ลมหวน : โสภาค สุวรรณ
ลมหวนผู้แต่ง โสภาค สุวรรณพิมพ์ครั้งแรก มิถุนายน 2540สำนักพิมพ์ ใยแก้ว (เล่มเดียวจบ)--เรื่องย่อ--วกุล เซซิล เด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงโดยมิสโรส เซซิล พยาบาลชาวอเมริกันทำงานในไทย วกุลเรียกว่าม็อม เธอตัดสินใจลาออกจากงานเมื่อม็อมจะกลับไปอยู่อเมริกา มาร์ค เกลเดอร์ ทนายความหนุ่มได้มาทำความรู้จักกับเธอเพราะพี่ชายเขาซึ่งเธอเคยร่วมงานด้วยได้บอกไว้ บ้านเขาห่างจากบ้านม็อมไม่มากนักแต่แล้วม็อมได้เสียชีวิตอย่างกระทันหัน เธอตัดสินใจรับงานเป็นเลขาของทรอย เมอเรย์ ซึ่งมาร์คดูแลทางด้านกฎหมาย ธุรกิจให้อยู่ เธอต้องย้ายมาพักที่คฤหาสน์ของนายจ้างแท้จริงแล้วทรัพย์สมบัติมากมายของตระกูลแบรดเล่ย์ เป็นของ แอนดรู มัดวายาเช แบรดเล่ย์ ทายาทกำพร้าลูกครึ่งอินเดียแดงอเมริกัน แต่ด้วยเขาเป็นปัญญาอ่อน นายเมอเรย์ ผู้เป็นลุงเขยจึงเป็นผู้ดูแล และตั้งแบรดเล่ย์ฮอลล์ขึ้นมาสำหรับดูแลแอนดรูและคนปัญญาอ่อนวกุลได้บังเอิญไปเห็นพิธีกรรมสาปแช่งโดยชายแก่อินเดียนแดง ซึ่งนางมอนโรคนรับใช้เก่าแก่ เป็น ใบ้ หูหนวก อยู่ด้วย เธอพยายามคุยโดยใช้ภาษามือ และได้รู้จากนางมอนโร และ มาเรีย หญิงอินเดียแดงที่เคยเป็นพี่เลี้ยงแอนดรูว่า ตอนเล็กๆนั้น แอนดรูปกติดีวกุล และ สตีฟ เบซิล นักจิตวิทยาประจำแบรดเล่ย์ฮอลล์ ต่างรู้สึกสงสัยตรงกันในเรื่องของแอนดรู และช่วยกันหาวิธีลอบทำการทดสอบทางจิตวิทยา ผลที่ออกมา ทำให้ทุกคนสะท้อนใจ ด้วยคนปกติคนหนึ่งกลับถูกทำให้เหมือนเป็นคนปัญญาอ่อนจนอายุ 25 ปี เพียงเพราะความโลภแต่แล้ว สตีฟ กลับตายลงอย่างเป็นปริศนา มาเรียตัดสินใจพาแอนดรูหนี โดยทำไฟไหม้ตึก วกุลซึ่งแวะไปเล่นกีตาร์ให้แอนดรูฟัง จึงถูกพาไปด้วย ทั้งหมดไปหลบพักที่กระท่อมแถวทะเลสาบปิลิแกน แต่ก็ถูกแกะรอยได้ มาเรียพาหนีต่อไปอยู่ที่หมู่บ้านอินเดียแดงโปเนมา ทะเลสาบแดง มาร์คตามจนพบ และ บอกว่าคดีนี้อยู่ในมือเอฟบีไอแล้ว และเมื่อคดีเข้าสู่ชั้นศาล คนผิดจึงได้รับการลงโทษในที่สุด มาร์คและวกุล ต่างก็ต้องร่วมมือกันช่วยประคับประคองแอนดรูให้เป็นดังที่เขาควรจะเป็น วกุลนั้นตั้งมั่นว่าวันหนึ่งเมื่อเขายืนได้ด้วยตัวเอง เธอก็จะไป..แต่..แอนดรูยามนี้ไม่ใช่คนปัญญาอ่อนที่น่าสังเวชอีกแล้ว เขาแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองต่อวกุล แต่..เขาจะทำอย่างไรในเมื่อวกุลเองไม่ต้องการให้จบลงเช่นนั้น..--จากในเรื่องค่ะ--ความรู้สึกของวกุลอ่อนโยนนัก บอกไม่ถูกว่าอีกนานไหมกว่าหล่อนจะเปลี่ยนความรู้สึกได้ว่า คนตัวโย่งๆ นั้นไม่ใช่คนที่โตแต่ตัวแล้วสมองนิดเดียว ก็คงอีกนาน...มาร์ค คนฟังหัวเราะออกมาได้ ผมตัวคนเดียวไม่มีพี่ ไม่มีน้อง แต่คุณน่ะเป้นพี่ชายคนโตของผมได้เลยแล้ววกุล มาร์คชำเลืองมองคนที่ยืนห่างออกไป คุณมีนินเจแล้วนี่นะวกุล ใบหน้าที่ปรากฏรอยแผลเป็นบางๆเบือนมาหา ดุจัง..เหมือนนินเจ..แต่ก็อายุน้อยกว่าผมตั้งสองปี แล้วผมคงคิดได้ว่าจะให้วกุลเป็นอะไรดี...อยู่กับผมตลอดไปนะวกุล เป็นของผม...ผมรักคุณ...คงจะรักคุณตั้งแต่วันแรกที่คุณส่งยิ้มให้พร้อมกีตาร์ในมือ...แต่ผมเพิ่งจะรู้ใจตัวเองวันนี้แหละ อย่าปฏิเสธเลยนะ วกุล...แต่งงาน มีครอบครัว ผมแข็งแรงพอแล้ว คุณเชื่อไหม..เรื่องนี้เราอ่านแล้วชอบนะคะ ลมหวน-พระเอกจะน่าสงสารเชียวค่ะ นึกถึงว่าคนปกติคนหนึ่ง กลับถูกคนใจร้ายทำให้กลายเป็นคนปัญญาอ่อน เติบโตมาแบบนั้นจนถึงวัย 25 ปี วกุล-นางเอกคนสวยของเราด้วยความช่างสงสัย อยากรู้ และ ความเป็นคนมีเมตตาจิตในใจ ทำให้ไม่มองข้ามคำพูดของนางมอนโร เมื่อได้พบแอนดรู จากการที่เคยเป็นอาสาสมัครเล่นดนตรีให้คนปัญญอ่อน รวมทั้งความรู้ที่ได้รับจากม็อมมาบ้าง เธอก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมาได้ จนนำไปสู่การค้นพบความจริง และ เมื่อเป็นไพรัชนิยาย เรื่องนี้เราได้ความรู้เกี่ยวกับอินเดียแดงพอควรเลยค่ะทั้ง ประวัติ วัฒนธรรม เรื่องราวปลีกย่อยต่างๆ และ ก็ยังมีข้อคิดดีๆผ่านทางตัวละคร เช่น มาร์ค และ สตีฟ ในแง่ความมีน้ำใจ ไม่เพิกเฉยต่อความไม่ถูกต้อง ตั้งใจจะช่วยเหลือเพื่อนมุนษย์ด้วยกัน และทัศนคติในการมองคนอื่นที่แตกต่างทางเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ อย่างปราศจากอคติใดๆค่ะ** ชื่อ มัดวายาเช ของพระเอก เป็นภาษาอินเดียแดง หมายถึง ลมหวน ค่ะ **
เข้ามาเยี่ยมค่ะ
ชอบเรื่องนี้เหมือนกัน สนุกดีนะคะ
ยังมีอีกหลายเรื่อง ค่อยๆ อ่านนะคะ สนุกทุกเรื่องค่ะ
จาก All blogs เหมือนคุณยังไม่ได้อ่าน
ฟ้าจรดทราย จินตปาตี เงาราหู
และนึกไม่ออกอีกหลายเรื่อง
ด้วยอ่านมานานแล้วค่ะ
ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคะ
ภุมวารสิริสวัสดิ์ - มานมนัสรมณีย์ค่ะ