มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าเขายิ้มสักหน่อย ไม่ทำหน้าบูดบึ้งคิ้วขมวดจนแทบจะชนกัน ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาปานเทพบุตรก็แปรเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าของยักษ์ได้ง่ายๆ
คุณภูมิรพี!!
ไหนบอกว่าอีกอาทิตย์กว่าถึงจะกลับไง แล้วทำไมเขาถึงโผล่มาอยู่ตรงนี้ได้
ใจดวงน้อยหล่นตุบไปอยู่ที่ปลายเท้า มือบางทั้งสองข้างเย็นเฉียบ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาโดนตัว หรือเพราะคนตรงหน้ากันแน่ ความคิดว่าเขามาอยู่ตรงนี้ได้นั้นหายไปทันที เมื่อภูมิรพีตวาดดังลั่นจนคนที่อยู่ในป้ายรถเมล์นั้นหันมามองด้วยความสนใจ ขึ้นรถ!!
พิชญาส่ายหน้าดุกดิกตอบรับอย่างอัตโนมัติ ชั่วขณะนั้นราวกับสมองทั้งสองส่วนหยุดสั่งการเอาเสียดื้อๆ หญิงสาวรู้สึกมึนตึงไปหมด ไม่เข้าใจแม้กระทั่งคำง่ายๆที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมา
ฉันบอกให้ขึ้นมา!! น้ำเสียงนั้นเหมือนกัดฟันพูด คนฟังอย่างเธอหรือแม้แต่เด็กเล็กๆก็พอจะเดาได้ว่าเขาไม่เต็มใจชวน แล้วทำไมเขาต้องบังคับเธอให้ขึ้นรถไปด้วย ทั้งๆที่เขาเกลียดเธอ
จะขึ้นมาเองดีๆหรือจะให้ฉันไปลากเธอขึ้นมา เสียงที่เปล่งออกมามันห่างไกลจากคำเชื้อเชิญดีๆ แต่หญิงสาวรู้ว่าดีเขาเป็นคนพูดจริงทำจริงขนาดไหน ดังนั้นร่างบางจึงผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง เปล่า...ไม่ใช่ว่าเธอกลัวจนต้องรีบขึ้นไปนั่งรถของเขาหรอก เพราะเธออยากลุกไปไกลจากตรงนี้มากกว่า ยิ่งเห็นผู้คนรอบข้างเริ่มซุบซิบนินทากันด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอยิ่งอยากหนีไปให้ไกล
ภูมิรพีสบถดังลั่นเมื่อเห็นร่างบางของพิชญาวิ่งฝ่าฝนออกไป ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเปิดประตูรถตามลงไป แต่ก็ทำไม่ได้อยากใจคิด เมื่อมีรถคันหลังบีบแตรไล่หลังอยู่อย่างนี้
พิชญาวิ่งฝ่าสายฝนออกไปเพื่อเรียกแท๊กซี่ แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงแตรรถดั่งสนั่นไปทั่วบริเวณ หญิงสาวเหลียวกลับมามองเพราะกลัวว่าจะเป็นเขา แต่กลับไม่ใช่ เสียงแตรรถที่เธอได้ยินไม่ได้ออกมาจากรถยุโรปคันสีดำที่เขาคนนั้นเป็นเจ้าของ แต่ออกมาจากรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ที่ดูคุ้นตาเป็นอย่างยิ่ง
แพน นั่นแพนใช่ไหม เจ้าของรถกระบะส่งเสียงร้องเรียกด้วยความดีใจ เขาเป็นชายหนุ่มผิวขาว รูปร่างสูงโปร่ง เพราะการแต่งตัวที่ดูดีบวกกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มเลยทำให้เขากลายเป็นชายหนุ่มที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวมองด้วยความสนใจ
พิชญาพยายามหรี่ดวงโตกลมโต มองฝ่าสายฝนออกไป แม้ว่าภาพชายหนุ่มตรงหน้าจะดูเลือนรางเสียเหลือเกินในความคิดของเธอ แต่หญิงสาวก็จำน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาได้
โฟม พิชญายิ้มรับด้วยความยินดี เหมือนฟ้าประทานตัวช่วยมาให้เธออีกแล้ว หญิงสาวรีบตรงไปยังรถกระบะคันนั้นทันที เพราะถ้าขืนเธอยังยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปถ้าไม่เป็นปอดบวมตายก่อนก็คงถูกเขาคนนั้นฉุดกระฉากไปทำมิดีมิร้ายแน่นอน ดูจากสายตาแล้ว เขาคงโกรธมากที่เธอกล้าวิ่งหนีเขามาอย่างนี้
โฟมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ แพนขึ้นรถดีกว่า เดี๋ยวจะเป็นหวัดนะ พิชญาไม่รอช้า รีบจนแทบจะเรียกว่ากระโดดขึ้นรถเลยด้วยซ้ำ และเมื่อรถกระบะเคลื่อนผ่านหน้ารถยุโรปสีดำ หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะผินหน้ากลับไปมองเจ้าของรถคันนั้น และก็ต้องรีบหันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็วเมื่อดวงตากลมโตบังเอิญไปสบกับสายตาเข้มที่คุกรุ่นไปด้วยความโกรธ
เป็นอะไรไปรึเปล่าแพน โฟมหรือพีรพล เพื่อนสนิทอีกหนึ่งคนของหญิงสาวถามเมื่อเห็นว่าร่างบางก้มหน้างุดๆมองปลายเท้าตัวเอง
เปล่าจ้ะ ว่าแต่เค้า โฟมนั่นแหละไหนว่าไปทำงานต่างจังหวัดจะกลับเดือนหน้าไง
นี่มันวันที่ 28 แล้วนะครับคุณหนูแพน อีกสามวันก็จะขึ้นเดือนใหม่แล้วนะขอรับ น้ำเสียงล้อๆที่ส่งกลับมาทำให้ร่างบางให้ไปยิ้มแก้เก้อให้กับเพื่อนหนุ่มทันที
แล้วไปทำอะไรอยู่แถวนั้นละแพน ดูสิเปียกเหมือนลูกหมาเลย พีรพลพูดพลางหยิบผ้าขนหนูของเขาที่มักมีติดรถเสมอยื่นให้คนตัวเล็ก
ขอบใจจ้ะ โฟมยังรอบคอบเหมือนเดิมเลยนะ มีของทุกอย่างติดรถจนแพนไม่แน่ใจว่านี่มันรถหรือบ้านกันแน่ พิชญานำผ้าขนหนูมาซับศีรษะและเนื้อตัวที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน พลางเอ่ยแซวเพื่อนหนุ่มอย่างขำๆ การได้พูดจาหยอกล้อกับเพื่อนก็ทำให้ความไม่สบายใจคลายไปได้มากเลยทีเดียว
รถก็เหมือนบ้านหลังที่สองของเรานั่นแหละ ชีวิตวิศวกรจนๆอย่างเรามันก็ได้แค่นี้แหละ พีรพลแสร้งทำเสียงเศร้าให้หญิงสาวมาง้อ แต่ก็ได้แค่ค้อนวงโตจากคนตัวเล็กส่งมาให้แทน
ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย มุกเก่าๆของโฟมใช้ไม่ได้อีกแล้วล่ะ พิชญาทำปากยื่นงอนเพื่อนสนิทหลังจากที่หลงกลมารอบที่เท่าไหร่ จนหญิงสาวหน่ายที่จะจำในความเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่ม
แล้วเป็นไงมาไงแพนถึงมาติดฝนอยู่แถวนี้ได้ พีรพลถามเรื่อยๆเหมือนหาเรื่องคุย ไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบจนเกินไป ทั้งที่ในใจเต้นระรัวเหมือนมีใครมาตั้งวงตีกลองชุดในใจ สายตาของเขาพุ่งตรงไปข้างหน้า แต่บางครั้งก็แอบเหลียวมองร่างบางเป็นระยะ
เธอจะรู้ไหมนะว่าเขาคิดถึงเธอมากแค่ไหน
ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่เขาไปทำงานที่ต่างจังหวัด เขาเฝ้าคร่ำครวญคิดถึงเธอจนแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ พยายามเร่งงานจนเสร็จก่อนเวลา เผื่อที่จะได้กลับมาเห็นหน้าเธอ... แต่ทั้งๆที่อยู่ใกล้จนแค่เอื้อมขนาดนี้ เขากลับรู้สึกเหมือนเธอยิ่งห่างไกล หรือบางทีเขาอาจจะอยู่ใกล้เกินไป...
แพนมาทำงานอยู่แถวนี้นะจ้ะ แพนได้งานทำหลังจากที่โฟมออกต่างจังหวัดได้สองวันมั้ง
ดีใจด้วยนะแพน ไม่เห็นโทรบอกเราบ้างเลย น้ำเสียงที่มีความน้อยใจจืออยู่นิดๆ แต่หญิงสาวไม่ทันสังเกต
แหม ก็กลัวรบกวนโฟมนี่นา อีกอย่างแพนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลยไม่ได้โทรบอก
เรื่องของแพนคือเรื่องสำคัญสำหรับเราทุกเรื่อง เขากล่าวอย่างจริงจัง แต่คนตัวเล็กกลับหัวเราะเสียงใสด้วยไม่เข้าใจว่าในคำพูดนั้นมีคำในแฝงอยู่
จ้าๆ พ่อคนขี้น้อยใจ ต่อไปนี้แพนจะรายงานโฟมทุกเรื่องเลยดีไหม
อืม... แล้วแพนจะให้เราไปส่งที่ไหนล่ะ พีรพลตัดบทเปลี่ยนเรื่อง
วันนี้แพนคงไม่เข้าไปหาป้าดวงหรอกจ้ะ พรุ่งนี้ต้องไปบริษัทเพราะมีงานเช้า เดี๋ยวจะไปทำงานไม่ทัน เอาเป็นว่าโฟมไปส่งแพนที่อพาร์เม้นท์แล้วกันนะ
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใจก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างอยู่ในใจ พูดตรงๆเลยนะ เราไม่เห็นด้วยเลยกับการที่แพนจะออกไปอยู่คนเดียว เราเป็นห่วงมันอันตรายรู้รึเปล่า แพนกลับไปอยู่กับป้าดวงเหมือนเดิมดีกว่านะ ถ้ากลัวว่าจะไปทำงานไม่ทันเดี๋ยวเราไปส่งเองก็ได้ นะ แพนนะ
ทำอย่างนั้นไม่ได้นะ ร่างบางแหวใส่เสียงดัง ซึ่งดูยังไงก็เหมือนลูกแมวขู่ฟ่อเท่านั้น แพนรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงแพน แต่แพนทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกนะ โฟมก็มีงานต้องทำ อันก็ได้งานแล้ว ทุกคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง ถ้าทุกคนเอาแต่เป็นห่วงแพนแล้วงานของทุกคนล่ะ จะทำยังไง เอาเถอะ...แพนสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเลยดีมั้ย ท้ายประโยคหันไปถามพลางยิ้มให้กับคนขับ
พีรพลได้แต่ยิ้มรับ เพราะทำอะไรไม่ได้นอกจากนี้ แม่ตัวเล็กคนนี้บทจะดื้อก็ดื้อซะจนน่าจับตีก้น แต่เขายอมรับว่าแพ้รอยยิ้มสดใสที่ส่งมาให้ทุกที แพ้อย่างราบคาบเลยล่ะ
ก็ได้ แต่ว่าวันอาทิตย์นี้แพนต้องมากินข้าวกับพวกเราที่บ้านนะ เดี๋ยวเราให้ยัยอันทำกับข้าวอร่อยๆไว้ให้กินกัน เราได้ของทะเลสดๆกลับมาเต็มเลยคิดถึงฝีมือของป้าดวงเต็มแก่แล้วจะให้ป้าดวงทำยำแมงดากับปูผัดผงกะหรี่ที่แพนชอบไว้ให้ นะจ้ะ
โห แค่ได้ยินชื่อก็น้ำลายสอแล้ว รับรองแพนไม่พลาดแน่นอน +++++++++++++++++++++++++
แววตาสีนิลเข้มที่เป็นวูบไหวเป็นประกายคุกรุ่นด้วยความโมโหเมื่อเห็นรถกระบะคันนั้นหายวับไปต่อหน้าต่อตา ภูมิรพีสถบดั่งลั่นพลางใช้มือทั้งสองทุบลงบนพวงมาลัยรถยนต์อย่างกลั้นโทสะ ความคิดว่าหญิงสาวมาทำอะไรที่หน้าโรงพยาบาลหายวับไปจากสมองเพราะถูกความโมโหเข้ามาบดบังจนหมด ผู้หญิงคนนั้นกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง กล้าปฏิเสธเขาไปขึ้นรถกระบะกระจอกๆนั่นแทนที่จะขึ้นรถของเขา กล้าหนีเขาถึงสองครั้งสองคราว
เธอกล้าทำถึงเพียงนี้ได้อย่างไร
แวบแรกที่เห็นเธออยู่ตรงป้ายรถเมล์เนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำฝน หนาวสั่นเหมือนลูกนกตัวเล็กๆ ที่ต้องการไออุ่น เขาเกิดความรู้สึกบางอย่างแทรกเข้ามาในจิตใจ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกนั้น จนเขาเผลอทำสิ่งที่ตัวเองไม่คาดคิดว่าจะทำ นั่นคือเอ่ยปากให้เธอมาขึ้นรถ แต่ดูสิ่งที่เธอทำและผลที่เขาได้รับตอบแทนกลับมาสิ มันคือการปฏิเสธ!!
คราวแรก เธอกระโดดลงหนีจากรถเพื่อหนีเขา
และคราวนี้ เธอปฏิเสธที่จะขึ้นรถกับเขา แต่กลับไปขึ้นรถกระบะคันนั้นแทน ถ้าเขาเดาไม่ผิด เขาเห็นผู้ชายหน้าตาท่าทางดูดีเป็นคนขับ กล้าปฏิเสธเขาเพื่อไปกับผู้ชายคนอื่นงั้นเหรอ!! งานนี้ไม่จบง่ายๆแน่พิชญา คราวหน้าฉันจะทำให้เธอปฏิเสธฉันไม่ได้อีก มือหนากำแน่นอยู่บนพวงมาลัยรถยนต์กับคำที่มาดมั่นอยู่ในใจ !!
ภูมิรพีเงยหน้าขึ้นมองผ่านกระจกใสที่มีไอจากละอองน้ำเกาะอยู่ข้างรถ สายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่ป้ายขนาดใหญ่เด่นสะดุดตาที่มีสัญลักษณ์เป็นเครื่องหมายบวกสีแดง
โรงพยาบาล!!! แล้วความคิดที่อยู่ในสมองส่วนลึกก็แวบขึ้นมา เมื่อครู่นี้ถ้าเขาดูไม่ผิดเขาเห็นหญิงสาวถือถุงของโรงพยาบาลนี้ คิ้วเข้มเริ่มขมวดขึ้นอย่างใช้ความคิด
เธอมาทำอะไรที่นี่กันแน่พิชญา....
++++++++++++++++++++++++
ร่างโปร่งระหงที่ก้าวเข้ามาในร้านอาหารสุดหรูกึ่งผับดูดีมีระดับในโรงแรมชื่อดังในย่านกลางเมือง ทำให้หนุ่มเล็กหนุ่มน้อยกระทั่งหนุ่มใหญ่เหลียวมองด้วยความเสน่หา หญิงสาวเพียงแต่เปรยหางตามองผู้ชายเหล่านั้น ก่อนเรียวปากสวยที่เคลือบด้วยลิปสติกราคาแพงจะยกสูงขึ้นนิด... เพียงนิดเดียวเท่านั้นก็ทำให้หนุ่มและไม่หนุ่มทั้งหลายจับจ้องมองตามด้วยความปรารถนา
มือเรียวถอดแว่นสีชาออกเผยให้เห็นดวงตาเรียวที่ซ่อนความเปรี้ยวเอาไว้ด้วยการแต่งหน้าที่แน่นไปในโทนสีส้มที่รับกับชุดลายดอกไม้สีแดงดอกใหญ่สไตล์ละตินเนื้อผ้าพลิ้วพรายแนบลู่ไปกับต้นขาเรียวทุกครั้งที่ก้าวเดิน จังหวะเดียวกับที่บริกรในชุดหูกระต่ายเดินเข้ามาถามด้วยความสุภาพ
กี่ที่ดีครับ
หญิงสาวกวาดสายตาไปทั่วร้าน ก่อนจะพบคนที่การนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านในสุด เธอไม่รอช้าสาวเท้ายาวๆไปที่โต๊ะด้านในอย่างไม่รอช้า ก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอีกโดยไม่รอให้อีกฝ่ายเชิญ จริงอยู่ที่มารยาทในสังคมสมควรที่ต้องมีบ้าง แต่กับผู้ชายคนนี้เธอไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทอยู่แล้ว
คุณกลับมาที่นี่อีกทำไม แล้วที่ติดต่อกับฉันต้องอะไร หญิงสาวยิงคำถามใส่ทันทีที่นั่ง เธอไม่ต้องการเสวนากับผู้ชายคนนั้นนานนักหรอก... ถ้าไม่จำเป็น
อะไรกันครับคุณผู้หญิง มาถึงก็เล่นถามคำถามแบบนี้ผมตกใจแย่ ไม่คิดจะถามสารทุกข์สุขดิบกันบ้างเลยรึไง คนไม่พบหน้ากันตั้งสองปีแท้ และเมื่อเห็นว่าหญิงสาวทำหน้าไม่สบอารมณ์มากขึ้น เขาจึงเปลี่ยนเป็นฝ่ายทักก่อน โอเค ผมถามคุณก่อนก็ได้ สบายดีไหมครับ...คุณวาสินี
ฉันสบายดี พูดธุระของคุณมาได้แล้ว ฉันมีธุระที่ต้องทำจัดการอีก วาสินีกล่าวก่อนจะเชิดหน้าขึ้น
อะไรกันครับ ธุระที่ว่าของคุณนี่มันสำคัญกว่าการได้พบหน้าเพื่อนเก่าอย่างผมเชียวเหรอ รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นตรงมุมปากของชายหนุ่ม ดวงตากร้าวเป็นประกาย จนคนฟังถึงกับหนาวๆร้อนๆ
แก-ไม่-ใช่-เพื่อน-ฉัน หญิงสาวกระแทกเสียงใส่เน้นทีละคำแต่ชัดในความหมาย ก่อนจะผลุดลุกขึ้นจากเก้าอีกเหมือนถูกของร้อนและเดินออกไปโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่ยังนั่งเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อน ทั้งๆที่เขาเพิ่งโดนวาจาหยาบคายสาดใส่หน้าแบบไม่ยั้ง
เขาเพียงแต่จุดบุหรี่แล้วยกขึ้นสูบ พ่นควันขาวออกมาจากริมฝีปากด้วยความใจเย็น ก็ดี ผมก็ไม่อยากเป็นเพื่อนกับคุณเหมือนกัน เพราะใครที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนของคุณต้องโดนไฟริษยาที่มีในตัวคุณเผาใส่ทุกราย คนนึงก็ตายไปแล้ว ส่วนอีกคนนึงก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอด
อยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น จริงไหมครับคุณผู้หญิง
วาสินีสะดุดกึกทันทีที่ได้ยิน เขาใช้เพียงไม่กี่ประโยคก็สามารถหยุดการก้าวเดินของเธอไปได้อย่างง่ายดาย และถ้าเขาพูดออกมาอีกประโยค เธออาจจะหยุดหายใจด้วยความตกใจไปก็ได้
แกคิดจะขู่ฉันงั้นเหรอ หญิงสาวกัดฟันพูดน้ำเสียงกึ่งตะโกนกึ่งตะคอก ถ้าไม่ติดว่าร้านอาหารมีคนอยู่เยอะ บวกกับที่เป็นคนรักษาหน้าตาในสังคม ป่านนี้เธอได้วีนลั่นร้านไปแล้ว
คุณก็รู้ว่าผมไม่เคยขู่ใคร ชายหนุ่มหันมาเผชิญหน้ากับเธออีกหน แต่ครั้งนี้ไม่มีแววตาขี้เล่นเป็นประกายเหมือนอย่างครั้งแรก เป็นสัญญาณบอกเธอได้อย่างดีว่า เขาพูดจริงทำจริง แล้วตอนนี้เขาก็เริ่มจะเอาจริงแล้ว
เชิญนั่งลงก่อนสิครับ ผมไม่อยากพูดทั้งๆถูกผู้หญิงยืนค้ำหัวอยู่แบบนี้ เขาฝ่ายมือไปทางเก้าอี้ที่หญิงสาวเพิ่งลุกมาเมื่อครู่ คำเชิญที่เหมือนบังคับกลายๆทำให้เธอต้องกระแทกตัวลงนั่งอย่างหัวเสีย แม้นิสัยของเธอจะเกลียดการถูกออกคำสั่ง แต่เวลานี้เขาถือไพ่เหนือกว่า เธอจึงไม่มีโอกาสต่อกรกับเขาได้ ในเมื่อเรื่องราวในอดีตเหมือนชนักปักหลังเธออยู่ตอนนี้ เธอก็เหมือนลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตายคลายก็รอด
แก
วาสินีทำท่าจะพูด แต่ถูกมือใหญ่รั้งที่ริมฝีปากซะก่อน
จุ๊ๆๆ ผมไม่ชอบให้คุณเรียกผมด้วยสรรพนามนั้น กรุณาสุภาพกับผมด้วย ก่อนที่ผมจะหมดความอดทน ถ้าถึงตอนนั้น คุณเองนั้นแหละที่จะลำบาก อ้อ! ถ้าคุณจะกรุณาผมอีกสักนิด ช่วยยิ้มให้ผมด้วยครับ เพราะผมไม่ชอบผู้หญิงที่หน้าบึ้งเหมือนยักษ์
ตกลงว่าคุณเมทัศน์มีธุระอะไรกับดิฉันไม่ทราบคะ หญิงสาวฉีกยิ้มให้เขาด้วยความยากลำบาก ในใจเดือดปุดๆไปด้วยความโมโห
ดีครับ พูดจาอย่างนี้ค่อยคุยกับรู้เรื่องหน่อย เมทัศน์ยิ้มให้หญิงสาวเช่นกัน แต่เป็นยิ้มที่จอมปลอมเพราะยิ้มแต่ปาก แต่ดวงตากลับกร้าวเป็นประกาย
ความจริงผมก็ไม่มีธุระอะไรสำคัญนักหรอก ที่เรียกคุณออกมาในวันนี้แค่อยากบอกว่าผมกลับมาจากเมืองนอกแล้ว และไอ้เงินที่คุณให้ผมไปถลุงใช้ที่เมืองนอกมันก็หมดแล้วด้วยครับ อ้อ...แล้วอีกเรื่อง ผมก็แค่อยากกลับมาดูความก้าวหน้าของคุณ เฮ้อ...น่าเสียดายดูเหมือนคุณยังไม่ไปถึงไหนเลยนะ เสียแรงที่ผมอุตส่าห์ช่วย
ที่แท้แกก็แค่ต้องการเงิน หญิงสาวกระตุกยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัยเหนือกว่า ในเมื่อเธอรู้แล้วว่าเขาต้องการอะไรก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีก
เมทัศน์หัวเราะในลำคอ มือหนาหยิบบุหรี่ขึ้นสูบแล้วพ่นควันใส่หน้าหญิงสาว
นี่แกทำอะไรน่ะ แกต้องการเงินเท่าไหร่ก็บอกมาสิ ฉันให้แกได้มากกว่าที่แกต้องการอีก วาสินีหยิบเช็คเงินสดออกมาจากกระเป๋าราคาแพงของเธอ จรดปากกาลงในนั้นแล้วยื่นให้คนตรงหน้า
มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมมารับเช็ค หญิงสาวกระตุกยิ้ม 10ล้าน คงทำให้แกเสพสุขที่เมืองนอกได้อีกนาน กลับไปซะ! แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก ที่นี่ไม่ต้อนรับแก
ขอบคุณครับ แล้วเมทัศน์ก็ทำสิ่งที่หญิงสาวคาดไม่ถึง นั่นคือการเผาเช็คเงินสด10ล้านที่เธอให้ด้วยบุหรี่ในมือเขาอย่างช้าๆ เช็คค่อยๆเผาไหม้ไฟลุกลามติดกระดาษเรื่อยๆ ชายหนุ่มลงเช็คใบนั้นลงพื้นก่อนจะขยี้ด้วยส้นรองเท้า
วาสินีตาลุกวาว ไม่เข้าใจการกระทำของคนตรงหน้า นี่แกต้องการอะไรกันแน่
ดูเหมือนคุณจะประเมินผมต่ำเกินไปนะครับ ตอนนี้เงินไม่สำคัญกับผมอีกแล้ว เพราะผมไม่ใช่หมาจนตรอกเหมือนในตอนนั้น อ้อ! แล้วผมจะย้ำให้ฟังอีกครั้ง กรุณาเรียกผมด้วยคำที่สุภาพ ไม่งั้นคุณจะมีสภาพไม่ต่างจากเช็คใบนั้น หญิงสาวกลืนก้อนน้ำลายแข็งๆลงในคออย่างอยากลำบาก ดวงตาจับจ้องไปที่สภาพของเช็คที่ไม่ต่างอะไรกับขี้เถ้า ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมาประทะกับคนตรงหน้า
คุณต้องการอะไรกันแน่ น้ำเสียงนั้นสั่นน้อยๆ แต่แฝงไปด้วยความกลัวสุดขีด กลัวเรื่องที่ทำจะถูกเผยออกมา
นั่นยังไม่ใช่เรื่องที่คุณควรรู้ คุณจะรีบรู้ไปทำไม ถ้ารู้เร็วเกมมันก็ไม่สนุกนะสิ
เกมงั้นเหรอ
ใช่ เกม อย่าลืมสิครับคุณวาสินี ขี่หลังเสือแล้วลงยาก หญิงสาวพยายามระงับความกลัวเอาไว้ มือไม้ทั้งสองข้างของเธอมันสั่นอย่างยากที่จะหยุดแล้ว
ใช่... ขี่หลังเสือแล้วลงยาก ในเมื่อเขาเป็นเสือที่เคยให้เธอขี่ แล้วถ้าเสือตัวนี้ไม่ยอมให้เธอลง คิดเหรอว่าเธอจะลงไปได้ง่ายๆ
โอ๊ะโอ๋ วันนี้ดูคุณเครียดๆนะครับ ไว้อารมณ์ดีกว่านี้แล้วค่อยมาคุยกัน ยังไงเราก็ต้องเจอกันอีกนาน เชื่อเถอะครับ ผมไม่ปล่อยให้คุณทำเรื่องสนุกๆอยู่คนเดียวหรอก ผมต้องมีส่วนร่วมบ้าง ชายหนุ่มเชยคางวาสินีขึ้นมา ก่อนจะหัวเราะแล้วเดินจากไปอย่างผู้ชนะ เสียงหัวเราะยังคงดังก้องอยู่ในหูจนหญิงสาวต้องยกมือขึ้นปิด
แกต้องการอะไรกันแน่ไอ้เมทัศน์
To be continue....
|
|
|
Create Date : 08 ตุลาคม 2549 |
|
53 comments |
Last Update : 16 มีนาคม 2550 5:27:21 น. |
Counter : 1204 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ไข่มุก IP: 210.203.186.154 8 ตุลาคม 2549 21:34:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: bapanij (bapanij ) 8 ตุลาคม 2549 23:41:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: bapanij (bapanij ) 8 ตุลาคม 2549 23:47:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไข่มุก IP: 210.203.186.154 9 ตุลาคม 2549 0:39:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไข่มุก IP: 210.203.186.21 9 ตุลาคม 2549 13:58:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: เกียง IP: 202.28.181.10 9 ตุลาคม 2549 17:04:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: mona IP: 202.57.180.1 9 ตุลาคม 2549 22:11:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไข่มุก IP: 210.203.186.104 9 ตุลาคม 2549 22:13:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้อง IP: 222.123.36.53 9 ตุลาคม 2549 22:57:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไข่มุก IP: 210.203.186.104 10 ตุลาคม 2549 0:18:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไข่มุก IP: 210.203.186.104 10 ตุลาคม 2549 0:22:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: โดเรมอน IP: 203.144.189.74 10 ตุลาคม 2549 10:07:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไข่มุก IP: 210.203.186.223 10 ตุลาคม 2549 17:28:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: MiK IP: 203.113.60.7 10 ตุลาคม 2549 22:04:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไข่มุก IP: 210.203.186.223 11 ตุลาคม 2549 0:36:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: สายน้ำ IP: 210.86.130.199 13 ตุลาคม 2549 0:14:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: Ewan IP: 210.213.12.40 14 ตุลาคม 2549 15:12:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้อง IP: 222.123.33.106 19 ตุลาคม 2549 20:01:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: Ewan IP: 124.121.160.73 20 ตุลาคม 2549 10:19:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: Oldtrafford IP: 202.143.151.162 27 ตุลาคม 2549 10:31:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก้อย (newkoy ) 28 ตุลาคม 2549 12:34:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: bapanij IP: 125.25.155.66 28 ตุลาคม 2549 21:17:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้อง IP: 222.123.114.144 29 ตุลาคม 2549 10:50:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: bapanij (bapanij ) 31 ตุลาคม 2549 22:55:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนทำงาน IP: 58.136.117.118 1 พฤศจิกายน 2549 14:21:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: mali IP: 203.170.228.172 1 พฤศจิกายน 2549 20:39:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนทำงาน IP: 58.136.117.118 2 พฤศจิกายน 2549 15:56:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมิวจ้า IP: 84.195.41.174 5 พฤศจิกายน 2549 17:31:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: มาเร็วๆนะจ๊ะ IP: 203.113.39.12 7 พฤศจิกายน 2549 22:45:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้อง... IP: 58.147.68.135 11 พฤศจิกายน 2549 20:44:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: vv IP: 124.121.91.202 17 พฤศจิกายน 2549 19:49:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: pooh IP: 124.120.99.211 19 พฤศจิกายน 2549 0:00:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: bapanij (bapanij ) 24 ธันวาคม 2549 17:32:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: bapanij (bapanij ) 29 ธันวาคม 2549 21:32:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) 5 มกราคม 2550 23:53:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: โชแปงค๊าบ (nutuang ) 6 มกราคม 2550 11:36:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: บ้านโคกโจด (my_oom ) 6 มกราคม 2550 11:39:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: PutterZ (ToppuT ) 6 มกราคม 2550 16:44:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: G@boR 7 มกราคม 2550 0:15:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) 9 มกราคม 2550 0:38:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลาทอง IP: 203.131.212.11 6 กุมภาพันธ์ 2550 16:34:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: Oldtrafford IP: 202.143.151.162 17 กุมภาพันธ์ 2550 14:22:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก้อย IP: 58.8.3.146 21 กุมภาพันธ์ 2550 23:04:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องหมิว IP: 84.193.150.238 12 มีนาคม 2550 23:45:38 น. |
|
|
|
|
|
|
หลงเข้ามาไม่รู้จะไปทางไหน เข้ามาเซ็นสมุดเยี่ยมก่อนเลยค่า ยินดีต้อนรับเพื่อนใหม่ทุกคนค่ะ
เล่ห์ร้าย อุบายรัก ตอนที่16
มาแว้วววว!! >O<
|
ไข่มุกมาอัพเดทเรื่อง ปฎิบัติการรักดักหัวใจนายตัวแสบตอนที่5 แล้วค่ะ เอาไปแค่70% ก่อนนะเด้อ
|
.::หลังไมค์ถึงไข่มุกค่ะ::.
|
งานประพันธ์ทุกชิ้นเป็นลิขสิทธิ์โดยชอบธรรมของผู้เขียน ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ หรือนำไปโพสต์ที่อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องโดยเด็ดขาด มีปัญหากรุณาติดต่อ kitty_Mukkแอดhotmail.com
|
ฝากข้อความถึงไข่มุกที่นี่ค่ะ^O^
cursor
|
|
|
|
|
|
|